บทที่ 85 : พิธีเข้ารับตำแหน่งโฮคาเงะ
บทที่ 85 : พิธีเข้ารับตำแหน่งโฮคาเงะ
"รู้สึกแปลกๆ แฮะ" ซึนาเดะพึมพำ เธอมองไปที่ซาโตรุอย่างเย็นชา
แม้ว่าซาโตรุจะนิสัยไม่ค่อยดีนัก แต่เขาก็แข็งแกร่งและดูดีมาก นอกจากนี้เขาก็เริ่มกล้าที่จะพูดคุยกับผู้อื่นก่อนแล้ว ดังนั้นซาโตรุยามนี้คงได้กลายเป็นชายในฝันของนินจาสาวหลายๆ คนเป็นแน่
แต่ซาโตรุจะให้ความสำคัญกับซึนาเดะเป็นอันดับแรกเสมอ
เป็นผลให้นินจาสาวจำนวนมากมองซึนาเดะไม่ค่อยดีสักเท่าไร
ซึ่งเธอคุ้นเคยกับมันดี
แต่เธอไม่ได้มีความสนใจที่จะแข่งขันกับผู้หญิงเหล่านี้
คางของซึนาเดะเชิดขึ้นเล็กน้อย มีรอยยิ้มภาคภูมิใจที่มุมปากของเธอ
“ซาโตรุ พาฉันไปที่ห้องโฮคาเงะหน่อยสิ” ซึนาเดะจับมือซาโตรุไว้พร้อมรอยยิ้มเยาะเย้ย
เพราะเธอคือคนที่สำคัญที่สุดในหัวใจของซาโตรุ
“กำลังประชันกันเหรอเนี่ย? น่าสนใจดีแฮะ” ซาโตรุเหลือบมองที่ซึนาเดะและคุเรไน
อิสตรี
ช่างน่าสะพรึงเสียจริง
ซาโตรุแสร้งทำเป็นปวดหัว ส่ายศีรษะพร้อมกับถอนหายใจแล้วพูดว่า "โอ๊ย ผมนี้มันช่างมีเสน่ห์มากมายเหลือล้นจริงเชียว"
“ถึงกับทะเลาะกันเพื่อผมเลย งั้นใครชนะเดี๋ยวให้จูบนะ” ซาโตรุยื่นข้อเสนอ
ทุกคนที่อยู่ ณ ที่นั้นต่างพูดไม่ออก
ซาโตรุ นายนี้ช่างกล้าพูดจริงๆ
"อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลย" เส้นเลือดปรากฏขึ้นบนหน้าผากของซึนาเดะ เธอบีบมือของซาโตรุด้วยแรงที่มากขึ้นกว่าเดิม
“ยังไงก็เถอะ เรามาเตรียมตัวสำหรับพิธีต่อไปกันดีกว่า มาเถอะๆ กระตือรือร้นกันหน่อย” ซาโตรุเหลือบมองนินจาที่อยู่ตรงนั้น จากนั้นก็คว้าตัวซึนาเดะแล้วหายตัวไป
"ฮึ" คุเรไนพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ หันหลังแล้วจากไป
'คนอย่างซาโตรุนี่น่ารำคาญที่สุด!'
'รอก่อนเถอะ'
'สักวันหนึ่งฉันจะให้นายต้องชดใช้…'
ทุกคนแยกย้ายกันไปและรีบไปที่จัตุรัสโฮคาเงะ เพราะพิธีเข้ารับตำแหน่งโฮคาเงะคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้
หลังจากประกาศเรื่องพิธีเข้ารับตำแหน่งของโฮคาเงะรุ่นที่ 5 แล้ว ข่าวนั้นก็คงจะแพร่กระจายไปทั่วโลกนินจา
…
นารูโตะวิ่งไปที่ทางเข้าหมู่บ้าน นอนอยู่บนพื้นเหมือนสุนัขที่หมดลมหายใจ เขาหอบหายใจแรงและมีเหงื่อออกไปทั่วร่างกาย
“แฮ่ก…แฮ่ก ฉันเหนื่อยมาก...ฉันเหนื่อยไม่ไหวแล้ว”
“นารูโตะ เจ้าโง่นี่ เร็วกว่าฉันได้จริงๆ สินะ” ซาสึเกะอยู่ในสภาพที่อ่อนแอมาก เขาคุกเข่ากับพื้น
เขาเร็วกว่านารูโตะ แต่ไม่ได้ทนทานเท่านารูโตะ
เป็นผลให้เขาถูกแซงหน้าโดยนารูโตะ
'นารูโตะ ไอ้สุดยอดคนงี่เง่ามันเร็วกว่าฉันงั้นเหรอ?!'
'ตลกหรือไง?'
"ฮะ...แฮ่ก แฮ่ก" ซาสึเกะหอบหายใจแรงๆ และมองดูนารูโตะด้วยแววตาโกรธจัด
หากมีโอกาส เขาจะต้องพิสูจน์ให้ไอ้เจ้างี่เง่าคนนี้เห็นว่าเขาคือคนที่แข็งแกร่งที่สุดในทีมที่เจ็ด!
หลังจากนั้นไม่กี่นาที
ชิซึเนะและซากุระก็มาถึงทางเข้าหมู่บ้านทีละคน
ไม่ต้องพูดถึงความเร็วของซาโตรุ เขาเร็วมาก เร็วจนพวกเขามองไม่เห็นหลังของเขาด้วยซ้ำ
เพราะซาโตรุหายตัวออกไปทันที แต่ทีมเจ็ดและชิซึเนะต้องวิ่งด้วยเท้าของพวกเขา
“อาจารย์ซาโตรุคนโกหก ไหนล่ะพิธีต้อนรับอันแสนอบอุ่น?” นารูโตะเงยหน้าขึ้นและมองไปทางทางเข้าหมู่บ้านที่ว่างเปล่า
ลมพัดเบาๆ และฝุ่นกำลังม้วนตัวปลิวออกไป
การต้อนรับอย่างอบอุ่น?
ไม่มีแม้แต่วิญญาณด้วยซ้ำ!
นารูโตะชี้ไปที่ทางเข้าหมู่บ้านที่ว่างเปล่าแล้วตะโกนด้วยความโกรธ “อย่าพูดถึงพิธีต้อนรับอันอบอุ่นเลย ไม่เห็นมีใครสักคนเดียว!”
“ที่หมู่บ้านกำลังจะต้อนรับท่านซึนาเดะต่างหาก ไม่เห็นมีใครบอกว่าจะต้อนรับเราสักหน่อยใช่ไหมล่ะ?” ซากุระบ่นอย่างปลงๆ
ใครพูดกับนารูโตะว่าพวกเขาจะจัดงานต้อนรับให้กัน?
ทุกคนจัดงานต้อนรับโฮคาเงะรุ่นที่ห้าต่างหาก
"งี่เง่า" ซาสึเกะวางมือลงในกระเป๋า พยายามเก็บความอ่อนแอของเขา และเดินไปที่จัตุรัสโฮคาเงะ
“หึหึ นายกำลังพูดอะไรอยู่นะไอ้บ้า” นารูโตะรีบวิ่งไปหาซาสึเกะ แล้วหันกลับมาและเยาะเย้ย “นายมันก็ได้แค่ที่สองเท่านั้นแหละ”
เป็นโอกาสอันหาได้ยากสำหรับเขาที่จะเอาชนะซาสึเกะได้ ดังนั้นเขาจึงต้องใช้จังหวะนี้ข่มสักหน่อย
ซาสึเกะเร่งฝีเท้าเดินไปข้างหน้านารูโตะแล้วพูดอย่างเย็นชา "นายคิดว่านายแข็งแกร่งมากงั้นเหรอ?"
นารูโตะเร่งฝีเท้าอีกครั้ง หลังจากเดินผ่านซาสึเกะไปแล้ว เขาก็เอามือแนบหูแล้วถามด้วยสีหน้างุนงง “นายกำลังพูดอะไรหรือเปล่าน๊าาาาา? ไอ้คนอันดับสอง”
ดวงตาของซาสึเกะแสดงความโกรธออกมา เขาคว้าคอเสื้อของนารูโตะแล้วพูดอย่างเย็นชา "หลังจากพิธีเข้ารับตำแหน่งโฮคาเงะ นายกับฉันมาสู้กันดีกว่า"
รอยยิ้มของนารูโตะหายไป และเขาขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วถามว่า "ซาสึเกะ นายพูดจริงไหมล่ะ?"
ซาสึเกะเงยคางขึ้นแล้วพูดด้วยท่าทีภาคภูมิใจ “ถ้ากลัวก็ยอมรับความพ่ายแพ้ได้นะไอ้เจ้าโง่”
“ซาสึเกะคุง นารูโตะ!” ซากุระก้าวไปข้างหน้าเพื่อหยุดพวกเขาด้วยความตื่นตระหนก ทั้งสองคนเมื่อครู่ก็ยังดีๆ อยู่ ทำไมจู่ๆ พวกเขาถึงเริ่มทะเลาะกันอีกแล้วเนี่ย?
“ออกไปนะยัยขี้เหร่” ซาสึเกะผลักซากุระออกไปและจ้องมองนารูโตะอย่างเย็นชา
เขาไม่สนใจซากุระ เขาสนใจแค่เอาชนะนารูโตะเท่านั้น
*ตุ้บ*
ซากุระที่กำลังอ่อนแอมากเนื่องจากความเหนื่อยล้าที่เกิดจากการวิ่งเป็นเวลานานก็ถูกซาสึเกะผลักเธอ จนล้มลงกับพื้นทันที
“แก...” นารูโตะจ้องด้วยสายตาโกรธเกรี้ยว เขาคว้าคอเสื้อของซาสึเกะแล้วพูดด้วยความโกรธ “ไอ้บ้านี้ แกขอโทษซากุระจังเลยนะ!”
ซากุระรู้สึกเจ็บปวดในใจ ลุกขึ้นพร้อมกับปัดฝุ่นออกจากเสื้อผ้าของเธอและฝืนพูดด้วยรอยยิ้ม “นารูโตะ ไม่เป็นไร ฉันไม่เป็นไร”
"ไอ้บ้านี้" นารูโตะกัดฟัน จ้องมองซาสึเกะด้วยความโกรธ และพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก “ตามที่นายต้องการ ฉันจะต่อสู้และเอาชนะนายในครั้งเดียว!”
ซาสึเกะชี้ไปที่ผ้าคาดหัวแล้วพูดเยาะเย้ย “ไอ้โง่งี่เง่า ถ้านายทำอะไรฉันได้แค่เพียงแค่หนึ่งครั้ง ก็ถือว่านายชนะการต่อสู้นี้ไปเลย”
“พวกเธอเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ? อย่าทะเลาะกันสิ…” ชิซึเนะกอดหมูสีชมพูและพยายามหยุดนารูโตะกับซาสึเกะ
"พี่สาวชิซึเนะ ยังไงไม่ช้าก็เร็วผมกับไอ้เจ้าบ้านี้ก็ต้องตัดสินกันอยู่ดีว่าใครแข็งแกร่งกว่ากัน" นารูโตะพูดด้วยน้ำเสียงเข้ม
เขารู้สึกได้เลยว่าคราวนี้ซาสึเกะจริงจัง
"ฮึ" ซาสึเกะแค่นเสียงออกมาอย่างเย็นชา ล้วงมือในกระเป๋ากางเกงและเดินไปที่จัตุรัสโฮคาเงะ
“ซาสึเกะคุง...” ดวงตาของซากุระหรี่ลง
'จะทำยังไงดี?'
'อาจารย์ซาโตรุคงจะสามารถหยุดนารูโตะและซาสึเกะไม่ให้สู้กันเองได้ใช่ไหม?'
เวลานี้เอง ที่หน้าตึกโฮคาเงะ
จัตุรัสโฮคาเงะเต็มไปด้วยผู้คน ไม่ว่าจะเป็นนินจาหรือคนธรรมดาพวกเขาต่างก็มองขึ้นไปบนยอดของตึกโฮคาเงะด้วยความหวัง
ทุกคนตกอยู่ในความเงียบ ต่างตั้งตารอสิ่งที่จะเกิดขึ้น
พิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งครั้งสุดท้ายของโฮคาเงะเกิดขึ้นเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว
ภายใต้สายตาที่จับจ้องของทุกคน ซึนาเดะสวมเสื้อคลุมโฮคาเงะและหมวกโฮคาเงะบนศีรษะของเธอ
“ฉัน ซึนาเดะ ขอประกาศ ณ ที่แห่งนี้”
ซึนาเดะมองดูผู้คนในจัตุรัสด้วยท่าทางที่กล้าหาญ และพูดอย่างภาคภูมิใจว่า "นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันคือโฮคาเงะรุ่นที่ห้า!"
“โอ้!!!! ยินดีด้วยท่านโฮคาเงะ!”
“เมื่อมีท่านซึนาเดะเป็นโฮคาเงะ ชาวบ้านอย่างพวกเราก็วางใจได้”
“ไหนตกลงกันว่าซาโตรุซังจะเป็นโฮคาเงะรุ่นที่ห้าไม่ใช่เหรอ?”
คนด้านล่างส่งเสียงเชียร์อย่างตื่นเต้น เสียงเชียร์และการพูดคุยก็ดังก้องไปทั่วทั้งหมู่บ้าน
ซึนาเดะเป็นวีรสตรีของสงครามนินจาครั้งที่ 2 และได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่บ้าน
“ซึนาเดะ...”
ชิมูระ ดันโซยืนอยู่บนยอดตึก ถือไม้เท้าสีน้ำตาลไว้ในมือ มองไปไกลด้วยใบหน้าเรียบเฉย
แววตาของดันโซดูน่ากลัวยิ่ง
เหตุผลก็เข้าใจได้ง่ายมาก
เขาเป็นคนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุดที่จะรับหน้าที่เป็นโฮคาเงะรุ่นที่ห้า
ก่อนหน้านี้เมื่อโฮคาเงะคนที่สองเสียชีวิต เขาพลาดตำแหน่งโฮคาเงะเนื่องจากไร้ความสามารถและความอ่อนแอ
เขาไม่เคยลืมวันนั้นได้ ดังนั้นเขาจึงต้องการพิสูจน์ตัวเองว่าเขามีคุณสมบัติที่จะได้รับตำแหน่งโฮคาเงะและปกป้องหมู่บ้าน
แต่นี้เป็นอีกครั้งที่เขาล้มเหลวในการเป็นโฮคาเงะ
คราวที่แล้วเป็นเพราะความอ่อนแอ แล้วคราวนี้คืออะไร?
เพราะ...ยางิว ซาโตรุ!
“ตาแก่ดันโซ สูญเสียตำแหน่งโฮคาเงะอีกแล้วเหรอ? โอ้ยน่าสงสารจริงๆ” ซาโตรุปรากฏตัวออกมาจากที่ไหนสักแห่ง นั่งบนราวเหล็กของอาคาร หยิบกระดาษทิชชู่ออกมาเขย่าเบาๆ แล้วพูดว่า "อย่าเศร้าไปเลยนะ ถ้าอยากจะร้องไห้ก็ร้องไห้เถอะ ร้องไห้ออกมาดังๆ เลย"
“ฮึ” ดันโซพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำพร้อมร่องรอยของความโกรธในดวงตาของเขา เขาจับไม้เท้าไว้แน่น “ฉันจะพิสูจน์ให้เห็นเองว่าฉันเป็นคนที่เหมาะสมที่สุดที่จะเป็นโฮคาเงะ!”
“อยากเป็นโฮคาเงะงั้นเหรอ?” ซาโตรุมองไปที่ดันโซ ชี้ไปที่หัวใจของดันโซด้วยอมยิ้ม แล้วพูดเรียบๆ “สิ่งที่ต้องทำคือการพิสูจน์ตัวตนที่อ่อนแอและขี้ขลาดต่างหาก”
“ตาแก่ คุณน่ะแตกต่างจากตัวตนเดิมในอดีตของคุณหรือเปล่าล่ะ?”
“เพราะความอ่อนแอเพียงครั้งเดียว มันก็เลยทำให้ไร้ความสามารถไปตลอดชีวิต”
“ตาแก่ คุณน่ะถูกสาปโดยอดีตของคุณเอง”
“แต่ทั้งความอ่อนแอและการไร้ความสามารถล้วนเป็นปัญหาของคุณเอง ทว่าหากมาสร้างปัญหาให้ซึนาเดะล่ะก็ นั่นจะกลายเป็นปัญหาของเราสองคนแล้ว”
ซาโตรุอมอมยิ้มไว้ในปากแล้วคว้าผ้าพันแผลที่ตาขวาของดันโซด้วยสีหน้าไม่แยแสและโหดร้าย จากนั้นเขาจึงพูดว่า "ตาแก่ ถึงจะใช้ตาขวาได้ ก็ไม่มีทางรอดพ้นจากเงื้อมมือของผมไปได้หรอก"
"ไร้สาระ" ดันโซปัดมือซาโตรุแล้วหันหลังเดินกลับออกไปอย่างช้าๆ
'ซาโตรุ เขารู้ความลับของตาขวาของฉันจริงๆ งั้นเหรอ?'
ต้องมีเหตุผลอะไรบางอย่างที่เขาพูดถึงเรื่องนี้แน่
คนเดียวที่รู้ความลับของตาขวาของเขาคืออุจิวะ อิทาจิ
'เป็นไปไม่ได้ที่อิทาจิจะเปิดเผยความลับของตาขวาของฉัน แล้วซาโตรุไปรู้ความลับของตาขวาของฉันมาจากไหน?'
แม้ว่าซึนาเดะจะแข็งแกร่ง แต่ซาโตรุก็จะปกป้องเธออยู่ดี
ซาโตรุพูดพร้อมรอยยิ้ม "พยายามให้หนักขึ้นหน่อยล่ะ ไอ้ตาแก่พิการ"