ตอนที่แล้วตอนที่ 974 เจ้าต้องการขี่ข้า?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 976 คุณค่าของแต้มบุญ

ตอนที่ 975 สัตว์ขี่ตัวแรก (ฟรี)


ตอนที่ 975 สัตว์ขี่ตัวแรก

กระทิงเขียวทะยานขึ้นไปในอากาศพร้อมกับมีชายคนหนึ่งนั่งอยู่บนหลังของมัน

เสื้อคลุมเขียว

ถือพัดกระดาษ ราวกับเป็นอมตะลงมาบนโลกมนุษย์

กระทิงตัวนั้นคือหนิวต้าหลี่

ชายคนนั้นคือ ฉินซู่เจียน

สำหรับพัดกระดาษ มันเป็นเพียงสิ่งที่เขาทำในนาทีสุดท้าย

ในขณะที่กระทิงเขียวทะยานขึ้นไปในอากาศ

ฉินซู่เจียนพูดอย่างใจเย็น "รอเดี่ยว!"

"เอ่อ"

หนิวต้าหลี่ยังไม่ได้ปรับตัวให้เข้ากับตัวตนของเขาในฐานะสัตว์ชี่อย่างสมบูรณ์ และเพียงตอบสนองได้หลังจากนั้นไม่นานเท่านั้น

“จี้โจว หวู่ซาน มาหาข้า”

เสียงไม่ดัง แต่ครอบคลุมทั่วทั้งที่ราบพัยคฆ์

สัตว์ร้ายทั้งหมดที่ได้ยินเสียงนี้ก็หมอบลงกับพื้นไม่กล้าขยับเลย

ไม่นาน ทั้งสองลอยขึ้นไปในอากาศ และปรากฏตัวต่อหน้าฉินซู่เจียน

“คารวะฝ่าบาท!”

หลังจากโค้งคำนับ พวกเขาก็มองไปที่กระทิงเขียวภายใต้ฉินซู่เจียนด้วยสีหน้าแปลก ๆ

การจ้องมองเช่นนี้

ทำให้หนิวต้าหลี่ไม่พอใจอย่างมาก

“พวกเจ้ากำลัมองอะไรอยู่ เจ้าไม่เคยเห็นสัตว์ขี่หรือ?”

หลังจากที่พูดอย่างนั้น ฉินซู่เจียนตีหัวอีกฝ่ายด้วยด้ามพัดเพื่อให้เงียบลง

“สมรภูมิหมื่นเผ่าจะเปิดในอีกไม่กี่วัน เผ่าต้วนซาน และเผ่าเนตรเป็นเผ่าพันธุ์รองของเผ่าอสูร แต่ข้าหวังว่าทั้งสองเผ่าจะสามารถสร้างพันธมิตรกับเผ่ามนุษย์ได้ มิฉะนั้นทั้งสองเผ่าจะต้องถูกทำลาย”

“พวกเจ้าทั้งสองได้ช่วยเหลือเผ่ามนุษย์มามาก ข้าก็ไม่อยากที่จะหันกระบี่เข้าหาเผ่าของพวกเจ้า”

ฉินซู่เจียนพูดอย่างเฉยเมย ใบหน้าสงบ

เรื่องนี้.

เขาเคยบอก จี้โจว และหวู่ซานมาแล้วครั้งหนึ่ง นี่เป็นครั้งที่สอง และเป็นครั้งสุดท้าย

หากทั้งสองเผ่าไม่เข้าข้างเผ่ามนุษย์จริงๆ

จากนั้นเมื่อสมรภูมิหมื่นเผ่าเปิดขึ้น หากมีโอกาสเผ่ามนุษย์จะโจมตีทั้งสองเผ่าทันที

เมื่อเวลานั้นมาถึง

จะไม่มีมิตรภาพใดๆ เหลือระหว่างทั้งสองฝ่าย

สีหน้าของจี้โจว ดูเคร่งขรึมในขณะที่เขากุมมือขึ้นแล้วพูดว่า "ข้าเข้าใจรับสั่งของฝ่าบาทดี ข้าจะมุ่งหน้าไปยังเผ่าพันเนตรในทันที และพยายามอย่างเต็มที่เพื่อโน้มน้ามพวกเขา"

