นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 388 - ลิลิธ!!
ในตอนแรก เดวิดไม่ได้สนใจปฏิกิริยาของเหล่าผู้ชมมากนัก ความสนใจของเขามุ่งอยู่ที่คำพูดของเฮเซลที่ดังอยู่ในหัวมากกว่า “มองความแข็งแกร่งไม่ออก! เป็นไปได้ยังไง? เธอบอกฉันเองว่าสามารถประเมินความแข็งแกร่งของทุกคนได้จากคลื่นพลังที่รั่วไหลออกมาจากร่างกายของอีกฝ่าย ตราบใดที่ใครคนนั้นไม่ได้มีระดับเหนือกว่าจ้าวแห่งสัตว์ร้าย มันเกิดอะไรขึ้น เด็กตัวแค่นี้คงไม่ได้มีร่างสมบูรณ์แล้วหรอกนะ!?”
“ฉันจำได้! ฉันเคยบอกนายไปอย่างนั้นจริง ๆ แต่ตอนนี้มันต่างกันออกไป ไม่ใช่ว่าพลังของเธอสูงจนฉันประเมินไม่ได้ แต่ไม่มีอะไรให้ประเมินต่างหาก คลื่นพลังที่รั่วไหลออกมามีน้อยมาก รวมถึงคลื่นเซ็นเซอร์ที่ฉันส่งออกไปสะท้อนกลับมาทั้งหมด มันเหมือนกับว่ามีม่านพลังอะไรคอยป้องกันการตรวจสอบเอาไว้ ไม่แน่ใจว่าเป็นทักษะพิเศษ หรือว่าแค่เป็นอุปกรณ์ไฮเทคสำหรับปกปิดตัวตนระดับสูง!?” เฮเซลรีบอธิบายเพิ่มออกมาอย่างยืดยาว
เป็นคำอธิบายที่ช่วยให้เดวิดสงบใจได้แวบเดียวเท่านั้น เพราะเขาเริ่มสังเกตได้แล้วว่าเสียงของเหล่าผู้ชมเงียบลงไปอย่างผิดปกติ สายตาของเดวิดเริ่มกวาดมองขึ้นไปบนอัฒจันทร์ ก็เห็นสีหน้าและแววตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวของพวกนักเรียน และเมื่อกวาดตามองไปที่ครูฝึกเอลล่า ก็เห็นหน้าตาที่เคร่งเครียดอย่างผิดปกติ ในใจของเขาเริ่มเกิดความวิตกกังวลขึ้นมาบ้างแล้ว แม่หนูน้อยคนนี้เป็นยังไงกันแน่? ถ้าจากข้อมูลที่มีอยู่ เธอแข็งแกร่งพอสมควรก็จริง แต่ไม่น่าจะถึงขั้นน่าหวาดกลัวแบบนี้เลย? เดวิดเริ่มสงสัยแล้วว่าตัวเองพลาดข้อมูลอะไรไป?
ทันทีที่กรรมการเดินลงจากเวทีประลอง และก้าวเท้าพ้นอาณาเขตของม่านพลังป้องกันออกไป ม่านพลังก็กระพริบก่อตัวขึ้นมาทันที และระดับของม่านพลังที่ปรากฏขึ้นมา ก็ยิ่งทำให้เดวิดมีความกังวลมากขึ้นไปอีก มันหนาและแข็งแกร่งกว่าตอนที่เขาระเบิดพลังออกมาระหว่างการต่อสู้กับไลร่าหลายเท่า ทั้งการที่ม่านพลังก่อตัวขึ้นมาตั้งแต่การประลองยังไม่เริ่มต้น และระดับความแข็งแกร่งของมัน แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าคนที่ควบคุมม่านพลังรู้ว่าพลังทำลายล้างจะเกิดขึ้นระดับไหน
เดวิดขมวดคิ้วแน่น! นี่ไม่ใช่ม่านพลังเพื่อป้องกันพลังตัวเอง ยังไม่มีใครรู้ระดับความแข็งแกร่งสูงสุดของเขา นี่เป็นม่านพลังเพื่อป้องกันพลังการโจมตีของเด็กผู้หญิงคนนั้น! มันจะน่าเหลือเชื่อเกินไปมั้ย? เธอแข่งแกร่งกว่าตนเองในตอนใช้พลัง 50 เปอร์เซ็นต์อีกอย่างนั้นหรือ? ตัวเล็ก ๆ แค่นี้เนี่ยนะ? หรือว่าเขาจะประมาทคู่ต่อสู้ไปจริง ๆ ที่ขึ้นเวทีประลองมาด้วยสภาพแบบนี้?
“พวกเราจะเริ่มกันเลยมั้ย?” เสียงใส ๆ ดังเข้าหูมาขัดจังหวะความคิดของเดวิด เขาเอียงหัวเล็กน้อย ก่อนจะตอบกับไปด้วยรอยยิ้มที่ไม่เต็มปากนัก
“ได้เลย! เริ่มกันได้เลย!”
ทันทีที่สิ้นเสียงตอบรับของเดวิด กลิ่นอายของลิลิธก็เปลี่ยนแปลงไปในทันที นัยน์ตาที่ดำขลับสวยงามของเธอขยายออกจนปกคลุมไปทั่วทั้งดวงตา มันกลายเป็นดำสนิทไม่เหลือตาขาวแม้แต่นิดเดียว ความใสซื่อบริสุทธิ์ไร้เดียงสาไม่เหลืออยู่อีกต่อไป มันทดแทนด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ชั่วร้ายปรากฏประดับอยู่บนใบหน้าเล็ก ๆ นั่น ความสดใสน่ารักกลายเป็นโหดเหี้ยมดุร้าย กลิ่นอายในตอนนี้ เป็นกลิ่นอายที่มีบ้าคลั่งกระหายเลือดเท่านั้น
เมื่อสัมผัสกับกลิ่นอายที่อีกฝ่ายเผยออกมาได้อย่างชัดเจน สีหน้าของเดวิดก็กลายเป็นเคร่งขรึมอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนทันที จิตสังหาร ความบ้าคลั่ง ความชั่วร้ายที่น่าสะพรึงกลัวแฝงอยู่ในกลิ่นอายนี้อย่างครบถ้วน เขาสาบานได้เลยว่าจมูกของตัวเองได้กลิ่นคาวเลือดที่เข้มข้นด้วย มันลอยตลบอบอวลครอบคลุมอยู่ทั่วเวทีประลองไปจนหมดแล้ว
นี่มันไม่ใช่กลิ่นอายที่คนปกติธรรมดาจะมี นี่มันเป็นกลิ่นอายของนักล่าที่ฆ่าสังหารมาแล้วจำนวนนับไม่ถ้วน แม้แต่มือสังหารที่ทำงานมาตลอดชีวิต บางคนยังไม่สามารถสร้างกลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัว น่าขยะแขยงแบบนี้ได้ เดวิดเริ่มสงสัยแล้วว่าฝ่ายตรงข้ามอายุเท่าไร? เป็นยายแก่ที่แฝงตัวมาอยู่ในคราบของเด็กตัวเล็ก ๆ ใช่มั้ย? กลิ่นอายที่สัมผัสได้มันบ่งบอกอย่างนั้น!
แรงกดดันอันมหาศาลที่ลิลิธปลดปล่อยออกมาพร้อมกับกลิ่นอายกระหายเลือด มันกำลังทำให้เขาเริ่มหายใจไม่ออก แววตาของเดวิดเริ่มกลายเป็นดุดันและเหี้ยมเกรียมขึ้น นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้กระหายเลือดยิ่งกว่าตัวเองในสภาพแวมไพร์หรือมนุษย์หมาป่า เดวิดไม่กล้าประมาทเลยสักนิด
เขาเริ่มสั่นไหวกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย ปล่อยคลื่นพลังของตัวเองออกมาเพื่อสลายแรงกดดันที่จู่โจมเข้ามาทุกทิศทางให้หมดไป ลมหายใจเริ่มกลับมาเป็นปกติ เดวิดขยับตัวน้อย ๆ แต่ยังไม่ได้ระเบิดพลังของตัวเองออกมามากเกินไปนัก อันที่จริง! ถ้าไม่ต้องการให้ร่างกายได้รับความเสียหายหนักอีกครั้ง เขาไม่ควรจะทำอย่างนั้นด้วย
“น่าสนใจ! ดูเหมือนว่านายจะแข็งแกร่งไม่เบาเหมือนกัน หวังว่านายจะอยู่เล่นกับฉันได้นานมากกว่าพวกตุ๊กตาตัวก่อน ๆ นะ!” เมื่อเห็นปฏิกิริยาตอบสนองของเดวิดที่สามารถสลายแรงกดดันของตนเองได้อย่างง่าย ๆ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ดุร้ายของลิลิธก็ขยายกว้างขึ้น และน้ำเสียงที่เธอเปล่งออกมาในตอนนี้ มันไม่ได้อ่อนหวานสดใสเหมือนเดิมอีกต่อไป มันกลายเป็นเสียงอันหยาบกระด้างที่ก้องกังวานราวกับมีคน 4-5 คนพูดออกมาพร้อม ๆ กัน มันเป็นเสียงที่เต็มไปด้วยความลึกลับและให้ความรู้สึกที่ชั่วร้ายอย่างยิ่ง
ขนทั่วทั้งตัว รวมถึงไรผมที่ต้นคอของเดวิดลุกชันขึ้นมา แต่เขาก็ยังตอบกลับไปด้วยเสียงที่ราบเรียบ “อืม? ฉันก็หวังว่าเธอจะสนุกนะ แล้วก็หวังว่าเธอจะแข็งแกร่งกว่าที่เห็นด้วย”
หลังจากกล่าวจบ เดวิดก็ยิ้มออกมาอย่างประชดประชัน แต่มันก็ต้องกลายเป็นรอยยิ้มที่แข็งทื่อ เพราะร่างของลิลิธหายไปอย่างกระทันหัน พวกเขาทั้งคู่ยืนอยู่ห่างกันเกือบ 100 เมตร แต่เขาทำได้เพียงยกแขนขึ้นกันเอาไว้ตรงหน้าอย่างจวนตัวเท่านั้น ร่างของเด็กหญิงปรากฏวาบพุ่งผ่านตัวเดวิดไป พร้อมกับเลือดที่พุ่งกระฉูดออกมาเป็นสายในพริบตา
เร็ว! การเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้เร็วเกินไป แม้สายตาของเดวิดจะตามทัน แต่ร่างกายก็ไม่มีทางขยับหลบพ้นได้เลย ที่ยิ่งไปกว่านั้น กงเล็บของอีกฝ่ายนั้นคมกริบ แขนซ้ายของเขาปรากฏรอยแผลเฉือนลึกอยู่ 4 รอย เส้นที่ลึกที่สุดแทบจะเฉือนเข้าไปถึงกระดูกเลยทีเดียว ร่างกายของเดวิด แม้ว่าจะอยู่ในสภาพที่ขยับอย่างคล่องแคล่วไม่ได้ แต่ความแข็งแกร่งและพลังป้องกันพื้นฐานของร่างกายสูงขึ้นกว่าเดิมมาก ถ้าแม้แต่เขายังได้แผลที่ลึกถึงขนาดนี้ เฟสเซอร์คนอื่นคงจะแขนขาดไปในการโจมตีเดียวอย่างแน่นอน
ทำไมร่างกายของเดวิดขยับได้ไม่เต็มที่เหมือนปกติ!? ทั้ง ๆ ที่อาการบาดเจ็บของเขาฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์แล้ว เหตุผลเป็นเพราะกล้ามเนื้อและเซลล์ต่าง ๆ ของเขายังปรับตัวเข้ากับพลังงานที่เพิ่มขึ้นอย่างกะทันหันไม่ได้ ตามปกติแล้ว พลังงานที่สร้างมาจากอัตราการหมุนเวียนเลือดที่เพิ่มขึ้น จะค่อย ๆ เสริมสร้างและปรับปรุงความแข็งแกร่งให้กับเซลล์ เนื้อเยื่อ เส้นเลือด และกล้ามเนื้อทั่วทั้งตัว ก่อนจะผสานเข้าจนเป็นเนื้อเดียวกัน แต่คราวนี้! อัตราการหมุนเวียนเลือดของเดวิดพุ่งสูงขึ้นเร็วเกินไป พลังงานส่วนเกินที่ยังไม่สามารถผสานเข้ากับร่างกายได้เต็มที่ มันทำให้ประสิทธิภาพในการเคลื่อนไหวของเขาลดลง อันที่จริง! มันลงลงไปมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์เลยด้วยซ้ำในตอนแรก เดวิดปรับสภาพร่างกายจนสามารถกลับมาเคลื่อนไหวได้ในระดับหนึ่งแล้ว แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่เพียงพอเลย
และตอนนี้เดวิดกำลังขมวดคิ้วกับบาดแผลที่เพิ่งได้รับมา ร่างกายของเขาฟื้นฟูมันไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่มีพลังงานไหลเวียนอยู่อย่างเหลือเฟือ พลังพันธุกรรมที่แฝงมากับการโจมตีของอีกฝ่ายเคลือบบาดแผลเอาไว้เป็นฟิล์มบาง ๆ มันทำให้แผลปิดตัวลงได้ไม่สนิท ยังโชคดีที่เดวิดยังบังคับให้เลือดหยุดไหลได้แล้ว ไม่อย่างนั้นเขาคงจะลำบากไปมากยิ่งกว่าในตอนนี้ไม่น้อย
ลิลิธที่ตอนนี้อยู่ทางด้านหลังของเขาไม่ได้พุ่งโจมตีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เธอกำลังยืนเองคอมองดูเดวิดด้วยสายตาที่สับสน และก้มหน้ามองมือของตัวเองอย่างสงสัย ลิลิธวางแผนที่จะทรมานเขาด้วยการตัดแขนขาทั้ง 4 ข้างออกไป ก่อนจะจับโยนลงจากเวทีในตอนสุดท้าย นี่เป็นการประลองที่มีกฎห้ามฆ่าคู่ต่อสู้ แต่ไม่ได้ห้ามทำให้พิการ และเธอตั้งใจจะทรมานอีกฝ่ายให้ได้มากที่สุดตามที่กฎเอื้ออำนวย แต่ดูเหมือนว่าแผนการจะไม่เป็นไปตามที่วางเอาไว้ง่าย ๆ เสียแล้ว หลังจากขยับมือของตัวเองทดสอบความแข็งแกร่ง 2-3 ครั้ง ลิลิธก็เข้าใจได้ในทันที ปัญหาไม่ได้อยู่ที่การโจมตีของตนเอง มันยังคงมีอำนาจการทำลายล้างเหมือนเดิม แต่เป็นเพราะคู่ต่อสู้ฝึกฝนทักษะเสริมร่างกายที่แข็งแกร่งมากมาต่างหาก
กงเล็บของเธอเมื่อสักครู่นี้ มันสามารถตัดผ่านกำแพงโลหะที่หนาเป็นฟุตได้อย่างสบาย แต่ดูเหมือนว่าร่างกายของเดวิดจะแข็งแกร่งไปยิ่งกว่านั้น กงเล็บของลิลิธทำได้แค่สร้างเป็นแผลตื้น ๆ บนแขนของเขาเท่านั้น
“น่าประทับใจมาก! อย่างนี้ก็เล่นได้นานเลยสิ!” เด็กหญิงเลียริมฝีปากตัวเองอย่างพอใจ ดวงตาที่ดำสนิทส่องประกายของมาเหมือนเด็กที่ได้ของเล่นใหม่ ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้เจอของเล่นที่ทนมือทนเท้าแบบนี้ได้มานานมากแล้ว
ร่างของลิลิธกระพริบหายไปอีกครั้ง ก่อนที่จะมีเลือดกระฉูดออกมาจาหน้าอกของเดวิด พร้อมกับรอยกงเล็บยาวอีก 4 รอย และนั่นยังไม่ได้ทำให้โลลิน้อยที่ชั่วร้ายพอใจ กงเล็บของเธอยังตวัดเข้าใส่เขาอย่างต่อเนื่อง เลือดกระฉูดออกมาอย่างไม่ขาดสาย รอยกงเล็บตื้น ๆ ปรากฏอยู่ทั่วร่างกายของเดวิด เขาทำได้แค่เพียงเอี้ยวตัวหลบไปมาไม่ให้บาดแผลนั้นฉกรรจ์เกินไป การหลบให้พ้นหรือป้องกัน!? ไม่มีทางเป็นไปได้เลย...