บทที่ 294 : ความลับของหยวนปิงเหม่ย!
บทที่ 294 : ความลับของหยวนปิงเหม่ย!
ในวันที่สองหลังจากเป็นผู้บริหารหลักคนที่สี่ของกลุ่มพันธมิตรมนุษย์
ชูโจวก็ได้รับของขวัญจากกลุ่มพันธมิตรมนุษย์เป็นเครื่องบินรบอัจฉรินะระดับบรรพกาลสีแดงเข้ม
ในความเป็นจริง, ตั้งแต่ได้รับศาสตร์ลึกลับตัดมิติมา….. ชูโจวก็ไม่ได้สนใจเครื่องบินรบอัจฉริยะอีกต่อไป
เเต่อย่างไรก็ตาม, เขาก็ยังต้องรับของขวัญนี้ไว้
จากนั้น, เขาก็ได้มอบเครื่องบินรบอัจฉรินะระดับเฉียนคุนคันเดิมของเขาให้กับตงฟางหมิงจู
…….
“นี่คือเครื่องบินรบอัจฉรินะระดับเฉียนคุนที่มีเเต่เทพนักรบที่มีสิทธิ์สั่งซื้อใช่ไหม?”
บนพื้นถนนของโรงยิมศิลปะการต่อสู้โทมาฮอว์ก…..ตงฟางหมิงจูมองไปที่เครื่องบินรบอัจฉริยะตรงหน้าเธออย่างตื่นเต้นและจูบชูโจวอย่างลึกซึ้ง
ความจริงเธอไม่ได้ยึดติดกับเครื่องบินรบอัจฉริยะมากนัก
ด้วยสถานะปัจจุบันและทรัพยากรทางการเงินที่เธอควบคุมอยู่…..เธอสามารถซื้อเครื่องบินรบอัจฉรินะลำนี้ได้ด้วยตัวเองอยู่เเล้ว
อย่างไรก็ตาม…..นี่คือของขวัญจากชูโจว
ดังนั้น, เธอจึงให้ความสำคัญกับมันมากเป็นพิเศษ
“ชูโจว, ด้วยอุปกรณ์และเทคโนโลยีจากองค์กรจันทร์เดือนดับที่คุณมอบให้ฉัน”
"หอการค้าใบมีดของเราจะกลายเป็นหอการค้าอันดับหนึ่งของมนุษยชาติในเร็วๆนี้อย่างแน่นอน”
"เเต่น่าเสียดายที่คุณกลายเป็นผู้ทรงพลังที่สุดไปแล้ว…แม้ว่าหอการค้าใบมีดจะกลายเป็นหอการค้าอันดับหนึ่ง, ฉันคิดว่ามันก็คงจะไม่สามารถช่วยเหลืออะไรคุณได้มากนัก"
ดวงตาของตงฟางหมิงจูจ้องมองไปที่ชูโจวด้วยความรักใคร่
เธอหลงรักผู้ชายคนนี้จริงๆ
เเละเธออยากจะช่วยเขาในบางเรื่องบ้าง
เเต่มันน่าเสียดายที่พรสวรรค์ของผู้ชายคนนี้น่ากลัวมากเกินไป
สิ่งนี้จึงทำให้เธอช่วยอะไรเขาไม่ได้มากนัก
เเต่แน่นอนว่าเธอยังมีความสุขและภูมิใจกับความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของผู้ชายของเธอ
เธอแค่เสียใจที่เธอช่วยเขาไม่ได้ก็เท่านั้นเอง
…..
ชูโจวรับรู้ได้ถึงความรักของตงฟางหมิงจู
เขาเปิดแขนของเขาและโอบกอดอีกฝ่ายอย่างอ่อนโยนไว้ในอ้อมแขนของเขาและกระซิบข้างหูของเธอ
“คุณหมิงจู, ทุกสิ่งที่คุณทำเพื่อฉันนั้นมันเพียงพอแล้ว”
“เเละคุณเองก็ต้องใช้เวลามากขึ้นในการฝึกฝน……สำหรับหอการค้าใบมีด, ควรให้มืออาชีพมาจัดการมันส่วนเราก็เเค่เฝ้าดู”
“เเต่แน่นอนว่าถ้าหมิงจูชอบอาชีพนี้, คุณก็สามารถทำต่อไปได้”
"อีกอย่าง, โลกอาจไม่ใช่เป้าหมายสุดท้ายของเรา"
"บางทีในอนาคต, เราอาจจะสามารถเปิดหอการค้าใบมีดไปทั่วทั้งจักรวาลก็ได้"
เมื่อได้ฟังเสียงกระซิบในหู, หัวใจของตงฟางหมิงจูก็หวานราวกับน้ำผึ้ง….จากนั้นเธอก็กอดร่างของชูโจวไว้แน่นและพูดเบาๆ
“ชูโจว…..เรากลับบ้านกันเถอะ”
เมื่อได้ฟังเสียงขี้อายและกระตือรือร้นของตงฟางหมิงจู, ชูโจวก็อุ้มร่างของเธอขึ้นมาและหายตัวไปทันที
……
แสงแดดส่องเข้ามาจากหน้าต่างบ้านของชูโจวจนมองเห็นร่างสองร่างที่ซ้อนกันอยู่ข้างใน
นอกหน้าต่างมีลมแรงและฝนตกปรอยๆ
ผ่านไปสักพักลมและฝนก็หยุดลง
ชูโจวเดินออกจากห้องนอนด้วยอารมณ์เบิกบาน
เขานั่งอยู่หน้าโต๊ะคอมพิวเตอร์และเปิดคอมพิวเตอร์ขึ้นทันที
ด้วยความคิด, เขาได้นำสำเนาความรู้และเทคโนโลยีทั้งหมดที่ปล้นมาจากดาวเคราะห์ทั้งเจ็ดมาถ่ายโอนไปยังคอมพิวเตอร์ของเขา
จากนั้นเขาก็โอนถ่ายความรู้และเทคโนโลยีนี้ไปยังสำนักงานใหญ่ของกลุ่มพันธมิตรมนุษย์โดยตรง
ในไม่ช้า, สำนักงานใหญ่ของกลุ่มพันธมิตรมนุษย์ก็โทรมาหาเขา
“ถึงผู้บริหารหลักคนที่สี่, ฉันชื่อหวังเล่ย”
"ฉันเป็นบุคคลที่รับผิดชอบแผนกวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของสำนักงานใหญ่, เเละเราเพิ่งได้รับสำเนาความรู้กับเทคโนโลยีขั้นสูงอันล้ำค่าจำนวนมหาศาล"
"เป็นผู้บริหารหลักคนที่สี่หรือไม่….ที่ส่งข้อมูลเหล่านี้มาให้พวกเรา?” เสียงจากปลายสายดูตื่นเต้นมาก
“ถูกต้องแล้ว….เป็นฉันเองที่ส่งไป”
"ฉันได้รับสิ่งต่างๆเหล่านี้มาจากเมืองฐานที่ก่อตั้งโดยองค์กรจันทร์เดือนดับบนดาวอังคารและดาวเคราะห์อีกเจ็ดดวง, ตอนนี้ฉันจึงส่งให้คุณเพื่อดูว่ามันมีประโยชน์หรือไม่” ชูโจวตอบอย่างใจเย็น
“มีประโยชน์…..มันมีประโยชน์มาก”
"ถ้าพวกผมสามารถแยกแยะความรู้และเทคโนโลยีเหล่านี้ได้"
"อย่างน้อยมันก็จะช่วยให้เราพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของกลุ่มพันธมิตรมนุษย์ให้ไปข้างหน้าได้เกือบสามร้อยปี"
"พวกเราต้องขอบคุณผู้บริหารหลักที่สี่อย่างมาก” หวังเล่ยกล่าวขอบคุณอย่างตื่นเต้น
"ถ้าอย่างนั้นก็ต้องขอให้คุณทำงานหนักหน่อยเเล้ว" หลังจากพูดจบ, ชูโจวก็ยุติการติดต่อกับหวังเล่ย
……
“จุ๊จุ๊, ความรู้และเทคโนโลยีเหล่านี้ล้วนจากเมืองฐานดาวเคราะห์ทั้งเจ็ดขององค์กรจันทร์เดือนดับ”
"ผู้บริหารหลักคนที่สี่เป็นคนที่แสดงปาฏิหาริย์ได้อย่างง่ายดายจริงๆ ”
ในสำนักงานใหญ่ของกลุ่มพันธมิตรมนุษย์
หวังเล่ยและนักวิทยาศาสตร์หลายคนกำลังดูสำเนาที่บันทึกความรู้กับเทคโนโลยีขั้นสูงทุกประเภท……และพวกเขาต่างล้วนรู้สึกตื่นเต้นอย่างถึงที่สุด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาเห็นว่ามีเทคโนโลยีการผลิต "เรือรบพิฆาตดวงดาว" อยู่บนนั้น, พวกเขาทั้งหมดก็ตื่นเต้นจนลืมหายใจกันเลยทีเดียว
“ฟังนะทุกคน, พวกคุณควรรู้ว่าองค์กรจันทร์เดือนดับนั้นทรงพลังมากแค่ไหน”
"ดังนั้นเมืองฐานที่พวกเขาสร้างขึ้นบนดาวเคราะห์ทั้งเจ็ดนั้นจะต้องเป็นสถานที่ที่อันตรายอย่างยิ่ง”
"ผู้บริหารหลักคนที่สี่ของเราได้เสี่ยงไปบุกรุกบนดาวเคราะห์ทั้งเจ็ดเเละได้นำความรู้และเทคโนโลยีอันล้ำค่าเหล่านี้มามอบให้กลุ่มพันธมิตรมนุษย์ของเรา"
"ดังนั้น, เราจะต้องไม่ทำให้ความพยายามอันอุตสาหะของผู้บริหารหลักคนที่สี่ต้องสูญเปล่า"
หวังเล่ยกล่าวพร้อมมองไปที่นักวิทยาศาสตร์หลายคนด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม
ส่วนนักวิทยาศาสตร์ทุกคนก็พยักหน้ารับอย่างจริงจัง
หลังจากนี้, พวกเขาจะต้องพยายามทำงานอย่างหนักเพื่อย่อยความรู้และเทคโนโลยีอันล้ำค่าเหล่านี้
และงานของพวกเขาจะต้องคู่ควรกับความพยายามของผู้บริหารหลักคนที่สี่
……..
หลังจากส่งมอบความรู้และเทคโนโลยีที่ได้รับจากดาวเคราะห์ทั้งเจ็ดให้กับกลุ่มพันธมิตรมนุษย์แล้ว
ชูโจวก็รู้สึกสบายตัวขึ้นมาก
เทคโนโลยีความรู้เหล่านี้จะสามารถแสดงคุณค่าได้สูงสุดก็ต่อเมื่อให้พวกมันไปอยู่ในมือของกลุ่มพันธมิตรมนุษย์เท่านั้น
จากนั้นชูโจวก็ปิดคอมพิวเตอร์ของเขา……เดินไปนั่งที่โซฟาแล้วคิดถึงแผนการฝึกฝนครั้งต่อไป
เขามองไปที่แผงคุณสมบัติ
【คะเเนนคุณสมบัติ: 2.73 พันล้าน】
คะแนนคุณสมบัติที่เขามีนั้น, มันยังไม่เพียงพอ….ไม่ว่าจะใช้เพื่ออัพเกรดศาสตร์ลึกลับหรือเพื่ออัพเกรดสายเลือดจันทร์เดือนดับ
เเละในตอนนี้, ไม่ว่าจะเป็นองค์กรใหญ่ทั้งสามหรือมอนสเตอร์คงจะระวังตัวเขาอย่างมาก
อีกอย่างหนึ่ง, ในฐานะผู้บริหารหลักคนที่สี่ของกลุ่มพันธมิตรมนุษย์
ถ้าเขายังใช้วิธีเดิมในการเก็บคะแนนคุณสมบัติ…..มันก็จะเทียบเท่ากับการประกาศสงครามของเผ่าพันธุ์มนุษย์กับฝ่ายมอนสเตอร์และสามองค์กรใหญ่
เเละเห็นได้ชัดว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่ดีที่สุดสำหรับกลุ่มพันธมิตรมนุษย์ในการประกาศสงคราม
“ดูเหมือนว่าในเวลานี้, มันจะเป็นไปไม่ได้ที่จะปรับปรุงศาสตร์ลึกลับหรือสายเลือดจันทร์เดือนดับ”
"หากเป็นกรณีนี้, มันคงจะดีกว่าถ้าทำความเข้าใจศาสตร์ลึกลับเพิ่มอีกสักสองสามข้อ”
เมื่อคิดได้เช่นนี้, ชูโจวจึงหยิบ "หนังสือศาสตร์ลึกลับ" ที่อยู่ในกพื้นที่ช่องว่างในร่างกายของเขาออกมา
ใน "หนังสือศาสตร์ลึกลับ" นั้นมีศาสตร์ลึกลับถึงสามสิบหกรูปแบบที่บันทึกไว้
เเละเขาได้เข้าใจศาสตร์ลึกลับในหนังสือศาสตร์ลึกลับไปเเล้วหกรูปแบบ…..ดังนั้นมันจึงมีศาสตร์ลึกลับอีกสามสิบรูปแบบที่สามารถให้เขาทำความเข้าใจได้
เเต่เมื่อเขากำลังจะเลือกศาสตร์ลึกลับประเภทใดประเภทหนึ่ง, นาฬิกาสื่อสารของเขาก็ดังขึ้นเสียก่อน
เขามองลงไปและพบว่ามันเป็นข้อความของหยวนปิงเม่ย
“คุณชายน้อย, ฉันคิดถึงคุณ…..มาเจอกันที่เก่านะ”
ชูโจวเลิกคิ้วและรู้ว่ามันคือที่ไหนเกือบจะในทันที
จากนั้น, เขาก็ฝากข้อความถึงตงฟางหมิงจูที่หลับใหลเเละออกจากบ้านพักไปทันที
…….
บริเวณพื้นที่รกร้างว่างเปล่า
ณ ทะเลสาบอันสวยงาม
ชูโจวและหยวนปิงเม่ยเคยใช้เวลานอนหลับฝันดีด้วยกันที่นี่
เเละในขณะนี้, ชูโจวก็ได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง
ในเวลานี้หยวนปิงเหม่ยเพิ่งอาบน้ำเสร็จ….และเธอก็ได้เอนกายลงบนก้อนหินเรียบๆ
ผมสีดำราวกับน้ำตกของเธอห้อยลงมาตามพื้นผิวหิน, และด้วยผ้ากอซสีดำบางๆมันจึงทำให้ร่างกายอันงดงามเหมือนหยก, ภูเขาลูกคลื่น, และดวงตาของเธอที่เผยให้เห็นร่องรอยของความเกียจคร้านเเละอารมณ์ที่มืดมน
นี่เป็นฉากที่มีเสน่ห์อย่างมากและเพียงพอที่จะทำให้ใครก็ตามคลั่งไคล้
เมื่อเห็นชูโจวกำลังมา, สาวสวยที่นอนอยู่บนก้อนหินเรียบๆก็หันมาพูดกับเขาทันที
"คุณชายน้อย, ทำไมไม่เข้ามาล่ะ?"
เมื่อได้ยินเช่นนี้, เปลวไฟในหัวใจของชูโจวก็ถูกจุดขึ้นมาโดยตรง…..และเขาก็พุ่งไปข้างหน้า
ช่วงเวลาต่อมา, หมอกสีดำหนาทึบก็ปกคลุมก้อนหินและในหมอกสีดำ… ดูเหมือนว่ามีงูตัวใหญ่สองตัวพันกันและกลิ้งไปมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
น้ำในทะเลสาบอันสวยงามแกว่งไปมาอย่างแผ่วเบาเป็นระลอกคลื่น
จนกระทั่งตกกลางคืน, หมอกสีดำที่เเกว่งไปมาอย่างรุนแรงก็ค่อยๆสงบลงและสลายไป
ณ เวลานี้, ชูโจวนั่งอยู่บนก้อนหินด้วยสีหน้าแน่วแน่ราวกับนักปราชญ์
เขามองลงไปที่หยวนปิงเหม่ยที่นอนอยู่ข้างๆและพูดด้วยรอยยิ้ม
"ปิงเหม่ย, ดูคุณน่าจะมีเรื่องอย่างอื่นนอกจากคิดถึงฉันนะ"
หยวนปิงเหม่ยตบต้นขาของชูโจวเบา ๆด้วยมือหยกของเธอ, และพูดอย่างอย่างไม่พอใจเล็กน้อย
"เจ้าคนใจร้าย, ถ้าไม่มีปัญหาอะไรฉันจะมาหาคุณไม่ได้เลยหรือ?"
“ฉันอาจจะเเค่อยากเฉลิมฉลองกับคุณหลังจากได้ยินข่าวการเลื่อนขั้นสู่ผู้ทรงพลังที่สุดของคุณก็ได้” หยวนปิงเม่ยกล่าวอย่างร้อนรนเล็กน้อย
เมื่อได้ยินเช่นนี้, ชูโจวก็เอาเเต่อมยิ้มโดยไม่พูดอะไรสักคำ
หยวนปิงเหม่ยมองชูโจวด้วยสีหน้าเซ็ง…และสุดท้ายก็พูดด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย
"เห้อ…..คุณเดาได้ถูกต้องแล้ว, ฉันมีเรื่องอื่นๆอีกนอกจากคิดถึงคุณ"
เธอลุกขึ้นมานั่งข้างชูโจว…..มองทะเลสาบใสที่อยู่ตรงหน้า, และหลังจากนั้นเธอก็กระซิบ
“คุณชายน้อย, คุณเคยคิดบ้างไหมว่าทำไมฉันถึงเริ่มตามหาคุณตั้งแต่แรก?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้, ดวงตาของชูโจวก็หรี่ลงเล็กน้อย…..คำถามนี้อยู่ในใจเขามานานแล้ว
เเถมตอนนี้เขายังรู้จักหยวนปิงเหม่ยเป็นอย่างดี
แม้ว่าพฤติกรรมบางอย่างของอีกฝ่ายดูเหมือนจะเต็มไปด้วยการหว่านเสน่ห์…..แต่จริงๆแล้วเธอเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างเก็บตัวมาก
ดังนั้น, ในตอนที่หยวนปิงเม่ยพบกับเขาเป็นครั้งแรกบนดาดฟ้าของโรงแรมหวงฟู๋
เธอกลับมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเขาทันที…..ซึ่งนี่ถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด
เพียงแค่, ช่วงก่อนหน้านี้หยวนปิงเหม่ยหลีกเลี่ยงเกี่ยวกับหัวข้อนี้…..ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ถามเธอมากนัก
เเต่ตอนนี้….เมื่อเขาได้ยินหยวนปิงเม่ยเริ่มพูดด้วยตัวเอง, เขาก็ตั้งใจฟังทันที
“จริงๆแล้วฉันมีพ่อบุญธรรม….เเละพ่อบุญธรรมของฉันก็คือชูตงไหล, พ่อของคุณนั่นแหละ”
“ตอนที่ฉันยังเด็กมาก, พ่อบุญธรรมบอกฉันเล่นๆว่าในอนาคตเขาอยากจะให้ฉันเป็นภรรยาของลูกชายเขา”
"เเต่ฉันจริงจังกับมันมาก…..เเละตั้งแต่ที่ฉันรู้ว่าคุณมีตัวตน"
"ฉันก็บอกตัวเองไว้นานแล้ว….ว่าฉันเป็นภรรยาของคุณ!"
………………………………