ตอนที่ 19 : เจ้าของบ้านหญิงที่ชอบเล่น [Divine Domain]?
ลมกลางคืนพัดผ่านหน้าต่างมาโดนที่หน้าของแม็คเรย์
แม็คเรย์มองดูเงิน 105,000 หยวนที่อยู่ในบัญชีของเขาด้วยความว่างเปล่า
เขารู้ดีว่า
อีกห้าปีถัดไป สกุลเงินในชีวิตจริงเหล่านี้ก็จะไร้ค่า...
ในขณะที่ตัวตนของพวกเขาในโลกแห่งความจริงเองก็จะหายไปกับสายน้ำแห่งประวัติศาสตร์
แต่ตอนนี้ เขายังคงต้องการเงินนี่เพื่อรักษาชีวิตและช่วยให้สามารถเขาดําเนินการตามแผนของตัวเองได้
ในศึกวันนี้ สามารถพูดได้ว่า เขาได้รับชัยชนะเล็กๆน้อยๆติดมา
อย่างน้อย เขาก็สามารถ เพิ่มมูลค่าของวัตถุดิบให้สูงขึ้นได้
ส่วนคนที่ซื้อวัตถุดิบ...
พวกเขาเองก็ไม่ได้สูญเสียอะไรเช่นกัน พวกเขาเพียงแค่ใช้เงินจํานวนเล็กน้อยเท่านั้น
ก็ทำให้กิลด์ที่หนุนหลังพวกเขาโดดเด่นขึ้นอย่างรวดเร็วใน [Divine Domain]
นี่เป็นการลงทุนทางธุรกิจที่คุ้มค่าเช่นกัน
ท้ายที่สุด ผลกระทบจากวัตถุดิบหายากก็เป็นที่พูดถึงมาก!
...
แม็คเรย์ลุกขึ้นจากเก้าอี้
เขาเหยียดหลังเพื่อคลายความเมื่อยล้า
หลังจากย้อนเวลากลับมา ความคิดของแม็คเรย์ก็เปลี่ยนไปมาก
ในชีวิตก่อนหน้านี้ เขาต้องการเพียงแค่ความแข็งแกร่งเท่านั้น
แต่สุดท้ายแล้ว เขาก็หนีเงื้อมมือของสี่กิลด์ใหญ่ไม่พ้น
มันทําให้เขาตระหนักได้ว่า...
แม้แต่นักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดใน [Divine Domain] ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ หากต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่มีจำนวนมากกว่ามากเช่นนั้น
และไม่มีทางที่เขาจะสืบหาความจริงเบื้องหลังสิ่งที่เกิดขึ้นได้เลย
เมื่อนึกถึง
แม็คเรย์ตะคอกก็คำรามอย่างดุร้าย เขากําหมัดขวาจนแน่น
"กิลด์งั้นหรือ"
"ฉันก็จะก่อตั้งกองกำลังของตัวเองเช่นกัน"
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สําคัญที่สุดในตอนนี้คือการแก้ปัญหาที่ค้างไว้ก่อน
แม็คเรย์ยัดโน้ตที่เจ้าของบ้านทิ้งไว้ ลงในกระเป๋าของเขา
จากนั้นก็เดินออกจากห้องและถอนเงิน 10,000 หยวนมาจากตู้เอทีเอ็มที่ชั้นล่าง
หลังจากขึ้นมาชั้นบนแล้ว เขาก็เดินตรงไปที่ประตูห้องฝั่งตรงข้ามบ้านของเขาและเคาะประตู
ปัง!
ปังปัง!!!
หลังจากเคาะเป็นเวลานาน ก็ไม่มีใครออกมาเปิดประตู
แม็คเรย์ขมวดคิ้วเล็กน้อยและเคาะต่อไป
ปัง!
ปังปัง!!!
หลังจากนั้นไม่นาน
เป็นเวลาเดียวกับที่แม็คเรย์กําลังจะยอมแพ้และค่อยกลับมาใหม่ในวันรุ่งขึ้น
ประตูก็ถูกเปิดออก
ปรากฎใบหน้าที่บริสุทธิ์และดูทันสมัย
แต่ความไม่พอใจกลับปรากฎเต็มใบหน้าของหญิงสาว
ถึงกระนั้นเสียงของเธอก็ยังคงสงบและน่ารื่นรมย์
“นี่มันเที่ยงคืนแล้วนะ คุณไม่รู้หรือไง ว่าการรบกวนเวลาพักผ่อนของคนอื่นในเวลานี้มันไม่สุภาพมากน่ะ”
โดยไม่สนใจคําร้องเรียนของหญิงสาว แม็คเรย์ก็หยิบโน๊ตที่หญิงสาวทิ้งไว้และซองจดหมายที่บรรจุเงินหกพันหยวนออกมา เขายื่นมันให้หญิงสาวและพูดอย่างเกียจคร้านว่า
"นี่เงินของคุณครับ"
“หนี้สามเดือนและค่าเช่าของเดือนนี้ ทั้งหมดรวมเป็นเงิน 6,000 หยวน คุณสามารถต่ออายุได้เมื่อถึงเวลา”
หลังจากที่แม็คเรย์พูดจบ
เขาก็ไม่สนใจปฏิกิริยาของหญิงสาวอีก...
เขาดึงมือขวาของเธอออกมาและยัดเงินเข้าไป
หญิงสาวรู้สึกราวกับว่าหัวของเธอมีน้ําต้มเดือดอยู่
เธอรีบดึงมือกลับมา และพูดอย่างโกรธเคือง
“ฉันจะพูดซ้ำอีกครั้งนะ การที่นายมารบกวนคนอื่นตอนเที่ยงคืนแบบนี้ มันเสียมารยาทมาก”
"ผมต้องขอโทษด้วยครับ"
แม็คเรย์มองไปที่สาวสวยขี้โมโหที่หัวเตี้ยกว่าเขา
และพูดอีกครั้งอย่างจริงจัง
"ผมขอโทษครับ"
เมื่อหญิงสาวเห็นแม็คเรย์ขอโทษอย่างจริงใจแล้ว เธอก็ยอมรับคําขอโทษของเขา
แม็คเรย์มองไปที่หญิงสาวอีกครั้ง
เขาแตะจมูกของตัวเอง ก่อนจะเอ่ยเตือน
"คุณน่าจะกําลังเล่น [Divine Domain] อยู่"
“จากเสียงที่ได้ยิน คุณน่าจะกำลังสู้กับปีศาจแมวอยู่สินะ? ถ้าคุณไม่กลับไปเล่นต่อในตอนนี้ คุณอาจจะตายได้นะ”
หญิงสาวสูญเสียสีหน้าที่สงบของเธอทันที ในขณะที่ใช้มือขวาปิดปากสีชมพูของเธอและอุทานว่า
"โอ้ ไม่นะ!"
แล้วเธอก็ไม่สนใจแม็คเรย์อีก เธอรีบวิ่งกลับเข้าไปในห้อง
แม็คเรย์ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ในชีวิตก่อนหน้านี้ เขาอยู่คนเดียวมาเกือบแปดปี
เขาค่อนข้างทำได้แย่ในการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คน
สําหรับตัวเขาแล้ว การดีลกับผู้หญิงนั้นยากกว่าการจัดการกับเหล่าบอสระดับตํานานเสียอีก
...
เมื่อจูลี่กลับมาที่ห้องของเธอ
เธอก็โยนเงินทั้งหมดลงบนเตียง
เธอรีบกลับมาที่หน้าคอมฯ
ตามที่คาดไว้...
ตัวละครนักเวทย์ของเธอตายแล้ว รวมถึงเพื่อนร่วมปาร์ตี้ด้วยเช่นกัน
“เกิดอะไรขึ้นกับนักเวทย์น่ะ? เธอรู้วิธีเล่นไหมเนี่ย!?”
“ถูกต้อง ทําไมเธอไม่ขยับตัว? เราสามารถเคลียร์คลื่นของมอนสเตอร์นี้ได้แท้ๆ!”
“ไอ้บ้าเอ้ย! เราใกล้จะเคลียร์ได้แล้ว ถ้าไอเทมของเราดร็อปจะทำยังไงดี!”
"จ่ายค่าของที่เราเสียไปมาซะ!"
...
จูลี่อธิบายสาเหตุอย่างอดทน
แต่เพื่อนร่วมปาร์ตี้ของเธอจะรับฟังหรือ?
“ไม่ต้องอธิบาย กากก็คือกากอยู่วันยังค่ำ ไม่ต้องมาหาข้อแก้ตัว”
“ยังไงซะ เธอก็ AFK จริงๆ จะมีอะไรสําคัญไปกว่าการต่อสู้ของเราอีก!? พวกเราจะเล่นยังไงถ้านักเวทย์อย่างเธอ AFK”
"ถูกต้อง!"
...
จูลี่มองไปที่หน้าจอขาวดําแห่งความตายของเธอ
เมื่อได้ยินข้อกล่าวหาของเพื่อนร่วมปาร์ตี้
ครู่หนึ่ง เธอทั้งเสียใจและโกรธ
เธอไม่อยากโต้แย้งอะไรอีก จึงเลือกที่จะออกจากเกม
จากนั้นเธอก็ผลักเก้าอี้ออกไปด้วยความโกรธและยืนขึ้น คว้าซองจดหมายที่บรรจุเงินที่ชายน่ารําคาญมอบให้ เธอโยนมันลงบนพื้นด้วยความโกรธ
"ไอ้บ้า!"
ราวกับว่าเธอรู้สึกว่ามันไม่พอที่จะระบายความโกรธได้ จูลี่จึงถกกระโปรงยาวของเธอ เธอยกขาขึ้นและเหยียบไปที่ซองจดหมายที่น่าสงสาร
"ฮึ่ม!"
"ไอ้บ้า!"
"ใครบอกให้นายมารบกวนเวลาเล่นเกมของฉันกัน หะ!"
“ฉันต้องมาถูกเพื่อนร่วมปาร์ตี้ด่าเพราะนาย! มันเป็นความผิดของนายทั้งหมด!”
หลังจากกระทืบไปไม่กี่ครั้ง จูลี่ก็สงบลง เธอหยิบซองจดหมายที่ขาดรุ่งริ่งขึ้นมา
เมื่อมองไปที่เงินหกพันหยวนในมือ ก็มีคําถามผุดขึ้นมาในใจ
นายคนนี้มักจะค้างค่าเช่าเธอเสมอ จู่ๆเขาก็รวยขึ้นมาได้ยังไง?
อย่าบอกนะ ว่าเขาขโมยมา!?