นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 387 - ขึ้นเวทีอีกครั้ง
“ไม่เห็นมีอะไรต้องกลัวเลย! มันไม่มีทางเป็นแผนที่ยีนที่แท้จริงอยู่แล้ว” เสียงของเฮเซลดังขึ้น ดูเหมือนว่าเธอพยายามจะปลอบเขาอยู่
และมันทำให้เดวิดผงะไปเล็กน้อย “กลัว! พูดไร้สาระอะไรกัน? ใครกลัว? ไม่ใช่ฉันแน่! ที่นิ่งอยู่ตอนนี้ แค่กำลังคิดว่ายีนลูกครึ่งเทพที่อีกฝ่ายมีอยู่เป็นยีนแบบไหนกันแน่เท่านั้น”
เขารีบปฏิเสธพร้อมกับอธิบายออกมา ก่อนจะนึกได้ว่าเสียงที่ได้ยินคือเสียงของเฮเซล มันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะกล่าวแก้ตัวยืดยาวออกมา เดวิดเลือกที่จะไม่สนใจเธออีก เฮเซลรู้เกือบทุกอย่างที่ตัวเองคิดอยู่ในหัว เขาไม่มีทางสร้างเรื่องอะไรมากลบเกลื่อนได้เลย
เดวิดลุกขึ้นจากเตียงมาเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนจะทดสอบร่างกายตัวเองในปัจจุบันเล็กน้อย แล้วขมวดคิ้วออกมาเล็กน้อย มันอยู่ในสภาพที่ไม่ดีนัก ไม่ใช่อาการบาดเจ็บ แต่เป็นพลังที่เปี่ยมล้นไหลเวียนอยู่ในร่างกาย มันมากเกินไป และยังไม่สามารถผสานเข้ากับเซลล์ต่าง ๆ ได้อย่างสมบูรณ์ เขาทรุดตัวกลับลงนั่งบนเตียงอีกครั้ง ยังพอมีเวลาเหลือให้จัดการเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่บ้าง
......
บนเวทีประลองของนักเรียนชั้นปีที่ 1 การต่อสู้ของตัวแทนจากชั้นเรียนหมายเลข 1 ‘สตรัคเกอร์’ กับตัวแทนของชั้นเรียนหมายเลข 8 ‘โคแนน’ กำลังเข้มข้นเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกวินาทีที่ผ่านไป ผู้ชนะในรอบนี้จะเป็นตัวตัดสินว่าตัวแทนจากชั้นเรียนไหนจะได้ขึ้นประลองรอบสุดท้าย เพื่อแย่งชิงตำแหน่งชนะเลิศของการประลองครั้งนี้
การโจมตีที่รุนแรงของพวกเขาทำให้เวทีประลองนั้นไหวสั่น อากาศเคลื่อนไหวปั่นป่วนราวกับมีพายุใหญ่พัดโหมกระหน่ำ คลื่นพลังพันธุกรรมจากทั้งคู่แผ่ออกมาปะทะกันจนเกิดเสียงสะเทือนเลื่อนลั่น ทักษะพิเศษถูกกระตุ้นใช้ออกมากันอย่างไม่ขาดสาย และเมื่อดูจากสถานการณ์โดยรวมแล้ว การต่อสู้ครั้งนี้น่าจะจบลงในเวลาอีกไม่นานนัก
ไม่มีใครคาดคิดว่าชั้นเรียนหมายเลข 8 จะซ่อนอัจฉริยะที่แข็งแกร่งระดับโคแนนเอาไว้ กัปตันทีมของชั้นเรียนหมายเลข 8 ผู้นี้กำลังได้เปรียบคู่ต่อสู้อยู่เล็กน้อย มันเป็นการทุ่มกำลังออกมาอย่างสุดตัว เขาไม่ได้คิดว่าชั้นเรียนของตัวเองจะชิงตำแหน่งชนะเลิศมาได้ แค่คิดจะพาชั้นเรียนของตัวเองเข้าสู่การประลองรอบสุดท้าย ในทีมไม่เหลือใครที่แข็งแกร่งกว่าโคแนนเหลืออยู่แล้ว แต่ตำแหน่งรองชนะเลิศก็จะสร้างประโยชน์และดึงทรัพยากรมาให้เพื่อนร่วมชั้นได้อย่างมหาศาล มันไม่แปลกที่ชั้นเรียนหมายเลข 8 จะเลือกทิ้งการต่อสู้รอบสุดท้าย และส่งคนที่แข็งแกร่งที่สุดออกมาตั้งแต่ตอนนี้
โคแนนได้เปรียบด้านพลัง! แต่ดูเหมือนว่าสตรัคเกอร์จะมีประสบการณ์ในการต่อสู้ระดับสูงมากกว่าเขา จากตำแหน่งที่ตกเป็นรองและเสียหลัก ตัวแทนจากชั้นเรียนหมายเลข 1 พลิกตัวในจังหวะสุดท้ายหลบฝ่ามือวายุของโคแนนได้ และผ่ามือเพลิงของก็ถูกฟาดเข้าใส่หน้าอกของอีกฝ่ายอย่างจัง สตรัคเกอร์ยอมเจ็บตัว ใช้ร่างกายทะลวงผ่านม่านพายุที่ล้อมเป็นเกราะป้องกันรอบตัวโคแนนเอาไว้เข้าไป และใช้การโจมตีของตัวเองส่งคู่ต่อสู้ให้ลอยกระเด็นตกเวที ผลการต่อสู้ตัดสินกันได้ในที่สุด
เสียงถอนหายใจอย่างเสียดายดังระงมออกมาจากนักเรียนที่นั่งชมอยู่บนเวที พวกเขาส่วนใหญ่ต้องการให้ม้ามืดอย่างโคแนนชนะ มันคงจะดีไม่น้อยที่เห็นชั้นเรียนหมายเลข 1 ตกจากบัลลังก์ชั้นเรียนที่แข็งแกร่งที่สุดในรุ่น น่าเสียดาย! เรื่องแบบนั้นมันยังไม่เกิดขึ้นในตอนนี้
“ชั้นเรียนหมายเลข 1 เป็นฝ่ายชนะ!”
เมื่อการประลองผ่านมาจนถึงรอบลึก ๆ ไม่ได้มีเพียงแค่การประกาศผ่านป้ายโฮโลแกรมอย่างเดียวอีกต่อไป กรรมการคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นที่กลางเวที ผายมือกว้างประกาศชัยชนะให้กับสตรัคเกอร์ และยืนรออยู่บนเวทีจนเห็นผู้ชนะเดินลงไปนั่งประจำที่จนเรียบร้อย
“ในที่สุด! ก็ถึงเวลาเสียที หลังจากที่ผ่านการประลองอย่างเข้มข้นดุเดือดมาถึงตอนนี้ ผมยอมรับเลยว่าการประลองในปีนี้น่าตื่นเต้นเร้าใจกว่าหลายปีที่ผ่านมา และต่อไป! ก็จะเป็นการต่อสู้ที่ทำให้เลือดในร่างกายของทุกคนเดือดพล่านจากความดุเดือดเร้าใจอย่างแน่นอน”
คำพูดของเขาเรียกเสียงอื้ออึงจากเหล่าผู้ชมได้ การประลองรอบสุดท้าย มันควรจะเข้มข้นที่สุดอยู่แล้ว
“หลังจากเกิดอุบัติเหตุกับชั้นเรียนหมายเลข 12 พวกเขาที่ผ่านเข้ารอบมาได้ก็โชคดีในการประกบคู่ไม่น้อย และด้วยความแข็งแกร่งและพยายามของตัวแทนทุกคน พวกเขาพาตัวเองเข้ามาจนถึงรอบสุดท้ายนี้ได้
แต่… การต่อสู้รอบสุดท้าย พวกเขาต้องพบกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในชั้นปีแล้ว!!”
เสียงของเหล่าผู้ชมดังกึกก้องขึ้นมาอีกครั้ง พวกเขาเริ่มวิเคราะห์กันแล้วว่าตัวแทนของชั้นเรียนหมายเลข 12 จะเป็นใคร?
