1210 - หมัดหกสังสารวัฏไร้เทียมทาน
1210 - หมัดหกสังสารวัฏไร้เทียมทาน
กระบี่เต๋าจักรพรรดิไม่ใช่อาวุธจริง เย่ฟ่านไม่ทำลายมันได้อย่างเด็ดขาด สิ่งที่ปกป้องเขาอยู่ในตอนนี้มีเพียงพลังวิญญาณที่เพิ่มมากขึ้นถึงสิบเท่า
“หมัดหกสังสารวัฏ!”
เย่ฟ่านตะโกนเสียงดัง แม้ว่าเขาจะไม่ได้กระแทกกำปั้นออกไปจริงๆ แต่ประตูมิติที่เชื่อมต่อกับโลกอื่นได้เปิดขึ้นกลางท้องฟ้า จากนั้นพลังทำลายล้างที่น่าสะพรึงกลัวก็หลั่งไหลเข้าสู่โลกอำพรางสวรรค์เพื่อบดขยี้กระบี่เต๋าจักรพรรดิเล่มนี้
“เจ้อ”
เสียงตะโกนของเย่ฟ่านดังกึกก้องขึ้นพร้อมกัน เขาใช้โอกาสนี้ฟื้นฟูร่างกายที่ถูกตัดแบ่งเป็นชิ้นๆ โซ่ศักดิ์สิทธิ์สีแดงได้เชื่อมร่างกายของเย่ฟ่านเข้าหากันอย่างรวดเร็ว
โครม!
พลังที่หลั่งไหลออกมาจากประตูมิติปิดกั้นการโจมตีของกระบี่เต๋าจักรพรรดิได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในเวลาไม่กี่ลมหายใจร่างกายของเย่ฟ่านก็เชื่อมต่อกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ
“นี่มันพลังแบบไหนกัน มันปิดกั้นกระบี่เต๋าจักรพรรดิได้!”
ผู้คนอุทานด้วยความตกใจ ไม่ว่าพวกเขาจะมาจากเผ่าพันธุ์โบราณหรือเผ่าพันธุ์มนุษย์ ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความตกตะลึง ทักษะนี้มาจากที่ใด พวกเขาไม่เคยได้ยินได้ฟังมาก่อน?
“หมัดหกสังสารวัฏ!”
ในคราวนี้เมื่อร่างกายของเย่ฟ่านอยู่ในสภาวะสมบูรณ์แล้ว พลังของหมัดหกสังสารวัฏที่เขาแสดงออกมาในตอนนี้จึงแข็งแกร่งมากกว่าการโจมตีเมื่อครั้งก่อนหลายสิบเท่า
ปัง!
ประกายไฟสาดกระจายขึ้นสู่ท้องฟ้า กระบี่เต๋าจักรพรรดิถูกบดขยี้กลายเป็นเพียงอักขระที่ล่องลอยไปทั่วความว่างเปล่า ในเวลาต่อมาพวกมันก็รวมกันกลายเป็นกระบี่เต๋าจักรพรรดิอีกครั้ง
แม้ว่าการโจมตีครั้งนี้จะไม่เพียงพอในการทำลายกระบี่เต๋าจักรพรรดิได้ แต่หมัดหกสังสารวัฏของเย่ฟ่านยังคงทรงพลังอย่างยิ่ง ผู้บ่มเพาะจากเผ่าพันธุ์มนุษย์เต็มไปด้วยความตื่นเต้นเมื่อมองเห็นฉากนี้
ในขณะเดียวกันยอดฝีมือรุ่นอาวุโสของเผ่าพันธุ์มนุษย์ต่างก็แตกตื่นและตกตะลึงอย่างมาก พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าทักษะอมตะอย่างหมัดหกสังสารวัฏจะปรากฏขึ้นในโลกอีกครั้ง
นี่คือหนึ่งในทักษะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเผ่าพันธุ์มนุษย์ มันถูกคิดค้นขึ้นโดยจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ และหายสาบสูญไปจากโลกหลายแสนปีแล้ว
“เขาได้มันมาได้อย่างไร?” นี่คือคำถามในใจของผู้บ่มเพาะที่แก่ชราหลายคน
ในซีเซี่ยมีบุคคลที่มีลักษณะพิเศษที่สุด นั่นคือเซียนจากเทียนซวน ร่างกายของเขาสั่นสะท้านในขณะที่ละล่ำละลักว่า
“ทุกอย่างคุ้มค่าแล้ว…แม้ว่าศิษย์พี่ศิษย์น้องทุกคนจะตายกันหมดแต่ในที่สุดเจ้าก็นำหมัดหกสังสารวัฏออกมาได้สำเร็จ!”
ร่างกายของเย่ฟ่านปกคลุมไปด้วยเต๋าที่สดใส หมัดของเขาเขย่ากระบี่เต๋าจักรพรรดิและทำให้กระบี่ที่น่าสะพรึงกลัวแตกกระจายครั้งแล้วครั้งเล่า
ในขณะนี้กระบี่เต๋าจักรพรรดิฟื้นฟูตัวเองกลับมาได้ทุกครั้งก็จริง แต่ความเร็วในการฟื้นฟูของมันกลับดูเหมือนจะช้าลงในทุกๆ ครั้งที่ถูกทำลาย สถานการณ์นี้ทำให้สีหน้าของสิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์โบราณเริ่มเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
ฝ่ามือของเย่ฟ่านมีเลือดไหลซึมออกมาอยู่ตลอดเวลา เขาได้รับบาดเจ็บจากกระบี่เต๋าแต่พลังของหมัดหกสังสารวัฏยังคงสั่นสะเทือนทั้งสวรรค์พิภพ
“ข้าคือผู้อยู่ยงคงกระพัน ได้รับความเคารพในโลก และแม้แต่เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ก็ไม่สามารถขัดขวางเส้นทางแห่งการเกิดใหม่อย่างไม่รู้จบของข้าได้”
นี่คือความหมายที่แท้จริงของหมัดหกสังสารวัฏซึ่งเป็นทักษะระดับผู้อมตะอย่างแท้จริง!
เย่ฟ่านติดตามเส้นทางของกระบี่เต๋าจักรพรรดิด้วยทักษะซิงจื่อกำปั้นสีทองของเขากระแทกออกไปอย่างต่อเนื่องและทำลายกระบี่เต๋าจักรพรรดินับครั้งไม่ถ้วน
“ปัง” “ปัง”...
โลกกำลังสั่นสะเทือน กระบี่เต๋าเริ่มคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวด
สีหน้าของผู้คนมากมายบิดเบี้ยวอย่างรุนแรง ทักษะลับต้องห้ามของจักรพรรดิหยวนได้พบกับคู่แข่งที่ทรงพลังมากกว่า พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าจะมีทักษะที่สามารถทำแบบนี้ได้
“บูม”
ในที่สุดเย่ฟ่านก็ทุบกระบี่เต๋าจนแหลกเป็นชิ้นโดยไม่สามารถกลับมารวมตัวกันได้อีกแล้ว หยวนกู่กรีดร้องด้วยความเจ็บปวดเลือดไหลทะลักออกมาจากหน้าผากของเขา
เย่ฟ่านก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่ย่อท้อ ในขณะนี้หมัดสีทองของเขากระแทกเข้าหาหยวนกู่โดยตรง
“เจ้ากลัวแล้วหรือ?”
ปัง!
ปัง!
กำปั้นของเย่ฟ่านทุบตีร่างกายของหยวนกู่จนแหลกสลายกลายเป็นเพียงเนื้อบดกองใหญ่
“ปุ๊”
เลือดเนื้อของหยวนกู่พยายามฟื้นฟูตัวเองกลับมาในขณะที่กำปั้นของเย่ฟ่านยังคงทุบตีออกไปอย่างต่อเนื่อง สีหน้าของเขาสงบนิ่งในขณะที่เริ่มบดขยี้เนื้อหนังของหยวนกู่เพื่อดูว่าขีดจำกัดในการฟื้นคืนชีพของคนผู้นี้จะแข็งแกร่งเพียงใด
หยวนกู่คำรามด้วยความสิ้นหวัง ทุกครั้งที่เขาฟื้นคืนชีพกลับมาก็จะถูกกำปั้นของเย่ฟ่านทุบตีจนร่างกายแหลกละเอียดอย่างง่ายดาย
ในขณะนี้เขาพยายามควบแน่นกระบี่เต๋าจักรพรรดิขึ้นมาที่หว่างคิ้วอีกครั้ง แต่เลือดสีดำจำนวนหนึ่งก็ไหลออกมาจากทะเลศักดิ์สิทธิ์กลางหน้าผากของเขาเช่นกัน
“ปัง!”
สุดท้ายเย่ฟ่านกระแทกหมัดหกสังสารวัฏออกไปเพื่อบดขยี้กระบี่เต๋าจักรพรรดิ์และวิญญาณศักดิ์สิทธิ์หยวนกู่ในการโจมตีเพียงครั้งเดียว!
เย่ฟ่านมองไปอีกทิศทางหนึ่งของสนามรบ ในสถานที่แห่งนั้นใบหน้าของเทียนหวงจื่อซีดเผือดไร้สีเลือดโดยสิ้นเชิง ในขณะนี้เส้นผมสีดำสนิทของเย่ฟ่านโบกสะบัดอย่างบ้าคลั่ง
“ฟื้นคืนชีพสิ ข้าต้องการให้เจ้าฟื้นคืนชีพอีกครั้ง มาดูกันว่าพลังใจของเจ้าจะมีมากเพียงใด!”
คำพูดนี้แข็งกร้าวและครอบงำอย่างถึงที่สุด สีหน้าของผู้คนมากมายเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง
หยวนกู่คือทายาทของจักรพรรดิโบราณ แต่ตอนนี้ไม่ว่าเขาจะฟื้นคืนชีพกลับคืนมากี่ครั้งเขาก็จะถูกเย่ฟ่านทุบตีจนตายอย่างง่ายดาย
หากสถานการณ์ยังคงดำเนินไปแบบนี้เรื่อยๆ ไม่เพียงพลังศักดิ์สิทธิ์ของหยวนกู่จะถูกเผาผลาญจนหมดสิ้นเท่านั้น จิตวิญญาณการต่อสู้ของเขาก็จะพังทลายไปด้วย
แล้วเมื่อถึงตอนนั้นต่อให้เขารอดชีวิตออกจากสนามรบนี้ได้เขาจะไม่แตกต่างอะไรจากขยะกองหนึ่ง!
“นี่คือวิธีพิสูจน์ว่าข้าอยู่ยงคงกระพัน! ไม่ว่าเจ้าจะเป็นราชาผู้ยิ่งใหญ่หรือองค์ชายโบราณ ต่อให้เจ้าเป็นจักรพรรดิโบราณฟื้นคืนชีพกลับมาเจ้ายังคงต้องตายอยู่ดี” เซียนแห่งลานพนันหินเทียนซวนกล่าวกับตัวเอง
หยวนกู่ฟื้นคืนชีพ เส้นเลือดบนหน้าผากของเขาปูดโปนด้วยความโกรธเกรี้ยว จิตใจของเขากำลังพลุ่งพล่านอย่างรุนแรง วันนี้เขาถูกฆ่าตายหลายสิบครั้ง ซึ่งทำให้ความภาคภูมิใจในตัวเองของเขาได้รับผลกระทบอย่างหนัก
อ่า...
เขาส่งเสียงคำรามยาวๆ สั่นสะเทือนสวรรค์ทั้งเก้าด้วยเสียงที่ดังกึกก้อง จากนั้นเขาได้แสดงพลังทั้งหมดที่มีออกมาเพื่อปัดป้องการโจมตีของหมัดหกสังสารวัฏ
“ปัง”
แต่สุดท้ายกระบี่เต๋าจักรพรรดิของเขาก็ถูกทำลายอย่างง่ายดาย ในขณะที่วิญญาณศักดิ์สิทธิ์และร่างกายของเขาถูกฉีกกระชากออกจากกันเป็นชิ้นๆ เหมือนเช่นก่อนหน้านี้
“เจ้า…!”
หยวนกู่ตะโกนด้วยความสิ้นหวัง เขาถูกเย่ฟ่านสังหารพร้อมกับกระบี่เต๋า เมื่อฟื้นคืนชีพกลับมาอีกรอบเขาไม่มีความกล้าที่จะต่อสู้อีกแล้ว เขากำลังควบคุมวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของตัวเองหลบหนีออกไปจากสนามรบหลายพันวาอย่างรวดเร็ว
ในโลกนี้ทุกสิ่งมีราคาของมัน เขาฟื้นคืนชีพหลายสิบครั้ง แต่ต้นกำเนิดบางส่วนถูกกลืนหายไป ใบหน้าของเขาซีดเผือดไร้สีเลือดโดยสิ้นเชิง
ในขณะนี้หว่างคิ้วของเขามีเลือดสีดำไหลออกมาอยู่ตลอดเวลา กระบี่เต๋าจักรพรรดิกระพริบและหายไป มันไม่สามารถปรากฏขึ้นอีกนั่นก็เพราะหมัดหกสังสารวัฏทำลายมันจนถึงรากฐานแล้ว
“ฆ่า!”
ในเวลานี้ทุกรูขุมขนของเย่ฟ่านเชื่อมต่อกับสวรรค์พิภพ กำปั้นที่แข็งแกร่งของเขาไล่ทุบตีวิญญาณของหยวนกู่จนทำให้อีกฝ่ายจมอยู่ในความสิ้นหวังโดยสิ้นเชิง
…….