ตอนที่ 24 : เขตปลอดภัยอีกแห่ง
ตอนที่ 24 : เขตปลอดภัยอีกแห่ง
“วันที่ 12 ของปฏิทินแห่งวันสิ้นโลก วันพฤหัสบดี วันพักผ่อน”
“วันนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น หวังซ่งยังมาวุ่นวายเหมือนเดิม เขาพาผู้รอดชีวิตกลับมาด้วยอีก 4 คน ฉันเองก็จำชื่อของพวกเขาไม่ได้ และมันก็ไม่สำคัญเหมือนกัน”
“แต่สิ่งที่สำคัญก็คือวันนี้หวังซ่งได้ออกไปข้างนอกและถูกซอมบี้ยักษ์โจมตี มันน่าจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ฉันเชื่อว่าจำนวนซอมบี้ยักษ์จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไป”
“วันสิ้นโลกจะเริ่มอันตรายมากขึ้นเรื่อยๆ”
“บันทึกค่าสถานะในวันที่สิบสองของปฏิทินแห่งวันสิ้นโลก”
“ผ่าน…”
…
“วันที่ 13 ของปฏิทินแห่งวันสิ้นโลก วันศุกร์ วันออกกำลังกายส่วนอก”
“วันนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
“ในช่วงบ่าย หวังซ่งได้มาหาอีกครั้ง เขาเล่าเรื่องบางอย่างให้ฟัง”
“เขาบอกว่ามีผู้รอดชีวิตอีกกลุ่มในหมู่บ้านกู๊ดโฮป และมีกันหลายคนเลย วันนี้เขาได้ออกไปพาผู้รอดชีวิตกลับมา แต่เขาก็เห็นร่องรอยของผู้คนในหมู่บ้าน จากร่องรอยพวกนั้น มันน่าจะมีคนอยู่เยอะเลย พรุ่งนี้หวังซ่งจะออกไปตามร่องรอยพวกนั้น”
“ฉันไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมหวังซ่งถึงหมกมุ่นกับการช่วยผู้คนขนาดนี้ แต่เนื่องจากนั่นคือสิ่งที่เขาต้องการและเขาไม่ต้องการความช่วยเหลือจากฉัน ดังนั้นเขาอยากจะทำอะไรก็ทำไป”
“บันทึกค่าสถานะในวันที่สิบสามของปฏิทินแห่งวันสิ้นโลก”
“ผ่าน…”
…
“วันที่ 14 ของปฏิทินแห่งวันสิ้นโลก วันศุกร์ วันออกกำลังกายส่วนหลัง”
“วันนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
“หวังซ่งไม่ได้มาหา”
“ข่าวดีก็คือฉันสามารถเลื่อนระดับทักษะการยิงหนังสติ๊กให้กลายเป็นระดับสิบได้แล้ว ข่าวร้ายก็คือเมื่อทักษะการยิงหนังสติ๊กถึงระดับสิบ ฉันก็ไม่สามารถเลื่อนระดับความก้าวหน้าได้ด้วยการยิงเป้าอีก”
“ในแง่หนึ่ง มันก็หมายความว่าฉันได้เลื่อนระดับทักษะการยิงหนังสติ๊กจนเต็มแล้ว… ต่อไปฉันต้องพัฒนาทักษะการยิงธนูต่อ”
“แต่เมื่อคิดดูแล้ว ถ้าฉันฝึกยิงเป้าอีก ทักษะการยิงธนูของฉันก็น่าจะเลื่อนระดับเป็นระดับสิบได้เท่านั้น ถ้าฉันอยากจะเลื่อนระดับทักษะต่อ ฉันก็ต้องยิงเป้าที่มีชีวิต น่าเสียดายที่ช่วงนี้หวังซ่งไม่ได้ลากซอมบี้เข้ามาเลย และมันก็ไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไรที่จะออกไปข้างนอก…”
“บันทึกค่าสถานะในวันที่สิบสี่ของปฏิทินแห่งวันสิ้นโลก”
“ผ่าน…”
…
“วันที่ 15 ของปฏิทินแห่งวันสิ้นโลก…”
…
“วันที่ 16 ของปฏิทินแห่งวันสิ้นโลก…”
…
“วันที่ 17 ของปฏิทินแห่งวันสิ้นโลก วันอังคาร วันออกกำลังกายส่วนหลัง”
ในเวลา 11 โมงเช้า ในขณะที่ลู่หมิงกำลังทำอาหารกลางวัน เขาก็เปิดหน้าต่างข้อมูลขึ้นมาดู
ชื่อ: ลู่หมิง
อายุ: 25 ปี
พละกำลัง: 26.7
ความแข็งแกร่ง: 27.2
ความว่องไว: 26.4
ทักษะฟิตเนส ระดับ 4 (150/400): ค่าสถานะสูงสุดที่ได้รับในแต่ละวันเพิ่มขึ้น 0.4 หน่วย
ทักษะการยิงหนังสติ๊ก ระดับ 10 (0/1,000)
ทักษะการยิงหน้าไม้ ระดับ 2 (5/200)
ทักษะการยิงธนู ระดับ 7 (55/700)
ทักษะการต่อสู้ด้วยมือเปล่า ระดับ 8 (523/800)
ทักษะการต่อสู้ด้วยอาวุธเย็น ระดับ 10 (0/1,000)
หลังจากผ่านไปเกือบหนึ่งสัปดาห์ ค่าสถานะและทักษะของลู๋หมิงก็มีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างมาก
ในเวลาเดียวกัน ทักษะฟิตเนสของเขาก็ได้เลื่อนระดับเป็นระดับที่สี่แล้ว ทำให้ค่าสถานะพื้นฐานที่ลู่หมิงจะได้รับต่อวันเพิ่มขึ้นเป็น 0.9 หน่วย
ส่วนทักษะการต่อสู้ด้วยอาวุธเย็นก็ได้เลื่อนระดับเป็นระดับ 10 แล้วด้วย
เมื่อถือมีดสั้น ขวานดับเพลิง กระบอง และอาวุธเย็นอื่นๆ เอาไว้ ลู่หมิงก็รู้สึกเหมือนว่าเขาสามารถควบคุมพวกมันได้ตามต้องการเลย
น่าเสียดายที่มันเหมือนกับทักษะการยิงหนังสติ๊ก หลังจากเลื่อนระดับมาถึงระดับ 10 แล้ว ลู่หมิงก็ไม่สามารถเพิ่มระดับทักษะได้ด้วยการเหวี่ยงอาวุธเฉยๆ อีกต่อไป
นี่หมายความว่าถ้าลู่หมิงต้องการที่จะเพิ่มระดับทักษะการต่อสู้ด้วยอาวุธเย็น เขาก็ต้องหาเป้าหมายที่มีชีวิตหรือฆ่าซอมบี้แทน
นี่มันน่ารำคาญมากเลย…
ในไม่ช้า อาหารกลางวันก็พร้อมแล้ว
ข้าวสวย อกไก่ ผักแห้ง
ในขณะที่กำลังกินข้าว ลู่หมิงก็ดูวิดีโอไปด้วย ในขณะเดียวกัน เขาก็คิดถึงหวังซ่งขึ้นมา
หวังซ่งไม่มาหาเขาสองวันแล้ว
…
ในเวลานี้ หวังซ่งก็อยู่ที่อีกด้านหนึ่งของหมู่บ้านกู๊ดโฮป
ในช่วงที่ผ่านมา หวังซ่งได้สำรวจหมู่บ้านกู๊ดโฮปอย่างระมัดระวัง โดยต้องการค้นหาและรวบรวมผู้รอดชีวิตให้มากขึ้น
เมื่อไม่กี่วันก่อน เขาก็ได้พบกับร่องรอยของคนเป็นจำนวนมาก เมื่อเขาตามร่องรอยนี้มา หวังซ่งก็ได้ข้ามมาที่อีกฝั่งของหมู่บ้านและในที่สุดก็ได้ค้นพบครั้งสำคัญเมื่อเที่ยงวันนี้
ด้านหนังของหวังซ่งคือลานกว้างขนาดใหญ่
ลานกว้างนี้ประกอบไปด้วยอาคารขนาด 5 ชั้น 3 แห่ง ส่วนด้านที่ว่างก็มีประตูเหล็กขนาดใหญ่และมีกำแพงล้อมรอบ
กำแพงสูงถึงสามเมตร หวังซ่งยังคงมองเห็นหอสังเกตการณ์ที่สร้างขึ้นอย่างหยาบๆ ภายในกำแพงด้วย ซึ่งมันก็มีคนคอยระวังอยู่
เมืองเซี่ยงไฮ้ตั้งอยู่ในทางทิศใต้ ในช่วงหลายสิบปีก่อน เมื่อประเทศยังด้อยพัฒนา มันก็มีหลายๆ ชนเผ่าอาศัยอยู่ที่นี่
เมื่อสังคมก้าวหน้าและเศรษฐกิจพัฒนาขึ้น แนวคิดเรื่องชนเผ่าก็ค่อยๆ ถูกแทนที่ด้วยสิ่งใหม่ๆ อย่างไรก็ตาม มันไม่อาจปฏิเสธได้ว่าในหลายๆ แห่ง มันยังมีความสัมพันธ์ที่คล้ายๆ กันนี้เหลืออยู่
มันมีบางตระกูลที่อาศัยอยู่รวมกัน คอยให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และมีความสามัคคีที่เข้มแข็ง
และบ้านที่อยู่ตรงหน้าของหวังซ่งก็คือบ้านบรรพบุรุษของตระกูลจางในหมู่บ้านกู๊ดโฮป
ตระกูลจางเป็นที่รู้จักดีในหมู่บ้านกู๊ดโฮป
ตระกูลใหญ่นี้มีสมาชิกเกือบร้อยคน แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้มีกฎของบรรพบุรุษเหมือนกับสมัยโบราณ แต่ความสามัคคีของพวกเขาก็ยังค่อนข้างดีเป็นปึกแผ่นอยู่
ทุกวันปีใหม่ มันจะมีคนมารวมกันกว่าร้อยคนเลย
เขาเฝ้าสังเกตอยู่นาน
สุดท้ายหวังซ่งก็ไม่สามารถระงับความสงสัยเอาไว้ได้
เขาเดินเข้าไปหาบ้านตระกูลจาง
แต่ก่อนที่หวังซ่งจะได้เข้าไปใกล้ประตู เขาก็ได้ยินเสียงดังมาจากหอสังเกตการณ์ด้านหลังกำแพง
“มีคนกำลังเดินเข้ามา! เขาเป็นคนจริงๆ!”
หลังจากหวังซ่งหยุดลง เขาก็เห็นหน้าต่างเล็กๆ บนประตูเหล็กเปิดออก และมีดวงตาคู่หนึ่งแอบมองออกมา
ดวงตาคู่นี้เป็นเหมือนกับไฟฉายในขณะที่พวกมันกวาดมองหวังซ่ง
เมื่อเขาเห็นรอยแผลเป็นบนคอของหวังซ่งซึ่งเกิดจากการกัดของซอมบี้ คนที่อยู่หลังประตูเงียบไปชั่วขณะ จากนั้นเขาก็พึมพำออกมา
“ผู้ตื่นเหรอ?”
หวังซ่งเงียบไปชั่วขณะก่อนที่จะพยักหน้า “ใช่แล้ว”
“แกร๊ก~~”
ประตูเหล็กเปิดออก
ชายวัยกลางคนร่างสูงโบกมือให้หวังซ่ง
“รีบเข้ามา”
…
หลังจากเดินเข้าไปในบ้านตระกูลจางแล้ว หวังซ่งก็ได้เห็นอะไรมากยิ่งขึ้น
กองเสบียงเหมือนภูเขาลูกเล็กๆ กองอยู่ที่ลานกว้าง และมันก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามีเสบียงถูกซ่อนไว้อีกเท่าไร
มันมีทั้งผู้หญิง เด็ก และผู้ชายที่กำลังถือคันธนูหรือมีดพร้าเอาไว้ที่ลานกว้าง
บรรยากาศตึงเครียดเล็กน้อย แต่เมื่อพิจารณาว่าเป็นวันสิ้นโลก มันก็ไม่ได้แปลกอะไร
ก่อนที่หวังซ่งจะได้สังเกตรอบๆ ต่อ ชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างๆ เขาก็พูดขึ้นมาว่า
“ฉันชื่อจางเย่ เป็นผู้นำของที่นี่ น้องชายล่ะชื่ออะไร?”
“ผมชื่อหวังซ่งครับ”
“อืม นายมาที่นี่เพื่อสังเกตการณ์หรือมาเพื่อหาที่หลบภัยล่ะ?”
คำพูดเหล่านี้ทำให้หวังซ่งลังเลอยู่ชั่วขณะ
ก่อนที่เขาจะทันได้ตอบ จางเย่ก็กล่าวว่า “ถ้านายอยากแค่มาดู ฉันก็จะพานายเดินดูรอบๆ เอง แต่ถ้านายอยากจะเข้าร่วมกับพวกเรา พวกเราก็ขอยินดีต้อนรับ เพราะผู้ตื่นแค่คนเดียวก็คงจะช่วยพวกเราได้เยอะเลย”
“พี่จาง พี่รู้จักผู้ตื่นด้วยเหรอ?”
“ใช่ ฉันเองก็ผู้ตื่น นอกจากฉันแล้ว พวกเรายังมีผู้ตื่นอีกสองคนอยู่ที่นี่ด้วย มิฉะนั้นพวกเราคงไม่สามารถคุ้มกันที่แห่งนี้ไว้ได้”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หวังซ่งก็เลิกคิ้วขึ้น
ที่นี่มีผู้ตื่นถึงสามคน!
นี่ไม่ใช่จำนวนน้อยๆ เลย
ประตูด้านหลังของเขาเปิดขึ้นอีกครั้ง และคนกลุ่มหนึ่งก็วิ่งเข้ามา
คนที่นำหน้าคือผู้หญิงอายุประมาณ 25 ปี เธอถือธนูและลูกธนูเอาไว้อย่างห้าวหาญ ในทันทีที่เธอเห็นจางเย่ เธอก็เดินเข้ามาหาเขาทันที
“พี่ พวกเราพาผู้รอดชีวิตกลับมาได้อีกเจ็ดคนค่ะ”
จางเย่พยักหน้ารับ และพูดออกมาทันทีว่า “ดูแลพวกเขาให้ดี”