ตอนที่4 แสดงพลัง
..........
หลังจากที่แม่สังเกตเห็นลูกไฟที่ลอยอยู่ ฉันก็พยายามจะกระจายเปลวไฟ แต่น่าเสียดายที่แทนที่มันจะหายไป กลับกลายเป็นความวุ่นวายและแพร่กระจายไปทั่วบ้าน!
มันน่าสับสนและน่ากลัวมากสำหรับคนมีร่างกายเด็กอย่างฉัน
“ซิลฟ์! หยุด! ดินแดนแห่งแสงศักดิ์สิทธิ์! จงปัดเป่า!”
เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น คุณแม่ก็รีบวิ่งเข้ามาข้างฉันอย่างรวดเร็ว และทันใดนั้นเธอก็ปล่อยออร่าที่เต็มไปด้วยคุณสมบัติเวทย์มนตร์อันยิ่งใหญ่ออกมา
พรึ่บ!
ในชั่วพริบตา ทุกอย่างดูเหมือนจะมีแสงที่เป็นสีขาวหรือสีทอง ราวกับว่าโลกทั้งใบกลายเป็นสิ่งที่เต็มไปด้วยความเจิดจ้า หลังจากนั้นเธอก็โบกมือขณะที่เธอเสกพลังเวทย์มนตร์ โจมตีเปลวไฟได้อย่างง่ายดายและทำให้มันหายไป
ว้าว…
แม่ของฉันมีพลังอย่างไม่น่าเชื่อหรือเป็นแค่ฉันเท่านั้นที่ยังไม่มีพลัง!
ดินแดนนี้… ฉันรู้สึกเหมือนว่ามันกำลังเยียวยาฉัน
ฉันเคยเห็นเวทมนตร์อันน่าทึ่งแบบนี้เพียงครั้งเดียวก่อนหน้านี้ในชีวิต เพราะว่าเราได้เจอกับอาจารย์ที่น่าทึ่งในตอนนั้นตอนที่ไปทำลายกองโจร…
"ซิลฟี่!"
ขณะที่เธอร้องไห้ เธอก็ขยับเข้ามาใกล้ฉันมากขึ้นหลังจากที่เธอปัดลูกไฟออกไปแล้วคว้าและกอดฉันไว้แน่น เธอตรวจร่างกายของฉันด้วยความเป็นกังวล
“ลุกสบายดีไหมที่รัก? ลูกเจ็บหรือเปล่า?” เธอถาม
“อืม…” ฉันพยักหน้าให้เธอ ซึ่งเธอก็รู้ว่าฉันสามารถเข้าใจคำพูดของเธอได้นิดหน่อย
“อ..อย่าใช้เวทย์มนตร์นะ โอเคไหม ลูกยังเด็กอยู่ ยังใช้เวทมนตร์ไม่ได้ บางทีอาจทำร้ายตัวเองได้นะรู้ไหม” เธอพูดตำหนิฉัน
“เห้อ…” เมื่อได้ยินเช่นนั้นฉันก็อดถอนหายใจในใจไม่ได้ เธอพูดถูก มีโอกาสสูงที่ฉันจะเผาตัวเอง…
คราวหน้าฉันควรจะระวังให้มากขึ้นขอโทษนะแม่ ฉันรักแม่นะ
เมื่อคิดอย่างนั้นฉันก็จูบจมูกเธอทำให้เธอหน้าแดงเล็กน้อย
“ลูกกำลังจะขอโทษเหรอ?” เธอถาม
ฉันพยักหน้า
“โอ้.... สาวน้อยของฉัน… ไม่เป็นไร ตราบใดที่เธอสบายดีก็ไม่เป็นไร!” เธอตอบพร้อมกอดฉัน ก่อนที่จะจูบหน้าผาก จมูก…
โดยปกติแล้วเธอจะจูบฉันให้ทั่วใบหน้า ฉันดีใจที่มีแม่ที่แสดงออกและอ่อนโยนเช่นนี้ เธอทำให้ฉันนึกถึงแม่ของฉันในชาติที่แล้ว ที่จริงแล้ว นั่นคือเหตุผลว่าทำไมฉันถึงเต็มใจช่วยชีวิตเธอและสละชีวิตเพื่อเธอ
ปัง!
หลังจากนั้นไม่นาน ประตูทั้งบานก็เปิดออกเมื่อพ่อของฉันรีบเข้ามา
"เฟย์เลน! เกิดอะไรขึ้น! ฉันสัมผัสได้ถึงแบเรียของคุณโผล่ออกมา... ซิลฟี่โอเคมั้ย?"
พ่อมาให้ความช่วยเหลือฉันอย่างกล้าหาญ แต่ทุกอย่างก็สงบลงแล้ว แม่สามารถปัดเป่าลูกไฟลูกเล็กได้อย่างน่าประหลาดใจ ที่จริงแล้วแม่ของฉันชื่อเฟย์เลนด้วย ส่วนพ่อของฉันเขาชื่อ…?
“ไม่เป็นไรอลัน ลูกสาวของเราแค่… แสดงพลังของเธอให้ฉันเห็นเพียงเล็กน้อยจนเกือบจะทำให้บ้านไฟไหม้ก็เท่านั้น5555555…”
เธอหัวเราะขณะที่เธอเล่าให้เขาฟังถึงสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้
“เอ๊ะ ไฟเหรอ ธ...เธอสืบทอดค่าความสัมพันธ์คุณลักษณะของฉันมาเหรอ?! และเอ่อ… ฉันเดาว่าฉันมาสายเกินไปนะ” พ่อถอนหายใจขณะเดินเข้ามาใกล้ฉันและกอดฉันและแม่
เธอดูเหมือนมีพรสวรรค์มาก อายุเพียงเดือนเดียวเธอก็เสกลูกไฟที่ไร้ที่ติไปแล้ว!
แม้ว่าเหตุการณ์จะวุ่นวายในวินาทีสุดท้ายและฉันก็ต้องรีบกำจัดมันออกไป…
“แบเรียของฉันก็แค่ช่วยไม่ปล่อยให้มันลุกโชน”แม่พูด
“อะ… เธอเป็นภรรยาที่มีความสามารถ และเก่งมาก…” ผู้เป็นพ่ออดไม่ได้ที่จะพูด
“แต่ไม่ว่ายังไงฉันก็ได้ตำหนิลูกในสิ่งที่ลูกทำ และดูเหมือนว่าลูกจะเข้าใจ ใครจะรู้ว่าซิลฟี่เป็นเด็กผู้หญิงที่ฉลาดมาก ลูกเข้าใจในสิ่งที่เราพูดและพยักหน้า” แม่บอกพ่อหลังจากนั้น
“โอ้ว้าววว… จริงเหรอ?” พ่อถามฉัน ฉันมองเขาแล้วพยักหน้าตอบเบาๆ
“โอ้! ลูกฉลาดมากๆสำหรับวัยของลูก…” จากนั้นพ่อกับแม่ก็เริ่มเล่นกับฉันขณะที่พวกเขาให้ฉันนั่งบนเปล และพวกเขาเริ่มถามฉันด้วยคำตอบง่ายๆ เช่น "ใช่" หรือ "ไม่" ซึ่งฉันก็ตอบด้วยการพยักหน้าหรือส่ายหัว
อีกอย่างในขณะที่ทำสิ่งนี้ ฉันรู้สึกว่าฉันไม่ควรทำตัวฉลาดเกินไป ฉันควรจะแกล้งทำเป็นโง่บ้างเป็นบางครั้ง โดยไม่รู้บางเรื่อง เพราะมันแปลกเกินไปสำหรับฉันที่จะเข้าใจคำศัพท์ที่ซับซ้อนทั้งหมด ต่อมาพวกเขาถามฉันหลายอย่าง เช่น ฉันรู้ว่าพวกเขาเป็นใคร ฉันจึงชี้ไปที่พวกเขาพยายามจะพูด
“มะ…มะ…ปะ…ปะ…” เมื่อได้ยินฉันพยายามจะพูด ทั้งสองคนก็หน้าแดงราวกับมะเขือเทศ ดูเหมือนทั้งคู่จะระเบิดความดีใจเมื่อได้ยินฉันเรียกพวกเขาแบบนี้
"อุ๊ย! ซิลฟี่จัง! ใช่แล้ว ฉันเป็นพ่อของลูก!"
“เจ้าหญิงน้อยผู้ล้ำค่าของฉัน! ลูกรู้อยู่แล้วว่าฉันเป็นแม่?”
ฉันพยักหน้าแทนคำตอบ หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็อาบน้ำให้ฉันด้วยความรัก ในวันนี้ดูเหมือนว่าฉันจะใช้แรงที่มีมากจนเกินไปจนรู้สึกเหนื่อย ฉันที่นอนบนเปลจึงค่อยๆผล็อยหลับไป
เอ่อ.. ร่างกายของฉันเล็กมากจนฉันเหนื่อยจากการนั่งเฉยๆได้ ในขณะที่ฉันนอนหลับบางครั้งฉันก็ได้ยินพ่อแม่คุยกัน น่าแปลกที่พวกเขายังคงพูดถึงฉันอยู่ เมื่อพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว ฉันก็ได้ยินพวกเขาคุยกันระหว่างทานอาหาร
“ดูเหมือนว่าลูกจะเป็นนักเวทย์ไฟที่แข็งแกร่ง อายุเท่านี้ลูกก็สามารถเสกลูกไฟได้แล้ว ฉันนึกไม่ออกเลยว่าลูกจะกลายเป็นผู้แข็งแกร่งขนาดไหนในภายภาคหน้า…” แม่ของฉันอดไม่ได้ที่จะพูด
“คงไม่น่าแปลกใจเลยถ้าลูกจะมีพรสวรรค์มากกว่าเราทั้งคู่รวมกันเมื่อถึงวัยรุ่น…” พ่อของฉันพูดตอบ
“อ..อันที่จริง… ถ้าลูกสืบทอดเวทย์มนตร์ของฉันด้วย ลูกของเราไม่เพียงแต่จะกลายเป็นจอมเวทที่น่าทึ่งเท่านั้น แต่ลูกยังจะกลายเป็นผู้รักษาที่ยิ่งใหญ่ด้วย…” แม่ของฉันตอบ
“เราคงสู้ไม่ได้!” พวกเขาพูดพร้อมกัน
ตอนนี้... ฉันคิดว่าคุณพูดเกินจริงไปสักหน่อย…
"ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เราจะเริ่มการฝึกขั้นพื้นฐานให้ลูกได้ เพื่อที่ลูกจะได้ควบคุมเวทมนตร์ได้ดีขึ้น"
“แน่นอน คุณสามารถแสดงให้ลูกเห็นวิถีแห่งดาบได้เช่นกัน”
“ฉันไม่รู้ว่าลูกจะชอบหรือเปล่า…เธอเป็นผู้หญิง”
“ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่ว่าก็มีผู้หญิงสองคนในปาร์ตี้ของเราที่ใช้ดาบเหมือนกันนะรู้ไหม?”
“แต่… ดาบของฉันมันใหญ่มาก ถ้าอย่างนั้น ฉันคิดว่าการใช้ดาบขั้นพื้นฐานก็น่าจะพอนะ”
เอ๊ะ? พวกเขากำลังวางแผนที่จะทำให้ฉันกลายเป็นเครื่องจักรสังหารขั้นสูงสุดหรืออะไรสักอย่าง?
ฉันตัดสินใจลืมมันไปเพราะมันจะเกิดขึ้นหลังจากผ่านไปหลายปี ฉันจึงตัดสินใจนอนต่อ
ด้วยพ่อแม่ที่แข็งแกร่งสองคนนี้ ฉันเดาว่าฉันไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยของตัวเองและของพวกเขามากนัก ในที่สุดฉันก็สามารถใช้ชีวิตแบบสบาย ๆ ได้! ตอนนี้ฉันควรกลับไปนอนได้แล้ว…
“เจ็บ…”
หืม?
“เจ็บมาก...”
เป็นอะไรหรือเปล่า?
“ช่วย...”
เอ๊ะ?
ใครกำลังพูด? ทันใดนั้นฉันก็พบว่าตัวเองอยู่ในพื้นที่มืดสนิท
เอ๊ะ? มืดจังฉันไม่ได้นอนตอนกลางวันอยู่เหรอ?
ก่อนที่ฉันจะสามารถประมวลผลสิ่งที่เกิดขึ้น ข้างหน้าฉัน ฉันสังเกตเห็นแสงสลัวๆ ในขณะนี้ มันวูบวาบ ราวกับว่ามันกำลังจะจางหายไปในเร็วๆ นี้
“มันเจ็บ… มันเจ็บตลอด…” นั่นคือเสียงของเด็กสาว
--------