ตอนที่แล้วบทที่ 92 : ระเบิดคืองานศิลปะ ดื่มด่ำมันสิ!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 94 : ประตูด่านทั้งแปด ประตูที่เจ็ดถูกเปิดออก!

บทที่ 93 : ศิลปะไม่มีวันล้มเหลว!


บทที่ 93 : ศิลปะไม่มีวันล้มเหลว!

“ก่อนที่เรื่องจะยุ่งยากเกินไป ฉันจะเอาจริงแล้วนะ” ซาโซริที่สวมเสื้อคลุมเมฆสีแดง ผมสีแดงปลิวไสวตามสายลม ใบหน้าที่ไม่แสดงความรู้สึกได้มองไปที่กายและคนอื่นๆ

เสียงของเขาเต็มไปด้วยอารมณ์ แต่ใบหน้ากลับเหมือนหุ่นเชิดที่ไร้ซึ่งอารมณ์

เขารู้สึกได้ว่าหลังจากที่กายเปิดประตูด่านที่หกแล้วนั้นจะมีความแข็งแกร่งมากขึ้น ถ้าเขาไม่ลงมือจริงจัง การต่อสู้คงจะยืดเยื้อ

ซึ่งหากยื้อไปนาน ซาโตรุคงจะปรากฏตัวขึ้นมา

เขาค่อนข้างที่จะระวังเรื่องความแข็งแกร่งของซาโตรุพอสมควร เพราะซาโตรุเคยเอาชนะอิทาจิมาก่อน ทั้งยังจับคิซาเมะได้ตัวเป็นๆ อีกด้วย

“ท่านซาโซริ ไม่ว่าจะมองใบหน้าที่แท้จริงของท่านกี่ครั้ง ก็ยังตลกมากเลยนะ” เดอิดาระมองดูซาโซริด้านล่างด้วยความรู้สึกขบขัน เมื่อเขาเห็นใบหน้าของซาโซริ เขาก็ผงะเล็กน้อย ดวงตาของเขาฉายแววสงสัยขึ้นมา

ใบหน้าที่เขาได้เห็นก่อนหน้านี้เป็นคุณลุงไม่ใช่เหรอ?

ทำไมครั้งนี้ถึงกลายเป็นวัยรุ่นไปได้เล่า?

นี่คือศิลปะแห่งนิรันดร์ที่ว่างั้นเหรอ?

“เดอิดาระ อย่ามายุ่ง” ซาโซริหยิบม้วนหนังสือออกมา และเมื่อควันสีขาวลอยขึ้น หุ่นสองตัวก็ปรากฏขึ้นในอากาศ

"อา?" ใบหน้าของเดอิดาระเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาพูดด้วยความโกรธว่า "ท่านต่างหากที่ควรเลิกยุ่ง เพราะงานศิลปะของผมมันกำลังเริ่มต้นไงล่ะ"

ตอนนี้เขากำลังอารมณ์ดี ทว่าซาโซริกลับออกคำสั่งไล่เขางั้นเหรอ?

ตลกแล้ว

เขาน่ะต้องการแสดงงานศิลปะที่งดงามให้กับคนเหล่านี้ทั้งหมดได้เชยชม

"หุ่นเชิดคือศิลปะแห่งความนิรันดร์ การระเบิดมันก็เป็นแค่การระบายอารมณ์ออกมาเท่านั้น" ซาโซริขยับนิ้วของเขาเล็กน้อย หุ่นสองตัวที่มีรูปร่างเป็นชายและหญิงลอยอยู่บนท้องฟ้าตรงหน้าเขา

หุ่นเชิดทั้งสองตัวนี้คือพ่อและแม่ของซาโซริจากหมู่บ้านซึนะ

“หา? ถึงจะเป็นท่านที่กล่าวเช่นนี้ก็เถอะ แต่ผมจะโกรธแล้วนะ!” หน้าผากของเดอิดาระปรากฏขึ้นพร้อมกับตัวอักษร [底] และมีร่องรอยของความโกรธปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา

ต่อหน้าหน่วยสอดแนมและคนอื่นๆ ซาโซริและเดอิดาระกลับเริ่มโต้ตอบกันอย่างดุเดือด

คนหนึ่งคิดว่าความเป็นนิรันดร์ของหุ่นเชิดเป็นศิลปะที่สวยงามที่สุด

อีกคนหนึ่งก็คิดว่าช่วงเวลาแห่งการระเบิดเป็นศิลปะที่น่าตกตะลึงที่สุด

“พวกเขาสองคนนั้น...เกิดอะไรขึ้นกัน? พวกเขาไม่สนใจเราเลยเหรอ?” ฮิวงะ เนจิกุมหน้าท้องที่มีเลือดไหลออกมา หอบหายใจแรงๆและจ้องมองไปที่สมาชิกแสงอุษาทั้งสองที่อยู่ไกลๆ อย่างระมัดระวัง

ทีมหน่วยสอดแนมในตอนเรกเป็นศัตรูกับองค์กรแสงอุษา

แต่ตอนนี้แสงอุษาทั้งสองเริ่มทะเลาะกันงั้นเหรอ?

นี่เป็นโอกาสอันดีของพวกเขาแล้ว!

“ความสามารถของเดอิดาระนั้นแข็งแกร่งมาก ส่วนสมาชิกอีกคนของแสงอุษาก็ดูเหมือนจะเก่งมากในการบังคับหุ่นเชิด” คุเรไนมองดูพวกเขาอย่างระมัดระวัง

“คาคาชิ สมาชิกแสงอุษาที่ควบคุมหุ่นกระบอกนั้นให้กายจัดการ ส่วนเราจะจับเดอิดาระเอง”คุเรไนกล่าว

คาคาชิพยักหน้าเล็กน้อย แล้วพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก “งั้นก็มาเริ่มกันเลย”

เขารู้ว่าซาโซริและเดอิดาระเป็นสองนินจาที่แข็งแกร่งระดับคาเงะ ทว่าดูเหมือนพวกเขาจะไม่มีการทำงานเป็นทีมเลย

นี่เป็นจุดอ่อนที่ดีที่พวกเขาสามารถใช้ประโยชน์ได้

“ทะเลาะกันแรงเลย ทุกคนต่างมีความคิดเป็นของตัวเอง ใครๆ ก็อยากเอาชนะ นี่แหละวัยรุ่นตัวจริง” กาย ยกนิ้วโป้งขึ้น แสดงรอยยิ้มที่สดใส ฟันขาวของเขาเปล่งประกายแวววาวออกมา

“เมื่อมองดูสองคนนั้น ฉันก็นึกถึงสมัยวัยรุ่นตอนที่ฉันกำลังวิ่งเหยาะๆ ท่ามกลางพระอาทิตย์ตกดินกับคาคาชิและซาโตรุเลย” กายคิดเรื่องความหลังของเขาจนมีภาพปรากฏขึ้นในใจของเขา

ซึ่งมันเป็นเรื่องสมมติทั้งหมดเลย

“มาพิสูจน์กันหน่อยว่างานศิลปะของใครจะเจ๋งกว่ากัน” เดอิดาระล้วงเข้าไปในมือที่มีฟันของตน กัดดินเหนียวที่ทำให้เกิดการระเบิดจากฝ่ามือของเขา

คุเรไนและคนอื่นๆ ด้านล่างกำลังกระจายตัวกันออกไป

เขาเริ่มสังเกตเห็นแล้วว่าคาคาชิและคนอื่นๆ กำลังจะแยกออกเป็นสองกลุ่มเพื่อจับตัวเขาและเดอิดาระไว้

“ฝากสัตว์ร้ายสีน้ำเงินไว้ให้ฉันจัดการเอง” ซาโซริขยับนิ้วเล็กน้อย หุ่นทั้งสองก็จับใบมีดและฟันเข้าไปที่กายอย่างรวดเร็ว

ทั้งสองฝ่ายเริ่มต่อสู้กัน

ในเวลาเดียวกันนี้เอง

คาคาชิหายตัวไปทันทีและปรากฏตัวอยู่ด้านหลังเดอิดาระ

"ตัดสายฟ้า" คาคาชิใช้เนตรวงแหวนจ้องมองเดอิดาระที่อยู่ตรงหน้า และจักระสีฟ้าอ่อนก็โผล่ออกมาจากฝ่ามือของเขา

พลังธาตุได้ไหลเข้ามาในจักระ

นี่คือคาถาแข็งแกร่งที่สุดของเขาในยามนี้ และเขาเองก็เหลือจักระไม่มากนัก ดังนั้นเขาจึงวางแผนที่จะใช้กระบวนท่านี้เพื่อเอาชนะ

ทันใดนั้น

เดอิดาระก็กระโดดไปด้านข้าง หลบการโจมตีของตัดสายฟ้า และเขาก็มองไปที่เนตรวงแหวนของคาคาชิด้วยความโกรธเล็กน้อย

"เร็วมาก" คาคาชิขมวดคิ้วเล็กน้อย

“เนตรวงแหวนงั้นเหรอ?” ใบหน้าของเดอิดาระบิดเบี้ยวและเขาก็กัดฟันแน่น ภาพของอุจิวะ อิทาจิในอดีตได้ปรากฏขึ้นในใจของเขาในเวลาเพียงไม่กี่วินาที

ดวงตาคู่นั้น...ไอ้เนตรวงแหวนบัดซบนั้น!

“แกมาจากตระกูลอุจิวะเหรอ?” เดอิดาระพูดด้วยน้ำเสียงโกรธเคือง “ดวงตาคู่นี้ ไม่แปลกใจเลยที่แกจะมองผ่านงานศิลปะที่สมบูรณ์แบบของฉันได้”

“แต่ว่าไอ้นัยน์ตาคู่นั้นมันบดบังงานศิลปะของฉัน”

“ฉันทนไม่ไหวแล้ว!”

เดอิดาระเกลียดเนตรวงแหวนมาก เพราะครั้งหนึ่งเขาเคยพ่ายแพ้ให้กับเนตรวงแหวน

เขาเองถึงขั้นต้องเปลี่ยนตาซ้ายของเขาให้เป็นเครื่องจักรเพื่อต่อสู้กับเนตรวงแหวน จากนั้นเขาก็ฝึกฝนวิธีจัดการกับเนตรวงแหวนเป็นพิเศษ

เขาเกลียดเนตรวงแหวนมากจริงๆ เพราะมันขัดขวางงานศิลปะของเขา

“มาสิ ฉันจะทำให้แกตายด้วยงานศิลปะของฉันเอง!” ปากบนฝ่ามือของเดอิดาระได้เปิดออก แมงมุมดินเหนียวชิ้นใหญ่พุ่งออกมา

เมื่อเขากำลังจะประสานอินนั้นเอง

"พึ่บ" กลีบดอกซากุระสีชมพูอ่อนที่ร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า และมังกรดินเหนียวก็กลายเป็นดอกไม้สีชมพูขนาดใหญ่

ทุกคนหายไปในพริบตา มีเพียงเดอิดาระที่แข็งทื่อและยืนอยู่บนยอดดอกไม้ด้วยความงุนงง

"คาถาลวงตา · กลีบดอกไม้หลบหลีก" คุเรไนปรากฏตัวออกมาจากอากาศ ในมือมีดอกไม้ขนาดใหญ่

คาถาลวงตา · กลีบดอกไม้หลบหลีก เป็นคาถาที่แข็งแกร่งที่สุดของเธอในยามนี้แล้ว

"ให้ตายเถอะ! ฉันตกหลุมพลางกลอุบายอ่อนแอแบบนี้อีกแล้ว..." ดวงตากลของเดอิดาระหรี่ลง และมือของเขาก็ค่อยๆ ขยับได้อีกครั้ง

เพื่อที่จะเอาชนะเนตรวงแหวนของอุจิวะอิทาจิ เขาได้ฝึกฝนอย่างหนักเพื่อต่อต้านภาพลวงตา

คุเรไนตะโกนออกมา “คาคาชิ!”

คาคาชิอาศัยช่วงเวลานั้นไว้โดยไม่ลังเล เขากระโจนเข้าหาเดอิดาระโดยใช้ตัดสายฟ้า เป้าหมายคือตรงที่หัวใจ

"ฮึ่ม!" เดอิดาระประสานอินด้วยมือข้างเดียว จักระไหลเข้ามาตามเท้าของเขา เขาวางแผนที่จะระเบิดพาหนะที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขาทิ้งเสีย

มังกรยักษ์ตัวนี้มีพลังระดับ C2 และพลังของมันก็เพียงพอที่จะระเบิดภูเขาหินเล็กๆ หลายลูกได้ในคราวเดียว

แต่ทว่า..มังกรกลับไม่ระเบิด

“เป็นไปได้ยังไง? งานศิลปะของฉันไม่เคยล้มเหลวมาก่อน!” ใบหน้าของเดอิดาระเปลี่ยนไปเล็กน้อย จากนั้นเขาก็มองเห็นกระแสสีฟ้าอ่อนที่ไหลบนพื้นผิวร่างของมังกรอย่างคลุมเครือ

คาถาสายฟ้าเหรอ?

เพราะคาถาสายฟ้างั้นเหรอ!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด