บทที่ 101 : ความเจ็บปวดและความฝันของนางาโตะ
บทที่ 101 : ความเจ็บปวดและความฝันของนางาโตะ
“ถ้าเธอต้องการชีวิตของฉัน ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะใช้ประโยชน์จากเธอด้วย อย่ามาตำหนิฉันล่ะเข้าใจไหม?”ซาโตรุดีดนิ้วเล็กน้อย
“นาย...”ใบหน้าของโคนันแดงแปร๊ด ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความรู้สึกอายและความโกรธ ความรู้สึกแปลกๆ นั้นทำให้เธอตัวสั่นไปทั่วทั้งร่างกาย
กระทั่งโคนนันที่มีท่าทีสงบมาตลอดก็ยังโกรธมาก มันเป็นครั้งแรกเลยที่เธอมีความคิดที่อยากจะฆ่า
ซาโตรุคนนี้ไม่ได้จริงจังอะไรเลยสักนิดเดียว กวนประสาทมากเหลือเกิน
“หมื่นลักษณ์เหนี่ยวสวรรค์”
เพน 6 วิถีปรากฏตัวออกมาจากอากาศ ซึ่งหลังจากทั้งหมดออกมาแล้ว ยาฮิโกะในร่างเพนก็ยกมือขึ้น มีสสารสีดำเข้มปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของเขา
แรงโน้มถ่วงที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าได้เข้ามาดึงดูดตัวซาโตรุไปในทันที
“เนตรสังสาระเหรอ?”ซาโตรุกระโดดออกขณะตัวเขาถูกดึงดูดด้วยแรงดึงดูดพลังมหาศาล จนชนเข้ากับยาฮิโกะอย่างรวดเร็ว
แม้เขาจะสามารถป้องกันการโจมตีทั้งหมดได้ แต่ก็มีพลังบางอย่างที่อยู่เหนือขอบเขตของกาลเวลาที่สามารถใช้กับเขาได้
“รู้จักเนตรสังสาระด้วยเหรอ? นี่น่ะคือพลังของเทพเจ้า” ยาฮิโกะยังคงนิ่งเฉย มีแท่งเหล็กสีดำปรากฏขึ้นบนมือของเขา และเขาก็แทงมันเข้าไปในคอของซาโตรุ
"คาถานินจา • โล่มนุษย์กำบัง" ซาโตรุประสานอิน
กระดาษแผ่นหนึ่งตกลงมาจากฟ้าและสลับตำแหน่งของเขากับโคนัน
โคนันสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะโต้ตอบ
ซาโตรุคว้าผมของโคนันแล้วใช้เธอเป็นโล่มนุษย์เพื่อขวางเขาเอาไว้
“ฮึ่ม ช่างเป็นกลอุบายที่น่ารังเกียจ” ยาฮิโกะเก็บแท่งสีดำกลับไปที่เดิม ควบคุมเพน 6 วิถีกระโดดหลบไปข้างหลัง และรักษาระยะห่างจากซาโตรุ
นางาโตะส่งโคนันมาประชันกับซาโตรุ ในขณะที่เขาเฝ้าดูเงียบๆ อยู่ในความมืด
หนึ่งก็เพื่อสังเกตความสามารถของซาโตรุ อีกด้านหนึ่งก็ต้องการซ่อนความสามารถของเนตรสังสาระไว้ชั่วคราว
แต่หลังจากที่เห็นโคนันถูกลวนลาม เขาก็ไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้อีกต่อไป แม้จะเสี่ยงต่อการเปิดเผยเรื่องเนตรสังสาระ แต่เขาก็ยังต้องการที่จะออกไป
เพราะโคนันคือคนที่สำคัญที่สุดของเขา เขาจึงทนไม่ได้ที่จะมองดู คนที่สำคัญที่สุดต้องมาถูกซาโตรุลวนลาม
“นายห่วงเธองั้นเหรอ? งั้นเดี๋ยวฉันจะแกล้งเธอต่อหน้านายให้ดู” ซาโตรุยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย เป็นรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความชั่วร้ายปรากฏอยู่บนใบหน้า
ซาโตรุจับโคนันไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง และมืออีกข้างลูบเบาๆ ที่ขาขวาของโคนัน
“เรียว เต่งตึง กล้ามเนื้อขาของเธอนี้ แสดงว่าเธอออกกำลังกายมาอย่างพอดีเลย จุ๊ จุ๊ จุ๊ ฉันเล่นมันได้เป็นวันๆ เลยนะเนี่ย”
ที่จริงตั้งแต่เมื่อครู่ เขาก็รู้อยู่แล้วว่ามีตัวตนหนึ่งกำลังซ่อนตัวอยู่ในความมืด
คิดพยายามซ่อนเนตรสังสาระงั้นเหรอ?
“ไอ้สารเลว ปล่อยฉันไปนะ!” โคนันกัดริมฝีปากแน่น ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความรู้สึกอายและโกรธ ยิ่งตอนนี้พออยู่ต่อหน้านางาโตะด้วยอีก การหยอกล้อด้วยความเจ้าชู้ของซาโตรุยิ่งทำให้เธอรู้สึกอับอายและโกรธมากกว่าเดิมยิ่งขึ้น
ยาฮิโกะในร่างเพนนั้นมีสีหน้าไร้อารมณ์เหมือนคนตาย เขาถามด้วยน้ำเสียงแหบแห้งและแผ่วเบาว่า "ซาโตรุ นายมีเป้าหมายอะไร?"
ซาโตรุหยิบอมยิ้มออกมาแกะแล้วโยนมันเข้าไปในปากของเขา ก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มบางเบาว่า "ก็อาจจะเพื่อตั้งใจยั่วโมโหนายไงล่ะ ฉันอยากรู้ว่านายจะทำยังไงยังไงเมื่อนายรู้สึกอิจฉา"
เขารู้ดีว่านางาโตะคงจะสติแตกหลังจากที่เขาทำร้ายโคนัน
"หมายความว่ายังไง?" โคนันเมื่อเห็นซาโตรุปล่อยมือ เธอจึงขยับปีกทันทีและพยายามจะกลับไปหาเพน 6 วิถี แต่เธอก็พบว่าเธอไม่สามารถขยับตัวได้เลย
ราวกับว่ามีกำแพงที่มองไม่เห็นล้อมรอบระหว่างด้านหน้าและด้านหลัง คล้ายกับมันกำลังกักขังเธอไว้อย่างมั่นคง
นี่คือความสามารถอะไร?
ผนึกเหรอ?
ยาฮิโกะในร่างเพนพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ "ฉันถามถึงเรื่องความฝันและเป้าหมายของนาย"
“นายคงเคยเห็นเพียงต้นไม้ หาใช่มวลหมู่พฤกษา”
“มีผู้คนเสียชีวิตในสงครามมากมายจนเกินไป ความเจ็บปวดของพวกเขาคือการเติบโตของฉัน เด็กที่โง่เขลาและไร้เดียงสาทั้หลายจะเติบโตขึ้นได้หลังจากรู้ถึงความเจ็บปวดเท่านั้น”
"หมู่บ้านหลักทั้งห้านั้นใหญ่เกินไป พวกเขาต่างทำสงครามกับหมู่บ้านอื่นๆ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของหมู่บ้านตนเอง"
“แต่ว่าหมู่บ้านเล็กๆ ของเรานั้นกลับกลายมาเป็นสนามรบของหมู่บ้านใหญ่ๆ เหล่านั้น”
“ทุกครั้งที่เกิดสงคราม วิถีชีวิตของผู้คนในหมู่บ้านของฉันก็เปลี่ยนไป ทุกคนกำลังจะตาย ผู้คนหิวโหยมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง แต่หมู่บ้านใหญ่ยังคงสงบสุขและปลอดภัยเช่นเดิม มีเพียงหมู่บ้านเล็กๆ ของพวกเราที่ถูกทิ้งให้อยู่กับความเจ็บปวดไม่รู้จบ”
"หมู่บ้านนินจาทั้งห้าเหยียบย่ำหมู่บ้านเล็กๆ อย่างป่าเถื่อน เพียงเพื่อปกป้องความสงบสุขของหมู่บ้านตัวเอง!"
“ทุกสิ่งนี้ทำให้เราตื่นขึ้น มนุษย์ล้วนเป็นสัตว์โง่เขลาที่ไม่เข้าใจกันเลยไม่ว่าจะทำเช่นไรก็ตาม”
“ฉันเติบโตขึ้นเหนือกว่าพวกมนุษย์ปกติ ฉันเติบโตด้วยความเจ็บปวดอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เติบโตจากมนุษย์สู่เทพเจ้า!”
“ต้องทำให้โลกรู้สึกถึงความเจ็บปวด ให้ทุกคนเข้าใจความเจ็บปวด แล้วเมื่อนั้นมนุษย์จะปรารถนาสันติภาพอย่างแท้จริง”
นางาโตะและคนอื่นๆ เห็นว่าหมู่บ้านนินจาหลักทั้งห้าแห่งได้ทำลายหมู่บ้านเล็กๆ เพียงเพื่อประโยชน์ส่วนตน ทำให้เด็กจำนวนนับไม่ถ้วนต้องทนทุกข์ทรมานจากความหิวโหย และเด็กจำนวนนับไม่ถ้วนต้องกลายเป็นเด็กกำพร้า
พวกเขาต้องการเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่าง ทำลายหมู่บ้านนินจาที่ยิ่งใหญ่ทั้งห้าแห่งเสีย
ให้ผู้คนทั่วโลกรู้สึกเจ็บปวดเหมือนกับเด็กที่เจ็บปวดเหล่านั้น
รวมถึงการตายของยาฮิโกะ
เรื่องราวนำไปสู่วังวนเดิมๆ นางาโตะเข้าใจดีว่าทำไมผู้คนถึงไม่เข้าใจกันจนนำไปสู่สงคราม
ด้วยความเจ็บปวดนี้ เขาจึงตั้งใจจะเติมเต็มความฝันของยาฮิโกะด้วยช่วงชีวิตที่เหลือของเขา
“ซาโตรุ มาเข้าร่วมกับแสงอุษาสิ”
"ชำระล้างหมู่บ้านนินจาที่ยิ่งใหญ่ทั้งห้าในนามของพระเจ้า และเปลี่ยนโลกนินจาอันโง่เขลานี้"
ยาฮิโกะในร่างเพนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “นายมาไกลขนาดนี้ ได้เห็นชีวิตและความตายนับไม่ถ้วน นายคงจะเข้าใจความเจ็บปวดใช่ไหม?”
เขารู้เกี่ยวกับอดีตของซาโตรุดี
ซาโตรุได้เห็นทั้งชีวิตและความตายมานับไม่ถ้วน ได้เห็นความมืดมิดของหมู่บ้านทั้งห้ามามากมาย
“นางาโตะ.. ยาฮิโกะ” โคนันกัดริมฝีปากของเธอเบาๆ นึกถึงเรื่องราวในอดีต ดวงตาเผยความเศร้าโศกออกมา เธอไม่เคยต้องการเปลี่ยนแปลงอะไรเลย เธอแค่อยากปกป้องนางาโตะและยาฮิโกะ
หากความฝันของนางาโตะคือการเปลี่ยนโลกนินจา เธอก็จะอยู่เคียงข้างยาฮิโกะและนางาโตะด้วย
ความฝันของเธอคือนางาโตะและยาฮิโกะ
นั่นแหละคือทั้งหมดที่เธอต้องการ
"เข้าใจเหรอ?" ซาโตรุกินอมยิ้ม มันเป็นเรื่องยากมากสำหรับเขาที่จะต้องมาอดทนฟังคำพูดยาวๆ ของนางาโตะ
“ฉันจะไปเข้าใจความคิดของคนอ่อนแอได้ยังไงกันล่ะ?” ซาโตรุเงยหน้าขึ้นและยิ้มเล็กน้อยพร้อมกับท่าทีประชดประชัน
เขาเกลียดคนอ่อนแอทั้งปวง
“เพราะบนโลกนี้มีผู้ที่แข็งแกร่ง ดังนั้นจึงต้องมีการดำรงอยู่ของผู้อ่อนแอ”
“แต่มีเพียงผู้ที่อ่อนแอจะถูกกดขี่ มีแต่ผู้ที่อ่อนแอจะถูกทำลาย มีแค่ผู้ที่อ่อนแอจะถูกเหยียบย่ำ แต่ฉันคือผู้แข็งแกร่งที่ไร้เทียมทาน แล้วจะให้ฉันไปเข้าใจความเจ็บปวดของพวกคนอ่อนแอได้ยังไง?”
“ฉันไม่สนใจที่จะเปลี่ยนแปลงโลกนินจาหรอก แต่ถ้าใครที่สำคัญสำหรับฉันนั้นอยู่ข้างัน พวกเขาก็จะปลอดภัย” ซาโตรุพูดเบาๆ และภาพครั้งแรกที่เขาได้เห็นซึนาเดะก็ปรากฏขึ้นในความทรงจำของเขา
เมื่อเขามาถึงหมู่บ้านครั้งแรก หมู่บ้านนั้นกำลังถูกทำลายและเขากำลังออกค้นหาอาหารจากกองซากศพนั้นทุกวัน กระทั่งนินจาที่ผ่านไปมาก็มองว่าเขาเป็นศัตรู
จากนั้นเอง ซึนาเดะก็ได้ปรากฏตัวขึ้น
ไม่มีคำพูดอะไรมากมาย มันเป็นเพียงความซาบซึ้งใจ
ซึนาเดะพูดเพียงคำเดียวในตอนนั้น
【เจ้าเด็กเสียบผี มากับฉันไหม? ฉันมีอาหารให้นายนะ 】
แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว
เขาไม่สนใจเลยที่จะเปลี่ยนแปลงโลกนินจา และไม่สนใจว่าเขาจะสร้างปัญหาที่ไหนบ้าง เขาแค่อยากปกป้องคนที่ช่วยเหลือเขาเมื่อเขาอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุด
แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว