ตอนที่แล้วนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 383 - โยนหินทับเท้าตัวเอง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 385 - ผลข้างเคียงที่ร้ายแรง!

นักรบพันธุผสม บทที่ 384 - การช่วยเหลือของครูฝึกเอลล่า


การประลองของนักเรียนชั้นปี 1 เริ่มกลับมาดำเนินต่อ แม้ว่าเหล่านักเรียนตัวแทนจะยังอยู่ในสภาพช็อค แต่ศาสตราจารย์ 2-3 คนก็ได้เปลี่ยนหน้าเข้ามากล่าวปลอบโยนด้วยประโยคสั้น ๆ และถึงกับหาเก้าอี้มานั่งอยู่ในบริเวณเวทีประลองของนักเรียนชั้นปี 1 เมื่อเสริมสร้างความมั่นใจให้แก่ตัวแทนนักเรียนทุกคน มันทำให้การประลองที่ส่งผลต่อการเลื่อนลำดับหมายเลขของชั้นเรียนดำเนินต่อไปได้

แน่นอน! ทุกคนย่อมอยากรู้ว่านักเรียนที่แข็งแกร่งที่สุดในชั้นปีของตัวเองคือใคร? มันจึงไม่ยากเลยที่จะโน้มน้าวให้พวกเขาคลายกังวล และทำหน้าที่ตัวแทนของชั้นเรียนต่อไป

และยิ่งไปกว่านั้น การที่เดวิดถูกส่งไปรักษาตัวอยู่ในห้องพยาบาล เป็นผลดีสำหรับการแข่งขันของพวกเขาเป็นอย่างมาก ในสายตาของนักเรียนชั้นปี 1 เดวิดกลายเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดไปแล้ว การที่ไม่มีเขาอยู่ร่วมการประลอง โอกาสในการไต่อันดับให้สูงขึ้นไปก็เปิดกว้างไม่น้อย เดวิดช่วยจัดการตัวแทนที่แข็งแกร่งของชั้นเรียนหมายเลข 1 ให้พวกเขาแล้วด้วยซ้ำ

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ หลายคนก็เริ่มมีความคิดสงสัยขึ้นมาในหัวแล้ว ครูฝึกคนนั้นเสียสติจริง ๆ หรือแค่เป็นแผนที่วางเอาไว้กันแน่ เพราะถ้ากำจัดเดวิดไปได้ ชั้นเรียนหมายเลข 1 แทบจะไม่เหลือคู่ต่อสู้ที่จะต้านทานพวกเขาได้แล้ว!

“น่าเสียดายไม่น้อยเลย ตัวแทนของชั้นเรียนหมายเลข 12 ที่เหลือก็ไม่เลวนัก แต่ในเมื่อกัปตันทีมไม่อยู่แล้ว พวกเขาแทบจะหมดสิทธิ์ชนะเลิศเลย!”

“ใช่! อาการบาดเจ็บระดับนั้น มันคงต้องใช้เวลาเป็นอาทิตย์แน่ ๆ กว่าจะฟื้นตัวกลับมาได้ ต่อให้เพื่อน ๆ พาทีมผ่านทะลุเข้าไปในรอบลึก ๆ ได้ ก็คงไม่มีใครมีความสามารถพอสำหรับรอบสุดท้ายแน่! น่าเสียดายแทนจริง ๆ”

“ถ้าเขาได้ใช้เซรั่มฟื้นฟูฉุกเฉินระดับสูง มีโอกาสมั้ยที่จะฟื้นตัวกลับมาต่อสู้ได้ภายในวันนี้?”

“น่าจะได้! แต่ก็คงไม่สมบูรณ์เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์หรอก แล้วอีกอย่าง ใครจะยอมลงทุนใช้ของแพงขนาดนั้นรักษาอาการบาดเจ็บของเฟสเซอร์ระดับ 3 ยีน ไม่มีทาง!” ศาสตราจารย์คนหนึ่งกล่าวปฏิเสธความคิดนั้นทันที เพราะถ้าเป็นเขา ไม่มีทางที่จะยอมจ่ายคะแนนจีโนจำนวนมหาศาลทำอะไรแบบนั้นแน่

ระหว่างที่การประลองดำเนินไป ศาสตราจารย์ที่นั่งอยู่ข้างเวทีก็หันมาพูดคุยให้ความเห็นกันอย่างออกรส และนึกเสียดายแทนเดวิด เขาควรจะได้เป็นผู้ชนะเลิศของการประลองครั้งนี้แล้วแท้ ๆ แต่กลับต้องไปนอนรักษาตัวในห้องพยาบาลจากฝีมือของครูฝึกจากชั้นเรียนคู่แข่งเสียอย่างนั้น..

......

เดวิดที่อยู่ในห้องพยาบาลกำลังต้องเผชิญกับปัญหาใหญ่ เขากำลังพยายามควบคุมร่างกายของตัวเองอย่างสุดความสามารถ แต่มันดูเหมือนว่าจะยุ่งยากและซับซ้อนมากกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ เดวิดไม่เคยต้องบังคับร่างกายให้หยุดรักษาตัวเองแบบนี้เลย ตามปกติแล้ว เขามีแต่จะเร่งมันให้ฟื้นฟูเร็วขึ้นเท่านั้น

แต่ในครั้งนี้เดวิดต้องทำ! เพราะทักษะการฟื้นฟูอย่างฉับพลันมีประสิทธิภาพสมชื่อจริง ๆ อาการบาดเจ็บที่เขาพยายามสร้างขึ้นมากำลังถูกรักษาอย่างรวดเร็ว มันเร็วเกินไป! เดวิดตกใจจนแทบช็อคตอนที่หมอและพยาบาลเข้าสแกนร่างกายบางส่วนเพื่อตรวจสอบความเสียหาย และวางแผนการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด

ยังโชคดีที่พวกเขาสามารถสแกนร่างกายของเดวิดได้บางส่วนเท่านั้น ไม่สามารถสแกนทั่วร่างกายได้ ถ้าไม่มีคำอนุญาตจากเขาที่แกล้งหมดสติอยู่ เดวิดเลือกที่จะทำลายเส้นเลือดและกล้ามเนื้อตรงบริเวณที่ถูกสแกนซ้ำลงไปอีกครั้ง มันเป็นความเจ็บปวดและเจ็บใจที่แทบเกินจะรับได้ นี่เขาต้องทำแบบนี้อีกเรื่อย ๆ ใช่มั้ย?

ไม่! ในที่สุดเดวิดก็หาวิธียับยั้งทักษะการฟื้นฟูอย่างฉับพลันของตัวเองได้ มันง่ายกว่าที่เขาคิด แค่ควบคุมพลังงานในร่างให้เคลื่อนไหวได้น้อยที่สุดเท่านั้น เมื่อไม่มีพลังงานสนับสนุน การฟื้นฟูก็เกิดขึ้นช้า ๆ อย่างค่อยเป็นค่อยไป มันอยู่ในระดับที่เฟสเซอร์ทั่วไปก็สามารถทำได้ ไม่ใช่ในระดับที่น่าตื่นตระหนกเกินไปอีกแล้ว

เดวิดหลับตานอนอยู่เงียบ ๆ พยายามชักนำกักเก็บพลังงานจากเซรั่มนานาชนิดที่หมอประเคนเข้ามาในร่างกายไม่ให้ออกฤทธิ์ อันที่จริง มันเหมือนกับการพักผ่อนที่ผ่อนคลายสำหรับเขาเลยด้วยซ้ำ ถ้าร่างกายไม่ถูกกระตุ้นเตือนว่ามีสิ่งคุกคามกำลังเข้ามาอยู่ในระยะใกล้เสียก่อน

ดวงตาที่หลับสนิทของเดวิดเบิกกว้างขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหันมองไปยังผนังด้านหนึ่งของห้องพยาบาลที่ตัวเองนอนอยู่ทันที เขาพยายามทำให้แววตาที่มองไปยังผนังสีขาวที่ไร้ผู้คนนั้นไร้แววและดูเหม่อลอยมากที่สุด มีบางคนซ่อนตัวอยู่ที่นั่น และเดวิดไม่อยากให้ผู้บุกรุกรู้ตัวว่าเขาจับได้แล้ว

ในห้องพยาบาลแห่งนี้เงียบกริบอยู่อย่างที่มันควรจะเป็น เดวิดไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่าเปิดตาตัวเองมองไปบนผนังห้องที่ว่างเปล่า เวลาผ่านไปเกือบ 10 นาที ก่อนที่ผนังห้องจะเกิดการเปลี่ยนแปลง มันบิดตัว และสั่นกระเพื่อมราวกับผิวน้ำในทะเลสาบที่ถูกโยนก้อนหินลงไป ช่องว่างเล็ก ๆ ปรากฏขึ้นมา ก่อนจะขยายตัวใหญ่มากขึ้นเรื่อย ๆ

ในที่สุด ร่างของคน ๆ หนึ่งก็เดินออกมาจากช่องว่างนั้น เธอออกมาพร้อมกับเสียงรองเท้าส้นสูงที่ดังก้องเป็นจังหวะสม่ำเสมอ

ดวงตาของเดวิดกลายเป็นมีแววขึ้นมาทันที สีหน้าของเขาแสดงความประหลาดใจ น้ำเสียง! ทั้งตกใจและตื่นเต้นเป็นอย่างมาก “ครูฝึก! มาได้ยังไงครับเนี่ย?”

ไม่มีเสียงตอบกลับมาจากครูฝึกเอลล่า เธอยังก้าวเดินต่อมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงข้างเตียงของเดวิด ใบหน้าที่สวยงามหน้าหลงไหลนั้นก้มลงมองประสานเข้าไปในตาของเขา ราวกับต้องการจะรื้อค้นความลับของนักเรียนที่อยู่ในความดูแลของตัวเองออกมาให้หมด

“เธอรู้ว่าฉันยืนอยู่ตรงนั้นตั้งแต่ต้น! ต่อให้เป็นเฟสเซอร์ระดับ 6 ยีนก็ไม่สามารถมองผ่านทะลุภาพลวงตาของฉันได้เร็วมากนัก มีน้อยคนที่จะทำได้ภายใน 30 วินาที แต่เธอ! เธอรู้ตัวทันทีที่ฉันปรากฏตัวขึ้นในห้องนี้!” ระหว่างที่กล่าวคำพูดออกมา ใบหน้าของเธอก็ลดต่ำลงเรื่อย ๆ ดวงตายังจ้องเขม็ง เดวิดเริ่มอึดอัดจนต้องดึงตัวเองให้ถอยออกไป แต่มันก็เพิ่มระยะห่างไม่ได้มากนัก

“เธอทำได้ยังไง?” คำถามถูกเอ่ยขึ้นมาในที่สุด

เดวิดกระพริบตาถี่ ก่อนจะหัวเราะออกมาเบา ๆ “ครูฝึก! อย่างล้อเล่นแบบนี้สิครับ ผมไม่ได้รู้ว่ามีภาพลวงตาอะไรทั้งนั้น แต่การจะรับรู้ว่ามีใครเข้ามาในห้องมันก็ง่าย ๆ ไม่ใช่หรือ? ทิศทางของอากาศที่หมุนเวียนอยู่ในห้องมันแปลกไป ผมแค่หันไปมองว่ามีใครเข้ามาหรือเปล่าเท่านั้นเอง”

ครูฝึกเอลล่าหรี่ดวงตาที่มีเสน่ห์ของตัวเองลงอย่างครุ่นคิด ไม่ผิด! สิ่งที่เจ้าเด็กแสบนี่พูดออกมานั้นเป็นไปได้ ต่อให้อยู่ในภาพลวงตา แต่ร่างกายของเธอก็ขัดขวางกระแสลมที่พัดอยู่ในห้องพยาบาลห้องนี้จริง ๆ การที่เฟสเซอร์ระดับ 3 ยีนสักคนจะจับการเปลี่ยนแปลงของกระแสลมเล็กน้อยแบบนี้ได้ ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่มันยังอธิบายไม่ได้ว่าทำไมสายตาของเดวิดถึงได้เลือกจ้องไปยังตำแหน่งนั้น มันแม่นยำเกินไป สิ่งนี้เกินความสามารถ เกินประสาทสัมผัสของเฟสเซอร์ 3  ยีนอย่างแน่นอน

‘เจ้าเด็กนี่รู้ว่ามีคนเข้ามา และรู้ว่าอยู่ตรงไหน? เพียงแค่ไม่รู้ว่าเป็นใครเท่านั้น หูตาจะดีเกินไปหน่อยมั้ยสำหรับนักเรียนปี 1?’ เอลล่าได้ข้อสรุปในใจ แต่เธอเลือกที่จะไม่พูดมันออกมาดัง ๆ และไม่คิดจะสืบสาวให้ลึกลงไปมากกว่านั้น

การไต่สวนสอบถามความสามารถพิเศษของผู้ฝึกฝน แม้ว่าจะเป็นนักเรียนในความดูแลของตนเอง ก็ยังถือว่าเป็นเรื่องที่คุกคามความเป็นส่วนตัว และเรื่องที่ไม่สมควรทำเป็นอย่างยิ่ง และเอลล่าก็ยังไม่คิดว่ามันจะมีความจำเป็นมากพอที่ตัวเองจะเสียมารยาทกับเรื่องเล็กน้อยแค่นี้

ครูฝึกเอลล่าดึงใบหน้าของตัวเองกลับขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งยืนตรงอย่างที่ควรจะเป็นแล้ว มือข้างหนึ่งขยับล้วงลงไปในกระเป๋าเพื่อหยิบอะไรบางอย่างออกมา มันทำให้เดวิดลอบระบายลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก ดูเหมือนว่าเรื่องที่เขาแต่งขึ้นจะใช้ได้ผล

“รับไป!” เมื่อมือของเธอดึงออกมาจากกระเป๋า ขวดเซรั่มขนาดเล็กก็ถูกหยิบติดออกมาด้วยขวดหนึ่ง สายตาของเดวิดเต็มไปด้วยความสับสน เขาไม่แน่ใจว่าครูฝึกคนสวยที่อยู่ตรงหน้านี้คิดจะทำอะไรอีก?

แต่ด้วยสายตาที่ครูฝึกเอลล่าใช้จ้องมองมา เดวิดได้แต่ขยับมือข้างหนึ่งที่กระดูกเริ่มสมานตัวแล้วขึ้นไปรับขวดเซรั่มมาถือไว้อย่างไร้ทางเลือก

“เซรั่มอะไรครับ?” เขาถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่สับสน เพราะเมื่อพยายามพลิกขวดที่อยู่ในมือดูรอบ ๆ แล้ว มันไม่มีตัวอักษรอะไรอยู่บนขวดเลยแม้แต่ตัวเดียว ไม่ต้องกล่าวถึงฉลากยาที่ควรจะมีอยู่บนขวดเซรั่มทุกขวดเลยด้วยซ้ำ

“ไม่ต้องสนใจหรอกว่ามันเป็นเซรั่มอะไร? เธอแค่ต้องรู้ว่ามันสามารถช่วยฟื้นฟูร่างกายของเธอได้ก็พอ ด้วยประสิทธิภาพของมัน อาการบาดเจ็บที่เธอมีอยู่น่าจะหายสนิทและพร้อมที่จะต่อสู้อีกครั้งภายในเวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น เอาล่ะ! ไม่ต้องพูดมากแล้ว! รีบ ๆ กินยาเข้าไป!!” ไม่มีคำตอบที่ชัดเจน มีแต่เสียงดุด่าอย่างเย็นชาออกมา ดูเหมือนว่าครูฝึกเอลล่าจะเริ่มรำคาญกับความพิรี้พิไรของเดวิดแล้ว...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด