นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 398 - เข้าพบศาสตราจารย์ใหญ่
เดวิดเปิดประตูห้องพักของตัวเองออกไป เพื่อที่จะพบกับใบหน้าที่ยื่นเข้ามาจ้องเขาในระยะประชิดอย่างฉับพลัน
มันทำให้เดวิดผงะถอยหลังออกมาอย่างตกใจ ก่อนจะอุทานออกไปตอนที่เห็นใบหน้านั้นได้อย่างชัดเจน “ค-ครูฝึก! ครูฝึกมาทำอะไรอยู่ที่นี่ครับ!?”
ครูฝึกเอลล่า! สาวสวยคนนี้กำลังหรี่ตาจ้องหน้าเดวิดอยู่อย่างพิจารณา เธอถอยตัวกลับไปเล็กน้อย ก่อนจะกวาดสายตามองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้ารอบหนึ่ง “แค่มาดูว่าเธอเป็นอะไรหรือเปล่า และแค่มาดูว่าจะเก็บตัวอยู่ในห้องพักไปนานแค่ไหน? กำลังทำอะไรอยู่!?”
เป็นทั้งคำตอบและคำถามที่ออกมาพร้อมกัน สีหน้าของครูฝึกสาวดูจะไม่มีความยินดีมากนัก สองมือของเธอถูกยกขึ้นไปกอดอกเพื่อรอคำตอบที่ควรจะเหมาะสมมีเหตุผล บรรยากาศเริ่มเคร่งเครียดขึ้นเล็กน้อยทันที
เดวิดกระพริบตาถี่ สมองของเขากำลังทำงานอยู่อย่างรวดเร็ว ข้อแก้ตัวจำนวนมากกำลังวิ่งเข้ามาในหัวให้เลือกใช้ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรใช้ได้เลย เดวิดรู้แล้วว่าตัวเองหมกตัวอยู่ในห้องนานเกือบ 3 อาทิตย์ มันไม่มีข้ออ้างไหนที่จะสามารถกลบเกลื่อนระยะเวลาที่ยาวนานแบบนี้ได้ มันต้องใช้หลายข้ออ้างประกอบกันถึงจะพอสมเหตุสมผลขึ้นมาบ้าง
แต่ในที่สุด! เดวิดที่คิดหาข้ออ้างที่เหมาะสมได้ไม่ทัน ก็ใช้เวลาอันใสซื่อไร้เดียงสาตอบกลับไปแบบเลี่ยง ๆ ก่อน “ก็โน่น นี่ นั่นครับ ไม่มีอะไรสำคัญหรอก!”
เสียงคำรามในลำคอดังขึ้นอย่างไม่พอใจ แต่หลังจากนั้น ครูฝึกเอลล่าก็กล่าวออกมาเสียงเรียบ ๆ “อ้อ! เก็บตัวเพื่อฝึกฝนทักษะสีดำระดับสูงอยู่ใช่มั้ย น่าทึ่ง! ใช้เวลาเกือบ 3 อาทิตย์ฝึกฝนเพิ่มความแข็งแกร่ง ดีมาก!”
กระพริบตา! เดวิดทำอะไรได้มากกว่านั้นอีกหรือ? เขาเอียงหัวของตัวเองเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวตอบรับออกมาอย่างสับสน “อ้า! ใช่ครับ ฝึกฝน ๆ” เดวิดตามไม่ทันจริง ๆ ว่าครูฝึกคนสวยนี้กำลังจะทำอะไร? เขายังไม่เข้าใจความหมายของสิ่งที่เธอพูดออกมา
“เอาล่ะ! ต่อไปถ้ามีใครถามก็ไม่ต้องปกปิด! การเก็บตัวเพื่อฝึกฝนเป็นเรื่องที่น่าชื่นชม ใครถามก็บอกไปตามตรงแบบนี้ เข้าใจใช่มั้ย!” ครูฝึกเอลล่ากำชับออกมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจังขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่สายตาจะมองข้ามข้ามตัวของเดวิดเข้าไปดูสภาพห้องพักที่แตกหักยับเยินอยู่แวบหนึ่ง แล้วก็หันหลังเพื่อเริ่มก้าวเดินจากไปง่าย ๆ แบบนั้นเลย
เดวิดพยักหน้าราวกับไก่จิก “โอ้! ครับ! เข้าใจแล้วครับ!” มันเป็นข้ออ้างที่เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมาก เขารับเอาไว้อย่างไม่รีรอทันที
“แล้วจะยังยืนนิ่งอยู่ทำไม? ตามฉันมา! เรือเหาะของพวกเธอกำลังจะออกเดินทางในเวลาอีกไม่นานแล้ว” เธอเดินตรงไปยังลิฟต์โดยสารได้หลายก้าวแล้ว ตอนที่ส่งเสียงเรียกให้เดวิดรีบขยับตามมา
แม้ว่าจะสับสนสงสัย แต่เขาก็ก้มหน้าเดินตามครูฝึกของตัวเองไปอย่างเชื่อฟัง จนเมื่อเข้ามาอยู่ในลิฟต์ได้แล้ว เดวิดถึงได้ทบทวนคำพูดที่ตัวเองได้ยินมาเมื่อสักครู่นี้ คิ้วถูกขมวดเข้าหากันเล็กน้อยทันที “หือ? เรือเหาะอะไร? พวกผม? ใครบ้าง? ไปไหน? ครูฝึกครับ! ผมต้องไปไหนอย่างนั้นหรือ?”
สายตาของครูฝึกสาวเหลือบมองมาที่นักเรียนของตัวเองแวบหนึ่ง ก่อนจะอธิบายเสียงเรียบ “ทางสถาบันตกลงกับสำนักหนึ่งไว้ว่าจะส่งนักเรียนแลกเปลี่ยนไปศึกษาที่นั่น ตามกำหนดการ! พวกเธอจะต้องออกเดินทางตั้งแต่เมื่อวาน พอไม่มีใครติดต่อเธอได้ พวกผู้บริหารระดับสูงเลยคิดจะตัดเธอออกจากรายชื่อของนักเรียนที่จะต้องเดินทางไปด้วย พวกเขาคิดจะส่งลิลิธ หรือใครคนอื่นไปแทนที่ แต่มีคำสั่งออกมาในวินาทีสุดท้าย ให้เลื่อนการเดินทางมาเป็นวันนี้ และส่งฉันให้มาตามหาเธอถึงห้องพักแบบนี้!”
สีหน้าของเดวิดเริ่มจริงจังขึ้นมาแล้ว “นักเรียนแลกเปลี่ยน!? แถมยังเดินทางวันนี้ด้วย ผมไม่ต้องรีบไปเตรียมตัวเก็บข้าวของหรอกหรือครับ?”
“ทางสถาบันจัดหาของที่จำเป็นเอาไว้ให้หมดแล้ว เธอเดินทางแบบตัวเปล่าได้เลย!”
เมื่อได้ฟังคำตอบ เขาก็ทำได้แค่เพียงพยักหน้ารับอย่างเชื่อฟัง ในหัวกำลังคิดอยู่อย่างวุ่นวาย ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วเกินไปจนเดวิดแทบจะรับเอาไว้ไม่ทัน ในความรู้สึกของเขา เวลาเพิ่งจะผ่านไปแค่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น แต่กลายเป็นว่ามันผ่านไปหลายอาทิตย์ และเกิดเรื่องราวต่าง ๆ ขึ้นมากมาย
เดวิดเดินตามครูฝึกสาวไปอย่างเงียบ ๆ จนเมื่อขึ้นมาบนเรือเหาะส่วนตัวของอีกฝ่ายได้แล้ว เขาก็ตัดสินใจเอ่ยปากถามออกมา “แล้วนี่เราจะไปที่เรือเหาะเลยหรือเปล่าครับ มันยังเหลือเวลาอยู่อีกเท่าไรกว่าเรือเหาะจะออก?”
“ตามกำหนดการ! ยังเหลือเวลาอยู่ประมาณ 1 ชั่วโมง และไม่! พวกเราจะยังไม่ได้ไปที่เรือเหาะในตอนนี้ มีใครบางคนต้องการจะพบเธอก่อนออกเดินทาง ตอนที่เจอหน้าเขา เธอจะรู้เองว่าเป็นใคร” คำตอบช่วงสุดท้ายยิ่งทำให้เดวิดรู้สึกสับสนมากยิ่งขึ้นไปอีก
แต่เขาไม่ได้เอ่ยถามอะไรออกมาเพิ่มเติม มันไม่แปลกอยู่แล้วถ้าจะมีใครต้องการพบกับนักเรียน ก่อนที่จะส่งตัวออกไปทำหน้าที่เหมือนกับเป็นตัวแทนของทางสถาบันแบบนี้ อาจจะเป็นศาสตราจารย์อาวุโสสักคน หรือบางทีอาจจะเป็นอาจารย์ของตัวเองก็ได้ เดวิดเริ่มรู้สึกคิดถึงตาแก่บ้านั่นมานิด ๆ แล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างนี้มันเยอะเกินไป และการจะออกไปนอกสถาบันโดยไม่ปรึกษากับอาจารย์ก่อนไม่ใช่เรื่องที่เหมาะสมมากนักเลย
การเดินทางครั้งนี้ใช้เวลาเพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้น หลังจากที่เรือเหาะจอดลงที่พื้น ประตูห้องโดยสารก็เปิดออก พร้อมกับเสียงคำสั่งที่ดังจากห้องควบคุม “ลงไปได้แล้ว!”
เดวิดรีบลุกขึ้นจากที่นั่งและเดินลงจากเรือเหาะอย่างเชื่อฟัง ก่อนจะต้องขมวดคิ้วแน่นอย่างแปลกใจ ที่ครูฝึกเอลล่าบังคับเรือเหาะให้ทะยานหายไปบนท้องฟ้าทันที เธอจะไม่ไปกับเขาอย่างนั้นหรือ?
หลังจากหันซ้ายหันขวามองสำรวจไปรอบตัวเองอย่างคร่าว ๆ เดวิดก็ต้องยกมือขึ้นเกาหัวแกรก เขาไม่คุ้นเคยกับที่นี่เลย ไม่ใช่บริเวณหน้าอาคารที่ห้องทำงานของศาสตราจารย์ไวท์ตั้งอยู่อย่างที่คิดเอาไว้
“แล้วที่นี่คือที่ไหน? แล้วฉันต้องไปทางไหน!?” เดวิดพึมพำออกมาอย่างสับสน ก่อนที่จะหันไปมองดูรอบข้างอีกครั้ง คราวนี้เป็นการพิจารณาอย่างจริงจังแล้ว
ครูฝึกเอลล่าส่งเขาลงมาอยู่ที่กลางสวนแห่งหนึ่ง มันแปลกและแตกต่างจากสภาพแวดล้อมทั่วไปที่เดวิดเคยเห็นอยู่ในสถาบันทุกวัน ไม่มีสิ่งก่อสร้างหรืออาคารบ้านเรือนให้รบกวนสายตา ไม่มีการประดับตกแต่งอะไรให้วุ่นวาย มีเพียงต้นไม้ และดอกไม้หลากสีสันกระจายอยู่ทั่วพื้นที่อันกว้างใหญ่ ทะเลสาบขนาดเล็กที่เต็มไปด้วยฝูงปลาที่แหวกว่าย มันทำให้สถานที่แห่งนี้ดูสงบร่มเย็นเหลือเกิน
“เป็นยังไงบ้าง!? ที่นี่สวยมากเลยใช่มั้ย?” เสียงอันชราภาพลอยมาเข้าหูจากทางด้านหลัง เดวิดพยักหน้ารับคำลงไปแบบไม่รู้ตัว ก่อนที่จะสะดุ้ง และรีบหันกลับไปมองตามเสียงอย่างตกใจ มีคนอยู่ทางด้านหลังโดยที่เขาไม่รู้ตัวอย่างนั้นหรือ?
และเป็นอีกครั้งที่เดวิดพบว่าคนที่กำลังเดินเข้ามาหยุดอยู่ข้าง ๆ ตัวเองเป็นชายชราคนหนึ่ง สายตาของเขาหรี่เล็กลง นี่เป็นใบหน้าที่คุ้นเคย เดวิดแน่ใจว่าตัวเองเคยเห็นชายชราผู้นี้มาก่อนแน่
แล้วเขาก็ต้องสะดุ้งเบา ๆ อีกครั้งในเวลาไม่นานนัก เมื่อคิดออกว่าเคยเห็นอีกฝ่ายที่ไหน สนามประลอง! ชายชราผู้นี้เป็นคนเดียวกันกับผู้ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ที่สูงที่สุดในสนามประลอง ศาสตราจารย์ใหญ่! แม้ว่าเดวิดจะไม่ใช่คนที่ติดตามข่าวสารอะไรมากมายนัก แต่เขาไม่ได้โง่จนจะไม่รู้ว่าตัวเองกำลังเผชิญหน้าอยู่กับใคร
เดวิดรีบโค้งตัวทำความเคารพ สองมือประสานเข้าหากัน ก่อนจะยืนก้มหน้าลงเล็กน้อย ใช้ความพยายามที่มีทั้งหมดทำตัวเป็นเด็กนักเรียนที่เรียบร้อย และมีมารยาทดีเด่นที่สุดในโลกทันที
ชายชราหันมามองเขาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ก่อนจะกล่าวถามออกมาอีกครั้ง “ดอกไม้ในสวนนี่สวยมั้ย?”
เดวิดเงยหน้าของตัวเองขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวตอบออกมาอย่างฉะฉาน แต่พยายามไม่ให้น้ำเสียงนั้นดูมีความมั่นใจจนมากเกินไปนัก “สวยครับ! ดอกไม้พวกนี้สวยจนน่าทึ่งทีเดียว โดยเฉพาะกุหลาบแดงพวกนั้น พวกมันสวยงามมีชีวิตชีวา สร้างความรู้สึกสดชื่นเบิกบานให้กับผู้ที่มองมันได้เป็นอย่างดี สวนแห่งนี้ก็สงบร่มรื่น ทำให้รู้สึกผ่อนคลายได้อย่างน่าเหลือเชื่อเลยครับ”
ชายชราหันมาจ้องหน้าเดวิดอีกครั้ง ก่อนจะยิ้มออกมาน้อย ๆ “หึหึ! เห็นเธอทำตัวแบบนี้แล้วมันรู้สึกแปลก ๆ ดีเหมือนกัน ไม่ใช่ท่าทางที่ฉันคิดว่าจะได้เห็นจากเธอเลยนะเนี่ย
แล้วอีกอย่าง เธอรู้ได้ยังไงว่าดอกไม้สีแดงพวกนั้นเรียกว่า ‘กุหลาบ’?” คำถามถูกเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแบบเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แต่ในความรู้สึกของเดวิด มันเหมือนกับมีสายฟ้าฟาดเข้าใส่ เขาหลุดปากพูดสิ่งที่ไม่ควรพูดออกไปเสียแล้ว
เดวิดไม่ได้เคยออกไปท่องเที่ยวหาประสบการณ์นอกสถาบันอย่างจริง ๆ จัง ๆ แม้แต่ครั้งเดียว นอกจากการออกไปทำภารกิจ เขาแทบจะไม่ได้ออกไปจากสถาบันเลยด้วยซ้ำ นั่นทำให้ไม่รู้ว่า ‘กุหลาบ’ เป็นดอกไม้ที่แทบจะสูญพันธุ์ไปแล้วจากโลกใบนี้
“ผมเคยเห็นรูปพวกมันมาก่อนครับ ผมชอบศึกษาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ชอบอ่านเรื่องราวเก่า ๆ ที่เกิดขึ้นในอดีต มีหนังสือบางเล่มวาดรูปของดอกกุหลาบเอาไว้ด้วย ตอนที่เห็นดอกไม้พวกนั้น ผมก็คิดว่ามันเป็นชนิดเดียวกันอย่างแน่นอน” น้ำเสียงที่หลุดออกจากปากมานั้นยังเคร่งขรึมเต็มไปด้วยความเคารพ แต่ภายใน! เดวิดต้องใช้ความพยายามเต็มที่ควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจ กล้ามเนื้อบนใบหน้า รวมถึงต่อมเหงื่อเอาไว้อย่างสุดความสามารถเลยทีเดียว
ดวงตาของชายชรายังจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าของเขาเขม็ง ก่อนจะหัวเราะออกมาอีกครั้ง “หึหึ! อย่างมาหลอกกันเลยน่า ฉันไม่หลงกลง่าย ๆ แบบนั้น!”
“ตั้งสติเอาไว้! อย่าเล่นตามน้ำไปกับเขาอีก!!” เสียงของเฮเซลดังเตือนขึ้นมาในหัวอย่างเร่งรีบ
ท่าทางของเดวิดเปลี่ยนไปทันที ดวงตาของเขากลอกไปมา ความสับสนปรากฏขึ้นทั้งในแววตาและสีหน้า “หมายความว่าอย่างไรกันครับ!? ผมไม่เข้าใจ!”
รอยยิ้มบนใบหน้าของชายชรากว้างขึ้นอีกเล็กน้อย ก่อนจะโบกมืออย่างไม่ใส่ใจเบา ๆ “อย่าไปสนใจคำพูดของคนแก่เลย ตามฉันมาทางนี้”
‘จิ้งจอกเฒ่าเอ้ย!’ เดวิดสบถออกมาในใจ ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะเฮเซลกล่าวเตือนออกมา เขาคงตื่นตระหนกจนเผยพิรุธอะไรออกมามากกว่านี้ไปแล้ว...