“การประลองรอบสุดท้าย จะเป็นการพบกันระหว่างชั้นเรียนหมายเลข 1 กับชั้นเรียนหมายเลข 12!! ความแตกต่างของความแข็งแกร่งนั้นมหาศาล แต่ตัวแทนของชั้นเรียนหมายเลข 12 ก็สร้างความประหลาดใจให้กับพวกเราตลอดการประลองทุกรอบที่ผ่านมา ได้แต่หวังว่ารอบนี้ยังจะเหลือความประหลาดใจเอาไว้ให้กับพวกเราได้รับชมกันอีก
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ผู้เข้าร่วมประลองทั้ง 2 ฝ่ายเชิญขึ้นมาบนเวทีได้!!”
เดวิดระบายลมหายใจยาวออกมา ก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ และเริ่มก้าวเดินอย่างช้า ๆ ตรงไปที่เวทีประลอง เขาแอบออกมานั่งรวมอยู่กับเพื่อนร่วมทีมได้สักพักแล้ว หลังจากที่การลองปรับสภาพร่างกายไม่ค่อยได้ผล เดวิดตัดสินใจออกมานั่งดูการประลองของคนอื่น ๆ อยู่ที่ด้านนอกนี้ แทนที่จะนั่งอุดอู้อยู่ในห้องพยาบาลคนเดียว
การเคลื่อนไหวร่างกายของเขานั้นดูติดขัด เขาก้าวเท้าได้เพียงระยะสั้น ๆ ร่างกายท่อนบนเซไปมาอย่างไม่มั่นคง ถ้ามองดูผ่าน ๆ ทุกคนที่เห็นจะบอกตรงกันว่าเด็กหนุ่มคนนี้ยังมีอาการบาดเจ็บติดตัวอยู่
นั่นทำให้เสียงซุบซิบวิพากษ์วิจารณ์ดังขึ้นมาแทนการส่งเสียงโห่ร้องแล้ว
“เจ้านั่นไม่ใช่คนที่โดนครูฝึกโจมตีเหรอ? เขามาทำอะไรที่นี่?”
“หือ? ฉันได้ยินว่าเขาตายก่อนที่จะไปถึงห้องพยาบาลนี่! ใครมันช่างโกหกกันได้นะ? หมอนั่นยังเดินได้อยู่เลย!”
“เดินได้แล้วยังไง? ดูท่าเดินนั้นให้ดี ๆ สิ! อย่างนี้ยังคิดจะขึ้นประลองอีกหรือ? ต่อให้เป็นฉัน เจ้านั่นในตอนนี้ก็ทนไม่ได้แม้แต่หมัดเดียวด้วยซ้ำ?”
“เฮ้อ! นายนี่มันอ่อนจริง ๆ กับคนป่วยใกล้ตายแบบนี้ยังต้องโจมตีอีกหรือ แค่กระตุ้นพลังพันธุกรรมในร่างกายอย่างเต็มที่ แรงอัดอากาศที่พุ่งออกไปก็น่าจะทำให้เขาล้มได้แล้ว”
“ชั้นเรียนหมายเลข 12 คิดจะยอมแพ้เลยหรือยังไง? ถึงได้ส่งคนที่บาดเจ็บมากที่สุดออกมาแบบนี้? คนอื่น ๆ สภาพดีกว่าเขาอยู่ก็ยังมีไม่ใช่หรือ?”
ไม่ใช่เพียงแค่เหล่าผู้ชมเท่านั้นที่ประหลาดใจ แม้แต่กรรมการที่อยู่บนเวทีก็เลิกคิ้วสูงและยืนอึ้งไปสักพักเมื่อเห็นท่าเดินของเดวิด ดูเหมือนว่าการประลองรอบสุดท้ายจะไม่ตื่นเต้นอย่างที่คิดเสียแล้ว บางทีอาจจะไม่มีการประลองเกิดขึ้นเลยเสียด้วยซ้ำ!
แม้จะนานกว่าปกติไปบ้างเล็กน้อย แต่ในที่สุด เดวิดก็พาตัวเองไปยืนประจำตำแหน่งเริ่มต้นได้ และเมื่อเขามองไปที่ตำแหน่งของอีกฝ่าย สายตาก็ทอแววประหลาดใจออกมาเล็กน้อย
หน้าตาของเธอไม่ได้ต่างจากรูปในข้อมูลมากนัก แต่! รูปลักษณ์โดยรวมนั้นเกินความคาดหมาย อีกฝ่ายเป็นเพียงเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ท่าทางอ่อนแอไร้เดียงสา แววตาใสซื่อบริสุทธิ์ ราวกับว่าไม่เคยฆ่าสัตว์ตัดชีวิตมาก่อน แม้แต่แมลงตัวเล็ก ๆ เธอก็ไม่น่าจะทำร้ายพวกมันได้ลงแน่ ๆ
และที่สำคัญ อีกฝ่ายอยู่ในสภาพร่างกายของเด็กอายุ 7-8 ปีเท่านั้น! เดวิดเริ่มขมวดคิ้วออกมาแล้ว ‘หืม? คู่แข่งไปไหน? ทำไมถึงได้ส่งเด็กมาแทน? น้องสาวของเธออย่างนั้นเหรอ? อะไร? ยังไง?’ เขาสับสนไปหมด
“แปลกใจอย่างนั้นหรือ?” เสียงใส ๆ ของอีกฝ่ายดังขึ้นมา ดูเหมือนว่าเด็กสาวคนนั้นจะสังเกตเห็นคิ้วที่ขมวดแน่นของเดวิดแล้ว
มันเป็นเสียงพูดที่อ่อนโยนนุ่มนวล มันเป็นเสียงของเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่น่าสงสาร เมื่อเขาได้ฟังเสียงที่เธอกล่าวออกมา เดวิดแทบอยากจะยอมแพ้ปล่อยให้เธอชนะไปในตอนนี้เลย แต่มันคงเป็นไปไม่ได้ ครูฝึกเอลล่าเอาเขาตายแน่ถ้าทำอย่างนั้น
“ใช่! แปลกใจมาก” เดวิดตอบคำถามกลับไปแบบตรง ๆ
“ฮิฮิ! น่าแปลกใจนะที่นายยังไม่ยอมแพ้อีก ถ้าเป็นคนอื่นคงไม่กล้ายืนอยู่ตรงนี้แล้ว พลังใจถือว่ายอดเยี่ยมไม่เบาเลยทีเดียว” เสียงของเธอดังออกมาต่อ มันยังเป็นน้ำเสียงที่ใสซื่อบริสุทธิ์เหมือนเดิม
“อืม! เกือบไปแล้วเหมือนกัน แต่พอดีฉันดันไปให้สัญญาเอาไว้แล้วว่าต้องชนะ มันทำให้ยอมแพ้ไม่ได้นะ!” เดวิดตอบกลับพร้อมกับส่ายหน้าเบา ๆ
สภาพร่างกายของเขาในตอนนี้ไม่พร้อมสำหรับการต่อสู้มากนัก แต่กับคู่ต่อสู้ตรงหน้า ดูเหมือนว่ามันจะเป็นการกังวลมากเกินไปเสียแล้ว
“นายไม่รู้ว่าฉันเป็นใครใช่มั้ย?” เสียงใสถามออกมาอีก
“ใช่! นี่น่าจะเป็นครั้งแรกที่ฉันได้เจอกับเธอ” เดวิดตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจอะไรมากนัก
“โอ้! ฉันเข้าใจแล้ว! นี่แสดงว่านายไม่ใช่คนที่ติดตามข่าวสารอะไรเลยสินะ” เด็กหญิงตัวน้อยพยักหน้าเบา ๆ “ไม่แปลกใจแล้ว ว่าทำไมถึงได้ยังไม่ยอมแพ้.. อ้อ! ลืมแนะนำตัวเองไปเลย ฉันชื่อลิลิธ” รอยยิ้มกว้างปรากฏบนใบหน้าเล็ก ๆ น่ารักนั่น มันสดใสราวกับฟ้าในฤดูใบไม้ผลิก็ไม่ปาน
ดวงตาของเดวิดเริ่มหรี่เล็กลง ในหัวเริ่มคิดว่าตัวเองพลาดข้อมูลอะไรไป? ส่วนปากก็ขยับตอบโต้ตามสัญชาตญาณ “หืม? ยินดีที่ได้รู้จัก ฉันชื่อเดว..”
“ฉันวิเคราะห์ความแข็งแกร่งของเธอไม่ได้!” เขาพูดได้ไม่จบประโยค เสียงของเฮเซลดังขัดขึ้นมาในหัวเสียก่อน มันเป็นประโยคสั้น ๆ ที่ทำให้หัวใจของเดวิดแทบจะหยุดเต้น...