บทที่ 91 : เดอิดาระและซาโซริ
บทที่ 91 : เดอิดาระและซาโซริ
“พี่ชาย...” ซาสึเกะทำสีหน้าเศร้า หวนนึกถึงความหลังเมื่อนานมาแล้ว ครั้งหนึ่งนั้นเขาก็เคยมีพี่ชายที่รักเขามากกว่าใคร
แต่...ในคืนการฆ่าล้างตระกูลคืนนั้น เขาสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง
พี่ชายที่เคยรักเขามากที่สุดกลายมาเป็นศัตรูที่เขาเกลียดที่สุด
ซาสึเกะกัดฟันแน่นด้วยความเกลียดชัง
พี่ชายงั้นเหรอ?
มันจะไปสำคัญอะไร
ก็เพียงแค่คนที่เคยเป็นครอบครัว
เขาชอบอาจารย์ซาโตรุมากกว่าครอบครัวจอมปลอมของเขาซะอีก
“กาอาระยังคงปกป้องหมู่บ้านของเราจนช่วงสุดท้าย นิสัยเขาเปลี่ยนไปมาก ได้โปรดช่วยเขาด้วยเถอะนะคะ” เทมาริโค้งตัวด้วยความจริงใจอย่างถึงที่สุด
มีเสียงสะอื้นปนในน้ำเสียงของเธอ
ตอนที่กาอาระต่อสู้กับเดอิดาระ เขาไม่ได้ใช้ทรายเพื่อป้องกันตัวเองเลย แต่เขาใช้จักระทั้งหมดเพื่อปกป้องหมู่บ้าน
กาอาระกำลังเปลี่ยนแปลงตัวเอง และเขาก็ต้องการให้คนอื่นเห็นด้วย
“ไม่จำเป็นต้องกังวลขนาดนั้นหรอก เพราะยังไงเธอก็เอาเงินมาให้ฉันแล้ว” ซาโตรุวางมือบนศีรษะเล็กๆ ของเทมาริแล้วพูดด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย “ถึงแม้จะเหลือแค่เศษหนัง ฉันก็จะเอามันกลับมาให้เอง”
“ตอนนี้เราได้ตกลงกันแล้ว งั้นก็ไปกันเถอะ”
ซาโตรุหยิบอมยิ้มออกมาแกะแล้วโยนไปในปาก เขาคว้าเด็กๆ สามคนในทีมที่เจ็ดขึ้นมาในขณะที่พวกเขากำลังเตรียมตัวกัน เพื่อที่จะได้ออกเดินทางสักที
"ฝากด้วยนะคะ" เทมาริไม่เข้าใจว่าซาโตรุแข็งแกร่งแค่ไหน แต่เพราะผู้บริหารระดับสูงของหมู่บ้านซึนะต่างพูดถึงแต่ความแข็งแกร่งของซาโตรุ
ถ้าอย่างนั้น ซาโตรุน่าจะเก่งมากใช่ไหมล่ะ?
เธอเองก็ได้ยินมาก่อนหน้านี้ว่าระหว่างการสอบจูนิน ซาโตรุได้แก้ปัญหานินจาทั้งหมดในหมู่บ้านด้วยตัวเอง
เมื่อเห็นซาโตรุ ซึนาเดะก็วางแผนที่จะเข้าร่วมกับทีมที่เจ็ดด้วยกันเพื่อทำภารกิจที่ยากมากนี้ ดังนั้นเขาจึงหยุดเขาและพูดว่า "ซาโตรุ แค่ทีมที่เจ็ดนั้น..."
สมาชิกสองคนในองค์กรของแสงอุษาต่างก็เป็นนินจาระดับคาเงะที่แข็งแกร่งที่สามารถบุกทะลวงหมู่บ้านซึนะแบบซึ่งๆ หน้าได้
ดังนั้นความยากของภารกิจนี้จึงถือเป็นระดับที่มากกว่า S
ด้วยความแข็งแกร่งของทีมที่เจ็ดในปัจจุบัน พวกเขาจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย
โดยเฉพาะอุซึมากิ นารูโตะ หรือเด็กร่างสถิตย์ของเก้าหาง
ถ้ามันตกอยู่ในมือขององค์กรแสงอุษา สิ่งที่ตามมาคงจะลำบากมาก
“ไม่เป็นไร ผมจัดการเอง” ซาโตรุยกมุมปากพร้อมรอยยิ้มเล็กน้อยบนใบหน้า และพูดด้วยท่าทีมั่นใจ "ถ้าอยู่กับผม เด็กแสบพวกนี้จะปลอดภัยแน่”
ที่ผ่านมายกเว้นซึนาเดะแล้วนั้น เขาไม่สนใจที่จะช่วยใครเลย แม้ว่าคนรอบข้างเขาจะเสียชีวิตอย่างน่าอนาถ แต่เขาก็แค่ยืนดูอยู่เสมอ
แต่..เจ้าเด็กแสบพวกนี้
ก็ไม่ได้น่ารำคาญเหมือนตอนแรกหรอกนะ
ความรู้สึกนี้มันเหมือนกับเป็นพ่อไหมนะ?
ตลกดีแฮะ
ซึนาเดะผงะเล็กน้อย เธอเติบโตมากับการที่เห็นว่าซาโตรุไม่สนใจอะไรเลยสักอย่าง
แต่ตอนนี้...
ซาโตรุของเธอเปลี่ยนไปมาก
ซึนาเดะยิ้มเบาๆ “ระวังตัวด้วยล่ะ”
“ไม่ต้องกังวล ไปล้างก้นแล้วรอผมกลับมาได้เลย” ทันทีที่สิ้นคำพูดซาโตรุก็หายตัวไปในอากาศพร้อมเด็กๆ ในทีมที่เจ็ด
รอยยิ้มของซึนาเดะค้าง มีสัญลักษณ์ [#] ขึ้นบนหน้าผากของเธอ เธอกำหมัดแน่นและกระแทกพื้นอย่างแรง
“ซาโตรุ!”
"บูม" รอยเเตกปรากฏขึ้นบนพื้น จากนั้นตึกโฮคาเงะทั้งหมดก็พังทลายลง
ล้างก้นให้สะอาดรอเหรอ?
มีใครแกล้งแม่บุญธรรมแบบนี้อีกไหม?
หนึ่งวันต่อมา.....
ณ อาเมะโนะคุนิ แคว้นแห่งฝน ภายในป่าอันกว้างใหญ่
ทีมลาดตระเวนพิเศษและคนอื่นๆ กำลังซ่อนตัวอยู่ในความมืดมิดของป่า พวกเขากำลังมองดูภูเขาลูกใหญ่ที่อยู่ไกลออกไปด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
นินจาสวมที่คาดหน้าผากได้ดมพื้นด้วยจมูกของเขา
ต่อมา
เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นและมองไปที่คาคาชิที่อยู่ข้างๆ เขาก็พูดออกมาโดยมีเสียงเหมือนชายชรา "คาคาชิ จากลมหายใจที่เหลืออยู่บนพื้น ดูเหมือนสมาชิกขององค์กรแสงอุษาจะอยู่บนภูเขาตรงหน้า "
คาคาชิพยักหน้าเล็กน้อยแล้วพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ขอบคุณสำหรับการทำงานหนัก ถ้าอย่างนั้นก็กลับไปก่อนเถอะ”
“จากกลิ่นที่เหลืออยู่มีจักระที่แข็งแกร่งด้วย ต้องระวังให้ดี” หลังจากที่พูดจบ เขาก็หายไปในควันสีขาว
ได้กลิ่นจากพื้นดิน ทั้งยังมีจักระที่หลงเหลืออยู่ในนั้น
ดูเหมือนสมาชิกองค์กรแสงอุษาจะมีจักระที่น่าสะพรึงกันมาก!
คาคาชิเมื่อเห็นเช่นนั้นจึงเรียกคนหนึ่งขึ้นมา "เนจิ"
เขาเป็นหัวหน้าทีมหน่วยสอดแนมพิเศษนี้
"ครับ" มือของฮิวงะ เนจิอยู่ในโคลน มีเส้นเลือดหลายเส้นปูดขึ้นบนขมับของเขา เขาใช้ความสามารถของเนตรสีขาวของเขาเพื่อดูสถานการณ์จากระยะไกล
สิ่งที่ดึงดูดสายตานั้นก็คือ...
มีชายสองคนสวมเสื้อคลุมสีดำมีลวดลายเมฆสีแดงปักอยู่ และดูเหมือนว่าพวกเขากำลังคุยอะไรบางอย่าง
กาอาระล้มลงกับพื้นโดยไม่มีจักระไหลในร่างกาย
เขาตายไปแล้ว!
ฮิวงะ เนจิพูดด้วยเสียงทุ้มลึก บอกทุกคนในสิ่งที่เขาเห็นทั้งหมด "มีคนสองคน และกาอาระจากหมู่บ้านซึนะ ไม่มีจักระไหลออกมา ดูเหมือนว่า...เขาตายแล้ว"
คุเรไนขมวดคิ้วเล็กน้อย กัดฟันแน่นแล้วพูดออกมาว่า "เรามาช้าเกินไปงั้นเหรอ?"
“สองคน? ถ้าอย่างนั้นพวกเขาก็คงจะเป็นสมาชิกขององค์กรของแสงอุษา” กายลุกขึ้น หยิบกระบองออกมาแล้วพูดด้วยรอยยิ้มอันเร่าร้อนว่า "ในเมื่อเราพบศัตรูแล้ว งั้นก็ไปสู้กันเลย!"
เขาไม่มีแผน การสู้ซึ่งๆ หน้านั่นแหละแผน
“อาจารย์กาย รอก่อนครับ” ผิวของฮิวงะ เนจิเปลี่ยนไปและเขาก็ยกมือขึ้นเพื่อหยุดกายด้วยแววตาตื่นตระหนก เขาจ้องมองไปอีกทางหนึ่ง "เดอิดาระและซาโซริอยู่บนภูเขาไกลๆ นั้น"
“จักระของทั้งสอง..น่าสะพรึงมาก!”
“พวกเขา... น่าจะแข็งแกร่งกว่าโฮคาเงะรุ่นที่ 3 เสียอีก”
เนจิมองดูเดอิดาระและซาโซริผ่านเนตรสีขาว เขาเห็นจักระที่ชั่วร้ายและมหาศาลมาก
ปริมาณจักระของคนสองคนนี้มากกว่าปริมาณจักระของโฮคาเงะรุ่นที่ 3 ซารุโทบิ ฮิรุเซ็นในช่วงที่เขามีชีวิตเสียอีก
ทันทีที่ประโยคนี้หลุดออกมา
ทุกคนต่างผงะเล็กน้อย
คนทั้งสองที่เป็นสมาชิกขององค์กรแสงอุษาอาจจะแข็งแกร่งกว่าโฮคาเงะรุ่นที่สามเหรอ?
สรุปแล้วคือสมาชิกทั้งสองขององค์กรแสงอุษาต่างก็มีความแข็งแกร่งที่เกินกว่าโฮคาเงะรุ่นที่ 3 เนี่ยนะ?
หากเป็นเช่นนี้ สถานการณ์ของพวกเขาคงจะลำบากมากแน่
คาคาชิบีบคางของเขา ดวงตาที่เหมือนกับปลาที่ตายแล้วของเขากำลังแสดงท่าทีครุ่นคิดบางอย่าง จากนั้นเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึกไปว่า "ก่อนอื่น ส่งสถานที่และข้อมูลไปให้ชิโนะก่อน"
“เราสังเกตการเคลื่อนไหวของศัตรูชั่วคราว แต่หากพวกมันวางแผนที่จะหนีออกไป เราคงจะต้องรั้งพวกมันไว้”
เพราะสมาชิกขององค์กรแสงอุษาน่าจะแข็งแกร่งกว่าโฮคาเงะ การกระทำที่หุนหันพลันแล่นอาจจะทำให้พวกเขาเสียชีวิตได้
ก่อนหน้านี้เขาเคยสูญเสียเพื่อนที่สำคัญที่สุดไปสองคนเพราะกระทำที่หุนหันพลันแล่น
กายจึงถามด้วยความสงสัยว่า "แล้วกาอาระล่ะ?"
คาคาชิยิ้มแล้วตอบว่า "กาอาระตายแล้ว ถึงเราจะบุกเข้าไปก็ไม่มีทางที่จะเปลี่ยนแปลงความจริงนี้ได้ และนายคือเพื่อนคนสำคัญของฉันนะ"
กาอาระคือภารกิจ ส่วนกายก็เป็นเพื่อนที่สำคัญที่สุดของเขาในตอนนี้
"สมกับเป็นพลังมิตรภาพแห่งวัยรุ่นของเรา!" กายยกนิ้วโป้งขึ้น เผยรอยยิ้มที่สดใส ฟันขาวของเขาได้เปล่งประกายสะท้อนแสงออกมา
"เราถูกพบแล้ว" หัวใจของเนจิสั่นไหว ด้วยเนตรสีขาวของเขา เขาก็รู้เลยว่าตัวเขากับซาโซริกำลังสบตากัน
ศัตรูสามารถรับรู้ถึงเนตรสีขาวของเขาได้
น่าหวาดกลัวยิ่ง!
“ฉันได้ยินมาว่าเก้าหางเองก็กำลังไล่ตามเราอยู่ใช่ไหม?” ทันใดนั้นเสียงหนึ่งจู่ๆ ก็ดังขึ้นมาจากท้องฟ้า