บทที่ 10 บางทีคุณอาจคิดมากเกินไป
“เซิ่นเหยา? ผมกำลังทำงานอยู่ คุณมีอะไรก็คุยกันทางโทรศัพท์ก็ได้”
หลินโจวคาดไม่ถึงจริงๆ ว่าเซิ่นเหยาจะโทรหาเขา เขาจะนัดไปเล็กน้อย ก่อนจะตอบกลับไป
“หลินโจว นายทำงานอะไร?” จู่ๆ เซิ่นเหยาก็ถามขึ้น
หลินโจวกล่าวว่า: "ก็อย่างที่คุณเห็น ผมเป็นผู้ช่วยของซูชิงเหม่ย"
ทันใดนั้นเสียงของ เซิ่นเหยาก็ดังขึ้น: "หลินโจว เรามีช่วงเวลาที่ดีต่อกัน ฉันหวังว่าเราจะจบความสัมพันธ์นี้ด้วยดี ฉันอยากจะคุยกับนายดีๆ อีกสักครั้ง"
หลินโจวพูดด้วยความประหลาดใจ: "ตกลงกันแล้วไม่ใช่หรือว่าเราจะไปทำเรื่องหย่ากันในอีก 1 เดือน? แล้วเรายังมีอะไรที่ต้องคุยกันอีก? "
เซิ่นเหยาเงียบไปชั่วครู่ จากนั้นเสียงของเธอก็อ่อนลงเล็กน้อย: "หลินโจว ฉันรู้ว่าซูชิงเหม่ยพักอยู่ที่โรงแรมฮิลตัน ชั้น 1 มีร้านกาแฟอยู่ ฉันจะรอนายอยู่ที่นั่น"
พูดจบเธอก็ตัดสายไป
หลินโจวสับสนเล็กน้อย เขาไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้ต้องการพูดอะไรกับเขาอีก
ในเวลาเดียวกัน เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น เขาเดินไปเปิดประตู และเห็นว่าเป็นโจวหยุน
สาวน้อยหน้ากลมเดินเข้ามาแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า: "พี่หลิน ก่อนหน้านี้พี่หงเพิ่งถามพี่ชิงเหม่ยไป เธอบอกว่าพี่ทำงานได้ดีทีเดียว หายากนะเนี่ย ฉันยังคิดว่าพี่ชิงเหม่ยคงไม่ยอมให้ผู้ชายคนไหนอาศัยอยู่ในบ้านของเธอเสียอีก”
หลินโจวคิดกับตัวเองว่า ถ้าเธอรู้ว่าเมื่อคืนฉันทำอะไรกับพี่ชิงเหม่ยของเธอบ้าง พวกเธอคงจะไม่พูดแบบนี้แน่
เขายิ้มและพูดว่า "คุณโจว ชมกันเกินไปแล้ว"
โจวหยุนหัวเราะเบา ๆ และพูดว่า "ฉันเรียกพี่ว่าพี่หลิน พี่เรียกฉันว่าโจวหยุนเฉยๆ ก็ได้"
หลินโจวยิ้มและตอบว่า: "ได้สิ ว่าแต่เธอรู้ไหมว่าทำไมบนโลกออนไลน์ถึงมีข่าวลือเสียๆ หายๆ กับคุณซู มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? "
พอพูดถึงเรื่องนี้ ใบหน้ากลมๆ ของโจวหยุนก็แดงก่ำด้วยความโกรธ จากนั้นเธอก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ขุ่นเคืองว่า: “เป็นพวกกองทัพน้ำนั่นต่างหากที่รับเงินมาปล่อยข่าวลือ! พี่ชิงเหม่ยไม่เคยมีความรักด้วยซ้ำ แล้วเธอจะไปเป็นเมียน้อยได้ยังไง! คนพวกนี้น่ารังเกียจมากจริงๆ!”
หลินโจวพยักหน้า เขาสังเกตเห็นตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้ว พูดง่ายๆ ก็คือซูชิงเหม่ยไม่ถนัดการเข้าสังคม แต่ถ้าจะพูดให้ตรงกว่านั้นก็คือเธออาจมีอาการกลัวการเข้าสังคมอยู่เล็กน้อย
ผู้หญิงแบบนี้แค่ดูก็รู้ว่าไม่ค่อยได้ใกล้ชิดกับผู้ชาย แล้วเธอจะมีเรื่องอื้อฉาวอย่างที่ว่ากันได้อย่างไร? ส่วนเรื่องการเป็นเมียน้อยนั้นยิ่งไกลตัวเข้าไปใหญ่
หลินโจวสังเกตเห็นถึงความหมายที่ซ่อนอยู่ในคำพูดของโจวหยุน และขมวดคิ้วเล็กน้อย: “คู่แข่งเหรอ?”
การว่าจ้างกองทัพน้ำเพื่อดิสเครดิตคู่แข่งถือเป็นเรื่องปกติในวงการบันเทิง ในเมื่อซูชิงเหม่ยโด่งดังขนาดนี้ ไม่รู้ว่าเธอขวางทางคนอื่นไปมากมายแค่ไหนแล้ว ในเมื่อไม่สามารถใส่ร้ายเธอจากรูปร่างหน้าตาและความสามารถในสาขาอาชีพได้ ก็ทำได้เพียงเจาะจงไปที่เรื่องชีวิตส่วนตัวเท่านั้น
โจวหยุนมองซ้ายมองขวา ก่อนจะกล่าวด้วยเสียงกระซิบ อย่างจริงจังว่า: "ฉันได้ยินจากพี่หงว่าคนที่จ้างกองทัพน้ำเพื่อดิสเครดิตพี่ชิงเหม่ยอาจเป็นศิลปินจากค่ายเทียนหยุนเอ็นเตอร์เทนเมน"
“เทียนหยุน เอ็นเตอร์เทนเมน? งั้นก็ค่ายเดียวกับคุณซูไม่ใช่เหรอ? ใครรู้เรื่องนี้บ้าง?”
หลินโจวอึ้งงานไปช่วงลูกและคิดในใจว่า ‘นี่มันร้ายกาจเกินไปแล้ว เป็นเพื่อนร่วมงานกันยังลงมือใส่ร้ายกันเองอีก’
โจวหยุนยกมือเล็กๆ ของเธอขึ้นป้องปาก เธอทำท่าทางเหมือนกลัวว่าใครจะได้ยิน และแอบกระซิบกับหลินโจว
หลินโจวรู้สึกอกหักเล็กน้อย กับท่าทีที่เหมือนในหนังสายลับของโจวหยุน เธอคงไม่คิดว่าจะมีแมลงติดเครื่องดักฟังอยู่ในห้องนี้หรอกใช่ไหม?
แต่เขาก็ยังคงให้ความร่วมมือกับโจวหยุน ก้มลงแล้วแนบหูไปใกล้ๆ โจวหยุน และได้ยินเสียงโจวหยุนกระซิบว่า:
“อาจจะเป็นเซิ่นเหยา”
-----------------------
ห่างจากโรงแรมฮิลตันที่หลินโจวพักอยู่เพียงถนนเดียว มีโรงแรมห้าดาวอยู่อีกแห่ง
เฉินจือถามเซิ่นเหยาที่เพิ่งวางโทรศัพท์ลง “เขาไม่ยอมพบเธองั้นเหรอ?”
เซิ่นเหยายิ้มและพูดว่า: "เขาไม่มีทางไม่อยากเจอฉันหรอก เพียงแค่แกล้งทำเป็นเย็นชาเพื่อดึงดูดความสนใจของฉันก็เท่านั้นแหละ ฉันรู้จักเขาดี"
พูดจบ เธอก็สวมหมวก แว่นกันแดด และหน้ากากอนามัย เตรียมตัวไปยังร้านกาแฟ
ครั้งนี้เธอต้องคุยกับหลินโจวให้ดีๆ เพื่อให้หลินโจวเลิกฝันลมๆ แล้งๆ เสียที หย่าขาดนอนกับเธอด้วยความเต็มใจ และให้เขาสัญญาว่าจะไม่มาตามรังควานเธออีกต่อไป
เฉินจือกล่าวว่า: "ฉันจะไปกับเธอ"
เซิ่นเหยาพยักหน้า แล้วทั้งสองก็ออกจากโรงแรมไปด้วยกัน มาที่ร้านกาแฟบนชั้นหนึ่งของโรงแรมฮิลตัน
แต่ทั้งสองคนไม่ได้นั่งด้วยกัน เฉินจื่อนั่งอยู่อีกโต๊ะ เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินตลอดเวลา ก็กลัวว่าหลินโจวจะควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่อยู่ แล้วตามตื๊อเซิ่นเหยาไม่เลิก
เซิ่นเหยานั่งรอเป็นเวลานาน แต่หลินโจวก็ไม่ปรากฏตัว
เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกกระวนกระวาย หรือว่าฉันเดาผิดไป หลินโจวไม่ได้ต้องการตามตื๊อฉัน แต่เขาแค่ได้งานเป็นผู้ช่วยของซูชิงเหม่ยจริงๆ?
ในขณะที่ความคิดของเธอกำลังตีกันอยู่ในสมองอย่างบ้าคลั่งนั้น จู่ๆ ร่างที่คุณเคยก็เดินเข้ามาในร้านกาแฟ
ดวงตาของเซิ่นเหยาเปล่งประกาย เธอปรับท่านั่งให้ดูดีมากที่สุด ในเวลานี้เธอรู้สึกมั่นใจขึ้นมาก
เสน่ห์ของฉันไม่มีผู้ชายคนใดที่ไม่อาจต้านทาน แม้แต่หลินโจวที่อยู่กินกันมาตลอด 3 ปีก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
แต่การมีเสน่ห์มากเกินไป ก็อาจนำพาความยุ่งยากมาให้เช่นกัน นี่แหละคือความทุกข์ของผู้หญิงสวย รวย เก่ง
เซิ่นเหยาโบกมือเบา ๆ ให้หลินโจวด้วยอารมณ์ที่ทางภาคภูมิใจและเป็นกังวล
หลินโจวเข้ามาแล้วนั่งลงฝั่งตรงข้าม เซิ่นเหยาที่สวมแว่นกันแดดก็ถอนหายใจแล้วพูดว่า: "หลินโจว นายทำแบบนี้ไปเพื่ออะไรกัน? "
หลินโจวสับสน: "คุณหมายถึงอะไร? "
เซิ่นเหยาพูดอย่างหนักแน่นว่า: "ฉันรู้ว่านายยังไม่ลืมฉัน แต่ระหว่างเรามันจบลงแล้ว นายต้องเรียนรู้ที่จะยอมรับความจริง เราต่างไม่เหมาะสมกัน ในอนาคตนายอาจจะเจอกับผู้หญิงที่เหมาะสมกับนายก็ได้นะ”
หลินโจวตกตะลึง: “นี่คุณนัดผมออกมาก็พูดเรื่องนี้จริงๆ เหรอ?”
เซิ่นเหยากล่าวต่อว่า: "จริงๆ แล้ว ฉันก็ไม่อยากเห็นนายทำตัวแบบนี้ต่อไปหรอก หลินโจว ปล่อยวางเถอะ แบบนี้ดีกับเราทั้งสองคนมากกว่า"
เธอพูดพลางหยิบบัตรธนาคารออกมาใบหนึ่งและผลักมันไปตรงหน้าของหลินโจว: “ในนี้มีเงินอยู่ 5 ล้าน รหัสผ่านก็คือวันเกิดของนาย”
หลินโจวมองเธออย่างอธิบายไม่ถูก
เซิ่นเหยากล่าวต่อว่า: "หลินโจว เราสองคนอดีตที่สวยงาม แม้ว่าเราจะเลิกกันแล้ว แต่เราก็ยังเป็นเพื่อนกันได้ใช่ไหม? ในฐานะเพื่อน ฉันหวังว่านายจะมีชีวิตที่ดี เงิน 5 ล้านนี้ไม่ว่านายจะอยู่ที่ไหน นายก็สามารถเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้ แต่งงานมีลูกสร้างครอบครัวและมีชีวิตที่ดีกว่าคนทั่วไป จะถือว่าเป็นการชดเชยของฉันก็ได้"
หลินโจวก้มหน้าลงและมองไปยังบัตรธนาคารบนโต๊ะ ในที่สุดเขาก็เข้าใจ จากนั้นเขาก็หัวเราะอย่างไร้อารมณ์: “คุณกำลังกลัวว่าผมจะบอกคนอื่นเกี่ยวกับเรื่องของเราใช่ไหม?”
เซิ่นเหยาถอดแว่นกันแดดออก ก่อนจะพูดออกมาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความจริงใจว่า: " ฉันหวังดีกับนายจริงๆ ฉันรู้ดีว่าคนอย่างนายไม่เหมาะกับวงการบันเทิง เชื่อเถอะว่าการเป็นคนธรรมดาที่ไม่ต้องแบกรับแรงกดดันใดๆ ก็ถือว่าเป็นชีวิตที่มีความสุขอย่างหนึ่งเหมือนกัน"
หลินโจวเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ถอนหายใจ: "ดูท่าคุณจะไม่เคยเข้าใจผมจริงๆ "
เขาผลักบัตรธนาคารกลับไป แล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย: "การที่ผมมาเป็นผู้ช่วยของซูชิงเหม่ยนั้นมันก็เป็นเพียงเรื่องบังเอิญ ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณจะมาอัดรายการที่สถานีโทรทัศน์สตาร์ซิตี้ เซิ่นเหยา ผมคิดว่าบางที.. ”
หลินโจวมองหน้าเซิ่นเหยาก่อนจะกล่าวต่อว่า: “บางทีอาจจะเป็นคุณฝ่ายเดียวก็ได้ที่คิดมากเกินไป?”
เซิ่นเหยาตกตะลึง เธอจับจ้องไปที่ใบหน้าของหลินโจวอย่างตั้งใจ ราวกับกำลังตัดสินว่าเขาโกหกหรือไม่?
หลินโจวไม่ต้องการรื้อฟื้นประเด็นนี้อีกต่อไป ทันใดนั้นเขาก็ถามขึ้นว่า:
“ซูชิงเหม่ยถูกคนใส่ร้ายเมื่อไม่นานมานี้ คุณรู้ไหมว่าใครเป็นคนทำ?”
เซิ่นเหยาชะงักไปครู่หนึ่ง ดวงตาของเธอไหววูบ “คุณถามเรื่องนี้ทำไม?”
หลินโจวโบกมือแล้วพูดว่า "แค่สงสัยหน่ะ ผมจำได้ว่าเฉินจือเหมือนจะรู้จักกับหัวหน้าทีมกองทัพน้ำอยู่หลายคน"
เซิ่นเหยาขมวดคิ้ว ขณะมองไปยังหลินโจวขึ้นๆ ลงๆ “นายคงไม่ได้ออกมาพบฉัน เพราะอยากถามเรื่องนี้หรอกใช่ไหม”
ทันใดนั้นหลินโจวก็หัวเราะและลุกยืนขึ้น "ผมรู้คำตอบแล้ว ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมคงต้องขอตัวก่อน"
หลังจากพูดจบ เขาก็เดินออกจากร้านกาแฟไปทันทีโดยไม่ลงเล
เซิ่นเหยา มองไปที่แผ่นหลังของหลินโจวด้วยความสับสนในดวงตาของเธอ
เฉินจือนั่งลงตรงข้ามกับเซิ่นเหยา สีหน้าของเธอในเวลานี้ดูไม่ค่อยดีนัก “หลินโจวรู้ได้นังไงว่าเราซื้อกองทัพน้ำเพื่อโจมตีซูชิงเหม่ย”
เซิ่นเหยาส่ายหัวโดยยังคงมองที่ประตูร้านกาแฟจากระยะไกล แต่ร่างนั้นได้เดินหายออกไปแล้ว
“หรือว่าฉันจะไม่รู้จักเขาดีพอจริงๆ ?”
*****กองทัพน้ำ คำสแลงที่สื่อถึงพวกรับจ้างปั่นกระแส