“ข้าก็เช่นเดียวกัน”

หวู่ซานพยักหน้า

พวกเขาทั้งสองเข้าใจว่าในเวลานี้หากพวกเขาไม่เป็นพันธมิตรกัน พวกเขาก็จะเป็นศัตรูกัน

เมื่อเทียบกับเผ่าอื่น

ทั้งสองคนมองโลกในแง่ดีมากขึ้นเกี่ยวกับเผ่ามนุษย์

เพราะ มีเพียงการอยู่ข้างๆ จักรพรรดิฉินเท่านั้นที่จะเข้าใจได้ว่าอีกฝ่ายแข็งแกร่งแค่ไหน

แม้ว่าเผ่ามนุษย์ดูเหมือนจะไม่มีผู้เชี่ยวชาญมากนักในตอนนี้ แต่พวกเขาก็ยังคงทรงพลังมาก

แค่จักรพรรดิฉินเพียงผู้เดียว นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะกวาดล้างผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากได้อย่างง่ายดาย

"ไป!"

ฉินซู่เจียนถอนสายตา และพูดอย่างใจเย็น

เวลานี้

คนที่เขาคุยด้วยไม่ใช่จี้โจวหรือหวู่ซาน แต่เป็นกระทิงเขียวที่เขาขี่อยู่

ไม่กี่วินาทีหลังจากที่เขาพูดจบ

หนิวต้าหลี่ไม่ได้เคลื่อนไหวเลย

ฉินซูเจียนใช้พัดทุบหัวอีกฝ่ายอีกครั้ง และพูดอย่างไม่แยแส "ไปกันเถอะ!"

ณ ตอนนี้.

จากนั้น หนิวต้าหลี่จึงตอบสนอง จากนั้น เขาก็กระทืบบนพื้น และมุ่งหน้าออกจากที่ราบพยัคฆ์

“ข้าหวังว่าคราวหน้าเจ้าควรจะเป็นคนช่างสังเกตมากขึ้น ดูสัตว์ขี่ของจักรพรรดิจ้าวสิ มันสะดุดตามาก หากมีเวลาเจ้าควรหาโอกาสไปเรียนรู้”

ฉินซู่เจียนกล่าวอย่างโกรธเคือง

เมื่อได้ยินสิ่งนี้

หนิวต้าหลี่ก็ค่อนข้างขุ่นเคือง

“ฝ่าบาท ข้าแค่กำลังมึนงง ใครจะคิดว่าจู่ๆ หัวหน้าสาขาอสูรอย่างข้าจะต้องกลายเป็นสัตว์ขี่?”

การเปลี่ยนแปลงอัตลักษณ์ มันทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย

ไม่ใช่ว่าหนิวต้าหลี่ต่อต้านอัตลักษณ์ของสัตว์ขี่ แค่เขารู้สึกแปลกๆ นิดหน่อยที่มีคนนั่งอยู่บนหลัง

มีความรู้สึกในใจที่บอกเขาว่าด้วยตัวตนของเขา

เขาไม่ควรกลายเป็นสัตว์ชี่

ดังนั้น.

หนิวต้าหลี่ต้องการต่อต้าน

อย่างไรก็ตาม เมื่อรู้สึกถึงพลังที่รู้สึกได้แผ่วเบาบนหลังของเขา เขาจึงขจัดความคิดในใจออกไป

"เฮ้อ!"

