บทที่ 98 : เบื่อที่จะดูละครตลกของนายแล้ว!
บทที่ 98 : เบื่อที่จะดูละครตลกของนายแล้ว!
“ไม่จำเป็นต้องระวังขนาดนั้นหรอก ฉันน่ากลัวมากเลยเหรอ?” ซาโตรุถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “หรือ...อยากให้ฉันเริ่มก่อน?”
เขารู้ถึงจุดอ่อนของซาโซริ ถ้าซาโตรุเริ่มก่อน เขาจะสามารถฆ่าซาโซริได้ในทันที
หากเป็นเช่นนั้น เจ้าเด็กแสบในทีมที่เจ็ดจะได้ดูการต่อสู้ระหว่างนินจาระดับคาเงะได้อย่างไรกัน
“ซาโซริ ท่านจัดการคนเดียวได้หรือเปล่า?” เดอิดาระเหยียบมังกรลอยอยู่บนท้องฟ้าและมองดูลงพื้นเบื้องล่าง
เขาไม่ได้คิดที่จะบุกเข้าไปก่อน เพราะคนในองค์กรของแสงอุษานั้นแข็งแกร่ง พวกเขาจึงไม่เคยที่จะโจมตีศัตรูพร้อมกัน
หลังจากที่ซาโซริพ่ายแพ้เท่านั้น เขาถึงจะเข้าโจมตีซาโตรุต่อ
“ฉันเกลียดคนอ่อนแอนะ ถ้าพวกนายทั้งสองจะเล่นด้วยกันก็เข้ามาเลย” ซาโตรุกล่าว "เพราะยังไงซะ ฉันน่ะเคยสถิติจัดการ 5 คนได้ภายในคืนเดียวเชียวล่ะ"
“ไอ้เด็กนี้อย่ามายิ้มทะเล้นนัก ถ้าอย่างนั้นก็ทำตามใจนายต้องการได้เลย” ซาโซริจ้องไปที่ซาโตรุอย่างระแวดระวัง และพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้งแผ่วเบาว่า "เดอิดาระ นายไปจัดการกับคนอื่นๆที่ อยู่ตรงนั้นซะ"
“ต้องปกป้องทั้งคนที่อ่อนแอ และในขณะเดียวกันก็ต้องต่อสู้กับฉันไปด้วย คงจะเริ่มอยู่ไม่สุขแล้วล่ะสิ?”
แม้ว่าซาโซริจะรู้ว่าซาโตรุนั้นมีพลังมาก แต่เขาก็ไม่เคยเห็นพลังของซาโตรุเลยสักครั้ง
เขาจึงให้เดอิดาระไปจัดการกับคุเรไนและคนอื่นๆ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของซาโตรุ
"มีผู้ชมหน้าใหม่มาแล้วสินะ งั้นมาร่วมชมงานศิลปะของฉันด้วยกันเถอะ!" เดอิดาระร่ายคาถาด้วยมือเดียว ควบคุมมังกรดินเหนียว และบินไปหาคุเรไนและคนอื่นๆ ที่อยู่ตรงนั้น
ไม่สำคัญหรอกว่าศัตรูจะเป็นใคร เขาแค่ต้องการระเบิดเท่านั้น
ศิลปะนั้นเป็นนิรันดร์และงดงามเป็นที่สุด ชีวิตของหุ่นเชิดนั้นไม่มีที่สิ้นสุด เขาจะใช้มันเพื่อพิสูจน์เสน่ห์ของหุ่นเชิด ซาโซริขยับหุ่นเชิดเล็กน้อยด้วยมือทั้งสองข้าง
“บู้ม” หุ่นร้อยตัวเข้าโจมตีซาโตรุพร้อมๆ กัน
“ทำให้ฉันเสียสมาธิเหรอ? เป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาดมาก” ซาโตรุ เมินเฉยต่อหุ่นเชิดและมองไปที่ซาโซริ
หุ่นเชิดทั้งหมดถืออาวุธและพร้อมจะซัดอาวุธนั้นใส่ซาโตรุอย่างรุนแรง แต่การโจมตีของหุ่นเชิดทั้งหมดกลับหยุดนิ่งตรงหน้าซาโตรุ ราวกับว่าพวกมันถูกแช่แข็ง
ซาโตรุกระทืบพื้นเล็กน้อย
“บูม” พื้นสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง พื้นที่ระหว่างคุเรไนและเดอิดาระก็มีรอยแตกขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นเหมือนกับเส้นแบ่ง
“นี่หมายความว่ายังไงกัน?” เดอิดาระผงะเล็กน้อย จู่ๆ มังกรก็หยุดอยู่ตรงหน้ารอยแตก เขาได้แต่มองดูซาโตรุที่อยู่ข้างล่างอย่างสงสัย
“อย่ารีบไปสิ ไว้หน้าฉันหน่อย พวกนั้นคือลูกศิษย์ของฉันนะ แถมยังมีแม่สาวไฟแรงที่แอบรักฉันด้วย”ซาโตรุยิ้มบางเบาพลางมองเดอิดาระบนท้องฟ้าแล้วกล่าวว่า “สิ่งที่อยู่ตรงหน้าคือเส้นแบ่ง ถ้าข้ามมาฉันจะโกรธแล้วนะ”
“ตาบ้านี้!”
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของซาโตรุแล้ว ดวงตาคุไรไนก็เริ่มเต็มไปด้วยความเขินอายและความโกรธ
ซากุระจ้องไปที่ซาโตรุและพึมพำว่า “อาจารย์ซาโตรุ เท่มากเลย...”
ทั้งแข็งแกร่งและมั่นใจในตนเองขนาดนี้
ถึงขั้นต่อกรกับนินจาระดับคาเงะเพื่อพวกเธอ
มันยิ่งทำให้เธอรู้สึกว่าอาจารย์ของเธอนั้นหล่อขึ้นมากจริงๆ
“แกคิดว่าแกเป็นใคร ไม่มีใครมาหยุดงานศิลปะของฉันได้หรอก!” ใบหน้าและดวงตาของเดอิดาระกลับกลายเป็นมืดลงด้วยความโกรธ เขาควบคุมมังกรให้ข้ามเส้นแบ่งอย่างรวดเร็ว
ซาโตรุพูดจริงเหรอ?
กล้าดียังไงมาขู่เขา!
"คาถาสายฟ้า·ความมืดเทียม" ซาโตรุเอามือล้วงกระเป๋าและพ่นสายฟ้าออกมาจากปาก หลังจากที่สายฟ้าฟาดลง มันก็กลายเป็นไฟฟ้าที่เหมือนกับคลื่นลูกใหญ่ ทำลายเดอิดาระอย่างรวดเร็ว
"บูม" เสียงฟ้าร้องและสายฟ้าพุ่งมาราวกับคลื่นขนาดใหญ่ กลืนกินเดอิดาระโดยตรงและมังกร C2 ก็ถูกสายฟ้าผ่าแหลกเป็นชิ้นๆ
เดอิดาระล้มลงกับพื้นอย่างแรง ร่างกายของเขาถูกสายฟ้าฟาดมีบาดแผลเล็กๆ นับไม่ถ้วนและมีเลือดสีแดงไหลออกมา
“อะไรเนี่ย?” เดอิดาระมองด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อเมื่อเห็นซาโตรุที่ยังคงสงบนิ่งและทำหน้าเฉยเมยเช่นเดิม
ไอ้คนที่มีรอยยิ้มกวนๆ คนนั้น เมื่อครู่ยังไม่ได้ประสานอินเลยไม่ใช่เหรอ?
ทำไมถึงใช้ได้ได้ทันทีโดยไม่ต้องประสานอินกัน?
และไหนจะยัง….การเปลี่ยนธาตุจักระนั้นอีก
คาถาสายฟ้าระดับ A · ความมืดเทียม!
หรือว่ามันเป็นเพราะขีดจำกัดทางสายเลือดของเขาหรือเปล่า?
“เจ้าเด็กแสบ ดูให้ดี นี่น่ะคือคาถาสายฟ้าที่ใช้ยับยั้งคาถาดิน” ซาโตรุมองไปที่เด็กๆ ในทีมที่เจ็ดแล้วชี้ไปที่เดอิดาระ ก่อนจะพูดต่ออีกว่า "หลังจากที่เขาถูกโจมตีด้วยคาถาสายฟ้าไปแล้ว ดินเหนียวที่ใช้ทำระเบิดจะกลายเป็นดินเหนียวที่ไร้ค่า"
“นายยังมีเวลาสอนอยูอีกเหรอ?” ซาโซริรู้สึกว่าเขาถูกละเลย ใบหน้าของเขายังคงไร้ซึ่งอารมณ์ ทว่าในใจกลับรู้สึกโกรธยิ่ง
"คาถาแม่เหล็ก · พีระมิดทรายเหล็ก!"
นิ้วของซาโซริขยับเล็กน้อย หุ่นเชิดคาเสะคาเงะที่สามพลันขยับตาม
“บูม” พื้นดินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ทรายและเหล็กลอยขึ้นมาราวกับคลื่นขนาดใหญ่ ก่อตัวเป็นพีระมิดสามเหลี่ยมขนาดเท่าภูเขาหิน
พีระมิดรูปสามเหลี่ยมกระแทกเข้าหาซาโตรุอย่างแรง น้ำหนักของมันประเมินด้วยสายตาคงจะหลายตันแน่นอน!
“อย่าเพิ่งรีบตายนะ นายยังมีเวลาเหลืออีกสองนาที”ซาโตรุยกนิ้วขึ้นและพีระมิดสามเหลี่ยมขนาดใหญ่ก็ลอยอยู่ตรงหน้านิ้วของเขา
"ปัง" พีระมิดรอยออกเป็นสองส่วนลอยผ่านด้านหลังเขาไป รอยแตกปรากฏขึ้นบนพื้น แต่จุดที่เขายืนอยู่นั้นที่ไม่เสียหายเลยแม้แต่น้อย
“นายมีขีดจำกัดทางสายเลือดแบบป้องกันการโจมตีงั้นเหรอ? ไม่น่าแปลกใจเลยที่ยังคงสบายใจได้ขนาดนี้” ซาโซริสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะจ้องมองไปที่ซาโตรุ
ขีดจำกัดทางสายเลือดของซาโตรุคืออะไรกัน?
สามารถป้องกันหุ่นเชิด และยังสามารถป้องกันทรายเหล็กได้อีกด้วย
เป็นไปได้ไหมว่าไม่มีการโจมตีใดที่สามารถทำร้ายซาโตรุได้เลย?
หากเป็นเช่นนี้ มันจะต้องมีปัญหาแน่นอน
“การป้องกันการโจมตีเหรอ นายเดาผิดแล้ว มันคืออนันต์ต่างหาก” ซาโตรุหายตัวไป และปรากฏตัวต่อหน้าซาโซริ
“มีระยะห่างระหว่างนายและฉันเป็นอนันต์” ซาโตรุชูสองนิ้วเปรียบเสมือนจักรวาลอยู่ที่ปลายนิ้ว
การโจมตีทางกายภาพและการโจมตีตามธรรมชาติไม่สามารถข้ามมิติเวลาได้
แต่แน่นอน
หากสามารถข้ามความเร็วแสงได้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
การจะสร้างอันตรายต่อเขา จำเป็นต้องใช้ภาพหลอนและความสามารถเชิงมิติ
หรือไม่ก็ต้องขจัดอากาศที่ต้องหายใจ
“เร็วมาก” ซาโซริขยับนิ้วเล็กน้อย เขากำลังจะควบคุมทรายเหล็กเพื่อป้องกันตัว
“ผิดแล้ว นี่มันทำให้ช่องว่างระหว่างนายและฉันสั้นลงต่างหาก” ซาโตรุยกมือขึ้นและสายฟ้าก็ปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของเขา พุ่งทะลุไปที่หน้าอกของซาโซริ
“เอาล่ะ จบซะที ฉันเบื่อที่จะดูละครตลกของนายแล้ว”
“แม้ว่านายจะพยายามอย่างกล้าหาญ แต่นายน่ะไม่มีคุณค่าในการสอนลูกศิษย์ของฉันหรอก”
กระแสไฟฟ้าสีน้ำเงินวิ่งผ่านมือของซาโตรุ พุ่งทะลวงเข้าไปในหัวใจของซาโซริ
"บู้ม..." หัวใจของซาโซริถูกสายฟ้าผ่าจนแตกละเอียด และเลือดสีแดงก็พุ่งออกมา เลือดทั้งหมดดูเหมือนจะหยุดนิ่งอยู่ตรงหน้าซาโตรุ