บทที่ 12 สาวจอมปลอมกลับมาอีกครั้ง
ซูชิงเหม่ยเดินเข้าไปในห้องน้ำ ปิดประตู ล็อกประตู ตรวจสอบทำแล้วซ้ำเล่าว่าล็อกเรียบร้อยแล้ว จากนั้นเธอก็ปิดไฟ และอาศัยเฉพาะไฟทางเดินด้านนอกเพื่อให้แสงสว่างเท่านั้น
เพราะห้องน้ำในโรงแรมแห่งนี้เป็นกระจกหนา ถึงแม้ว่ามันจะไม่โปร่งใส แต่หากไฟในห้องน้ำสว่างเกินไป ก็ยังสามารถเห็นเงารางๆ ได้จากภายนอก
ซูชิงเหม่ยวางชุดนอนไว้ข้างๆ กำลังเตรียมที่จะถอดเสื้อผ้าเพื่ออาบน้ำ แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น 2 ครั้ง
ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกกังวล ขณะเอ่ยถามขึ้นอย่างเย็นชา: "มีอะไรหรือเปล่าคะ? "
หลินโจวที่อยู่ด้านนอกพูดขึ้นว่า "คุณซูครับ ร่างกายของคนยังไม่ฟื้นตัวดี ดังนั้นคุณอย่าเพิ่งแช่ตัวในอ่างอาบน้ำนะครับ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นอีก"
ซูชิงเหม่ยชะงักไปชั่วครู่ และอดไม่ได้ที่จะนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่เธอเปลือยกายอยู่ในอ่างอาบน้ำ จู่ๆ ใบหน้าของเธอก็แดงก่ำ เธอกัดริมฝีปาก เสียงของเธอเบาลงมาก แฝงไว้ด้วยความเขินอายเล็กน้อย "อืม"
หลินโจวที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องน้ำก็รับรู้ได้ถึงอารมณ์ของซูชิงเหม่ยเช่นกัน เขาส่ายศีรษะและยิ้มออกมา ก่อนจะเดินกลับไปนั่งบนโซฟา
เขาเพียงแค่หวังดี สังเกตจากสีหน้าของซูชิงเหม่ยจะเห็นได้ว่าร่างกายของเธอยังคงอ่อนแออยู่ เขาเองก็ไม่รู้ว่าเธอป่วยเป็นโรคอะไรมาก่อนหน้านี้
ด้วยสภาพร่างกายแบบนี้ เพียงแค่อาบน้ำเธอก็หมดสติไป ตอนนี้ยังต้องเดินทางไกลมายังสตาร์ซิตี้เพื่อถ่ายรายการอีก แม้ว่าชีวิตของดาราศิลปินจะดูงดงามและหรูหรา แต่จริงๆ แล้วพวกเขาก็เหนื่อยมากเหมือนกัน
ตอนนั้นเอง เสียงน้ำก็ดังออกมาจากห้องน้ำ ซึ่งน่าจะเป็นเสียงน้ำจากฝักบัว
ภายในห้องที่เงียบสงบ เสียงน้ำดูโดดเด่นขึ้นมาอย่างกะทันหัน ชวนให้อดไม่ได้ที่จะอยากแอบมองเข้าไปในห้องน้ำ
หลินโจวไม่ใช่คนประเภทที่ชอบแอบดูคนอื่นอาบน้ำ ยิ่งไปกว่านั้น ถึงแม้ว่าเขาอยากจะมอง ก็จะเห็นแค่เพียงเงารางๆ เท่านั้น ซึ่งไม่ได้น่าสนใจอะไร
เขาเพียงแค่หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา เข้าไปใน “เอสสเตชั่น” เพื่อดูข้อมูลของเพลง "เสียดายที่ไม่ใช่เธอ"
ปรากฏว่าพอเขากดเข้าไปเขาก็เห็นข้อความสีแดง 999+ ปรากฏอยู่บนไอคอนข้อความอยู่ที่มุมขวาบน
หืม!! ทำไมถึงมีข้อความเยอะขนาดนี้เนี่ย?
หรือว่าเพลงนี้จะดังขึ้นมาแล้ว?
หลินโจวกดเข้าไปที่หน้าโปรไฟล์ของตัวเอง และเห็นข้อความแจ้งเตือนมากมาย ทั้งยอดไลค์ รางวัล และความคิดเห็นมากมาย เขาเลื่อนลงไปเรื่อยๆ แต่มันก็ยังไม่หมดสักที
คอมเมนต์ส่วนใหญ่เป็นคำชื่นชม และวิจารณ์เกี่ยวกับคำที่ว่า "เพลงฮีลใจ"
นอกจากนี้ยังมีการแจ้งเตือนจากระบบอีกหลายสิบข้อความ
“ขอแสดงความยินดี ผลงานของคุณ”เพลงต้นฉบับฮีลใจ คนอกหักจะหายขาดทันทีหลังจากได้ฟัง“ได้รับการแนะนำบนในหน้าแรกของแอปพลิเคชัน”
ข้อความนี้ถูกส่งมาตั้งแต่เช้า ตอนที่เขาอยู่บนเครื่องบิน เขาเลยไม่เห็นมัน
กลับมาเป็นข้อความที่ระบุว่า: “ขอแสดงความยินดี ผลงานของคุณมียอดวิวครบ 5,000 ครั้ง!”
“ขอแสดงความยินดี ผลงานของคุณมียอดวิวครบ 30,000 ครั้ง!”
“ขอแสดงความยินดี ผลงานของคุณมียอดวิวครบ 100,000 ครั้ง!”
“คุณได้รับรางวัล 1,000 เหรียญสมัครเล่น”
“คุณได้รับรางวัล 10,000 เหรียญสมัครเล่น”
………………
มีข้อความแจ้งเตือนโดเนทปรากฏขึ้นมากมาย มันมีหลายร้อยข้อความ บางข้อความมียอดโดเนทมากถึง 10,000 เหรียญสมัครเล่น โดยหนึ่งหยวนมีค่าเท่ากับ 100 เหรียญมือสมัครเล่น ดังนั้นการโดเนท 10,000 เหรียญสมัครเล่นก็จะเท่ากับ 100 หยวน ส่วนแบ่งระหว่างเจ้าของผลงานกับแพลตฟอร์ม 50 -50 เท่ากับว่าเขาจะได้รับ 50 หยวน
ในเวลานี้ หลินโจวดูข้อมูลของเพลง "เสียดายที่ไม่ใช่เธอ" และพบว่ามียอดโดเนทเป็นจำนวนหลายแสนเหรียญ นั้นก็หมายความว่าหลังจากแบ่งรายได้กับแพลตฟอร์มแล้ว เท่ากับว่าในวันนี้หลินโจวมีรายได้มากกว่า 2,000 หยวน
ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ ยอดวิวได้ทะลุ 100,000 วิวแล้ว อยากเป็นไปตามแนวโน้มนี้ คาดว่ามันจะถึง 1 ล้านวิวในอีกไม่ช้า
หากมียอดผู้เข้าชมถึงหนึ่งล้านครั้ง ก็หมายความว่าวิดีโอนี้อย่างน้อยก็ได้รับความนิยมใน “เอสสเตชั่น” แล้ว
มียอดไลค์มากกว่า 20,000 ไลค์ และถูกบันทึกนับพันครั้ง และตอนนี้เขามียอดผู้ติดตามมากกว่า 30,000 คน ถือได้ว่าเขาเริ่มเป็นที่รู้จักในวงการเพลงแล้ว
อีกอย่าง นี่คือความสำเร็จที่อาศัยเวลาเพียงแค่วันเดียวเท่านั้น ในวงการเพลง นอกจากผลงานของบรรดานักแต่งเพลงอิสระชื่อดังเพียงไม่กี่คนแล้ว ก็แทบไม่มีผลงานใดที่เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดเช่นนี้เลย
อย่างไรก็ตาม หลินโจวกลับรู้สึกสงบมาก การใช้เพลงยอดฮิตจากชีวิตที่แล้วเอาชนะในแวดวงมือสมัครเล่น ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น
เป้าหมายของเขาคือการโด่งดังและเป็นที่รู้จักในวงกว้างยังคงอีกไกล ในเวลานี้ยังเร็วเกินไปที่จะคาดหวังอะไร คงต้องรอดูอีกสักระยะเวลาหนึ่ง
ทันใดนั้น เสียงน้ำในห้องน้ำก็เงียบลง ไม่กี่นาทีต่อมา ประตูห้องน้ำก็เปิดออก และซูชิงเหม่ยก็เดินออกไป
เธอสวมชุดนอนแขนยาวขายาว ปกปิดร่างกายของเธออย่างมิดชิด ขณะที่เธอกำลังเช็ดผมด้วยผ้าขนหนู เธอก็หันไปพูดกับหลินโจวว่า: "ฉันอาบน้ำเสร็จแล้ว คุณอาบต่อได้เลยค่ะ"
หลินโจวกล่าวว่า “ไม่เป็นไรครับ ผมอาบมาก่อนแล้ว”
ซูชิงเหม่ยชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะอุทานออกมาด้วยเสียงเบา จากนั้นก็เดินกลับเข้าไปในห้องน้ำ หยิบไดร์เป่าผมมาเป่าผมให้แห้ง
หลินโจวมีสีหน้าแปลก ๆ อยู่ บทสนทนาระหว่างทั้งสองตอนนี้ช่างเหมือนกับคู่รักใหม่ที่เปิดห้องนอนด้วยกันจริงๆ แต่ซูชิงเหม่ยกลับไม่ได้รู้สึกตัวเลยแม้แต่น้อย
ดูท่าว่าเธอจะไม่เข้าใจเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิงเลยจริงๆ
นึกไม่ถึงเลยว่าในวงการบันเทิงจะมีผู้หญิงที่ใสซื่อราวกับกระดาษเปล่าแบบนี้อยู่ด้วย
น่าเสียดายที่หญิงสาวเหล่านี้จะต้องแปดเปื้อนไม่ช้าก็เร็ว เช่นเดียวกับเซิ่นเหยาในตอนนั้น
หลินโจวส่ายหัวและก้มหน้าดูโทรศัพท์ต่อไป
ซูชิงเหม่ยเป่าผมของเธอจนแห้งอย่างรวดเร็วแล้วเดินออกมา เส้นผมยาวสลวยของเธอที่เคยรวบเป็นหางม้าเมื่อตอนกลางวัน ตอนนี้ถูกปล่อยสยายลงมายาวจรดเอว ที่รวบเป็นหางม้าในเวลากลางวันตอนนี้ไหลลงมาอย่างราบรื่นจนถึงเอวของเธอ ด้านล่างเป็นเรียวขายาวที่ชวนมองจนยากที่จะละสายตา
อย่างไรก็ตาม ชุดนอนที่เธอสวมใส่ในเวลานี้กลับมีลายตัวการ์ตูนน่ารัก ซึ่งแตกต่างกับบุคลิกที่เย็นชาของเธออย่างสิ้นเชิง ทำให้เธอดูน่ารักไปอีกแบบ
เมื่อซูชิงเหม่ยเห็นหลินโจวมองมา เธอจึงเผลอเอามือดึงชายเสื้อโดยไม่รู้ตัว ก้มหน้าลงเดินไปยังเตียงก่อนจะกล่าวด้วยเสียงเบา:
"ฉันจะพักผ่อนแล้ว"
หลินโจวกล่าวว่า "เอาล่ะ ผมก็จะพักผ่อนเหมือนกัน"
ซูชิงเหม่ยรีบดึงม่านรูดลง จากนั้นก็ขึ้นไปบนเตียงแล้วมุดเข้าไปในภาพผมเหมือนกับกระต่ายน้อย กอดตัวเองไว้แน่น
หลินโจวยิ้มแล้วปิดไฟข้างนอก จากนั้นก็ทิ้งตัวลงบนโซฟา
ห้องตกอยู่ในความมืดมิดและเงียบสงัด มีเพียงเสียงรถยนต์แล่นผ่านไปมาที่ด้านล่างเป็นครั้งคราว
โทรศัพท์ของหลินโจวสั่น เขาหยิบมันขึ้นมาและพบว่าเป็นข้อความส่วนตัวจากผู้ใช้ที่ชื่อว่า "กู่เหม่ย" ซึ่งก็คือสาวน้อยจอมปลอมบน “เอสสเตชั่น”
“เพลงต้นฉบับนี้ของคุณใช้เปียโนและฟลุตบรรเลงหรือเปล่า?”
หลินโจวยิ้มออกมา แม้ว่ากู่เหม่ยจะเป็นสาวปลอม แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอมีความรู้ทางดนตรีจริงๆ เพราะเธอสามารถฟังออกว่าต้นฉบับของเพลง "เสียดายที่ไม่ใช่เธอ" ต้องใช้เครื่องดนตรีอะไรบ้าง
เขาตอบว่า: “ใช่ คุณฟังออกด้วยเหรอ?”
พวกเขาล้วนเป็นคนที่ชอบดนตรีเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นเพศไหนก็ไม่สำคัญ การคุยกันเรื่องดนตรีไม่มีอะไรเสียหาย
กู่เหม่ย: " ฉันลองพยายามฮัมเพลงนี้ในใจรอบหนึ่งบนเครื่องบินเมื่อตอนกลางวัน เลยรู้สึกว่าเพลงต้นฉบับนี้คงไม่ได้เรียบง่ายขนาดนั้น"
เสวี่ยโจว: "ฮัมเพลงในใจรอบเดียวก็เดาออกเลยว่าเพลงนี้ต้องบรรเลงด้วยเปียโนและฟลูต? พรสวรรค์ด้านดนตรีของคุณใช้ได้เลยนะเนี่ย? "
กู่เหม่ย: "ฉันร้องเพลงบนเวทีอยู่บ่อยๆ "
เสวี่ยโจว: "คุณเป็นนักร้องเหรอ? "
กู่เหม่ย: "อืม!!"
หลินโจวกดเข้าไปดูหน้าโปรไฟล์ของกู่เหม่ย และพบว่าเธอไม่เคยโพสต์งานใดๆ เลย จึงถามต่อไปว่า: “แล้วทำไมคุณถึงไม่เคยโพสต์วิดีโอร้องเพลงบนเอสสเตชั่นเลยล่ะ?”
ในเวลานี้ บนเตียงที่ถูกกั้นด้วยผ้าม่าน ซูชิงเหม่ยซึ่งกำลังคนตัวเล่นโทรศัพท์อยู่ใต้ผ้าห่ม เห็นคำถามที่เสวี่ยโจวส่งมา นิ้วมือเรียวยาวกดโทรศัพท์ สองสามครั้ง ตอบกลับไปว่า: "ไม่สะดวกค่ะ"
หากเสียงร้องเพลงของเธอถูกปล่อยออกไป ทุกคนก็จะจดจำได้ในทันที
อีกฝ่ายตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว: “ทำไมไม่สะดวกล่ะ? คุณเป็นนักร้องมืออาชีพงั้นเหรอ?”
ซูชิงเหม่ยเม้มปากเล็กน้อย การคาดเดาของคนผู้นี้ค่อนข้างแม่นยำ
เธอพิมพ์ตอบกลับไปว่า "อืม!! ฉันกลัวคนจำได้ค่ะ"
แต่แล้วอีกฝั่งก็ตอบกลับมาว่า: "พอชมหน่อยก็ลอนเลยนะ ฮ่าฮ่าฮ่า ทำไมคุณไม่บอกว่าคุณเป็นดาราใหญ่เลยล่ะ? เลิกคุยเล่นแล้วนะพี่ชาย ราตรีสวัสดิ์!"
ซูชิงเหม่ยกะพริบตา มองดูข้อความที่อีกฝ่ายส่งมาด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย
เรียกฉันว่า "พี่ชาย" งั้นเหรอ? นี่มันหมายความว่ายังไง?
ซูชิงเหม่ยส่งเครื่องหมายคำถามไป แต่อีกฝ่ายดูเหมือนจะหลับไปแล้วจริงๆ
ซูชิงเหม่ยเม้มริมฝีปาก หยิบหูฟังออกมาเสียบเข้ากับโทรศัพท์ ใส่เข้าไปในหู เลือกวิดีโอเพลง "เสียดายที่ไม่ใช่เธอ" ที่เธอบันทึกเอาไว้ แล้วก็กดเล่น
ในห้องอันเงียบสงบ ท่วงทำนองเพลงอันไพเราะและนุ่มนวลดังเข้าหู
หญิงสาวผู้เย็นชากอดแขนตัวเอง ขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม และค่อยๆ หลับตาลง
*****สนุกไม่สนุกยังไงคอมเม้นต์คุยกันได้นะ (~ ¯▽¯) ~