บทที่ 75 : โรมิโอและจูเลียต (2)
บทที่ 75 : โรมิโอและจูเลียต (2)
กุ้บ กับ──
กุ้บ กับ──
ภายในรถม้าของพวกเราตกอยู่ในความเงียบ มีเพียงทีมของเราเท่านั้นที่อยู่ข้างใน
ก็วันนี้เป็นวันอังคารอ่ะนะ
มันแปลกที่มีคนอยู่หลัง 2 ทุ่มในวันธรรมดา
ืี่นี่ไม่ใช่เกาหลีแต่อย่างใด
ฉันหมดสภาพหลังจากใช้ทะลุขีดจำกัดเป็นเวลากว่า 10 วินาที
ฉันขยี้ตาที่เหนื่อยล้า ดิ้นรนต่อสู้กับการนอนหลับขณะที่ขีดเขียนข้อมูลที่จำเป็นสำหรับร็อก
มีข้อมูลเพียงพอที่จะไม่เป็นปัญหาแม้ว่าเขาจะรู้ก็ตาม
หากพูดถึงเรื่องนี้ เรามีการบรรยายในวันพรุ่งนี้ แต่เราผลักดันตัวเองอย่างหนัก
อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากการได้กริชคู่หนึ่งชื่อ 'โรมิโอและจูเลียต' แล้วมันยังมีการเก็บเกี่ยวครั้งใหญ่อีกครั้ง
เมล่อนเปิดเผยทุกอย่างแล้ว
ลูกน้องของเธออยู่เบื้องหลังการประเมินผลในทางปฏิบัติ 'การสำรวจซากโบราณสถาน' โดยมือขวาของเธอมีบทบาทสำคัญในการตั้งค่าที่แห่งนั้น
ฉันยังคงเขียนข้อมูลต่อไป
เมื่อร็อกเห็นสิ่งนี้ เขาจะจัดการกับกลุ่มของเมล่อนที่เหลือ
"สิ่งที่สำคัญที่สุด อย่างที่คาดไว้ คือ..."
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเจรจาต่อรองเพื่อเปลี่ยนสถานที่ประเมินผลไปยังที่ที่อยู่ใกล้กับชิ้นส่วนสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่ซ่อนอยู่
มันเป็นการเดินทางที่ยาวนานแม้จะใช้รถม้า ใช้เวลาไปสองวันหนึ่งคืน
มันจะไม่ง่าย แต่มันก็จำเป็น
“ฮู่วว”
ฉันถอนหายใจอย่างโล่งอกขณะที่เขียนรายงานให้ชายหัวล้านเสร็จ
ความตึงเครียดในร่างกายของฉันเริ่มหายไป
ฉันหมดแรงแล้ว
'แน่นอน หากเป็นในอดีต ฉันคงจะล้มลงไปแล้ว'
ด้วยสเตตัสพลังกายของฉันเพิ่มขึ้น 1 หน่วย ฉันจึงสามารถมาอดทนได้จนถึงตอนนี้
แต่ฉันรู้ว่าตัวเองน่าจะมีอาการปวดกล้ามเนื้อในวันพรุ่งนี้
ยาฟื้นฟูพลังกายสักขวดคงจะดีไม่น้อย
'ฉันต้องไปเอาสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ตัวนั้นมาให้ได้ในไม่ช้า'
สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ไม่เพียงแต่ล่าวิญญาณเท่านั้นแต่ยังช่วยฟื้นฟูพลังกายอีกด้วย
เมื่อฉันมีกำลังพลังกายประมาณ 10 หน่วยและได้สัตว์ศักดิ์สิทธิ์มาเป็นคู่หู ฉันควรจะสามารถสลัดความเหนื่อยล้าระดับนี้ออกไปได้ด้วยการนอนหลับเพียงวันเดียว
"······."
อย่างไรก็ตาม ฉันรู้สึกง่วงนอนมาก
แค่...ให้ฉันพักสายตาสักนิด
"อิอิ ธีโอ นายน่ารักจัง"
เซียน่าลูบไล้เส้นผมที่เงางามของธีโออย่างอ่อนโยน
เขาเผลอหลับไป ศีรษะของเขาวางอยู่บนไหล่ของเธอ โดยที่เขาไม่รู้ตัว
ฟี้้ ฟี้ —
เสียงลมหายใจที่มั่นคงของเขาดังเต็มหูของเธอ
ด้วยรอยยิ้มกว้างบนใบหน้าของเธอ เซียน่าเงยหน้าขึ้นอย่างระมัดระวังและวางหัวของธีโอไว้บนตักของเธอ
อ่า การรหนุนตักกันเป็นส่วนสำคัญของการเป็นคู่รักที่แท้จริง!
"อิอิ~"
เธอรู้สึกเหมือนได้กลายเป็น 'ลีริ' นางเอกและผู้ช่วยเหลืออันล้ำค่าใน 'บันทึกเหตุการณ์ของรอสดอส' ผู้นำทางตัวเอก 'รอสดอส' ให้กลายเป็นฮีโร่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในทวีป
"ธีโอไม่เก่งในการแสดงออกทางอารมณ์จริงๆน้า~"
เซียน่าจิ้มแก้มขาวของธีโออย่างสนุกสนาน
แม้จะมีการต่อต้านเล็กๆน้อยๆเป็นครั้งคราว แต่เธอก็รู้สึกพึงพอใจเมื่อรู้ว่าเขาพึ่งพาเธอเมื่อเขาเหนื่อย
ตอนนี้เขา คนที่ไม่ค่อยแสดงความอ่อนแอกำลังหลับไปพร้อมกับศีรษะของเขาบนตักของเธอ
เขามอบร่างกายที่ไร้ทางสู้ให้กับเธอ
เช่นเดียวกับ 'รอสดอส' เห็นได้ชัดว่าธีโอพึ่งพาเธอและเชื่อใจเธอ
"คุณเซียน่า ขอพื้นที่ให้เขาหน่อยเจ้าค่ะ"
"ฉันไม่ต้องการอย่างนั้น และเธอหมายถึงอะไรโดย 'ให้พื้นที่เขาหน่อย' ? ธีโอนอนลงมาด้วยตัวเขาเอง ใช่ไหม?”
“นายน้อยเพียงแค่เอนตัวลงบนไหล่ของคุณ คุณเซียน่า และคุณเป็นคนบังคับเขาให้นอนลงบนตัก ไม่ใช่เหรอเจ้าคะ?”
“อ่า~ ไม่เขาอาจจะไม่ได้พูด แต่ฉันคิดว่าใจจริงธีโอต้องการสิ่งนี้ ฟังนะ เขาหลับอย่างสงบอยู่ เธอจะไม่เรียกสิ่งนี้ว่าถูกบังคับ ใช่ไหม?”
“ดิฉันอยู่กับนายน้อยมาหลายปีแล้ว และดิฉันบอกคุณได้เลยว่า เขาดูไม่ค่อยสบายตัวเท่าไหร่ ดิฉันเคยอยู่ที่นั่นตอนที่เขาไม่สบาย ดิฉันจะรู้อยู่เสมอ”
เอมี่เอื้อมมือไปหาธีโอ แต่เซียน่าก็ปัดมือเธอออกไป
“ไม่ ฉันบอกเธอแล้วว่ามันไม่ใช่อย่างนั้น~? และไม่สำคัญว่าเธอรู้จักเขามานานแค่ไหน ฉันบอกได้เลย ดูหน้าเขาสิ เขากำลังมีความฝันที่น่ารื่นรมย์อย่างแน่นอน”
"คุณเชื่ออย่างนั้นจริงๆเหรอ?"
“อิอิ แน่นอน เราจะถามธีโอเมื่อเขาตื่นดีไหม?”
"ก็ได้ แต่ตอนนี้ดิฉันจะดูแลเขาต่อเอง มันเป็นหน้าที่ของดิฉันในฐานะคนรับใช้ของนายน้อย”
เอมี่เอื้อมมือไปหาธีโออีกครั้ง
อีกครั้งที่เซียน่าปัดมือเอมี่ออกไป
“ไม่ ฉันบอกเธอแล้วว่าไม่เป็นไร~ ทำไมเธอพูดไม่รู้เรื่องแบบนี้? เธอมักจะรับรู้เรื่องต่างๆได้ง่ายมาก ทำไมเธอถึงไม่เข้าใจในครั้งนี้? ...อ่า”
ขณะที่เซียน่าและเอมี่ทะเลาะกัน ธีโอก็ตื่นขึ้นมา
ฉันรู้สึกถึงสัมผัสที่นุ่มนวลบนหัวของฉัน
มันให้ความรู้สึกเหมือนหมอนของฉัน
• ·····แปลกมาก
ไม่ว่าอย่างไร มันก็ถึงเวลาที่จะตื่นขึ้นมาแล้ว
ฉันลืมตาขึ้นช้าๆ
แต่─
'เอ่อ... ฉันมองไม่เห็นเพดาน'
แทนที่จะเป็นเพดาน วิวของฉันเต็มไปด้วยเนินดินสองแห่ง
เนินดินขนาดใหญ่สองแห่งปิดกั้นการมองเห็นของฉัน
"······."
ความเย็นยะเยือกไหลลงมาจากกระดูกสันหลังของฉัน ราวกับมีดแทงเข้าที่หน้าอกของฉัน
ความง่วงนอนถูกแทนที่ด้วยความตื่นตัวในทันที
โชคดีที่การตอบสนองของฉันรวดเร็ว
ฉันเสริมพลัง [ศักดิ์ศรีของขุนนางผู้บิดเบี้ยว] ทันทีโดยใช้ [ออร์บเสริมพลัง]
“ธีโอ นายหลับสบายดีไหม?”
ใบหน้าของเซียน่าปรากฏขึ้น
ดังนั้นหมอนนุ่มจึงเป็นต้นขาของเซียนา
"โอ้"
ฉันรู้สึกประหลาดใจ
สัญชาตญาณของฉันถูกต้องแล้ว
[ศักดิ์ศรีของขุนนางผู้บิดเบี้ยว] จงเจริญ!
"... ขอโทษด้วยนะ เซียน่า" ฉันบ่นพึมพำ พลางลุกขึ้นนั่งและมองไปรอบๆรถม้า
เซียน่าและเอมี่จ้องมองมาที่ฉัน สายตาของพวกเขาตรงข้ามกับอย่างสิ้นเชิง
ดวงตาของเซียน่าเป็นประกายพร้อมกับมีเสียงหัวเราะ ในขณะที่เอมี่เย็นชาและโดดเดี่ยว
“ฮิฮิ ฉันทำแบบนี้ได้ทุกวันดลยนะ” เซียน่าแกล้งแหย่ฉัน
“หลับสบายดีไหมเจ้าคะ นายน้อย?” เอมี่ถาม น้ำเสียงของเธอไร้อารมณ์
ฉันรู้สึกอยากหนีไป
คนอื่นๆก็กำลังดูอยู่เช่นกัน
จางวูฮีมีสีหน้าประหลาดใจ และน็อคตาร์ก็ยิ้มอย่างชั่วร้ายในขณะที่กัดฟันของเขาอยู่
"······ถ้านายมีอะไรจะพูด ก็พูดเลย"
“ไม่ ฉันแค่แปลกใจเฉยๆ”
น็อคตาร์หัวเราะคิกคัก
“นายเป็นนักรบที่แท้จริง ธีโอ เช่นเดียวกับฉัน นายดึงดูดพวกผู้หญิง มันดูเหมือนว่านักรบที่แท้จริงจะคล้ายกันนะ ธีโอ นายเป็นเพื่อนที่ดีของฉันจริงๆ”
น็อคตาร์หัวเราะและยกนิ้วโป้งให้ฉัน
"······."
เวรเอ๊ย
การรับมือกับจางวูฮีเป็นเรื่องหนึ่ง แต่น็อคตาร์...
ไอ้ออร์คเวรนั่นมีความสุขในการยั่วยุฉันอย่างแน่นอน
เมื่อก้าวออกจากรถม้า ฉันก็ตรงไปที่ห้องพักของศาสตราจารย์ร็อก
แม้จะเป็นเวลาดึก แต่ฉันก็รู้ว่าชายโสดที่บ้างานหัวล้านและแก่ชราจะยังคงยุ่งอยู่
"หืมมม"
ฉันเหลือบมองสมาชิกในทีมที่กำลังติดตามฉันอยู่
“พวกนายทั้งหมดสามารถกลับไปได้แล้วนะ ฉันต้องคุยกับศาสตราจารย์ตามลำพัง ทุกคน วันนี้พวกนายทำได้ดีมาก พวกนายคงเหนื่อยกันแล้ว ดังนั้นพักผ่อนสักหน่อยเถอะ”
"โอเค เข้าใจแล้ว มันเป็นเรื่องสนุกที่ไม่ได้เกิดมาพักใหญ่แล้ว"
“ฮิฮิ ทางนี้ก็เหมือนกัน เจอกันพรุ่งนี้นะ ธีโอ วันนี้สนุกมาก”
น็อคตาร์และเซียน่าพยักหน้า และเดินออกไป
อย่างไรก็ตาม เอมี่และจางวูฮีไม่ขยับเขยื้อน
“เอมี่ เธอควรไปได้แล้ว มันอาจใช้เวลาสักพัก”
"ไม่เจ้าค่ะ นายน้อย มันเป็นหน้าที่ของฉันที่จะอยู่ ดิฉันจะรอ" เธอพูดอย่างหนักแน่น
ฉันขอบคุณเธอและขอให้เธอซื้อยาฟื้นฟูพลังกายจากร้านเล่นแร่แปรธาตุ
เธอจากไป ปล่อยให้จางวูฮีกับฉันอยู่กันตามลำพัง
“เธอก็ควรไปเหมือนกัน จางวูฮี”
"นายเห็นอะไรเหรอ?" เธอถาม สายตาเธอจับจ้องมาที่ฉัน
ฉันรู้ว่าเธอต้องการอะไร
“เธอกำลังมองหาเพื่อนสมัยเด็ก ใช่ไหม?”
"...ใช่" เธอตอบ สีหน้าว่างเปล่าตามปกติของเธอแสดงให้เห็นถึงอารมณ์มากมาย ส่วนใหญ่จะเป็นโหยหาและความเศร้า
“ฉันยังไม่แน่ใจ อาจเป็นเพราะมันลึกและรุนแรงเกินไป ฉันจะบอกเธอเมื่อฉันพบอะไรบางอย่าง”
ฉันให้ความมั่นใจกับเธอและยื่นมือออกไป
"ฉันหวังว่าจะได้ร่วมงานกับเธอ" ผมกล่าว
“เช่นเดียวกัน ธีโอ” จางวูฮีตอ บมือเล็กของเธอทับซ้อนกับมือของฉัน
“เธอต้องเหนื่อยแน่ๆ กลับไปก่อนเลย ฉันจะไปคุยกับศาสตราจารย์”
หลังจากการสนทนาของเรา จางวูฮีเดินกลับไปที่หอพักของแผนกฮีโร่ เธอเดินช้ากว่าปกติ
'ตอนนี้ฉันหาฮโยยอนเจอแล้ว'
เพื่อนคนเดียวของเธอที่หายตัวไปอย่างลึกลับ
ประกายแห่งความหวังถูกจุดประกายภายในตัวเธอความหวังในการค้นหาอู ฮโยยอน
เธอได้พบผู้พยากรณ์ที่แท้จริง ไม่ใช่บุคคลที่น่าสงสัย แต่เป็นบุคคลที่แท้จริง
อย่างไรก็ตาม มีคำถามแทะเธอ
'ทำไมคนอื่นถึงติดตามธีโออย่างทุ่มเท?'
มันดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้เปิดเผยตัวตนของเขากับพวกเขา
'เขาใจดีกว่าที่ฉันคิดไว้ในตอนแรก'
และเขาก็เปล่งเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใครซึ่งดึงดูดผู้คนเข้ามา
จางวูฮีจมไปในความคิด และลูบเบาๆที่ 'ดอกไม้จันทร์' สิ่งประดิษฐ์ที่เขาให้เธอคืนมา