บทที่ 109 : ง่ายมากที่จะแข็งแกร่งขึ้น ก็แค่ขโมยเนตรวงแหวนมาสักคู่หนึ่ง
บทที่ 109 : ง่ายมากที่จะแข็งแกร่งขึ้น ก็แค่ขโมยเนตรวงแหวนมาสักคู่หนึ่ง
คุเรไนจับมือฮินาตะและเดินเข้าไปในร้านเนื้อย่าง เมื่อเธอได้ยินสิ่งที่ซาโตรุพูด เธอก็บ่นด้วยสีหน้าเอือมระอา
“ไอ้เจ้าบ้านี้ พูดมาได้นะ”
มีพรสวรรค์ในการจีบผู้หญิงแล้วต้องกล้ามาพูดอย่างภูมิใจขนาดนี้เลยไหม?
ไอ้คนหน้าหม้อเอ๊ย!
แต่ก็ช่วยไม่ได้หรอก เพราะเธอชอบซาโตรุมาก
ถ้าเกิดเขาจะมีภรรยาหลายคน เธอก็อาจจะพิจารณายอมรับมันได้
ฮินาตะหน้าแดงมากและพูดอย่างเขินๆ “อาจารย์ซาโตรุ หนูขอ...ขอโทษเรื่องเมื่อครู่นี้ด้วย”
คุเรไนเกลี้ยกล่อมเธอด้วยคำสามคำ
ดูเหมือนฮินาตะจะเกลี้ยกล่อมได้ง่ายมาก
ซาโตรุโบกมือแล้วพูดว่า "ไม่เป็นไร เดี๋ยวเธอก็จะชินกับมันเองหลังจากสัมผัสมันไปสักสองถึงสามครั้ง"
ทุกคนทั้งหมดที่อยู่ตรงนั้นต่างพูดไม่ออก
ดูสิ...
อาจารย์ซาโตรุเอาแต่พูดกำกวมสองแง่สองงามแบบนี้ตลอดเลย
หมดคำจะพูด
ฮินาตะพูดตอบรับด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก "น..หนูจะ..พยายามให้ดีที่สุดค่ะ"
เธอใส่ใจซาโตรุมาก ทุกคำพูดที่เขาพูด เธอจึงจริงจังมาตลอด
คุเรไนสัมผัสศีรษะเล็กๆ ของฮินาตะแล้วยิ้มเบาๆ ให้ “อย่าไปยุ่งกับไอ้คนแบบนั้นเลย ไปกินข้าวกันเถอะ”
ทุกคนเริ่มกินเนื้อย่างกัน
“ซาโตรุต่อจากเมื่อกี้นี้นะ ฉันจะสามารถแข็งแกร่งขึ้นได้ยังไง?” คุเรไนกัดริมฝีปากของเธอเบาๆ ไม่ว่าเธอจะฝึกฝนหนักแค่ไหน เธอก็ไม่สามารถแข็งแกร่งขึ้นได้เลยสักที
ปัญหามันอยู่ที่จุดไหนกัน
ขณะที่กำลังกินเนื้อนั้น ซาโตรุพูดอย่างคลุมเครือว่า "มนุษย์มีขีดจำกัด และเธอก็ได้มาถึงขีดจำกัดแล้ว”
ขีดจำกัดของคุเรไนคือระดับโจนินพิเศษ
มันยากมากที่จะแข็งแกร่งขึ้น เพราะความแข็งแกร่งได้ถึงจุดสูงสุดอย่างสมบูรณ์แล้ว
ปริมาณจักระของเธอนั้นน้อยมาก และเธอก็เคยชินกับการโจมตีด้วยภาพลวงตา ดังนั้นจึงสายเกินไปที่จะเปลี่ยนรูปแบบการต่อสู้ไป
“เพราะฉะนั้นฉันจึงถามนายไง นายคือนินจาที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกนินจาในตอนนี้” คุเรไนตอบ เธอคิดว่าซาโตรุนั้นต้องมีหนทางแน่ เพราะเขาคือนินจาที่แข็งแกร่งที่สุด
ซาโตรุแสร้งทำเป็นมองดูคุเรไนแล้วจึงพูดว่า "เธออยากจะแข็งแกร่งขึ้นโดยที่เธอไม่มีขีดจำกัดทางสายเลือดงั้นเหรอ? งั้นก็กลับบ้านไปนอนเถอะ"
หากต้องการพ้นขีดจำกัดของนินจาธรรมดา สิ่งที่เธอต้องมีนั้นคือขีดจำกัดทางสายเลือดที่ติดตัวมา
หรือไม่ก็ต้องเกิดมาพร้อมกับสัตว์หางที่มีจักระที่สูง
การฝึกฝนอย่างหนักจะสามารถทำให้แข็งแกร่งขึ้นได้หรือไม่?
ตอบได้เลยว่าไม่ แบบไม่ได้ล้อเล่น
ถ้าทุกคนสามารถแข็งแกร่งขึ้นได้ด้วยการฝึกให้หนัก โลกนินจาทั้งโลกคงจะตกอยู่ในความสับสนวุ่นวายไปนานแล้ว
“ซาโตรุ!” ใบหน้าของคุเรไนเปลี่ยนสีไปด้วยความโกรธ เธอกำตะเกียบอย่างแรงด้วยมือของเธอ
“อย่าเพิ่งโมโหไปสิ จริงๆ มันก็พอมีทางอยู่” ซาโตรุยกมือขึ้นห้าม
"มีทางไหนบ้าง?" คุเรไนสงสัย
ฮินาตะและคนอื่นๆ เงี่ยหูรอคำพูดต่อไปของซาโตรุ หากมีวิธีที่จะแข็งแกร่งขึ้น พวกเขาก็อยากจะรู้เหมือนกัน
ซาโตรุพูดด้วยรอยยิ้มว่า "จริงๆ แล้วมันเป็นเรื่องง่ายมากที่จะแข็งแกร่งขึ้น ลองควักเนตรวงแหวนจากดันโซมาสิ แล้วเธอจะแข็งแกร่งขึ้นทันทีหลังจากใส่มันแทน"
นอกจากฮาชิรามะ เซนจูแล้ว ยังมีขีดจำกัดทางสายเลือดที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกนินจานั้นก็คือเนตรวงแหวน
เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผานั้นมีพลังและแข็งแกร่งมาก ซูซาโนโอะเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน
"นายล้อเล่นฉันเหรอ?" คุเรไนแทบพูดไม่ออก
ฮินาตะพูดด้วยความตื่นตระหนก “นี่...ทำได้ยังไง...เรื่องโหดร้ายแบบนี้”
ควักลูกน่าเนี่ยนะ น่ากลัวเกินไปแล้ว
ซาโตรุพูดด้วยรอยยิ้ม "ล้อเล่นน่า นินจาธรรมดาๆ ไม่สามารถควบคุมพลังของเนตรวงแหวนได้หรอก"
หากต้องการควบคุมเนตรวงแหวน จำเป็นต้องมีจักระขนาดมหาศาลเพื่อตอบโต้การโจมตีของเนตรวงแหวน หรือใช้เซลล์ของรุ่นแรก
ดูคาคาชิเป็นตัวอย่างสิ หากไม่มีเนตรวงแหวน คาคาชิก็คงจะไม่แข็งแกร่งเท่านี้แล้ว
ส่วนดันโซ..ไอ้บ้านั่นก็เป็นแค่คนแก่ป่วยเป็นโรคสมองพิการ
เอาร่างกายมาทดลองเล่นกับเนตรวงแหวน
คุเรไนพูดอย่างไม่พอใจ "ฉันขอโทษแล้วกันที่ฉันเป็นแค่นินจาธรรมดาๆ"
“อย่าเป็นผู้หญิงที่เอาแต่ตัดพ้อสิ ไปหาซึนะจังแล้วขอเรียนรู้จากเธอเลย” ซาโตรุพูด แม้ว่าเขาจะสามารถสอนเธอได้ แต่ขอไม่เอาดีกว่า เพราะแค่สอนไอ้พวกตัวแสบในทีมที่เจ็ดก็เหนื่อยมากพอแล้ว
“ถ้าเธอสามารถควบคุมจักระได้อย่างละเอียดอ่อน เธอก็จะสามารถเรียนรู้หมัดที่ทรงพลังนั้นได้” ซาโตรุลูบศีรษะเล็กๆ ของฮินาตะแล้วยิ้ม “ฮินาตะตัวน้อยเองก็เรียนรู้ได้เช่นกัน”
เขาชอบฮินาตะผู้เป็นสาวน้อยที่มีขี้อาย แต่เข้มแข็งมาก
หากฮินาตะสามารถเรียนรู้พลังประหลาดนั้นได้ ประวัติศาสตร์ก็คงจะเปลี่ยนแปลง
วิชามวยอ่อนของเธอคงจะแข็งแกร่งขึ้นมาก!
"เอ๊ะ..." ฮินาตะหน้าแดง เธอลูบมือของซาโตรุเหมือนลูกแมวกำลังเพลิดเพลินกับการที่ซาโตรุลูบหัวอย่างเพลิดเพลิน
“นายกำลังโยนเรื่องให้ท่านซึนาเดะเหรอ? ถ้าอย่างจะให้ฉันมาถ่อตามหานายตั้งแต่แรกทำไมล่ะ?” คุเรไนถอนหายใจ ถ้าเธอรู้เรื่องนี้ เธอควรจะไปหาท่านซึนาเดะตั้งแต่แรก
ซาโตรุหยิบจดหมายออกมา เขย่ามันแล้วพูดว่า "อย่าฝันไปเลย ถ้าไม่มีจดหมายแนะนำของฉัน เธอคิดว่าซึนะจังจะคุยกับเธอไหม?"
ถ้าเขาไม่พูด ซึนะจังจะสอนคุเรไนที่เป็นคู่แข่งในสนามรักให้เหรอ?
ทันใดนั้น
เสียงประกาศก็ดังไปทั่วหมู่บ้าน
นี่คือสัญญาณเรียกนินจาทั้งหมดในหมู่บ้าน
“การแจ้งเตือนระดับ 1?” คเรไนขมวดคิ้วและใบหน้าของเธอค่อยๆจริงจังขึ้น เธอเคยได้ยินเพียงเสียงไซเรนของการแจ้งเตือนระดับ 1 เพียงครั้งเดียว
ครั้งล่าสุดที่เสียงไซเรนดังไปทั่วหมู่บ้านคือเมื่อนานมาแล้ว ในช่วงที่เกิดเก้าหางอาละวาด
"แค่ก แค่ก แค่ก" คิบะเพิ่งกินเนื้อไปคำหนึ่ง เขาตกใจมากกับเสียงที่จู่ๆ ก็ดังขึ้นมา ทำให้เขาสำลักเนื้อเต็มคำจนต้องตบหน้าอกอย่างแรง
ชิโนะมองดูคุเรไนผู้ด้วยสีหน้าสับสนและถามว่า "อาจารย์คุเรไน แรแจ้งเตือนระดับ 1 คืออะไรงั้นเหรอครับ?"
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินเสียงไซเรนของการเตือนภัยระดับแรก
“การแจ้งเตือนระดับ 1 หมายความว่าหมู่บ้านได้ถูกรุกรานโดยนินจาระดับเหนือกว่าคาเงะ หรือมีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น” คุเรไนกล่าวด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล
ในเวลานั้น จิ้งจอกเก้าหางได้ถูกโฮคาเงะรุ่นที่ 3 ตัดสินว่าเป็นภัยพิบัติเหนือธรรมชาติ
“ซาโตรุ พวกเรา…” คุเรไนมองไปข้างๆ ทว่าก่อนที่เธอจะพูดจบ ซาโตรุก็หายตัวไปแล้ว
ณ ตึกโฮคาเงะ
บนชั้นดาดฟ้า
โจนินจำนวนมาก และโจนินระดับสูงอีกหลายคน ยืนอยู่เป็นจุดอย่างเรียบร้อยและเป็นระเบียบ คนเหล่านี้ล้วนแต่เป็นโจนินที่ไม่ได้ออกไปปฏิบัติทำภารกิจและอยู่ในหมู่บ้าน
โจนินทั้งหมดต่างก็สับสน พวกเขามองไปที่ท่านซึนาเดะที่อยู่ตรงหน้าเขา
หมู่บ้านก็เรียบร้อยดี เกิดอะไรขึ้นกับท่านโฮคาเงะ ทำไมจู่ๆ ก็กดแจ้งเตือนระดับความปลอดภัยขึ้นมา?
ชิคาคุคุกเข่าข้างหนึ่งแล้วพูดด้วยความเคารพ "ท่านโฮคาเงะ"
เขาเองก็สับสนมากเช่นกัน จนถึงขณะนี้ยังไม่มีศัตรูบุกรุกเข้ามาในหมู่บ้าน หรือหมายความว่าท่านโฮคาเงะมีเรื่องสำคัญที่จะประกาศ
“ซาโตรุอยู่ที่ไหน?” ใบหน้าของซึนาเดะดูเคร่งเครียด เธอเหลือบมองนินจาที่อยู่ตรงนั้น แต่เธอก็ไม่พบซาโตรุเลย
"ไง" ซาโตรุนั่งไขว่ห้างบนห้องใต้หลังคา มองดูซึนาเดะด้านล่างด้วยรอยยิ้ม เขารู้สึกแปลกใจมากที่จู่ๆ ซึนาเดะก็เปิดไซเรนรักษาความปลอดภัยระดับแรกขึ้นมา
เขาใช้ตาทิพย์ของเขาตรวจสอบแล้ว แต่เขาไม่พบผู้บุกรุกเลย
ซึนาเดะพูดอย่างเย็นชา “นี่ฉันจริงจังนะ”
ส่วนทางด้านนินจาทุกคนคิด พวกเขาก็ได้แต่คิดในใจว่าซาโตรุยังคงทำตัวไม่สนโลกเช่นเคย