ตอนที่แล้วบทที่ 2 ดอกเหมยโดดเดี่ยวในค่ำคืนหิมะตก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 4 นิ้วทองบ้ากาม

บทที่ 3 เรื่องไม่คาดฝันในวันแรก


“คุณหลินคะ นี่คือสัญญาจ้างงาน ลองตรวจสอบรายละเอียดดูก่อน หากไม่มีปัญหาอะไร คุณเซ็นชื่อด้านล่างได้เลย”

ในรถตู้สีขาว โจวหยุนทำหน้าที่เป็นคนขับ โดยมีจางหงนั่งตรงเบาะข้าง ส่วนซูชิงเหม่ย และหลินโจวนั่งอยู่เบาะหลัง

อย่างไรก็ตาม ซูชิงเหม่ยกลับนั่งตัวตรง แทบเอาตัวไปชิดกับกระจกด้านซ้าย ดวงตาคู่งดงามของเธอในขณะนี้กำลังจ้องมองออกไปนอกหน้าต่าง

ราวกับว่ากำลังพยายามอยู่ให้ห่างจากหลินโจวให้ได้มากที่สุด

หลินโจวเกิดคำถามขึ้นมาในใจเล็กน้อยว่า หากเธอไม่ชอบอยู่ใกล้ชายแปลกหน้ามากขนาดนั้น แล้วทำไมถึงต้องจ้างผู้ช่วยที่เป็นผู้ชายด้วย?

ในขณะเดียวกัน จางหงที่นั่งอยู่เบาะข้างคนขับหันกลับมา ยื่นสัญญาฉบับหนึ่งให้หลินโจว

"ได้ครับ"

หลินโจวรับสัญญามาแล้วเริ่มตรวจสอบ เนื้อหาภายในสัญญาฉบับนี้เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ในห้องทำงานของซูชิงเหม่ยก่อนหน้านี้

ฝ่าย ก ซูชิงเหม่ย, ฝ่าย ข หลินโจว

เงินเดือน 10,000 หยวน + โบนัสเพิ่มเติม มีอาหารและที่พักให้

สัญญานี้จะมีอายุ 3 เดือน สำหรับการต่อสัญญาในอนาคตนั้นขึ้นอยู่กับดุลพินิจของฝ่าย ก

ฝ่าย ข จะต้องรักษาความลับเกี่ยวกับงานของตน ไม่อนุญาตให้เปิดเผยข้อมูลใด ๆ ของฝ่าย ก ต่อสาธารณะ และห้ามเปิดเผยต่อใครว่าตนได้ทำงานให้กับฝ่าย ก

หลินโจวอดขำไม่ได้ นี่มันไม่เหมือนกับงานผู้ช่วยแล้ว แต่กลับดูเหมือนเป็นงานสายลับอะไรทำนองนั้นมากกว่า

อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่ได้ใส่ใจ ท้ายที่สุดแล้วมันก็แค่เวลาเพียง 3 เดือนเท่านั้น สำหรับเขาแล้วนี่เปรียบเสมือนการหาที่พักใจหลังจากหย่าร้างเท่านั้น เวลานี้มากพอให้เขาเริ่มทำบางสิ่ง

ในขณะเดียวกันมันก็เป็นเวลาที่ดีสำหรับการตรวจสอบความสามารถในการคัดลอกความทรงจำต่างๆ ของโลกคู่ขนานไปด้วย

เมื่อครู่ เขาและซูชิงเหม่ยจับมือกันในช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ทันใดนั้นมันกลับส่งผลกระทบต่อการคัดลอกความทรงจำของเพลง 4 เพลงที่ไม่เคยคืบหน้าเลยแม้แต่นิดเดียวในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา

บางที การที่เขาได้สัมผัสกับร่างของนักร้องมันอาจจะเป็นเงื่อนไขในการช่วยปลดล็อกความทรงจำของโลกคู่ขนานก็เป็นได้

แต่ก่อนหน้านี้เขาก็เคยสัมผัสกับร่างของเซิ่นเหยา และมันยังเป็นการสัมผัสที่ลึกซึ้งกว่าตอนนี้มาก ทำไมเพลงทั้งสี่เพลงนั่นถึงยังคงติดอยู่ที่ 1% มาโดยตลอด?

แน่นอนว่าไม่มีใครให้คำตอบสำหรับคำถามนี้ได้ หลินโจวเองก็ไม่ได้คิดอะไรมากนัก และลงนามในสัญญาทันที

ซูชิงเหม่ยเองก็ลงนามในสัญญาด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุนี้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองในฐานะเจ้านายและผู้ช่วยส่วนตัวจึงเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ

จางหงมองไปที่ซูชิงเหม่ย: " ชิงเหม่ย ตอนนี้เราบอกเขาเลยดีไหม? "

ซูชิงเหม่ยถอนสายตาออกจากหน้าต่างรถและพยักหน้า

การแสดงออกของจางหงเปลี่ยนไป จากนั้นเธอก็ดึงรูปถ่ายสามรูปออกมาจากกระเป๋ายื่นมันไปให้หลินโจว

หลินโจวรับมาดู พบว่ามันเป็นรูปถ่ายของซูชิงเหม่ยทั้งหมด ซึ่งดูเหมือนว่ามันจะเป็นรูปที่เธอถูกแอบถ่าย และแต่ละรูปก็มีข้อความสามคำถูกเขียนไว้ - รอฉันนะ!

ลายมือนี้ดูบิดเบี้ยว สีแดงเลือด ดูน่ากลัวเล็กน้อย

คิ้วของหลินโจวขมวดเข้าหากัน ก่อนจะเงยหน้ามองไปยังจางหง: " มีคนต้องการปองร้ายคุณซู? พวกคุณมีเบาะแสคนร้ายหรือยังครับ? "

จางหงส่ายหน้า แล้วพูดว่า: " ตอนนี้ตำรวจยังคงกำลังช่วยตรวจสอบอยู่ค่ะ แต่ชิงเหม่ยเป็นบุคคลสาธารณะ เรื่องแบบนี้ค่อนข้างอ่อนไหว แต่ฉันก็หวังว่าตำรวจจะสามารถสืบสวนเรื่องนี้ให้กระจ่างโดยเร็ว"

หลินโจวพยักหน้าเชิงเข้าใจ “ดังนั้นคุณกำลังจะสื่อว่า หน้าที่จริงๆ ของผมก็คือการปกป้องคุณซูงั้นเหรอครับ?”

จางหงพยักหน้า และโจวหยุนหัวเราะร่าก่อนจะหันกลับมากล่าวเสริมว่า " คิกๆ จริงๆ แล้วพี่หลินต้องคอยคุ้มครองพี่ชิงเหม่ยอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง "

หลินโจว “........”

ครึ่งชั่วโมงต่อมา รถตู้ผู้จัดการขับเข้าไปในลานจอดรถใต้ดินของชุมชนแห่งหนึ่ง

หลินโจวมองไปที่ชื่อชุมชน และพบว่าชื่อค่อนข้างไพเราะคล้ายกับบทกวี - สวนเหมยหิมะ (สวนเสวี่ยเหมย)

โจวหยุนจอดรถเรียบร้อย จากนั้นก็เดินออกจากลานจอดรถเข้าไปในลิฟต์ ขึ้นไปยังชั้น 6

นี่เป็นบ้านสไตล์ตะวันตกขนาดเล็กหลายชั้นระดับไฮเอนด์ แต่ละชั้นมี 2 ห้อง มีทั้งหมด 6 ชั้น ซูชิงเหม่ยอาศัยอยู่ที่ชั้นบนสุด

เมื่อเข้าไปในบ้านของซูชิงเหม่ย มันกลับไม่ได้หรูหรามีระดับอย่างที่เขาจินตนาการไว้ สไตล์การตกแต่งค่อนข้างเรียบง่าย เฟอร์นิเจอร์ใช้โทนขาวเป็นส่วนใหญ่ ให้ความรู้สึกโดดเดี่ยวอยู่นิดหน่อย

บ้านของซูชิงเหม่ยมี 2 ชั้น ชั้นล่างประกอบด้วย ห้องนั่งเล่น ห้องทานอาหาร ห้องครัว และอีก 2 ห้อง

ข้างๆ ห้องครัวมีบันได ซึ่งนำไปสู่ชั้นสอง

“คุณหลินคะ จากนี้ไปคุณจะต้องพักอยู่ที่นี่” จางหงหันไปกล่าวกับหลินโจว

“ที่นี่เป็นบ้านของคุณซูไม่ใช่เหรอครับ? ผมต้องพักอยู่ที่นี่จริงๆ เหรอ?”

หลินโจวอึ้งไป สายตาของเขามองไปที่ซูชิงเหม่ยผู้ซึ่งเดินตรงไปที่หน้าต่างสูงทันทีที่กลับมาถึงบ้าน ผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะไม่ค่อยชอบเข้าสังคม แต่เธอกลับชอบยืนมองออกไปนอกหน้าต่าง ช่างเป็นอะไรที่ขัดแย้งกันจริงๆ

โจวหยุนยิ้มและพูดว่า: “ใช่ ฉันบอกแล้วไง วันหน้าที่ของพี่คือต้องคอยปกป้องพี่ชิงเหม่ยตลอด 24 ชั่วโมง ดังนั้น พี่ก็ต้องอาศัยอยู่ในบ้านเดียวกับเธออยู่แล้วสิ”

“เสี่ยวหยุน พี่หง วันนี้พวกพี่เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว กลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ”

ซูชิงเหม่ยที่ยืนอยู่ริมหน้าหน้าต่างบานใหญ่หันกลับมาพูดกับจางหงและโจวหยุน

“แต่ชิงเหม่ย...”

จางหงต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เมื่อเห็นการแสดงออกที่เย็นชาของซูชิงเหม่ย เธอถอนหายใจแล้วพูดกับหลินโจวว่า: " พรุ่งนี้ชิงเหม่ยจะต้องไปที่สตาร์ซิตี้เพื่ออัดรายการ " I am a Singer " เราจะมาถึงตอนแปดโมงเช้านะคะ "

หลินโจวพยักหน้า

ก่อนออกไปโจวหยุนยังหันมาขยิบตาให้หลินโจว พร้อมยกกำปั้นขึ้นเล็กน้อยแล้วพูดด้วยเสียงกระซิบว่า: “พี่หลิน สู้ๆ!!”

มุมบอกของหลินโจวกระตุกเล็กน้อย และเมื่อทั้งสองออกไปแล้ว ภายในบ้านก็เหลือเพียงซูชิงเหม่ยและหลินโจวเท่านั้น

“อะแฮ่ม…” หลินโจวกระแอมไปครั้งหนึ่ง เขาไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี

สาวสวยซูชิงเหม่ยคนนี้เย็นชาเกินไปหน่อยแล้ว ถึงกับทำให้เขาอ้าปากทำตัวไม่ถูก

ซูชิงเหม่ยยื่นมือออกไปที่โซฟา ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยเสียงที่ใสกังวานฟังดูแหบแห้งเล็กน้อย: "เชิญนั่งค่ะ"

หลินโจวนั่งลง จากนั้นเขาก็เห็นซูชิงเหม่ยหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาจากกระเป๋า แล้วยื่นให้เขา

หลินโจวรับกระดาษมาอ่านเนื้อหาที่เขียนไว้ บนแผ่นกระดาษปรากฏหัวข้อขนาดใหญ่ " ข้อตกลงการอยู่ร่วมกันของผู้ช่วยส่วนตัว" ซึ่งมีข้อความอีกเจ็ดถึงแปดบรรทัด:

" พื้นที่ที่ผู้ช่วยส่วนตัวสามารถใช้ได้ ได้แก่ ห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องนอน และห้องน้ำชั้นแรก ห้ามขึ้นไปชั้น 2 โดยเด็ดขาด"

"นอกจากการปฏิสัมพันธ์ที่จำเป็นในการทำงานแล้ว ผู้ช่วยส่วนตัวไม่สามารถยุ่งเกี่ยวแทรกแซงชีวิตส่วนตัวของซูชิงเหม่ยไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ ทั้งสิ้น"

"ผู้ช่วยส่วนตัวไม่สามารถพาใครมาที่บ้านได้"

"................"

ทั้งหมดนี้เป็นเงื่อนไขที่จำกัดหลินโจวไว้

แต่หลินโจวก็สามารถเข้าใจได้ ท้ายที่สุด ในฐานะของหญิงสาวต้องอาศัยอยู่ร่วมชายคากับชายแปลกหน้าเป็นเวลาสามเดือน เป็นใครก็ย่อมรู้สึกไม่สบายใจ

หลินโจวเดาว่าจางหงคือคนที่เสนอให้ว่าจ้างผู้ช่วยส่วนตัวและบอดี้การ์ด โดยที่ซูชิงเหม่ยไม่ค่อยจะเต็มใจนัก

ดังนั้น ซูชิงเหม่ยจึงได้นำเอา "ข้อตกลงการอยู่ร่วมกัน" นี้ออกมา หลังจากที่ผู้จัดการและผู้ช่วยส่วนตัวทั้งสองของเธอจากไปแล้ว

หลินโจวไม่สนใจความคิดของซูชิงเหม่ย เธอเป็นคนที่ไม่ชอบปฏิสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า ขณะเดียวกันเขาเองก็ไม่ค่อยชอบคนในวงการบันเทิงเช่นกัน

ซ้ำร้ายตอนนี้ชื่อเสียงของซูชิงเหม่ยก็ไม่ค่อยจะดีนัก บนอินเทอร์เน็ตเต็มไปด้วยข่าวลือที่ว่าเธอใช้ความสัมพันธ์ลับเพื่อไต่เต้าในวงการ และยังแอบเป็นบ้านน้อยของผู้มีอำนาจในวงการสักคน

หลินโจวจึงไม่มีความคิดใดๆ เกี่ยวกับเธอ

เขาแค่ต้องการหางานทำชั่วคราวเท่านั้น

จากนั้นหลินโจวลงนามในข้อตกลงอย่างรวดเร็ว ซูชิงเหม่ยรับข้อตกลงการอยู่ร่วมกัน และชี้ไปที่ห้องทางด้านซ้ายของห้องนั่งเล่น: " ห้องนั้นคือห้องของคุณ"

พูดจบเธอก็ลุกขึ้นเดินขึ้นบันไดไป

เมื่อเห็นดังนั้นหลินโจวจึงรีบถามขึ้นว่า “ที่บ้านมีวัตถุดิบอะไรเก็บไว้ไหมครับ? คืนนี้คุณซูอยากทานอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า?”

งานของผู้ช่วยส่วนตัวนี้ยังรวมถึงการทำอาหารด้วย ในระหว่างการสัมภาษณ์ จางหงถามหลินโจวเป็นพิเศษเกี่ยวกับทักษะการทำอาหารของเขา

อันที่จริงในสังคมปัจจุบัน ผู้ชายมักจะทำอาหารได้ดีกว่าผู้หญิง อย่างเช่น หลินโจวและเซิ่นเหยา ในตอนที่ทั้งสองอยู่ด้วยกัน หลักๆ แล้วหลินโจวจะเป็นคนทำอาหาร

"ฉันไม่หิว มีวัตถุดิบอยู่ในตู้เย็น คุณอยากทานอะไรก็จัดการเองได้เลย"

ซูชิงเหม่ยพูดจบ เธอก็ขึ้นไปชั้นบนทันที

หลินโจวยักไหล่ เขาได้ยินมาว่าซูชิงเหม่ยเพิ่งฟื้นตัวจากอาการป่วย แต่ตอนนี้ดูแล้ว สีหน้าของเธอดูไม่ค่อยจะดีนัก เหมือนว่าเธอจะยังไม่หายดีจริงๆ

แม้แต่ข้าวก็ไม่ยอมกิน เหอะ!! อยากไปเป็นนางฟ้าบนสวรรค์นักหรือไง?

ช่างเถอะ ยังไงซะเธอก็เป็นนายจ้าง ฉันก็แค่ผู้ช่วย พูดอะไรก็คงไม่ฟังหรอก

หลินโจวเปิดตู้เย็น ข้างในเต็มไปด้วยวัตถุดิบต่างๆ มากมาย คาดว่าโจวหยุนคงจะซื้อเตรียมเอาไว้

ตอนนี้ก็เย็นมากแล้ว หลินโจวไม่คิดเกรงใจอีก เขาหุงข้าวและลงมือทำข้าวราวแกงเนื้อหอมๆ ไปหม้อใหญ่

หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จแล้ว เขาก็นำเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวไปเก็บไว้ในห้องที่ซูชิงเหม่ยบอกไว้

ห้องนี้กว้างขวางพอสมควร มีหน้าต่างส่องสว่าง สะอาดสะอ้าน ทีวี คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่างๆ ก็ครบครัน อย่างกับอยู่ในโรงแรมระดับดาว

หลินโจวพยักหน้าอย่างพอใจ ทั้งยังคิดกับตัวเองว่า งานที่กินฟรีอยู่ฟรีอย่างนี้นับว่าไม่เลวเลย

ยกเว้นเจ้านายที่เปรียบเสมือนก้อนน้ำแข็งเคลื่อนที่ อย่างอื่นล้วนสมบูรณ์แบบ

เขาสามารถทำอะไรก็ได้อย่างอิสระบนชั้นหนึ่ง ไม่จำเป็นจะต้องอุดอู้อยู่ในห้องตลอดเวลา หลินโจวตั้งใจที่จะทำความคุ้นเคยกับพื้นที่ทั่วทุกมุมภายในบ้าน เพื่อป้องกันในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน

ขณะที่เดินออกจากห้อง เขาก็ได้ยินเสียงเปียโนและเสียงร้องเพลงเล็ดลอดมาจากชั้นสอง

ซูชิงเหม่ยคงกำลังซ้อมร้องเพลงอยู่

หลินโจวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เขาเคยฟังเพลงของซูชิงเหม่ยมาก่อน เสียงร้องและทักษะการร้องเพลงของเธอนั้นนับว่าไม่เลว แต่เขาก็ไม่คิดว่าเธอจะเล่นดนตรีได้ด้วย

อย่างไรก็ตาม เนื้อเสียงของเธอในยามนี้ไม่ใสกังวานเหมือนก่อน มีเสียงแหบแห้งเล็กน้อย คาดว่าน่าจะเกิดจากผลกระทบของการป่วยก่อนหน้านี้

จู่ๆ หลินโจวก็สะดุ้ง

กำลังคัดลอกความทรงจำของโลกคู่ขนาน เพลง [เสียดายที่ไม่ใช่เธอ] คืบหน้า 22%...

กำลังคัดลอกความทรงจำของโลกคู่ขนาน เพลง [เส้นทางธรรมดา] คืบหน้า 17%...

กำลังคัดลอกความทรงจำของโลกคู่ขนาน เพลง [พบเจอ] คืบหน้า 12%...

กำลังคัดลอกความทรงจำของโลกคู่ขนาน เพลง [ผู้กล้าหาญที่โดดเดี่ยว] คืบหน้า 6%...

ความคืบหน้าของการคัดลอกความทรงจำจากโลกคู่ขนานทั้ง 4 เพลงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย!

หลังจากฟังเสียงเพลงที่ซูชิงเหม่ยกำลังร้องอยู่บนชั้นสอง ความคืบหน้าของการคัดลอกความทรงจำเพลงทั้งสี่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ

ไม่กี่นาทีต่อมา เพลงก็จบลง ความคืบหน้าของเพลง " เสียดายที่ไม่ใช่เธอ " เพิ่มขึ้นถึง 35% ในขณะที่เพลง "ผู้กล้าหาญที่โดดเดี่ยว" น้ำชาที่สุด แต่ก็ยังคืบหน้าไปถึง 15% แล้วเช่นกัน

หลินโจวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เป็นไปได้หรือไม่ว่าการได้ปฏิสัมพันธ์กับซูชิงเหม่ยส่งผลกระทบต่อความทรงจำจากโลกคู่ขนานของเขา?

ในขณะเดียวกัน เสียงเปิดประตูและเสียงฝีเท้าก็ดังมาจากชั้นสอง

น่าจะเป็นซูชิงเหม่ยที่เดินออกจากห้องฝึกซ้อม

หลินโจวรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เขาวางแผนที่จะฟังเธอซ้อมร้องเพลงต่อไป เพื่อพิสูจน์ว่าเธอคือกุญแจที่มีผลต่อความทรงจำของโลกคู่ขนานจริงๆ หรือไม่?

“คุณซูครับ ผมทำข้าวราดแกงเนื้อเอาไว้ คุณอยากจะทานไหมครับ?”

หลินโจวตะโกนถามขึ้นจากชั้นล่าง

หลังจากนั้นไม่นาน ใบหน้าที่งดงามและซีดเซียวก็โผล่มาจากชั้นสอง และหันมาพูดกับหลินโจวว่า: " ฉันไม่หิวค่ะ "

เธอยังพูดต่ออีกว่า " ฉันกำลังจะอาบน้ำ คุณห้ามขึ้นมาบนชั้นสอง"

หลินโจวพยักหน้า: “คุณซู วางใจเถอะครับ ผมจะปฏิบัติตามข้อตกลงอย่างเคร่งครัด”

ซูชิงเหม่ยมองมาที่เขา ก่อนจะหันหลังกลับเข้าห้องไป

ผ่านไปครู่หนึ่งก็ได้ยินเสียงฝีเท้าและเสียงปิดประตูดังขึ้น จากนั้นก็มีเสียงน้ำดังขึ้นอย่างแผ่วเบา

หลินโจวไม่ได้ยืนอยู่ที่บันไดเพื่อฟังคนอื่นอาบน้ำ เขาทิ้งตัวลงบนโซฟา เงยหน้าขึ้นมองเพดาน และเริ่มคิดถึงอนาคตของตัวเอง

หลินโจวและเซิ่นเหยา ทั้งคู่ต่างจบจากมหาวิทยาลัยสาขาดนตรีเอกการขับร้อง ในแง่ของความสามารถทางวิชาชีพแล้ว หลินโจวนั้นมีความเชี่ยวชาญมากกว่าเซิ่นเหยาหลายเท่า

เพียงแต่ว่าเมื่อเซิ่นเหยาชอบยืนอยู่บนเวทีใต้แสงไฟเป็นจุดสนใจของผู้คน ในขณะที่หลินโจวกลับเรียบง่ายกว่ามาก เขาเต็มใจที่จะอยู่เบื้องหลังเพื่อคอยสนับสนุนเซิ่นเหยา

ตอนนี้เมื่อเขาได้ปลุกความทรงจำของโลกคู่ขนานในชาติที่แล้วขึ้นมา หลินโจวเชื่อว่าไม่ช้าก็เร็วผลงานในโลกเก่าเหล่านี้จะต้องโลดแล่นในวงการบันเทิงอย่างแน่นอน

ถึงเวลาที่เขาจะต้องลองใช้ความสามารถของตัวเองดูบ้างแล้ว

อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้วางแผนที่จะเซ็นสัญญากับบริษัทใดๆ บริษัทบันเทิงเหล่านั้นส่วนใหญ่มองศิลปินเป็นเพียงเครื่องมือในการสร้างรายได้เท่านั้น

ดูซูชิงเหม่ยเป็นตัวอย่าง เธอถูกผู้คนบนโลกออนไลน์โจมตีอย่างหนัก แต่ก็ยังไม่เห็นเทียนหยุนเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ออกมาทำอะไรเพื่อปกป้องเธอเลย พวกเขายังคงยุ่งอยู่กับการรับงานและส่งงานพรีเซนเตอร์ต่างๆ ให้แก่เธอ

ดังนั้นหลินโจวจึงวางแผนที่จะเป็นศิลปินมืออาชีพที่ไม่สังกัดบริษัทใดๆ

บนดาวเคราะห์สีน้ำเงินนี้ ศิลปินในอุตสาหกรรมบันเทิงทุกคนจะต้องเซ็นสัญญากับบริษัทตัวแทนจึงจะสามารถเดบิวต์ได้

อย่างไรก็ตาม นอกจากศิลปินมืออาชีพเหล่านี้แล้ว ยังมีมือสมัครเล่นที่มีความสามารถอีกมากมาย พวกเขาสามารถเผยแพร่ผลงานของตนเองบนแพลตฟอร์มที่เรียกว่า " สถานีมือสมัครเล่น " ได้

หากเป็นผลงานที่ดีพอ เมื่อยอดวิวสูงขึ้น ก็จะมีคนมอบรางวัลให้มากมาย มือสมัครเล่นเหล่านี้สามารถหาเลี้ยงชีพได้เช่นกัน

"สถานีมือสมัครเล่น" หรือที่เรียกกันว่าสถานี S

มันค่อนข้างคล้ายกับ Bilibili หรือ tiktok ในโลกเก่าของเขา ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มประเภทที่ทุกคนสามารถเผยแพร่ผลงานของพวกเขาได้โดยไม่มีข้อจำกัดใด ๆ

และเป้าหมายแรกของหลินโจวก็คือการกลายเป็นเทพเจ้าแห่งดนตรีที่สถานี S

ใช้สิ่งนี้เป็นจุดเริ่มต้น เมื่อมีชื่อเสียงมากพอแล้ว เขาก็จะจัดตั้งสตูดิโอของตัวเองและก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงอย่างเป็นทางการ

หลินโจวครุ่นคิดอยู่นาน ไม่ทันรู้ตัวฟ้าข้างนอกก็มืดลงแล้ว

แต่จนถึงตอนนี้ บนชั้นสองก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ

หลินโจวพลันรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ นี่ก็ผ่านไปกว่าหนึ่งชั่วโมงแล้ว ทำไมเธอถึงอาบน้ำนานขนาดนี้?

“คุณซู? คุณซูครับ!”

หลินโจวเดินไปที่บันไดทางขึ้นชั้น 2 และตะโกนเรียกเสียงดัง

แต่กลับไม่มีการตอบสนองใดๆ

ทันใดนั้น หลินโจวก็สังเกตเห็นว่ามีน้ำหยดไหลลงมาที่บันได!

เมื่อเห็นดังนั้น หลินโจวก็ลืมเรื่อง “ข้อตกลงของการอยู่ร่วมกันไปเสียสนิท” เขารีบพุ่งขึ้นบันไดไปยังชั้น 2 ทันใดนั้นเขาก็เห็นว่าไฟในห้องน้ำทางด้านขวายังคงเปิดอยู่ แต่กลับมีน้ำไหลออกมาจากรอยแยกของประตูไม่หยุด

หลินโจตัดสินใจรีบเคาะประตูทันที “คุณซู! คุณซูเป็นอะไรหรือเปล่าครับ!”

ยังคงไร้ซึ่งการตอบสนอง

หลินโจวลองบิดลูกบิดประตู และพบว่ามันถูกล็อกจากด้านในเขาไม่สามารถเปิดมันได้

สถานการณ์คับขัน หลินโจวไม่มีเวลาให้คิดอะไรอีก เขาถอยห่างออกไปราวสองก้าว ก่อนจะถีบประตูอย่างแรง และรีบพุ่งเข้าไปด้านใน

ห้องน้ำมีขนาดกว้างขวาง แบ่งเป็นสัดส่วนเปียกแห้ง มีห้องอาบน้ำฝักบัว และข้างๆ เป็นอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่

แต่น้ำก็ยังคงไหลออกจากอ่างอาบน้ำอย่างต่อเนื่อง!

ขณะนี้ ร่างเปลือยเปล่าของซูชิงเหม่ยกำลังนอนแน่นิ่งอยู่ในอ่างอาบน้ำโดยไร้ซึ่งการเคลื่อนไหว

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด