ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 2 ดอกเหมยโดดเดี่ยวในค่ำคืนหิมะตก

บทที่ 1 ระยะเวลาพิจารณาก่อนหย่า


“ระยะเวลาพิจารณาก่อนหย่า?”

เมืองหลินเจียง เขตหมิงจู

สำนักงานกิจการพลเรือน ฝ่ายงานทะเบียนสมรส

สำนักงานทางด้านซ้ายเป็นห้องสำหรับจดทะเบียนสมรส ประตูดูเงียบเหงา

ส่วนสำนักงานทางด้านขวาเป็นห้องสำหรับยื่นคำร้องขอหย่าร้างซึ่งมีคนต่อแถวเป็นจำนวนมาก

ในเวลานี้ หญิงสาวสวมหมวก แว่นกันแดด ใบหน้าถูกปิดบังด้วยหน้ากากอนามัย รูปร่างและบุคลิกโดดเด่น กำลังขมวดคิ้วขณะถามเจ้าหน้าที่

ข้างๆ เธอมีชายหนุ่มคนหนึ่งอายุราว 25-26 ปี ร่างกายสูงโปร่ง คิ้วคมเข้ม นัยน์ตาสุขุมเปล่งประกาย

ทั้งสองคนมาต่อแถวที่สำนักกิจการพลเรือนตั้งแต่เช้าก่อนเปิดทำการ ในที่สุดก็ถึงคิวของพวกเขา ยื่นใบหย่าที่ลงนามแล้วพร้อมกับดำเนินเรื่องเอกสารที่เกี่ยวข้อง

แต่กลับได้ยินเจ้าหน้าที่บอกว่าไม่สามารถดำเนินการหย่าได้ในทันที จำเป็นต้องรอระยะพิจารณาก่อนหย่า

“ตามบทบัญญัติของประมวลกฎหมายแพ่งฉบับใหม่ การลงนามหย่าต้องผ่านระยะเวลาพิจารณาหย่า 30 วัน ในระหว่างนี้ หากคู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ประสงค์ต้องการหย่า สามารถมาขอถอนคำร้องขอหย่าที่สำนักงานกิจการพลเรือนได้”

“เราทั้งคู่ต่างก็คิดดีแล้ว สามารถทำเรื่องหย่าตอนนี้เลยไม่ได้หรอ?” ฝ่ายหญิงถามย้ำอีกครั้ง

เจ้าหน้าที่ยึดหลักการไกล่เกลี่ย เขาจึงพยายามกล่าวโน้มน้าวอีกครั้ง “คุณผู้หญิง พวกคุณสองคนลองคิดเรื่องนี้ใหม่อีกซักครั้ง อย่าปล่อยให้ความผิดพลาดชั่ววูบมาทำลายความสุขทั้งชีวิตของพวกคุณเลยครับ”

หญิงสาวมองไปที่ชายหนุ่มชื่อหลินโจวที่นั่งอยู่ข้างๆ เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ท้ายที่สุดเธอก็ยังยืนกรานคำเดิม: “ขอบคุณค่ะ แต่พวกเราคิดมาดีแล้ว”

ไม่กี่นาทีต่อมา ทั้งสองก็เดินออกจากสำนักงานกิจการพลเรือน หญิงสาวคนนั้นมองไปรอบๆ อย่างหวาดระแวง ก่อนจะรีบก้าวขึ้นรถโตโยต้า อัลฟาร์ดสีขาวที่จอดอยู่ริมถนนไปพร้อมกับหลินโจว

ภายในรถ หญิงวัยกลางคนผมสั้นในรถเอ่ยถามขึ้นอย่างเร่งรีบว่า: “เรียบร้อยแล้วใช่ไหม?”

หญิงสาวถอดแว่นกันแดดออก เผยให้เห็นใบหน้าที่งดงามทรงเสน่ห์ หากเธอถูกพบเห็นโดยผู้คนที่สัญจรไปมา พวกเขาจะต้องจดจำเธอได้ในทันที หญิงสาวคนนี้คือดาราสาวมาแรงที่กำลังโด่งดังเมื่อเร็วๆ นี้

เธอก็คือเซิ่นเหยาหรือที่รู้จักในภาพลักษณ์สาวน้อยบริสุทธิ์ไร้เดียงสา!

อย่างไรก็ตาม ดาราสาวมาแรงผู้มีรอยยิ้มอ่อนหวานเมื่ออยู่หน้ากล้องคนนี้ กำลังรู้สึกเหนื่อยหน่ายเล็กน้อย เธอยกมือนวดขมับและพูดขึ้นว่า: "สำนักกิจการพลเรือนบอกว่าต้องรอระยะเวลาพิจารณา 30 วันก่อนถึงจะสามารถดำเนินออกใบหย่าให้ได้"

“ต้องรอสามสิบวันเลยเหรอ?” หญิงวัยกลางคนนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเผยให้เห็นสีหน้าที่ผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด เธอคนนี้มีชื่อว่าเฉินจื่อ เป็นผู้จัดการส่วนตัวของเซิ่นเหยา

และเธอก็ยังเป็นคนยุยงให้เซิ่นเหยาหย่ากับสามีที่แสนจะธรรมดาของเธออีกด้วย และนี่ก็เป็นหนึ่งในต้นเหตุการณ์ของการหย่าร้างในวันนี้

เฉินจื่อมองไปที่เซิ่นเหยา แล้วก็มองไปที่ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาที่กำลังนั่งเงียบไม่พูดไม่จา ก่อนจะถอนหายใจและพูดขึ้น: “เฮ้อ!! ต้องใช้เวลาถึงสามปีในการพิสูจน์ว่าการแต่งงานของพวกเธอนั้นล้มเหลว ตอนนี้ยื้อเวลาออกไปอีก 30 วันมันจะไปมีความหมายอะไร?”

บรรยากาศในรถดูค่อนข้างอึดอัดเล็กน้อย จู่ๆ หลินโจวก็พูดขึ้นว่า: “ผมจะย้ายออกพรุ่งนี้ อีกเดือนหนึ่งเราค่อยมาจัดการเรื่องหย่ากันใหม่”

พูดจบเขาก็เปิดประตูลงจากรถไป

เมื่อมองไปที่ร่างสูงโปร่งที่คุ้นเคยค่อยๆ เดินห่างออกไป เซิ่นเหยาก็อดไม่ได้ที่จะตะโกนขึ้น: “หลินโจว”

ชายหนุ่มที่ชื่อหลินโจวหันกลับมา ใบหน้าของเขาดูเรียบเฉย สายตาที่มองไปยังเธอในตอนนี้ไม่มีประกายความอบอุ่นที่เคยมีอีกแล้ว

เซิ่นเหยาอ้าปาก น้ำเสียงของเธอแหบแห้งเล็กน้อย: “สามแสนหยวนนั้น นายไม่ต้องการมันจริงๆ หรอ?”

เธอกับหลินโจวต่างตกหลุมรักกันตั้งแต่แรกพบตอนเรียนมหาลัย ทั้งสองคบกันสี่ปี ก่อนจะตัดสินใจแต่งงานกันหลังจากเรียนจบ จนถึงตอนนี้เป็นเวลา 3 ปีแล้วที่แต่งงานกัน

เซิ่นเหยาจากนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมดาคนหนึ่ง เข้าร่วมการประกวดร้องเพลง และได้กลายเป็นที่นิยมในชั่วข้ามคืน ตอนนี้เธอโด่งดังกลายเป็นนักร้องระดับสองที่ได้รับกระแสความนิยมเป็นอย่างมาก

และหลินโจวก็อยู่เคียงข้างเธอมาโดยตลอด ทำหน้าที่เป็นทั้งผู้ช่วยและบอดี้การ์ดของเธออยู่เบื้องหลัง

ในขณะที่เธอเปล่งประกายอยู่บนเวที เขาก็จะคอยเฝ้ามองและปกป้องเธออยู่เบื้องหลังอย่างเงียบๆ

เริ่มแรกทั้งสองคนรักกันมาก ถึงขนาดที่เซิ่นเหยาตั้งท้องลูกของหลินโจวเลยด้วยซ้ำ แต่เพื่ออาชีพและการงานของเธอ เธอจึงตัดสินใจแอบไปทำแท้ง

เซิ่นเหยาที่นับวันยิ่งเปล่งประกายมากขึ้นเรื่อยๆ ค่อยๆ รู้สึกว่าหลินโจวไม่สามารถก้าวตามเธอได้ทันอีกต่อไป

เมื่อหัวใจเริ่มเกิดรอยร้าว ชีวิตคู่ก็ยิ่งจืดจางมากขึ้นเรื่อย ๆ

แม้ว่าทั้งสองจะยังคงอาศัยอยู่ด้วยกัน แต่ก็แยกห้องนอนมานานกว่าครึ่งปีแล้ว

เด็กสาวผู้บริสุทธิ์ไร้เดียงสาและชายหนุ่มผู้หล่อเหลาในรั้วมหาวิทยาลัย บัดนี้ถูกวงการบันเทิงพรากเอาความงดงามเหล่านั้นไปแล้ว ความรักอันบริสุทธิ์ที่เคยเบ่งบานไม่อาจต้านทานจิตใจที่เปลี่ยนแปลงไปได้

ไม่กี่วันก่อน เซิ่นเหยาจึงตัดสินใจที่จะขอหย่า

หลินโจวเองก็ไม่ได้เรียกร้องหรือพยายามขอความช่วยเหลือใดๆ เขาเพียงแค่ลงนามในข้อตกลงการหย่าร้าง และยังยอมสละสินสมรสทั้งคู่ให้แก่เธอทั้งหมด

ทั้งบ้านและรถ ล้วนเป็นสิ่งที่เซิ่นเหยาซื้อหลังจากเธอกลายเป็นดาราแล้ว หลินโจวจึงไม่มีความคิดที่จะเรียกร้องใดๆ จากเรื่องนี้

เขากระทั่งปฏิเสธการรับเงินสามแสนหยวนที่เฉินจื่อเสนอให้เป็น "ค่าปกปิดความลับ" ด้วยซ้ำ

เฉินจื่อกังวลว่าหลังจากหย่ากันแล้ว หลินโจวจะรู้สึกขุ่นเคือง และนำเรื่องความสัมพันธ์ลับนี้ไปป่าวประกาศ หากเป็นเช่นนั้น ภาพลักษณ์ที่บริสุทธิ์ไร้เดียงสาของเซิ่นเหยาก็คงจะถูกทำลายลง

ในเวลานี้ เซิ่นเหยาพูดถึงมันอีกครั้ง เห็นได้ชัดว่าเธอเองมีความกังวลเช่นกัน

เมื่อได้ยินคำพูดของเซิ่นเหยา หลินโจวก็มองกลับไปมองเธอ พร้อมกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้ม:

“น่าเสียดาย อยู่ด้วยกันมาตั้งหลายปี แต่คุณกลับไม่รู้จักผมเลย”

พูดจบ เขาก็หันหลังเดินจากไป แสงอาทิตย์ยามเที่ยงวันสาดส่องลงมาใส่ร่างที่สะอาดสะอ้านของเขา ราวกับเด็กหนุ่มคนเดิมในอดีต ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยแม้แต่น้อย

เซิ่นเหยาจ้องมองไปที่แผ่นหลังของหลินโจวอย่างเหม่อลอย ดวงตาของเธอเริ่มมีน้ำคลอเบ้า เธอหลับตาลงเพื่อห้ามไม่ให้ความอ่อนแอหลั่งไหลออกมาจากดวงตา

ผู้ชายคนนี้ทั้งหล่อเหลา อ่อนโยน อบอุ่น เอาใจใส่ มีความรับผิดชอบ หากเธอเป็นเพียงแค่ผู้หญิงธรรมดาทั่วไป เธอก็คงจะใช้ชีวิตคู่อยู่กับเขาไปจนแก่เฒ่า

แต่น่าเสียดายที่เธอต้องการปีนป่ายขึ้นไปถึงจุดสูงสุดของวงการเพลงจีนแผ่นดินใหญ่ เป็นธรรมดาที่เธอย่อมไม่สามารถแบกรับภาระใดๆ ได้

เฉินจื่อยังคงกังวลเล็กน้อย: “ที่เขาพูดหมายความว่ายังไง? เขาคงจะไม่พูดไปทั่วเพื่อแก้แค้นเธอในอนาคตหรอกใช่ไหม?”

เซิ่นเหยาถอนหายใจแล้วพูดว่า: "ฉันรู้จักเขาดี เขาไม่ทำอย่างนั้นหรอก"

เฉินจื่อโล่งใจ เธอยิ้มออกมาแล้วพูดว่า: " ฉันมีข่าวดีมาบอก ซีซั่น 3 ของรายการ "I Am a Singer" (我是歌手) เชิญเธอไปออกรายการ และเธอจะเป็นแขกรับเชิญที่ได้ขึ้นร้องตั้งแต่เทปแรก!”

เซิ่นเหยาตกตะลึง ความชื้นในดวงตาของเธอจางหายไป ถูกที่ด้วยความตื่นเต้น

“จริงเหรอพี่เฉิน? เยี่ยมไปเลย!”

การที่สามารถเป็นแขกรับเชิญคนแรกของรายการยอดนิยมอย่าง "I Am a Singer" หมายความว่าสถานะในวงการเพลงของเธอได้รับการยอมรับแล้ว

ถ้าเธอทำผลงานได้ดี บางทีเธออาจจะสามารถก้าวเข้าสู่ตำแหน่งนักร้องแถวหน้าของวงการก็เป็นได้!

เฉินจื่อหยุดไปชั่วครู่ แล้วพูดต่อว่า " ซูชิงเหมยเองก็ได้รับคำเชิญเหมือนกัน หากไม่มีอะไรผิดพลาด เธอเองก็เป็นแขกรับเชิญในเทปแรกด้วย"

“ซูชิงเหม่ย?”

เมื่อได้ยินชื่อนี้ เซิ่นเหยาก็ขมวดคิ้ว

พูดไปแล้ว เธอและซูชิงเหม่ยต่างก็มีชะตาต่อกันไม่น้อย ทั้งสองเดบิวต์พร้อมกันและเซ็นสัญญากับค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ของวงการอย่างเทียนหยุนเอ็นเตอร์เทนเม้นท์เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นด้านรูปลักษณ์ สไตล์การร้องเพลง หรือเสียงร้องทั้งสองค่อนข้างคล้ายกัน

แต่สิ่งที่แตกต่างกันก็คือซูชิงเหม่ย นั้นได้รับการยอมรับแล้วว่าเป็นนักร้องสาวดาวรุ่ง และถูกยกให้เป็นเทพธิดาแห่งชาติแล้ว

ในขณะที่เซิ่นเหยาคงต้องดิ้นรนอย่างยากลำบากเพื่อที่จะได้เป็นนักร้องระดับ 2 บางครั้งเธอยังถูกหลายคนล้อเลียนว่าเป็น " ซูชิงเหม่ยเวอร์ชันราคาถูก"

ถ้าซูชิงเหม่ยเข้าร่วมรายการ "I Am a Singer" พร้อมกับเซิ่นเหยา ด้วยสไตล์ที่คล้ายกันแต่โด่งดังน้อยกว่า ย่อมไม่ใช่เรื่องดีต่อตัวเซิ่นเหยา

เฉินจื่อกล่าวเสริมอีกครั้ง: “เธอไม่ต้องกังวลมากเกินไป ตอนนี้ซูชิงเหม่ยมีข่าวเชิงลบค่อนข้างเยอะ ฉันได้ยินมาว่าอาการของเธอไม่ค่อยดีนัก บางทีคราวนี้อาจจะเป็นโอกาสของเธอที่จะได้แทนที่ซูชิงเหม่ยก็ได้นะ”

"แทนที่ซูชิงเหม่ย? กลายเป็นเทพธิดาน้อยแห่งวงการเพลงอย่างงั้นเหรอ!"

ดวงตาของเซิ่นเหยาแปรเปลี่ยนเป็นแน่วแน่ ใบหน้าของเธอแสดงออกถึงความทะเยอทะยานและความปรารถนาอย่างชัดเจน

หลังหย่าร้าง นี่อาจจะมีความสุขที่แท้จริง มันถึงเวลาแล้วที่เธอจะต้องยกระดับอาชีพไปสู่อีกระดับ!

.........................

หลินโจวเรียกแท็กซี่กลับไปยังบ้านที่เขาและเซิ่นเหยาอาศัยอยู่ รีบเก็บสัมภาระอย่างรวดเร็ว กวาดสายตามองไปยังบ้านที่เขาอาศัยมาเป็นเวลา 3 ปีอีกครั้ง และจากไปโดยไม่หันกลับไปมองอีก

เขาลากกระเป๋าเดินทางออกจากหมู่บ้าน แหงนหน้ามองดูดวงอาทิตย์ร้อนระอุบนท้องฟ้า และอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาอย่างขมขื่น: " ตอนอยู่ที่โลกเก่าฉันก็หย่ากับภรรยาเหมือนกัน นึกไม่ถึงว่าบนดาวเคราะห์สีน้ำเงินนี้ฉันก็ยังต้องเซ็นใบหย่าเหมือนเดิม"

หลินโจวอาศัยอยู่ที่ดาวเคราะห์สีน้ำเงินมา 26 ปีแล้ว จนกระทั่งเมื่อหนึ่งเดือนก่อน เขาถูกรถเฉี่ยวชนจนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

จากนั้นเป็นต้นมา เศษเสี้ยวความทรงจำบางอย่างจากโลกเก่าก็ค่อยๆ ปรากฏขึ้นในจิตใจของหลินโจวเป็นครั้งคราว

แต่ความทรงจำเหล่านั้นกลับดูค่อนข้างเลือนราง หลินโจวจำได้เพียงว่าในชาติที่แล้วเขาก็เคยหย่าร้างเช่นกัน ส่วนเรื่องอื่นนั้น เขาแทบจำไม่ได้เลย

และหลังจากตัดสินใจที่จะหย่ากับเซิ่นเหยา หลินโจวก็เริ่มเห็นตัวอักษรและประโยคแปลกๆ ลอยอยู่ตรงหน้าเขา และไม่มีใครนอกจากเขาเท่านั้นที่มองเห็นมัน

เหมือนกับตอนนี้ ตัวอักษรขนาดเล็กสี่บรรทัดปรากฏขึ้นต่อหน้าเขาอีกครั้ง:

กำลังคัดลอกความทรงจำของโลกคู่ขนาน เพลง [เสียดายที่ไม่ใช่เธอ] คืบหน้า 1%...

กำลังคัดลอกความทรงจำของโลกคู่ขนาน เพลง [เส้นทางธรรมดา] คืบหน้า 1%...

กำลังคัดลอกความทรงจำของโลกคู่ขนาน เพลง [พบเจอ] คืบหน้า 1%...

กำลังคัดลอกความทรงจำของโลกคู่ขนาน เพลง [ผู้กล้าหาญที่โดดเดี่ยว] คืบหน้า 1%...

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด