บทที่ 87 : นารูโตะปะทะซาสึเกะ
บทที่ 87 : นารูโตะปะทะซาสึเกะ
“ฉันจะส่งคนไปสืบเรื่องขององค์กรแสงอุษา” แม้รอยยิ้มอ่อนโยนจะปรากฏบนใบหน้าของซึนาเดะ แต่เธอกำหมัดแน่น กระดูกลั่นดังกร๊อบ และเธอก็เดินไปหาซาโตรุทีละก้าว
“แต่ก่อนอื่น มาจัดการกับเรื่องครอบครัวกันก่อน”
'เจ้าเด็กซาโตรุ กล้าที่จะไปที่ถนนโออิรันเชียวนะ'
ครั้งก่อนที่จิไรยะแอบพาซาโตรุไปที่ถนนโออิรัน เธอไม่สามารถทำอะไรกับซาโตรุได้เพราะขีดจำกัดสายเลือดของเขา ดังนั้นเธอจึงเล่นงานจิไรยะแทน
ซาโตรุไม่รู้สึกกลัว แต่ถามด้วยความสนใจ “คุณจัดการเรื่องครอบครัวของเราในฐานะอะไรเหรอ?”
ซึนาเดะกัดริมฝีปากของเธอเบาๆ และพูดอย่างหนักแน่นว่า "ในฐานะแม่บุญธรรมสิ ฉันน่ะมีหน้าที่ต้องดูแลนาย"
*ปัง*
ประตูสำนักงานถูกผลักให้เปิดออกอีกครั้ง
ซากุระวิ่งหน้าตั้งเข้าไปในห้องทำงานของโฮคาเงะด้วยความตื่นตระหนก จับมือซาโตรุแล้วพูดอย่างเร่งรีบว่า “อาจารย์ซาโตรุ ไปเร็ว ช่วยไปห้ามนารูโตะและซาสึเกะคุงทีได้ไหม?”
คราวนี้ทั้งนารูโตะและซาสึเกะดูเหมือนจะจริงจังมาก ดูเหมือนว่าพวกเขาตั้งใจที่จะใช้กำลังทั้งหมดเพื่อตัดสินหาผู้ชนะ
“เจ้าเด็กเหลือขอพวกนี้สร้างเรื่องอีกแล้วสินะ” ซาโตรุถอนหายใจ เขาคิดว่าเขาจะเป็นอิสระได้สักสองสามวันมาแกล้งซึนาเดะสักหน่อย
แต่เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เจ้าเด็กอุจิวะและเจ้าเด็กจิ้งจอกเกิดสร้างเรื่องกันอีกครั้งหนึ่งเสียแล้ว
ซาโตรุคว้าตัวซากุระ มองซึนาเดะแล้วยิ้มออกมา “ซึนะจัง ฉันจะไปดูละครก่อนนะ แล้วปัญหาระหว่างเราไว้ค่อยจัดการกันที่บ้านในตอนกลางคืนแล้วกัน”
สิ้นเสียงนั้น
ซาโตรุก็อุ้มซากุระแล้วหายตัวไปในพริบตา
ซึนาเดะพูดอย่างโกรธๆ “ใครจะอยากกลับบ้านไปกับนายกันล่ะ”
“เสร็จงานของงานวันนี้แล้ว” ซึนาเดะบิดเอวไปมา ก่อนจะพูดว่า "ไปกันเถอะชิซึเนะ ออกไปดื่มกันเถอะ"
ชิซึเนะมองดูกองเอกสารที่อยู่บนพื้น มุมปากของเธอกระตุกเล็กน้อย เธอพูดว่า“ท่านซึนาเดะ ท่านยังทำไม่เสร็จเลยใช่ไหมคะ?”
'เอกสารยังทำไม่เสร็จทั้งหมด แต่ท่านซึนาเดะจะโดดงานไปดื่มเหรอ?'
ซึนาเดะพูดอย่างจริงจัง “ชิซึเนะ คนเราควรรู้วิธีสร้างสมดุลระหว่างงานและการพักผ่อนสิ”
“เฮ้อ...” ชิซึเนะถอนหายใจ
โดดงานก็คือโดดงานแต่ที่เธอพูดก็ถูก
ในวันแรกของเธอในฐานะโฮคาเงะ เธอได้ออกไปดื่มเหล้าหลังเลิกงาน
อนาคตคงเลวร้ายกว่านี้แน่นอน
ซึนาเดะจับชิซึเนะและออกจากตึกโฮคาเงะไปทันที
“ท่านโฮคาเงะ เอกสารนี่มาจากหมู่บ้านคิริ” ชิคาคุเดินเข้าไปในห้องทำงานพร้อมกับกองเอกสารที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา จากนั้นมองไปในห้องทำงานที่ว่างเปล่า มีเพียงเอกสารที่กองอยู่บนพื้น
ชิคาคุตกตะลึงอยู่สักพัก
แล้วคนล่ะ หายไปไหน?
…
ณ เวลาเดียวกันบนหลังคาแห่งหนึ่ง
นารูโตะมองซาสึเกะด้วยสีหน้าจริงจังและพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “ซาสึเกะ ฉันจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย นายควรขอโทษซากุระจังซะ!”
เห็นได้ชัดว่าซากุระใส่ใจซาสึเกะมาก แต่ซาสึเกะกลับมีท่าทีที่ดูหมิ่นซากุระอยู่เสมอ
นารุโตะหมดความอดทนแล้ว
“ไอ้เจ้าโง่งี่เง่า นายเริ่มพูดเอาใหญ่แบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?” ซาสึเกะเอามือล้วงกระเป๋าแล้วมองนารูโตะด้วยท่าทีเย็นชามาก
“เราตกลงกันว่าหากฉันสามารถเอาชนะนายได้ นายต้องไปขอโทษซากุระจัง” นารูโตะชี้ไปที่ซาสึเกะแล้วพูดต่อไป"ซากุระจังเป็นเพื่อนของเรา เธอเป็นสมาชิกของทีมที่เจ็ด"
“นายคิดว่านายเหนือกว่าฉันงั้นเหรอ? งั้นนายลองมาสู้กับฉันก่อนที่นายจะพูดแบบนี้แล้วกัน!” ซาสึเกะเริ่มมีอารมณ์โมโหเล็กน้อย มีร่องรอยของความโกรธในดวงตาสีแดงของเขา
"พูดได้ดี" ซาโตรุปรากฏตัวออกมาจากอากาศ โดยอุ้มซากุระไว้ในมือมองดูซาสึเกะ ยกนิ้วโป้งขึ้นแล้วหัวเราะเบา ๆ “ประโยคนี้...ฉันให้สามแต้ม”
“อาจารย์ซาโตรุ?”
ทุกคนในทีมที่เจ็ดต่างผงะเล็กน้อย
ซาสึเกะใช้เนตรวงแหวนสามหยดน้ำ เหลือบมองซาโตรุอย่างไม่แยแสและพูดด้วยท่าทีเย็นชา
“ซาโตรุ แม้แต่คุณก็หยุดเรื่องนี้ไม่ได้ วันนี้ฉันจะเอาชนะเจ้าโง่นี่และพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าฉันเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในทีมที่เจ็ด”
“ซาสึเกะคุง...” ใบหน้าของซากุระถอดสี เธอมีความรู้สึกในใจว่าซาสึเกะในตอนนี้เริ่มห่างไกลจากเธอมากขึ้นเรื่อยๆ
นารูโตะคำรามด้วยความโกรธ “ไอ้เจ้าโง่นี้ ขอโทษอาจารย์ซาโตรุด้วยเลย เขาคืออาจารย์ของเรานะ!”
อาจารย์ก็เหมือนพ่อ
เขาให้ความเคารพต่อซาโตรุเป็นอย่างมาก
เป็นเพราะคำสอนของซาโตรุที่ทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้นทีละน้อย และค่อยๆ ได้รับการยอมรับจากผู้อื่น
“ไอ้หนูอุจิวะ เธอสามารถแกล้งทำเป็นเก่งต่อหน้าคนอื่นได้นะ แต่ถ้าทำต่อหน้าฉัน เธออาจหน้าหันเอาได้” ซาโตรุยกมือขึ้นตบหน้าซาสึเกะ
*ผลัวะ*
ซาสึเกะถูกตบตัวลอย และร่วงลงไปหลังจากหมุนตลบกลางอากาศสองสามรอบ เขาทรุดตัวลงอย่างแรง ใบหน้าของเขาแดงก่ำและบวม
ซาโตรุพูดเรียบๆ “แบบนี้ไงล่ะ”
เจ้าเด็กแสบอุจิวะนี้ กล้าทำเป็นเก่งต่อหน้าเขาเหรอ?
กระทั่งตาแก่สึจิคาเงะที่ทำเป็นเก่งต่อหน้าเขาก็ยังถูกดึงเคราออกเลย แล้วนับประสาอะไรกับเด็กแบบนี้?
ซาโตรุพูดด้วยท่าทางที่เหมือนกับกรรมการว่า "ส่วนเจ้าเด็กจิ้งจอกคนนี้สุภาพมาก งั้นฉันขอประกาศให้เขาเป็นผู้ชนะในการดวลครั้งนี้แล้วกัน"
“ล้อเล่นใช่ไหม..!” ซาสึเกะลุกขึ้น และเมื่อเขากำลังจะระเบิดอารมณ์ เขาก็สัมผัสได้ถึงการจ้องมองที่เย็นชาของซาโตรุ คำพูดของเขาก็หยุดกะทันหัน
เขายังเคารพซาโตรุ และก็กลัวซาโตรุมากเช่นกัน
ซาสึเกะก้มศีรษะเล็กน้อยแล้วพูดขอโทษ “ขอโทษครับ อาจารย์ซาโตรุ”
ซาสึเกะพูดอย่างจริงใจว่า "ได้โปรดให้ผมแข่งขันกับเจ้าโง่นารูโตะด้วยกำลังทั้งหมดของผมเถอะ"
“ถ้าอย่างนั้น ฉันจะนับถึงสามแล้วพวกเธอก็สู้กันให้ตายเลยนะ” ซาโตรุอุ้มซากุระแล้วกระโดดถอยหลังขึ้นไปบนหลังคา
“ฮึฮึ..ขอบคุณครับ แล้วผมจะพิสูจน์ความแข็งแกร่งของตระกูลอุจิวะให้เห็นเอง” ซาสึเกะมองนารูโตะในระยะไกลอย่างภาคภูมิใจด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ยบนใบหน้าของเขา
เขามั่นใจมาก เพราะเขาเป็นคนที่มาจากตระกูลอุจิวะ
“อาจารย์ซาโตรุ หยุดล้อเล่นกับพวกเขาได้แล้ว” ซากุระรีบพูด
ปล่อยให้ลูกศิษย์สู้กันจนตายเหรอ?
มีอาจารย์แบบนี้ด้วยเหรอ?
ซาโตรุโบกมือแล้วพูดว่า "ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร วัยรุ่นก็แบบนี้ พวกเขาแค่ต้องการความช่วยเหลือและต่อสู้กันเพื่อที่จะได้เติบโตขึ้นมาน่ะ"
หลังจากเกิดการต่อสู้ระหว่างเจ้าเด็กแสบทั้งสอง ไม่ว่าใครจะชนะหรือแพ้ มันก็จะทำให้ฝ่ายผู้แพ้อยากจะแข็งแกร่งขึ้น
ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี
ซากุระเองก็ไม่มีอะไรจะพูด
ซาโตรุประกาศเริ่มการต่อสู้
และทันใดนั้น
"[คาถาแยกเงาพันร่าง]"
นารูโตะประสานอินและมีร่างแยกมากกว่าหนึ่งโหลปรากฏขึ้นรอบตัวเขา และร่างแยกทั้งหมดต่างปิดล้อมเพื่อโจมตีซาสึเกะ
“จำนวนเยอะๆ ไม่มีความหมายอะไรหรอก ดวงตาของฉันมองเห็นทุกการเคลื่อนไหวของนาย” ซาสึเกะตะคอกอย่างเย็นชา และประสานอิน
"[คาถาไฟ ∙ คาถาลูกไฟนกฟีนิกซ์]"
ซาสึเกะพ่นเปลวไฟอุณหภูมิสูงหลายลูกออกมาจากปากของเขา และหลังจากที่เปลวไฟปลิวออกไป มันก็กลายเป็นลูกไฟขนาดเล็ก
นอกจากนี้ยังมีชูริเคนที่ซ่อนอยู่ในลูกไฟแต่ละลูกด้วย
*พุ้ฟ**พุ้ฟ**พุ้ฟ*
ลูกไฟทั้งหมดเคลื่อนตัวออกไป ระเบิดร่างแยกทั้งหมดออกไป เปลี่ยนพวกมันให้กลายเป็นกลุ่มควัน
"ฮึ" ซาสึเกะยิ้มอย่างมั่นใจ
*แคร่ก*
รอยแตกปรากฏขึ้นบนพื้น นารูโตะกระโดดลงจากพื้นและต่อยไปที่ใบหน้าของซาสึเกะอย่างแรง