ตอนที่แล้วCh2: ความสับสน 2
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปCh4: โลก 2

Ch3: โลก 1


"ทำไมวันนี้ช้านักวะ?" เฉินซู่ตงถาม เขาวิ่งไปหนึ่งเมตรต่อหน้าหลี่เฉิงอี้ โดยยังคงเด้งและขยับร่างกายอยู่ตรงจุดนั้น

"ฉันตื่นสายนิดหน่อยว่ะ เมื่อคืนฝันร้ายเลยนอนไม่หลับ" หลี่เฉิงอี้พ่นหายใจออก

"ช่วงนี้แกฝันร้ายทุกวัน ไม่ดีนะเว้ย หลังจากวิ่งไปไม่กี่รอบก็ทำเป็นหายใจไม่ออก อ่อนแอเกินไปหรือเปล่าวะ?" เฉินซูตงแสดงการเล่นด้วยนิ้วชี้และรอยยิ้มลามก

"ฮ่าๆๆๆ ไม่ว่าแกจะโง่แค่ไหนก็เถอะ แต่จะทำตัวงี่เง่าแบบนี้ตลอดได้ยังไงวะ แกสอนฟิตเนสนะเว้ย คุยกับนักเรียนตัวเองตลอดทั้งวัน และยังจะกล้าที่จะคุยกับฉันแบบนี้อีกด้วย" จิตใจของหลี่เฉิงอี้ไหลรินข้อมูลเกี่ยวกับเพื่อนที่อยู่ตรงหน้าเป็นชุดๆ และทำให้เริ่มพูดอย่างเป็นธรรมชาติ

"แล้วฉันกำลังคบหาใครอยู่รึเปล่า แกเข้าใจไหมว่าจรรยาบัญทางวิชาชีพคืออะไรเข้าใจคุณค่าทางอารมณ์มั้ยเนี่ย ถ้าลงทะเบียนเรียนกับฉัน แกจะไม่ใช่แค่มีร่างกายที่ดีแต่จะยังรู้สึกถึงความรักและความห่วงใยที่ขาดหายไปนานด้วย!" เฉินซูตงพูดอย่างไร้ยางอาย เขาตอบพร้อมงอนิ้วของเขา

"แกมันมืดมนจนฉันทนไม่ไหวแล้วเว้ย หลินซางอยู่ไหนเนี่ย?" หลี่เฉิงอี้ถาม

ตามความทรงจำก่อนหน้านี้พวกเขาทั้งสามออกกำลังกายด้วยกันมาตลอดสิบปีที่ผ่านมา มีการเปลี่ยนแปลงอะไรซักอย่างรึเปล่าเนี่ย

"โน้น คุยกันอยู่โน่น เฉินซูตงชี้ไปออกไปไกล "เธอขอให้เราล่วงหน้าไปก่อน เดี๋ยวซักหน่อยจะตามมา"

ใต้ร่มเงาต้นไม้ เด็กสาวสวมชุดกีฬารัดรูปสีเขียวอ่อนกำลังพูดคุยกับชายและหญิงหลายคนที่มีอายุใกล้เคียงกัน เธอเป็นเด็กสาวที่ไว้ผมหางม้าสูง--ผมดำเป็นมันเงา ผิวขาว เธอดูสดใสและเข้ากับคนง่ายมาก ยิ้มเป็นครั้งคราวเมื่อพูด

"เอาล่ะ" หลี่เฉิงอี้ถอนสายตาแล้วถาม "วิ่งมะ?"

"เอ้อ"

ทั้งสองคนเดินเคียงข้างกันไปตามรันเวย์สีแดงในสวนสาธารณะด้วยความเร็วที่ไม่มาก

"แกไม่ได้เคยบอกว่าแกส่งเรซูเม่มาก่อนเหรอ? การหางานเป็นอย่างไรบ้างวะ?" เฉินซูตงถามอย่างเป็นกันเอง

"ยากชิบ" หลี่เฉิงอี้ต้องการพูดคุยมากกว่านี้ เพื่อให้ความทรงจำที่คลุมเครือในใจเขาชัดเจนยิ่งขึ้น

"เฮ้ย ยากขนาดนั้นเลยเหรอวะ? พี่สาวแกก็อยู่นี่? ขอความช่วยเหลือจากเธอหน่อยสิ เธอคงมีวิธีฝากงานให้หรืออะไรสักอย่างแหละ" เฉินซูตงพูดอย่างไม่ใส่ใจ

"ฉันไม่อยากขอความช่วยเหลือว่ะ" หลี่เฉิงอี้ส่ายหัวเบาๆ "แกก็รู้ว่าเราสองคนมีความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่นี่นา"

"ไม่ว่าจะแย่แค่ไหนก็ยังเป็นพี่น้องกันเว้ย ถ้าแกจะยอมลดอีโก้ลงบ้างแกจะได้รับโอกาสมากกว่าคนอื่นๆ รึปัญหาคืออะไรล่ะ?" เฉินซูตงไม่เห็นด้วย

"ไว้ค่อยคุยกันทีหลัง ฉันคิดว่ามันยังโอเคที่จะพึ่งพาตัวเองตอนนี้" หลี่เฉิงอี้ยิ้ม "อย่างที่รู้ ฉันไม่ได้มีความทะเยอทะยานมากขนาดนั้น ไม่ได้อยากจะรุ่งโรจน์และความมั่งคั่งอะไรนักหรอก ฉันแค่อยากมีชีวิตที่เรียบง่ายว่ะ"

"ไร้สาระว่ะมึง" เฉินซูตงยิ้มเยาะ "ฉันคิดว่าแกโง่เพราะพี่สาวขี่คอแกอยู่ ทุกวันนี้ยังมีคนที่ไม่อยากก้าวหน้าในหน้าที่การงานด้วยเหรอ ถ้าแกพูดแบบนี้ ผู้คนจะหัวเราะตายห่า"

"ฉันไม่ใช่คนชอบแข่งขันนี่หว่า นี่อาจเกี่ยวข้องกับบุคลิกของฉันด้วย" ขณะที่หลี่เฉิงอี้พูด ความทรงจำในใจของเขาค่อยๆ รวมเข้ากับเจ้าของร่างคนเดิม อารมณ์ ความรู้สึก และมุมมองมากมายในสองช่วงชีวิตผสานเข้ากับสัมผัสของประโยคนี้อย่างนุ่มนนวล

"แล้วหลินซางล่ะ แกไม่สนใจเธอมาตลอดจริงดิ?" เฉินซูตงลดเสียงลงอีกครั้ง

"จริงเว้ย ฉันเคยล้อเล่นมาก่อนเรอะ" หลี่เฉิงอี้ส่ายหัว ถ้าจะมีใครสนในมันก็น่าจะเป็นเจ้าของร่างคนก่อนไม่ใช่เขา

พวกเขาทั้งสามอยู่ด้วยกันมาอย่างน้อยสิบปี

หลินซางไม่ใช่คนหน้าตาดี แต่เธอมีพลังและยังเด็กอยู่มาก และสำคัญคือเธอมีรูปร่างที่ดี ตอนที่พวกเขายังเด็ก หลี่เฉิงอี้และเฉินซูตงค่อนข้างจะกะโปโลกหน่อย แต่เมื่อพวกเขาโตขึ้นก็มุ่งเน้นไปที่การสำเร็จการศึกษาและการจ้างงานมากขึ้น ความคิดของเกี่ยวกับหลินซางจึงค่อยๆ จางหายไป

"เออ ถ้างั้นก็แค่มาช่วยฉันฟิตเนสคลับก็ได้นะ บ้านของฉันยังต้องการแผนกต้อนรับ" เฉินซูตงพูดติดตลกด้วยรอยยิ้ม

"เออ ถ้าแกพูดแบบนั้นแล้วก็อย่าลืมเหลือตำแหน่งไว้ให้ฉันด้วย" หลี่เฉิงอี้ทำตามคำพูดของเขาแล้วยิ้ม

ในบรรดาสามคนนี้ เจ้าของร่างคนเก่าจะมีอารมณ์ดีอยู่เสมอ อ่อนโยนมาก ไม่แข่งขันกับผู้อื่น และมักจะหลีกเลี่ยงการทะเลาะวิวาทกับผู้อื่น ดังนั้นเฉินซูตงจึงรู้ด้วยว่าหลี่เฉิงอี้จะไม่โกรธอะไรกับการล้อเล่นแบบนี้

"เฮ้ เซียวอี้ ตงจื่อ ช่วยฉันหน่อย" ในเวลานี้หลินซางโบกมือให้พวกเขาทั้งสองจากระยะไกล

ใบหน้าของหลินซางโดดเด่นมาก มีคิ้วคม ตาโต จมูกโด่ง และปากเล็ก ถ้าแค่แต่ละส่วนของหน้าตาก็พอใช้ได้ แต่เมื่อรวมทั้งหมดเข้าด้วยกันก็ทำให้รู้สึกแข็งทื่อ และแม้แต่รอยยิ้มก็ทำให้รู้สึกรู้สึกขนลุกซู่แปลกๆ ถ้าไม่ใช่เพราะรูปร่างอันแสนเช้งกะเด๊ะของเธอ ไอ้หน้าตาแบบนี้เหมาะจะเป็นผู้ชายมากกว่า (ถือว่าหล่อเลยล่ะ)

"เกิดอะไรขึ้น?" เฉินซูตงจูงหลี่เฉิงอี้ไปที่นั่น

"ช่วยยกเครื่องดื่มไปที่รถ" หลินซางชี้ไปที่กล่องเครื่องดื่มสีดำสองกล่องที่อยู่บนพื้น

ด้านหลังเธอมีชายและหญิงหลายคนที่เคยคุยกับเธอมาก่อนยืนอยู่

คนพวกนี้แต่งตัวดีอย่างเห็นได้ชัด ทั้งวัสดุที่ใช้และรูปแบบการตัดเย็บก็ทำมาอย่างปราณีตมาก มองแวบเดียวก็รู้ว่าไม่ใช่สินค้าราคาถูก

"เครื่องดื่มของใคร?" เฉินซูตงถาม

"จะถามอะไรเยอะแยะ? แค่ทำตามที่ขอก็พอ" หลินซางดูไม่พอใจ

ก็เมื่อทั้งสามคนอยู่ด้วยกันเด็กผู้ชายอีกสองคนจะคอยปกป้องเธอและช่วยเหลือเธอเสมอนี่นะ มันไม่ใช่ครั้งแรกที่จะมีอะไรแบบนี้

"มันจะดีเร้อ.. มันเป็นธุระของเราเองนี่" ในบรรดาคนพวกนั้น ชายสวมหมวกมีแหลมพูดอย่างลังเล

"ไม่เป็นไรหรอกค่า มันเป็นเรื่องเล็กๆ นั้นที่ต้องช่วยเหลือกันนี่นา" หลินซางตอบด้วยรอยยิ้ม "ยังไงซะพวกเขาก็มาออกกำลังกายที่นี่ทุกวันอยู่แล้ว ไม่ได้หนักหนาอะไรหรอก ถือว่าออกกำลังกายไปในตัว"

"ถ้างั้นก็ขอบคุณนะหลินซางน้องสาวกับน้องชายทั้งสอง" ชายในหมวกมีแหลมกล่าวอย่างอ่อนโยน

ทีนี้ก่อนที่หลี่เฉิงอี้จะเคลื่อนไหวได้ เฉินซูตงเป็นคนแรกที่ขึ้นไปและเริ่มเคลื่อนย้ายสิ่งของ เมื่อเห็นว่าเขาไม่ขยับ เฉินซูตงก็ตบแขนเขาเบาๆ

'เป็นเพราะปัวเคยชินหรือเปล่า?'

หลี่เฉิงอี้พูดไม่ออกและเหลือบมองหลินซางซึ่งยืนอยู่ข้างๆ คนเหล่านั้นที่กำลังพูดอยู่ ใบหน้าของหญิงสาวแสดงความพึงพอใจกับคำเยินยอเล็กน้อยและความกระตือรือร้นที่จะรวมเข้ากับวงกลมนั้น ซึ่งเผยให้เห็นอย่างชัดเจนโดยตัดสินจากสายตาของเขา แม้ว่าเขาจะขมวดคิ้วแต่ก็ไม่ยากทักท้วงอะไร เพราะยังไม่อยากทำอะไรที่ขัดกับนิสัยของเจ้าของร่างคนเก่าตอนนี้ เขาสูดลมหายใจแล้วเดินตามเฉินซูตงเพื่อช่วยย้ายกล่องเครื่องดื่มจำนวนรวมห้าสิบกล่องรวดไปยังรถออฟโรดสีดำที่อยู่ไม่ไกล

รถจอดที่ทางเข้าสวนสาธารณะ

หลินซางไม่ได้กลับมาเพื่อร่วมออกกำลังกายด้วยกันแต่ขึ้นรถกับคนพวกนั้นเฉยแถมโบกมือให้เขาและเฉินซูตงเป็นการอำลา ชายที่สวมหมวกมีแหลมก็โบกมือเบาๆ ให้พวกเขาเหมือนยังกะเป็นหัวหน้าแล้วก็บอกว่า "ขอบคุณ เราคงจะมีโอกาสได้มาออกกำลังกายด้วยกันในโอกาสหน้า" โดยที่พวกเขายังไม่ได้เห็นหน้าค่าตาชัดๆ ตั้งแต่ต้นจนจบเนี่ยนะ ไอ้หมวกเป็ดตัวนี้มีอารมณ์ดีที่สุด ออกรถไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับควันขาวทิ้งฝุ่นบางๆ ไว้รอบๆ

เฉินซูตงยืนอยู่ที่ทางเข้าสวนสาธารณะและถอนหายใจยาว

"มิสลินดูเหมือนจะพบเป้าหมายเล็กๆ แล้วว่ะ" เขาพึมพำ

"แล้วแกล่ะ?" หลี่เฉิงอี้ถาม

"ลูกชายของฉันจะสืบทอดมรดกของพ่อ" เฉินซูตงกล่าว"ทุกวันนี้สภาพแวดล้อมในการทำงานข้างนอกแย่มากนะ แกจะทำยังไง? ยอมกราบตีนพี่สาวจะดีกว่ามั้ง"

"แกไม่เข้าใจ" หลี่เฉิงอี้ส่ายหัว

"ก็ไม่เข้าใจจริงแหล่ะ สภาพแวดล้อมในปัจจุบันก็เป็นซะแบบนี้ การโค้งคำนับคนครอบครัวยังดีกว่าไปโค้งให้ต่อคนนอก" เฉินซูตงพ่นออกมา

หลี่เฉิงอี้ได้แต่เงียบ ไม่ตอบโต้อะไรอีก

ก็แค่วิ่งให้เสร็จ

กว่าเวลาครึ่งชั่วโมง เขาและเฉินซูตงคุยกันเยอะมาก

'ฉันมีความเข้าใจที่ลึกซึ้งและละเอียดมากขึ้นเกี่ยวกับความทรงจำที่มีรายละเอียดมากมายเกี่ยวกับเจ้าของร่างคนเดิมของฉัน'

'เมื่อฉันกลับถึงบ้าน พ่อแม่และพี่สาวของฉันไม่อยู่ที่นั่น' หลี่เฉิงอี้นึกถึงสิ่งที่หลี่เฉิงจิ่วพี่สาวของเขาพูดเมื่อวานนี้ว่าเธอจะพาแขกผู้มีเกียรติกลับบ้าน

หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่งเขาก็ลุกขึ้นเปลี่ยนเสื้อผ้า ดูนาฬิกาปลุกในโทรศัพท์แล้วเตรียมออกไปข้างนอก 'ฉันต้องไปมหาวิทยาลัยในเวลานี้' นาฬิกาปลุกอ่านว่าอาจารย์เฉินชาน

เมื่อหลี่เฉิงอี้เห็นชื่อครูสอนพิเศษดีๆ ที่เขาพบในวิทยาลัยบางอย่างก็เข้ามาในความคิดอย่างรวดเร็ว

ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นนักเรียนที่มีความโดดเด่นซึ่งอีกฝ่ายให้คุณค่าอย่างสูง แต่น่าเสียดายที่ครูสอนพิเศษของเขาแนะนำให้เขาเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยที่ดีกว่าเพื่อการศึกษาต่อที่ดีกว่า ในระหว่างค่ายฝึกอบรมเขามองเห็นขีดจำกัดของสติปัญญาอย่างแท้จริง คือความเข้าใจ ความเร็วในการคิดและการตอบสนองของเขาไม่สามารถตามทันบทเรียนได้ แม้แต่ในหมู่ผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่ พวกเขาก็ยังอยู่อันดับล่างสุด ประกอบกับการทะเลาะวิวาทกับพี่สาวของเขาหลี่เฉิงจิ่วที่ทวีความรุนแรงขึ้นในเวลานั้น ซึ่งทั้งสองเหตุการณ์ทำให้เจ้าของร่างคนก่อนรู้สึกสิ้นหวังเกี่ยวกับอนาคตของเอกวิชาที่เรียนไปโดยไม่มีความหวังใดๆ เลย

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาหลี่เฉิงอี้ก็ถูกโจมตีอย่างหนักและไม่สามารถฟื้นตัวได้ ในที่สุดฉันก็เรียนจบจากโรงเรียนในฐานะบัณฑิตศึกษาระดับปริญญาตรีธรรมดาและไม่ได้สอบระดับสูงกว่าปริญญาตรีด้วยซ้ำ

เมื่อดูบันทึกในโทรศัพท์ของเขา หลี่เฉิงอี้ก็สงบลง จากเมื่อวานถึงวันนี้ในที่สุดเขาก็มีเวลาที่จะเข้าใจโลกอย่างแท้จริง

ในยุคข้อมูลข่าวสาร วิธีที่ดีที่สุดในการทำความเข้าใจคือการมีสิ่งนี้อยู่ในมือ

เขาปิดบันทึกและเปิดเบราว์เซอร์บนโทรศัพท์มือถือของเขาแทน--จากนั้นค้นหาและเข้าสู่: แผนที่โลกทันที

คลิกป๋อม แถวใหญ่ของคำข้อมูลต่างๆ ได้รับการรีเฟรชบนหน้าจอโทรศัพท์

'แผนที่โลกล่าสุด'

'ดาวน์โหลดแผนที่ดาวเทียมทั่วโลกแบบ HD'

'แผนที่โลกเวอร์ชัน HD ขนาดใหญ่พิเศษ'

'แผนที่ทั่วโลกแบบ HD ระดับพรีเมียม'

แถวโฆษณายุ่งๆ ผสมกับภาพผู้หญิงสวยๆ ปะปนอยู่ข้างใน

มีตัวอักษรสีขาวมากมายบนพื้นหลังสีดำจนเขาไม่รู้ว่าจะเลือกอันไหน

'แค่เลือกอันหนึ่ง' หลี่เฉิงอี้ขยับมือของเขา พบลิงค์ธรรมดาที่สุดที่ไม่มีการตกแต่งใดๆ และคลิกไปที่มัน

หน้าจอโทรศัพท์ก็เปลี่ยนเป็นสีขาวทันที

สามพยางค์ค่อยๆ ปรากฏขึ้นตรงกลาง: หอเหวินซิน

มุมขวาล่างด้านล่างคือระบบที่ใช้: ระบบกำหนดตำแหน่งดาวเทียม Yiguo Linglong (ยี่กั้วหลินหลง)

'ยี่กั้ว?' บางอย่างฉีกขาดในความคิด

ในไม่ช้า สีขาวบนหน้าจอโทรศัพท์ก็จางหายไปและถูกแทนที่ด้วยดาวเคราะห์สีฟ้าอ่อนขนาดมหึมา

มีแผ่นพื้นและพื้นที่มหาสมุทรอยู่บนโลกใบนี้ แต่สิ่งที่ทำให้หลี่เฉิงอี้ประหลาดใจมากที่สุดคือคำพูดขนาดใหญ่ที่ทำเครื่องหมายไว้ที่ใจกลางดาวเคราะห์——โลกและดวงจันทร์

ไม่ใช่แค่โลก!

แต่มันคือโลกและดวงจันทร์เหรอ!?

ความทรงจำที่เกี่ยวข้องของเขาในเวลานี้ปรากฏอย่างรวดเร็ว

หลังจากนั้นทันที ราวกับว่าความเร็วเครือข่ายได้รับการรีเฟรช ดาวเคราะห์ดวงเล็กกว่ามากก็ค่อยๆ ปรากฏขึ้นที่ด้านข้างของดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ที่เรียกว่าโลกและดวงจันทร์ ซึ่งเป็นดาวเคราะห์ดวงเล็กที่มีสีขาวอมเทา--ค่อนไปทางสีขาว

ดาวเคราะห์ทั้งสองดวงอยู่ติดกันอย่างแปลกประหลาด และระยะห่างระหว่างนั้นก็เหมือนกับโลกและดวงจันทร์ในชีวิตของโลกก่อนหน้านี้ของเขา

แต่ขนาดของดาวสีขาวนั้นใหญ่กว่าดวงจันทร์หนึ่งวงอย่างเห็นได้ชัด

---หึ่มมมม----

เชี่ย ขึ้นมาทำไมในเวลานี้วะ

แต่นั่นล่ะหน้าต่างป๊อปอัปข่าวสำคัญจะปรากฏขึ้นที่ด้านบนของโทรศัพท์โดยอัตโนมัติ

'เครื่องบินพิเศษของรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงไวท์สตาร์ เทเรซา โอลี มาถึงอย่างเป็นทางการที่โอกา เมืองหลวงของฮิลติสถาน และเริ่มวางแผนสำหรับการประชุมความมั่นคงระดับโลกสิบห้าวัน'

"เพื่อเป็นการตอบสนองต่อความเก่าและการพังทลายของอาคารขนาดเล็กในเขตเมืองเดิม กระทรวงการเคหะและการพัฒนาเมือง-ชนบทของเมืองอี้กัว ได้ออกประกาศสำคัญเพื่อซ่อมแซมและก่อสร้างบ้านเรือนที่อยู่ในเขตอันตรายระดับ 5 ตามการสำรวจ ระดับเพื่อให้แน่ใจว่าที่อยู่อาศัยและการใช้ชีวิตตามปกติของชาวเมือง'

'เขตเมืองซุยหยางได้เริ่มการวางแผนฟื้นฟูน้ำและไฟฟ้ารอบใหม่ ผู้นำเทศบาลเยี่ยมชมสถานที่ด้วยตนเองเพื่อแสดงความเสียใจอย่างจริงใจต่อครัวเรือนที่ต้องการความช่วยเหลือ และมอบกองทุนบรรเทาทุกข์ที่สอดคล้องกันแก่ครัวเรือนจำนวนน้อยที่ลำบากอย่างยิ่ง'

'เป็นที่เข้าใจกันว่าหลังจากการปรับปรุงตามแผนนี้ ครอบครัวมากกว่า 1,300 ครัวเรือนจะได้รับประโยชน์ ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการปรับปรุงรูปลักษณ์ของเมืองสุยหยางอย่างสมบูรณ์'

***************

คนแปล: โลกพัฒนาไปไกลขนาดนั้นยังอุส่าห์หาเครื่องเล่นเทปคลาสเซ็ทมาใช้จนได้แฮะ (เห็นในบทที่1) ไปซื้อมาจากไหนเนี่ย

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด