บทที่ 128: มันจะไม่ใช่ยุทโธปกรณ์ทางน้ำได้เช่นไรกัน?
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 128: มันจะไม่ใช่ยุทโธปกรณ์ทางน้ำได้เช่นไรกัน?
ทุกคนยิ่งสับสนมากขึ้น!
พวกเขาควรจะเห็นเรือ แต่กลับได้เห็นรถเข็นหลายคันที่เต็มไปด้วยของมากมาย
ทว่าก็ไม่มีใครถามคำถามอะไร เพียงมองดูอย่างเงียบๆ
ด้วยคำสั่งของหลินเป่ยฟาน เหล่าบัณฑิตก็เริ่มลงมือ
บนรถเข็นคันหนึ่งมีไม้ยาวและสั้น บัณฑิตจำนวนหนึ่งประกอบกันเป็นโครงไม้ขนาดใหญ่คล้ายโครงของเรืออย่างรวดเร็ว เพียงแต่มันวางไว้บนบก
น่าแปลกที่รถเข็นอีกคันก็เต็มไปด้วยถุงลมที่ใช้ทำบัลลูนลมร้อน
ทว่าถุงลมเหล่านี้เมื่อพองตัว มันมีขนาดเล็กกว่าบัลลูนทั่วไปมาก แต่ก็มีขนาดใหญ่พอสำหรับคนสองคนโอบ
เหล่าบัณฑิตเติมอากาศลงในถุงลมขนาดเล็กอย่างรวดเร็ว ปิดผนึกมันไว้ในช่องเปิดและวางไว้ในกรอบไม้เพื่อยึดให้แน่น
โครงไม้แต่ละส่วนมีถุงลมขนาดเล็ก จัดเรียงกันเป็นส่วนๆ
จากนั้นพวกเขาก็ปิดทั้งหมดด้วยกระดานไม้
ฉากนี้ทำให้ทุกคนรู้สึกสับสนยิ่ง
พวกเขาควรจะสร้างเรือสิ แต่ไฉนของตรงหน้าจึงดูไม่คล้ายกับเรือเลย
ถ้ามันไม่ใช่เรือ แล้วมันจะลอยได้อย่างไร?
คนผู้หนึ่งอดไม่ได้ที่จะถามออกมา “ผู้อำนวยการหลิน ท่านกำลังทำอะไรอยู่กันแน่? ข้าเฝ้าดูมานานแล้ว แต่ก็ยังไม่เข้าใจ…”
หลินเป่ยฟานยิ้มอย่างลึกลับ “ท่านจ้าว ได้โปรดอดใจรอก่อน ท่านจะเข้าใจในไม่ช้า!”
ดังนั้นทุกคนจึงทำได้เพียงเฝ้าดูต่อไปด้วยความอดทน
หลังจากนั้นประมาณครึ่งชั่วยาม ภายใต้คำสั่งของหลินเป่ยฟาน เหล่าบัณฑิตได้สร้างแผงแบนขนาดใหญ่ที่มีความยาว 5 จ่างและความกว้าง 5 จ่าง จากนั้นก็ผลักมันลงไปในแม่น้ำจนทำให้มันลอยอยู่บนผิวน้ำ
(1 จ่าง=3.3 เมตร)
หลินเป่ยฟานตะโกนเสียงดัง “ฝ่าบาท กระหม่อมขอเสนอยุทโธปกรณ์ทางน้ำที่ข้าพัฒนาขึ้น เรือสะเทินน้ําสะเทินบก ได้โปรดเชิญพินิจดูเถิดฝ่าบาท”
จักรพรรดินีและเหล่าขุนนางถึงกับตกตะลึง!
พวกเขาทั้งหมดมองไปที่กระดานไม้ขนาดใหญ่ที่กำลังลอยอยู่ในแม่น้ำ
หลังจากนั้นไม่นาน จักรพรรดินีก็ชี้ไปที่กระดานไม้ขนาดใหญ่บนแม่น้ำและถามว่า “ท่านหลิน นี่คืออาวุธทางน้ำที่ท่านกล่าวถึงหรือ?”
"ถูกต้องแล้ว!" หลินเป่ยฟานตอบด้วยรอยยิ้มอันบางเบา
เฉียนหยวนผู้เป็นเสนาบดีกรมพระคลังดูสับสนยิ่ง เขาชี้ไปที่กระดานไม้ขนาดใหญ่บนแม่น้ำ “ท่านหลิน ท่านบอกว่าจะสร้างเรือเหล็กขนาดยักษ์ไม่ใช่หรือ? นี่คือ…เรือเหล็กขนาดยักษ์ที่ท่านกล่าวถึงหรือ?”
สีหน้าของหลินเป่ยฟานเปลี่ยนไปเป็นจริงจัง “เสนาบดีเฉียน ท่านคงจำผิดแล้ว! ข้าได้เสนอแนวคิดการวิจัยเรื่องอาวุธทางน้ำมาโดยตลอด ไม่เคยสัญญาเลยว่าจะสร้างเรือเหล็กขนาดยักษ์ขึ้น! ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยเวลาเพียงสามเดือน มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะรวบรวมเหล็กให้เพียงพอสำหรับการต่อเรือ ท่านคิดว่าข้าจะสร้างเรือเหล็กให้ท่านได้ที่ไหนกัน?”
เสนาบดีกรมพระคลังถึงกับพูดไม่ออก
ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะเน้นคำว่ายุทโธปกรณ์ทางน้ำมาโดยตลอด ไม่เคยพูดถึงการสร้างเรือเหล็กขนาดยักษ์เลยสักนิดเดียว!
เมื่อพูดถึงยุทโธปกรณ์ทางบกทางน้ำ มันก็ได้แต่ทำให้ทุกคนจินตนาการภาพถึงเรือเหล็กขนาดยักษ์!
มีเพียงเรือเหล็กขนาดยักษ์เท่านั้นสิถึงจะเรียกได้ว่าเป็นยุทโธปกรณ์ทางน้ำ!
ทว่ายามนี้ มีอีกคำถามหนึ่งได้เกิดขึ้น
“ท่านหลิน ท่านบอกว่านี่เป็นยุทโธปกรณ์ทางน้ำ แต่มันดูไม่เหมือนจะใช้เป็นอาวุธได้เลย มันทําอะไรได้บ้างงั้นหรือ?” จักรพรรดินีรู้สึกสับสนมาก
มันถูกเรียกว่าเรือสะเทินน้ำสะเทินบก แต่มันก็ไม่ได้มีลักษณะคล้ายกับเรือเลยสักนิดเดียว
มันดูเหมือนว่าการรวมกันระหว่างไม้กระดานเท่านั้น อาจถูกพัดพาให้หายไปได้เลยหากมีคลื่นซัดเข้ามา
เหล่าขุนนางโดยรอบก็พยักหน้าเห็นด้วย
หลินเป่ยฟานยิ้มและกล่าวว่า “ฝ่าบาท โปรดอย่าตัดสินจากรูปลักษณ์ของมัน! ในความเป็นจริง มันสามารถบรรทุกสินค้าและผู้คนได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก ข้ารับรองว่าต่อให้มีคนเป็นร้อยยืนอยู่บนเรือสะเทินน้ำสะเทินบกนี้ มันก็จะไม่จมลงไป!”
"เป็นเช่นนั้นจริงเหรอ?"
“ฝ่าบาท ท่านสามารถลองมันด้วยตนเองได้!”
จักรพรรดินีโบกมือทันทีและกล่าวว่า “เช่นนั้นเริ่มกันที่ 10 คน!”
ทันใดนั้นทหารสิบนายก็ก้าวเข้าสู่เรือสะเทินน้ำสะเทินบก มันยังคงปลอดภัย
"อีกสิบ!”
ทหารอีกสิบนายก้าวเข้าสู่เรือสะเทินน้ำสะเทินบก แต่ก็ยังปลอดภัย
“เพิ่มอีกยี่สิบ!”
ทหารยี่สิบนายก้าวขึ้นไปบนเรือสะเทินน้ำสะเทินบก มันยังคงลอยอยู่บนแม่น้ำไม่ไหวติง
เป็ฯเช่นนี้ผ่านไปเรื่อยๆ จำนวนทหารก็เพิ่มขึ้น แต่เรือสะเทินน้ำสะเทินบกยังคงลอยอยู่บนน้ำอย่างต่อเนื่อง
จนกระทั่งถึง 100 คน มันก็ไม่มีวี่แววว่าจะจมลง
“มีพื้นที่เพียงเล็กน้อยเท่านี้ แต่มันกลับสามารถบรรทุกคนได้มากกว่าร้อยคนเนี่ยนะ!”
“คนเหล่านี้ล้วนเป็นชายฉกรรจ์ หากเราคำนวณแต่ละคนที่มีน้ำหนัก 150 จิน นั่นก็หมายความว่ามันสามารถรับน้ำหนักได้ 150,000 จิน! ช่างน่าทึ่งยิ่งนัก!”
(1 จิน=0.5 กก.)
“มันดูไม่เหมือนเรือเลยด้วยซ้ำ เช่นนั้นมันจะบรรทุกคนได้มากขนาดนี้ได้ยังไงกัน?”
“หลักการพื้นฐานของมันคืออะไรหรือ? หรือจะเป็นถุงลมพวกนั้น?”
…
หลินเป่ยฟานยิ้มและกล่าวว่า “ฝ่าบาท มันยังคงเหลือพื้นที่ว่างอีกมาก ไฉนไม่ลองส่งทหารเข้าไปเพิ่มดูว่ามันสามารถรองรับได้กี่คน?”
“ท่านกล่าวถูกยิ่ง!” จักรพรรดินีโบกมือ
ด้วยเหตุนี้ ทหารอีกสิบนายก้าวเข้าสู่เรือสะเทินน้ำสะเทินบก
จำนวนคนจึงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
110!
120!
130!
…
จนในที่สุดก็มีคนเกือบ 200 คนยืนอยู่บนนั้น
ทุกคนตัวแนบชิดติดกัน โดยไม่มีพื้นที่เหลือให้ยืน แต่เรือสะเทินน้ำสะเทินบกกลับยังไม่จมลง
“นี่…คือปาฏิหาริย์อย่างแท้จริง!”
“เรือลำนี้สร้างด้วยกระดานไม้เพียงไม่กี่แผ่น แต่กลับสามารถบรรทุกคนได้มากกว่า 200 คน!”
“ความสามารถในการบรรทุกของมันเทียบได้กับเรือขนาดใหญ่ทั่วไปแล้ว !”
"เป็นไปได้ยังไงกัน?"
…
ทุกคนตกใจมาก
"อย่างที่พวกท่านได้เห็น" หลินเป่ยฟานยิ้มและกล่าวต่อ “หนึ่งในข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเรือสะเทินน้ำสะเทินบกของข้าคือความสามารถในการบรรทุก! แม้ว่าเราจะเพิ่มจำนวนทหารเป็นสองเท่า แต่มันก็จะไม่จม! ด้วยเหตุนี้ตัวข้าขอไถ่ถามฝ่าบาทและขุนนางทุกท่าน ท่านคิดว่าการผลิตเรือสะเทินน้ำสะเทินบกเช่นนี้จะมีค่าใช้จ่ายเป็นเงินเท่าใด?”
ทุกคนเริ่มที่จะไตร่ตรอง
ในหมู่พวกเขา เสนาบดีกรมโยธา หวังรุยซือได้กล่าวก่อนว่า “ในการสร้างเรือขนาดใหญ่ที่สามารถบรรทุกคนได้ 200 คน จากราคาที่ทางกรมโยธาของเราได้ทำมา มันมีมูลค่า 1,000 ตำลึง! หากเราให้ทางอู่ต่อเรือของพ่อค้าสร้าง ราคาก็จะสูงขึ้นเล็กน้อยประมาณ 1,400 ตำลึง! เมื่อเอาทั้งสองมาคั่นกลางกัน ข้าจึงขอคาดเดาว่ามันต้องใช้ 1,200 ตำลึง!”
หลินเป่ยฟานยิ้มและส่ายศีรษะไปมา "ไม่ถูกต้อง ขอให้คาเดาอีกครั้ง!"
เสนาบดีกรมพระคลัง เฉียนหยวนเซินได้ก้าวเข้ามาข้างหน้า “องค์ประกอบของสิ่งที่ใช้สร้างดูธรรมดามาก มันไม่ควรมีราคามากขนาดนั้น! ดังนั้นข้าจึงขอคาดการณ์ว่ามันจะต้องใช้ประมาณ 500 ตำลึง!”
อีกครั้งที่หลินเป่ยฟานส่ายศีรษะ “ไม่ถูกต้อง มันน้อยกว่านั้น โปรดคาดเดาอีกครั้ง!”
“น้อยกว่า 500 ตำลึงอีกหรือ?” ทุกคนถึงกับตกตะลึง!
ขุนนางสูงอายุคนหนึ่งลุกขึ้นยืน “ข้าคาดว่าต้องใช้ 300 ตำลึงเพื่อสร้างเรือลำนี้!”
อีกครั้งที่หลินเป่ยฟานส่ายศีรษะ“ยังมากเกินไป!”
“ท่านหลิน ได้โปรดหยุดทำให้เราใคร่สงสัยและบอกค่าใช้จ่ายที่แท้จริงแก่เราเถิด!” จักรพรรดินีทนรอไม่ไหวจึงกล่าวเช่นนี้
“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท!” หลินเป่ยฟานยิ้มอย่างภาคภูมิใจ “ในการสร้างเรือสะเทินน้ำสะเทินบกลำนี้ มันมีค่าใช้จ่ายรวมแล้วน้อยกว่า 100 ตำลึง!”
ทุกคนต่างตกใจและหน้าซีด
“เรือสะเทินน้ำสะเทินบกเช่นนี้ที่สามารถบรรทุกคนได้มากกว่า 200 คนกลับใช้เงินน้อยกว่า 100 ตำลึงเนี่ยนะ?”
“ราคาไม่ถึงหนึ่งในสิบของเรือโดยสารทั่วไปด้วยซ้ำ!”
“ท่านหลิน ท่านล้อเล่นหรือเปล่า?”
"เป็นเช่นนั้นได้ยังไงกัน?"
…
“มันเป็นความจริง!” หลินเป่ยฟานอธิบายรายละเอียด “เรือสะเทินน้ำสะเทินบกอาจดูธรรมดา แต่โครงส่วนส่วนใหญ่ประกอบด้วยไม้และถุงลม! ค่าใช้จ่ายทั้งหมดของไม้ที่ใช้ในการสร้างโครงและแผ่นไม้ของเรือนั้นน้อยกว่าสิบตำลึงด้วยซ้ำ!”
“ส่วนที่แพงที่สุดคือถุงลม! เราใช้ถุงลมคล้ายกับที่ใช้ในการทำบัลลูน! ถุงลมเหล่านี้มีความยืดหยุ่น กันน้ำ กันอากาศและแม้กระทั่งทนไฟ ดังนั้นจึงต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมากถึง 80 ตำลึง!”
“ดังนั้นค่าใช้จ่ายทั้งหมดของเรือสะเทินน้ำสะเทินบกลำนี้จึงอยู่ที่ประมาณ 90 ตำลึง!”
ทุกคนแทบไม่อยากจะเชื่อ!
เรือสะเทินน้ำสะเทินบกที่สามารถบรรทุกคนได้มากกว่า 200 คนกลับมีราคาไม่ถึง 100 ตำลึง!
“ฝ่าบาทและขุนนางทั้งหลาย ข้าใคร่ถามอีกคำถามหนึ่ง!” หลินเป่ยฟานยิ้มและกล่าวว่า “ท่านคิดว่าจะใช้เวลาเท่าไรในการสร้างเรือสะเทินน้ำสะเทินบกลำนี้?”
อีกครั้งที่เสนาบดีกรมโยธาหวังรุยซือได้พูดก่อน “จากข้อมูลกรมโยธาของเรา การสร้างเรือขนาดใหญ่ที่สามารถบรรทุกคนได้ 200 คนจะต้องใช้เวลาตั้งแต่สามเดือนถึงครึ่งปี!”
“เช่นนั้นคงจะเวลาประมาณหนึ่งเดือน!” เสนาบดีเจ้ากรมครัวเรือนเกาเทียนเย่าก็ได้กล่าวขึ้นมา
เขาคาดเดาว่ามันต้องน้อยกว่านั้น เพราะหลินเป่ยฟานสามารถนำส่งมันได้ภายในเวลาหนึ่งเดือน
เช่นนั้นก็เห็นได้ชัดว่าเวลาในการต่อเรือต้องไม่เกินหนึ่งเดือน
หลายคนเห็นด้วยกับการคาดเดาของเขา
“ด้วยเวลาน้อยกว่าหนึ่งเดือน การจะสร้างเรือขนาดใหญ่ที่สามารถบรรทุกคนได้มากกว่า 200 คนจะช่วยประหยัดเวลาได้มากกว่าหกในสิบส่วน! ท่านหลิน ทักษะที่ท่านมีช่างน่าประทับใจอย่างแท้จริง!” เสนาบดีคนหนึ่งยกนิ้วโป้งขึ้นด้วยความชื่นชม
หลินเป่ยฟานส่ายศีรษะและชูนิ้ว “ท่านทั้งหลาย พวกท่านทุกคนคาดเดาผิดไป! แท้จริงแล้วมันใช้เวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์เท่านั้น!”
ทุกคนตกพลันตะลึงอีกครั้ง “สามารถทำได้ในเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์งั้นหรือ?”
หลินเป่ยฟานจึงอธิบายว่า “โครงไม้สำหรับสร้างเรือสะเทินน้ำสะเทินบกนั้นมีตัวกำหนดมาตรฐานและง่ายต่อการผลิต! เพียงส่งมอบให้กับช่างฝีมือที่มีทักษะ พวกเขาก็สามารถสร้างได้ภายในหนึ่งสัปดาห์! ส่วนถุงลมนี้ พวกมันใช้เวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์ในการผลิต! เมื่อสององค์ประกอบนี้พร้อมแล้ว ก็อย่างที่ทุกท่านเห็นก่อนหน้านี้ มันใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงในการประกอบและลอยอย่างมั่นคงบนแม่น้ำ!”
ทุกคนแทบไม่อยากจะเชื่อ!
ในเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ เรือสะเทินน้ำสะเทินบกสามารถบรรทุกคนได้มากกว่า 200 คนก็สามารถสร้างขึ้นได้!
ความสำเร็จนี้มันยิ่งใหญ่เหลือเกิน!
“ฝ่าบาทและขุนนางทั้งหลาย พวกท่านทราบหรือไม่ว่ามันหมายความว่าเช่นไรหากสามารถสร้างเรือสะเทินน้ำสะเทินบกที่สามารถบรรทุกคนได้กว่า 200 คนในเวลาน้อยกว่าหนึ่งสัปดาห์ ทั้งยังมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าหนึ่งร้อยตำลึงอีก?” หลินเป่ยฟานเอ่ยถาม
"มันหมายความว่าเช่นไร?” ทุกคนต่างรู้แล้ว แต่หัวใจของพวกเขาก็ยังเต้นระรัว
“หมายความว่า …” ดวงตาของหลินเป่ยฟานเปล่งประกายด้วยความร้อนแรง “เราสามารถผลิตเรือสะเทินน้ำสะเทินบกได้อย่างรวดเร็วในระยะเวลาอันสั้น นำพวกมันไปบนทางน้ำต่างๆ กระทั่งพื้นที่ของชายฝั่งทะเล! เราสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของกองทัพเรือของเราได้อย่างรวดเร็ว ยึดเหนือภูมิศาสตร์น่านน้ำที่สำคัญทั้งหมด!”
ลมหายใจของทุกคนเร่งถี่ขึ้น
“นอกจากนี้ ยังสามารถเสริมสร้างการสนับสนุนด้านการขนส่งในช่วงสงครามได้อีก!”
“ในการทำสงคราม การขนส่งมีความสำคัญมาก ดังคำกล่าวที่ว่า กองทัพย่อมต้องเดินทางด้วยท้อง!' วิธีการขนส่งอาหารปริมาณมากไปยังแนวหน้าอย่างรวดเร็วภายในเวลาอันสั้นเป็นสิ่งที่เรากังวลมาโดยตลอด!”
“เพราะการขนส่งหลักของเราอาศัยการขนส่งทางน้ำเป็นหลัก! ในอดีต เราถูกจำกัดด้วยเรือและความสามารถในการขนส่ง ไม่สามารถทำสิ่งใดตามต้องการได้! แต่เมื่อมีเรือสะเทินน้ำสะเทินบก มันก็จะแตกต่างออกไป ด้วยเวลาที่เทียบเท่ากัน เราจะสามารถขนส่งอาหารและเสบียงได้มากขึ้น !”
“เช่นนั้นการขนส่งของเราก็จะมีเสถียรภาพขึ้นไม่ใช่หรือ?”
ทุกคนหายใจถี่ขึ้นกว่าเดิม
“ทั้งนี้แล้ว มันยังสามารถส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและเพิ่มรายได้ของอาณาจักรเราได้อีก!”
“จงอย่าลืมว่าภายในอาณาเขตอาณาจักรอู๋ของเรา เรามีทางน้ำที่กว้างขวาง! การขนส่งของเราก็ขึ้นอยู่กับการขนส่งทางน้ำเป็นหลัก! ทว่าเราถูกจำกัดด้วยความสามารถในการต่อเรือ ทำให้ปริมาณการขนส่งค่อนข้างต่ำ!”
“เมื่อมีเรือสะเทินน้ำสะเทินบกอยู่ เราก็สามารถขนส่งสินค้าได้มากขึ้น ส่งเสริมได้ทั้งการพัฒนาเศรษฐกิจและการค้า! เมื่อเศรษฐกิจพัฒนาขึ้น ชีวิตของราษฎรก็จะดีขึ้นตาม เงินที่ไหลเข้าคลังหลวงย่อมมากขึ้นไม่ใช่หรือ?”
หลินเป่ยฟานชี้ไปที่เรือสะเทินน้ำสะเทินบก เสียงของเขาแน่วแน่ยิ่ง “เรือสะเทินน้ำสะเทินบกมีคุณประโยชน์อยู่มากมาย! หากมันไม่ใช่ยุทโธปกรณ์ทางน้ำแล้วจะเป็นสิ่งใดได้อีก?”