กระทิงเขียวตัวหนึ่งถอนหายใจอย่างหนักหน่วง

ฉินซู่เจียนไม่ได้เพิกเฉยต่อภาวะอารมณ์ของกระทิงเขียวที่เขาขี่อยู่

“อย่าคิดว่าการเป็นสัตว์ขี่เป็นเรื่องน่าละอาย สัตว์ขี่ที่แข็งแกร่งก็มีสถานะสูงส่ง บรรพบุรุษของเจ้าก็เคยเป็นสัตว์ขี่ของผู้เชี่ยวชาญโบราณ เมื่อเจ้าเป็นสัตว์ขี่ของผู้เชี่ยวชาญระดับสูงสุด เจ้าจะได้รับการปฏิบัติด้วยความเคารพไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ตาม”

“และเมื่อติดตามผู้เชี่ยวชาญระดับสูงสุดจะได้รับฟังคำสอน การบ่มเพาะก็จะพัฒนาได้เร็วยิ่งขึ้น”

“ตอนนี้ถ้าเจ้าติดตามข้า เจ้าไม่ใช่สัตว์ขี่ธรรมดา แต่เป็นสัตว์ขี่ของจักรพรรดิมนุษย์ ในอนาคต เมื่อผู้คนเห็นเจ้า พวกเขาจะรู้ว่าเจ้าคือคนของข้า จักรพรรดิฉินแห่งเผ่ามนุษย์ ในเวลานั้น แม้แต่จักรพรรดิอสูรก็ยังต้องไว้หน้าเจ้าไม่มากก็น้อย”

“หากพวกเขาทำให้เจ้าขุ่นเคือง พวกเขาจะทำให้ข้าขุ่นเคืองด้วย นี่ไม่ใช่เรื่องเล็ก”

ฉินซู่เจียนกล่าวอย่างอดทน

ได้ยินแบบนั้น..

หนิวต้าหลี่ถามอย่างลังเล "จริงหรือ?"

“จริงสิ ข้าเคยโกหกงั้นรึ?”

ฉินซู่เจียนตอบด้วยความมั่นใจ

สำหรับสิ่งนี้

หนิวต้าหลี่รู้สึกโล่งใจเล็กน้อย

อันที่จริง จักรพรรดิฉินผู้นี้ดูเหมือนจะไม่น่าเชื่อถือนัก แต่อีกฝ่ายก็ไม่เคยโกหกเขา

และในความคิดที่สอง คำพูดของอีกฝ่ายไม่ได้ไร้เหตุผล

แม้ว่าเขาจะเป็นสัตว์ชี่ แต่เขาก็เป็นสัตว์ขี่ของจักรพรรดิมนุษย์

เขาจะเป็นตัวแทนของใบหน้าของจักรพรรดิมนุษย์

เมื่อเทียบกับอัตลักษณ์นี้ ดูเหมือนว่าการเป็นสัตว์ขี่ซักระยะหนึ่งก็ไม่เลว

ในทะเลจิตสำนึก ซาเสิ่นพูดแปลก ๆ “พูดถึงเรื่องนั้นแล้ว เจ้ารู้ได้ยังไงว่ามีผู้เชี่ยวชาญโบราณที่ขี่กระทิงเขียว ทำไมข้าถึงไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน”

ขี่กระทิง!?

ซาเสิ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ไม่มีผู้เชี่ยวชาญคนใดจะทำสิ่งที่เสื่อมเสียเช่นนี้

ผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่ง

ถ้าพวกเขาต้องการสัตว์ขี่ หรือสัตว์ขี่ของพวกเขาคือ กิเลน มังกร หรือฟินิกซ์ และสัตว์ขี่เหล่านี้ก็ต้องมีความสามารถมากพอเช่นกัน

เมื่อพวกเขากลายเป็นสัตว์ขี่ก็ได้รับการสอนเหมือนศิษย์ในระดับหนึ่ง

แต่เมื่อพูดถึงกระทิงเขียว

นั่นมันธรรมดาเกินไปจริงๆ

ดังนั้น ซาเสิ่นจึงสงสัยว่าฉินซู่เจียนกำลังพยายามหลอกกระทิงโง่ ๆ ที่เขาขี่อยู่

ได้ยินแบบนั้น..

ฉินซู่เจียนหัวเราะเยาะ "ผู้อาวุโส มีหลายสิ่งที่ท่านไม่รู้"

“เจ้าล้อข้าเล่นเหรอ? ข้าดำรงอยู่มาตั้งแต่ยุคโบราณ มีเรื่องใดบ้างในโลกที่ข้าไม่รู้ ในเมื่อเจ้าบอกว่าพวกเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูงสุดก็จงบอกชื่อมา”

“เล่าจื๊อ และทงเทียน ท่านเคยได้ยินเกี่ยวกับพวกเขาบ้างไหม”

ฉินซู่เจียน พูดสองชื่ออย่างไม่เป็นทางการ

ในทะเลจิตสำนึก

กระบี่หินสั่นอย่างรุนแรง

สองชื่อนี้ไม่ได้ยินอย่างชัดเจนเลย แต่ทำให้กระบี่หินสั่นสะท้านได้

“อย่า อย่าพูด!”

เสียงของซาเสิ่นสั่นเทา

ผู้ข้ามกฏ!

อีกสองชื่อของผู้ข้ามกฏ

เขาเกือบลืมไปว่าฉินซู่เจียนที่อยู่ตรงหน้าเขาคือผู้ข้ามกฏที่กลับชาติมาเกิด และรู้จักกับผู้ข้ามกฏ

แต่สิ่งที่ซาเสิ่นไม่ได้คาดหวังเลยก็คือ ฉินซู่เจียนรู้ชื่อของผู้ข้ามกฏหลายคน

ซาเสิ่น ระงับความตกใจในใจของเขา

หลังจากนั้นไม่นาน

เขาสงบสติอารมณ์ และจัดการระเบียบความคิด เสียงของเขายังคงสั่นเทา “ที่เจ้าพูดไปคือชื่อของทั้งสองคนใช่ไหม?”

"ใช่"

ปฏิกิริยาของซาเสิ่น โดยพื้นฐานแล้วยืนยันการคาดเดาของฉินซู่เจียน

เล่าจื๊อ และทงเทียน

พวกเขาเป็นผู้ข้ามกฏด้วย

อย่างไรก็ตาม

เขาไม่แปลกใจเลย ท้ายที่สุด หากผานกู่เป็นผู้ข้ามกฏ เล่าจื๊อ และทงเทียนก็ควรไม่ต่างกัน

ฉินซู่เจียนเดาว่าหลายคนที่เขาคุ้นเคยในอดีตอาจเป็นผู้ข้ามกฏเช่นกัน

กล่าวอีกนัยหนึ่งจะต้องมีความเชื่อมโยงบางอย่างระหว่างโลกนี้กับโลกเก่าของเขา

น่าเสียดาย ตอนนี้เขาไม่มีคุณสมบัติที่จะสอดรู้สอดเห็นมากนัก

เช่นเดียวกับที่ ซาเสิ่นพูดไว้ก่อนหน้านี้ ถ้าเขาตั้งใจเรียกชื่อออกมา และดึงดูดความสนใจของอีกฝ่าย มันคงจะอึดอัด ถ้าอีกฝ่ายตบเขาจนตาย

ฉินซู่เจียนคิดว่าตนแข็งแกร่งมาก

แต่ผู้ข้ามกฏนั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญที่อยู่เหนืออมตะระดับเก้า

หากพวกเขาต้องการตบเขาให้ตาย

คงไม่ต่างจากการฆ่ามด

ซาเสิ่นสงบลงแล้วพูดว่า "ถ้าชื่อนั่นมีหลายพยางค์ เจ้าสามารถบอกหนึ่งหรือสองคำแรกให้ข้าได้ ด้วยวิธีนี้ ข้าจะเข้าใจ และมันจะไม่ดึงดูดความสนใจของตัวตนเหล่านั้น"

ต่อมาฉินซู่เจียน ไม่ได้ซ่อนมันและบอกกับซาเสิ่นโดยทำตามที่อีกฝ่ายบอก

ซาเสิ่นคิดย้อนกลับไปถึงสิ่งที่ฉินซู่เจียนพูด ตอนนี้มีความเข้าใจเกี่ยวกับผู้ข้ามกฏทั้งสามแล้ว

‘ผานกู่ เล่าจื๊อ และทงเทียน!’

ไม่มีความหมายอื่นใด เขาเพียงต้องการทราบชื่อของผู้ข้ามกฏ

ฉินซู่เจียน ไม่ได้ตั้งใจซ่อนสิ่งใดจากซาเสิ่น

หนิวต้าหลี่ก็ได้ยินคำพูดของฉินซู่เจียนเช่นกัน

“ชื่อเหล่านี้สำคัญยังไงเหรอ?”

หนิวต้าหลี่ส่ายหัว และไม่ได้ถามคำถามอีกต่อไป

ณ ตอนนี้

กระทิงเขียวบินขึ้นไปในอากาศโดยมีคนนั่งอยู่บนหลัง มุ่งหน้าไปยังดินแดนของเผ่ามนุษย์

บริเวณรอยต่อของทวีปตะวันออก และอีกสามทวีป

หุบเขายาวสามล้านลี้ปรากฏขึ้น ปิดกั้นทั้งสองฝั่งไว้โดยสิ้นเชิง

“จักรพรรดิฉิน เราควรจะไปที่ไหนต่อ?”

หนิวต้าหลี่ มองไปที่หุบเขาข้างหน้าเขารู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย

ด้วยวิสัยทัศน์ของเขา เขาสามารถมองเห็นกระบี่ชี่ที่โหมกระหน่ำเหนือหุบเขาได้อย่างเป็นธรรมชาติ

เมื่อเขารับรู้ถึงมัน หนิวต้าหลี่รู้สึกว่าทั่วร่างกายของเขาสั่นเทา

เพราะเขาไม่รู้ทาง

เขาแค่เดินหน้าไปตามคำพูดของฉินซู่เจียน ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ไปถึงทางเดินหุบเขา

หนิวต้าหลี่มองไปที่หุบเขาข้างหน้าเขา

ฉินซู่เจียนพูดเบาๆ “แค่ข้ามมันไป”

“ข้าจะไม่ตายใช่ไหม”

หนิวต้าหลี่ตื่นตระหนกเล็กน้อย

ถ้าเขาถูกฆ่าโดยกระบี่ชี่ เขาคงไม่มีที่ให้จะร้องไห้

ปัง

พัดฟาดโดนหัวกระทิงทำให้เกิดเสียงที่คมชัด

ฉินซู่เจียนพูดด้วยความโกรธ "เจ้าจะกลัวอะไร เจ้าเป็นสัตว์ขี่ของข้า เจ้าจะต้องไม่ขี้ขลาดเนื่องจากเจ้าเป็นสัตว์ขี่ของจักรพรรดิมนุษย์ เจ้าควรแสดงความสง่างามที่ควรมี"

“นี่…”

หนิวต้าหลี่อยากจะบอกว่าเขาไม่ได้อยากเป็นสัตว์ขี่มากนัก

อย่างไรก็ตาม.

มันไม่ง่ายเลยที่จะพูดออกมา

จากนั้น หนิวต้าหลี่มองไปที่หุบเขาข้างหน้าเขา กัดฟันแล้วรีบพุ่งออกไป

เมื่อเขาอยู่ใกล้หุบเขา

กระบี่ชี่ที่น่าตกใจโหมกระหน่ำอย่างบ้าคลั่ง

ความรู้สึกอันน่าสยดสยองนั้นทำให้หัวใจของเขาเต้นแรง

แต่นึกถึงคำพูดของฉินซู่เจียน

หนิวต้าหลี่ ทำได้แค่ก้าวไปข้างหน้าเท่านั้น

กระทิงเขียวกระโจนขึ้นไปในอากาศ กีบทั้งสี่ของมันเหยียบขึ้นไปในอากาศขณะที่มันบินไปยังหุบเขา

แล้วฉินซู่เจียนซึ่งนั่งอยู่บนหลังกระทิง สะบัดพัดไปมาอย่างสบายๆ ทันใดนั้น พลังอันไม่มีที่สิ้นสุดพวยพุ่งออกมาจากทุกทิศทุกทาง และกระจายกระบี่ชี่ทั้งหมดออกไป

แค่การพัดธรรมดาๆ เส้นทางถูกเปิดออกในบริเวณที่กระบี่ชี่เดือดพล่าน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด