1213 - สังเวยตัวเองเพื่อทำลายอนาคตศัตรู
1213 - สังเวยตัวเองเพื่อทำลายอนาคตศัตรู
“หากร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณพิสูจน์เต๋าได้สำเร็จการฆ่าหยวนกู่ก็ไม่แตกต่างอะไรกับการฆ่าสุนัข!”
ผังป๋อตะโกนในฝูงชน คำพูดของเขาทำให้ที่ราบซีเซี่ยเดือดพล่านทันที
ทุกสายตาจับจ้องมาที่เขาอย่างรวดเร็ว!
ทุกรูขุมขนในร่างกายของเย่ฟ่านปลดปล่อยกลิ่นอายแห่งความร้อนแรงและศักดิ์สิทธิ์อย่างไม่สิ้นสุดออกมา เขาเหยียบย่างเข้าหาหยวนกู่ทีละก้าว เสียงฝีเท้าของเขาดังก้องอยู่ในหัวใจของทุกคน!
“โฮ่ง”
“โฮ่ง…”
เสียงสุนัขเห่าดังมาจากฝูงชน ซึ่งทำให้สิ่งมีชีวิตโบราณจำนวนมากตื่นจากความฝัน
นักพรตหนุ่มที่เรียกตัวเองว่าตงเทียนก่อนหน้านี้กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด เขากำลังถูกสุนัขสีดำตัวใหญ่กัดขาและลากไปตามพื้น
“ไอ้สารเลว!”
“โฮ่ง!”
“เจ้าหมาปีศาจข้ากับเจ้าไม่มีความแค้นกันเหตุใดเจ้าต้องมากัดข้า!”
“เมื่อกี้เจ้าพูดอะไร”
“เจ้าก็รู้ว่าข้าไม่ได้หมายถึงเจ้า รีบปล่อยไม่อย่างนั้นข้าจะสู้ตายกับเจ้าเดี๋ยวนี้!” นักพรตตงเทียนสะบัดขาและต่อสู้กับสุนัขสีดำตัวใหญ่ทันที
ผู้คนที่มองเห็นฉากนี้หัวเราะไม่ออกและร้องไห้ไม่ได้ สถานการณ์ในที่ราบซีเซี่ยตึงเครียดอย่างถึงที่สุด แต่คนและสุนัขคู่นี้กลับต่อสู้กันเองซึ่งทำให้สถานการณ์ผ่อนคลายลงอย่างมาก
“จักรพรรดิหยวนคือจักรพรรดิโบราณที่แข็งแกร่งที่สุด เจ้าเป็นทายาทรุ่นแปดของจักรพรรดิหยวนเหตุใดจึงคุกเข่าอยู่ต่อหน้าศัตรู รีบลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้!”
ราชาบรรพชนแห่งทะเลสาบหยวนหูคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยวอย่างถึงที่สุด เสียงคำรามของเขาก้องกังวาลราวกับเสียงฟ้าร้อง!
ผู้บ่มเพาะทุกเผ่าพันธุ์ต่างเต็มไปด้วยความหวาดกลัว โดยเฉพาะเผ่าพันธุ์มนุษย์ ราชาบรรพชนแห่งทะเลสาบยวนหูเป็นหนึ่งในราชาปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์ผู้ทรงพลัง
ความแข็งแกร่งของเขาเทียบได้กับเซียนผู้ยิ่งใหญ่แห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ ดังนั้นความโกรธเกรี้ยวของเขาจึงทำให้สวรรค์พิภพสั่นไหวอย่างรุนแรง
ในขณะนี้ราชาบรรพชนหลายคนเฝ้ามองการต่อสู้ในที่ราบซีเซี่ยด้วยความไม่พอใจเป็นอย่างมาก นี่คือการต่อสู้อย่างยุติธรรมแต่สุดท้ายหยวนกู่กลับไม่มีความสามารถที่จะคุกคามชีวิตของเย่ฟ่านได้ด้วยซ้ำ
หัวใจของเย่ฟ่านสั่นไหวเล็กน้อย ราชาบรรพชนแห่งทะเลสาบหยวนหูแม้ไม่ได้สอดมือเข้ามายุ่งเกี่ยวในการต่อสู้ครั้งนี้ แต่การส่งเสียงคำรามเมื่อครู่ ก็ทำให้เขาเสียสมาธิเล็กน้อยเห็นได้ชัดว่านี่เป็นการจงใจช่วยเหลือหยวนกู่ทางอ้อม
คราวนี้เป็นการต่อสู้แห่งชีวิตและความตาย มีการตกลงกันก่อนว่าในการต่อสู้ครั้งนี้จนกว่าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจะตายจะไม่มีผู้ใดสอดมือเข้ามายุ่งเกี่ยว แต่ราชาบรรพชนแห่งทะเลสาบหยวนหูกลับเลือกที่จะช่วยเหลือบุตรหลานของตัวเองอย่างไร้ยางอาย
ดวงอาทิตย์ที่กำลังตกดินปลดปล่อยแสงสีแดงให้ส่องสว่างไปทั่วพิภพ เย่ฟ่านยังคงก้าวไปข้างหน้าด้วยความมุ่งมั่น เสียงฝีเท้าของเขาก้องกังวาลอยู่ในหูของหยวนกู่และทำให้เขาเกิดความสิ้นหวังเป็นอย่างมาก
“อา...”
หยวนกู่กรีดร้อง ผมสีดำของเขายุ่งเหยิงราวกับกอหญ้า เขาพยายามยืดกายขึ้นอีกครั้ง อย่างไรก็ตามกะโหลกหน้าผากของเขายุบลงไปครึ่งหนึ่ง ในขณะที่วิญญาณอีกครึ่งก็ถูกทำลายโดยสิ้นเชิงแล้ว
“ข้าแพ้...แต่ข้าจะไม่ยอมให้มันจบลงเช่นนี้!”
เขาคำรามเสียงต่ำ เส้นผมสีดำหนาของเขาปกปิดใบหน้าครึ่งหนึ่งที่พังยับเยิน ในขณะที่ดวงตาซึ่งเหลือเพียงข้างเดียวก็เปลี่ยนเป็นสีดำทันที
“ต่อให้เจ้าไม่ยอมให้มันจบลงเช่นนี้เจ้าก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้”
เย่ฟ่านไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย ในขณะนั้นแสงสีทองเริ่มถูกดึงดูดเข้าสู่ฝ่ามือขวาของเขาอย่างรวดเร็ว
“ข้าไม่มีหวังที่จะพิสูจน์เต๋ากลายเป็นปราชญ์ได้แล้ว อย่างไรก็ตามข้ายังมีความสามารถที่จะตัดเส้นทางกลายเป็นเซียนในอนาคตของเจ้าได้” หยวนกู่หัวเราะอย่างเศร้าโศก
ทุกคนตกตะลึงและไม่รู้ว่าเขาหมายถึงอะไร เย่ฟ่านก็เกิดความสับสนเช่นกัน
“ในฐานะทายาทรุ่นที่แปดของจักรพรรดิหยวน ข้าเป็นถึงราชาผู้ยิ่งใหญ่แต่ยังคงพ่ายแพ้ต่อเจ้า เจ้าคิดว่าข้าอ่อนแอเกินไปหรือเปล่า?” หยวนกู่กล่าวด้วยความผิดหวังอย่างถึงที่สุด
“ข้าพ่ายแพ้ต่อเจ้าแล้ว แม้ว่าข้าจะยังไม่ใช้พลังของเซียนเทียมขั้นสามแม้แต่ครั้งเดียวแต่ข้ายังคงพ่ายแพ้ต่อเจ้า ความพ่ายแพ้นี้ทำลายเต๋าของข้าโดยสิ้นเชิง นับแต่นี้ข้าจะไม่มีโอกาสพิสูจน์เต๋าได้อีกแล้ว!”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ทุกคนก็ตกตะลึงอย่างถึงที่สุด หยวนกู่ปราบปรามฐานการบ่มเพาะของตัวเองโดยใช้เพียงความแข็งแกร่งในระดับเซียนเทียมขั้นสองต่อสู้เย่ฟ่าน ความพ่ายแพ้ของเขาเกิดจากความหยิ่งผยองอย่างแท้จริง
เย่ฟ่านก็ตกตะลึงเช่นกัน
หยวนกู่ถือว่าการต่อสู้ครั้งนี้เป็นก้าวอันยิ่งใหญ่ในการพิสูจน์เต๋า ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ใช้พลังแห่งเทียนเทียมขั้นสาม
สาเหตุหลักก็เพราะต่อให้เขาเอาชนะเย่ฟ่านได้ สุดท้ายมันยังคงเป็นชัยชนะจากฐานการบ่มเพาะที่เหนือกว่า ซึ่งไม่เกิดผลประโยชน์อะไรต่อการพิสูจน์เต๋าในอนาคตของเขา!
“ข้าละทิ้งทุกสิ่ง ลืมญาติมิตรและสหายทั้งหมด ข้านอนหลับไหลเป็นเวลานับล้านปีเพียงเพื่อให้ตื่นขึ้นในยุคแห่งความเหมาะสมอีกครั้ง แต่สุดท้ายความหวังของข้ากลับต้องละลายหายไปจากความอ่อนแอของตัวเอง” หยวนกู่กระซิบ น้ำตาของเขาไหลออกมาด้วยความเศร้าโศก
เส้นทางแห่งการพิสูจน์เต๋าเต็มไปด้วยความโหดร้าย ในอดีตไม่ทราบว่ามีอัจฉริยะมากมายเพียงใดที่ล้มเหลวในขั้นตอนนี้
“ในเมื่อไม่มีความหวังที่จะพิสูจน์เต๋าได้ ความตายย่อมเป็นจุดหมายเดียวของข้า!”
หยวนกู่กล่าวอย่างเย็นชาและเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น เส้นผมสีดำสนิทของเขาเริ่มโบกสะบัดอีกครั้ง
“ในความเป็นจริงข้าอยากจะลากเจ้าให้ตายไปพร้อมกัน แต่การกระทำเช่นนี้จะสร้างหายนะครั้งใหญ่ต่อทะเลสาบหยวนหู ดังนั้นข้าจะละเว้นชีวิตเจ้าสักครั้งเพียงทำลายรากฐานเต๋าของเจ้าก็พอ”
หลังจากได้ยินสิ่งนี้ เย่ฟ่านก็กล่าวอย่างสงบว่า “เจ้าจะไม่มีโอกาสนั้น เพราะเจ้าต้องตายก่อน!”
“ในฐานะสายเลือดของจักรพรรดิโบราณ แต่ข้าต้องพ่ายแพ้ให้เจ้าบนเส้นทางของการเป็นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ เจ้าคิดว่าข้าจะยอมรับได้หรือ!”
หยวนกู่ขจัดความโศกเศร้า จิตวิญญาณการต่อสู้ของเขาฟื้นฟูกลับคืนมาอีกครั้ง
“เฉียง เฉียง…”
ในขณะนี้ ร่างของหยวนกู่ปลดปล่อยโซ่แห่งกฎอันยิ่งใหญ่ออกมาทีละเส้น พวกมันพาดผ่านไปทั่วท้องฟ้าราวกับขาของแมงมุม!
“พังทลาย…”
โซ่สีดำสนิทเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน พลังศักดิ์สิทธิ์ของเขาปะทุออกมาอย่างรุนแรงและทำให้อาการบาดเจ็บทั้งหมดฟื้นฟูกลับมาอีกครั้ง
“เข้ามา ข้าจะทำลายเส้นทางแห่งการเป็นเซียนของเจ้าเอง!” หยวนกู่คำรามอย่างเศร้า คำพูดของเขาสั่นสะเทือนโลกทั้งใบ
“ตามที่เจ้าต้องการ นี่คือการต่อสู้อันรุ่งโรจน์ครั้งสุดท้ายของเรา!” เย่ฟานตะโกน จากนั้นพลังศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดของเขาได้ปะทุขึ้นสู่ท้องฟ้าโดยไม่เก็บรั้งสิ่งใดไว้
“บูม”
หมัดของทั้งสองชนกัน ความสดใสกระจัดกระจายไปทั่วโลก
ผลที่ตามมาคือดินแดนอันกว้างใหญ่หลายพันวาถูกบดขยี้จนแหลกละเอียด แม้กระทั่งผู้ชมที่อยู่ในระยะไกลหลายร้อยลี้ยังเกิดความหวาดหวั่นอย่างถึงที่สุด!
เมื่อหยวนกู่ปลดปล่อยฐานการบ่มเพาะของตัวเองออกมาทั้งหมด รัศมีพลังของเขานั้นน่าสะพรึงกลัวจนทำให้เลือดในกายของเย่ฟ่านเดือดพล่านอย่างรุนแรง
ความเร็วของทั้งสองคนที่เคลื่อนผ่านท้องฟ้านั้นหากไม่ใช่ราชาผู้ยิ่งใหญ่ขึ้นไปจะไม่มีทางมองเห็นความเคลื่อนไหวของพวกเขาได้
การต่อสู้ดำเนินไปหลายร้อยกระบวนท่ามีเพียงเลือดสีทองและสีแดงเท่านั้นที่กระจัดกระจายออกมาในบางครั้ง
“ข้าขอสังเวยอาณาจักรเซียนเทียมขั้นสามของตัวเองเพื่อให้การพิสูจน์เต๋าของเจ้าถูกเลื่อนออกไปอีกร้อยปี!”
เมื่อการต่อสู้ดำเนินมาถึงช่วงท้ายเสียงคำรามของหยวนกู่ก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“ปัง!”
ทันใดนั้นโซ่ศักดิ์สิทธิ์เส้นใหญ่ได้ก่อตัวขึ้นกลางความว่างเปล่าและทะลวงผ่านหน้าอกของเย่ฟ่านโดยที่เขาไม่มีโอกาสหลีกเลี่ยงได้!
ในขณะนี้เย่ฟ่านมีความรู้สึกว่าบางสิ่งบางอย่างในร่างกายของเขาถูกดึงออกไปตามพลังของโซ่ และเห็นได้ชัดว่าสิ่งนี้จะส่งผลกระทบต่อการพิสูจน์เต๋าในอนาคตของเขา
……