บทที่ 82: มาจูบกันเถอะ ซึนะจัง
บทที่ 82: มาจูบกันเถอะ ซึนะจัง
ใบหน้าของชิซึเนะเต็มไปด้วยความสงสัย เธอมองไปที่ซาโตรุที่ดูจริงจังมาก แม้ว่าเธอจะมีคำถามมากมายอยู่ในใจ แต่เธอก็ไม่ได้ถามคำถามใดๆ ออกมา
'คุณซาโตรุปกติไม่สนใจที่จะยุ่งเรื่องความเป็นไปของหมู่บ้านไม่ใช่เหรอ?'
'แล้วทำไมจู่ๆ เขาถึงอยากให้ท่านซึนาเดะเป็นโฮคาเงะคนใหม่ล่ะ?'
'มีบางอย่างน่าสงสัย!'
“หลังจากที่หมู่บ้านสูญเสียโฮคาเงะไป ก็คงจะมีคนที่เหมาะสมที่จะเป็นโฮคาเงะมากกว่าฉันอีกหลายคนไม่ใช่เหรอ?” ซึนาเดะเองก็สับสนเช่นกัน
ทำไมซาโตรุถึงอยากให้เธอเป็นโฮคาเงะ?
ในหมู่บ้านมีคนแข็งแกร่งตั้งมากมาย และในหมู่พวกเขานั้น หลายคนก็ต้องการปกป้องหมู่บ้าน
เช่น จิไรยะ หนึ่งในซังนินในตำนานร่วมกับเธอและโอโรจิมารุ
เธอรู้ว่าจิไรยะแข็งแกร่ง แข็งแกร่งกว่าเธอและโอโรจิมารุมาก
จิไรยะเหมาะกับตำแหน่งโฮคาเงะมากกว่าเธอซะอีก
ซาโตรุชูสามนิ้วแล้วพูดด้วยรอยยิ้มบางๆ “ในตอนนี้มีสามคนในหมู่บ้านที่แข็งแกร่งกว่าคุณ”
เขากำลังพูดความจริง มีคนสามคนในหมู่บ้านที่แข็งแกร่งกว่าซึนาเดะ
ความแข็งแกร่งของชิมูระ ดันโซที่เกิดจากเซลล์ของฮาชิรามะ เซลล์ของอิซานางิและเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาของชิซุย
พลังอันเต็มเปี่ยมของวิชาเซียนที่ได้มาแบบผิดๆ
และไมโตะ กายผู้สามารถเปิดประตูที่เจ็ดได้
“แต่...ซึนะจัง เธอน่ะแข็งแกร่งที่สุด” ซาโตรุกล่าว
"ทำไมถึงเป็นแบบนั้นได้?" ดวงตาที่เหมือนสีเหลืองอำพันของซึนาเดะฉายแววความสงสัย เธอสับสนเล็กน้อยเมื่อได้ยินมัน ในหมู่บ้านมีคนสามคนที่แข็งแกร่งกว่าเธอแต่เธอกลับแข็งแกร่งที่สุดเนี่ยนะ
มันหมายความว่าอะไร?
มันเกี่ยวข้องกับคาถาต้องห้ามของเธอหรือเปล่า?
“เพราะว่ามีผมคอยอยู่ข้างหลังไง ถ้าผมบอกว่าคุณแข็งแกร่งเป็นอันดับสอง ก็คงไม่มีใครกล้าอ้างว่าแข็งแกร่งที่สุดแล้ว” ซาโตรุวางมือบนไหล่ของซึนาเดะแล้วพูดด้วยท่าทีจริงจัง “ก่อนที่จะทุบตีสุนัข ก็ต้องดูเจ้านายของมันก่อนสิ”
เขาเกือบจะหลุดปากพูดอะไรแย่ๆ ออกมาแล้ว แต่เขาก็เปลี่ยนเรื่องได้ทันเวลาและพูดอย่างมีชั้นเชิง "การมีคนคอยหนุนอยู่ข้างหลัง ก็ถือเป็นความแข็งแกร่งเช่นกัน"
ทุกคนในทีมที่เจ็ดต่างพูดไม่ออก พวกเขาคิดว่าซาโตรุจะพูดถึงความแข็งแกร่งของซึนาเดะ แต่พวกเขาไม่คิดเลยว่าเขาจะใช้โอกาสนี้เอาหน้าอีก
กระทั่งชิซึเนะก็ยังพูดไม่ออก เธอลอบมองซึนาเดะอย่างระมัดระวังด้วยสีหน้ากังวล
'คราวนี้ท่านซึนาเดะน่าจะโกรธมากเลยใช่ไหมนะ?'
“ซาโตรุ นายโตแล้วนะ” ซึนาเดะยกมือขึ้นและลูบไล้ใบหน้าของซาโตรุเบาๆ จากนั้นเธอก็พูดด้วยรอยยิ้ม "ตอนนี้ นายกล้าล้อเลียนแม่บุญธรรมที่นายนับถือที่สุดได้แล้วสินะ"
สิ่งที่ซาโตรุพูดดูเหมือนจะเป็นคำพูดที่อบอุ่นมาก
แต่แท้จริงแล้วมีความหมายที่ซ่อนอยู่
ที่พูดถึงสุนัขเมื่อครู่ คงคล้ายจะบอกว่าเธออ่อนแอ ดังนั้นให้อวดความแข็งแกร่งของตัวเขาแทน
ยังคงน่ารำคาญเหมือนเช่นเคยไม่มีเปลี่ยน
“ซึนะจัง คุณเองก็โตแล้วเหมือนกันเลยนะ” ซาโตรุมองที่หน้าอกของซึนาเดะและแหย่มันด้วยอมยิ้มด้วยท่าทีพึงพอใจ จากนั้นจึงแตะหลังเธอ
“โตมาได้อย่างคุณภาพดีมากเลย”
เขาเป็นผู้ชายที่ไม่เคยซ่อนความปรารถนาของเขา เขามักจะเอาเปรียบผู้อื่นอย่างเปิดเผยและทำตัวเหนือกว่าอยู่เสมอ
เขาชื่นชอบซึนาเดะ ผู้น่ารักและคิดจะล่วงเกินอยู่เสมอหากมีโอกาส
มันออกจะผิดปกติหรือเปล่า?
ผิดปกติอยู่แล้วโว้ย!
แต่ซาโตรุสนใจไหม?
ไม่อย่างแน่นอน!
ใบหน้าของซึนาเดะเปลี่ยนเป็นสีแดง ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความอายและความโกรธ จักระขนาดใหญ่ระเบิดไปทั่วร่างกายของเธอ และเส้นเลือดก็ผุดขึ้นบนหน้าผาก
การปรากฏขึ้นของจักระ ทำให้พื้นทั้งหมดสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
“ไปกันเถอะ ท่านซึนาเดะโกรธแล้ว!” ชิซึเนะดูสับสน เธอคว้าคอเสื้อของทุกคนในทีมที่เจ็ดแล้วบังคับให้พวกเขาออกไปอย่างรวดเร็ว
ชิซึเนะถอนหายใจเงียบๆ
หากจะหาคำมาเปรียบเทียบ
ซาโตรุก็เหมือนไฟ ซึนาเดะก็เหมือนกระดาษแผ่นหนึ่ง
ประกายไฟเล็กน้อยก็เพียงพอแล้ว
แม้ว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นในอดีตเสมอ แต่เธอก็ยังไม่ชินกับมันอยู่ดี เพราะเธอเกือบจะได้รับบาดเจ็บสาหัสหลายครั้งจากอะไรเช่นนี้
“ปลดขีดจำจัดสายเลือดของนายออกไปซะ ให้แม่บุญธรรมที่นายรักที่สุดคนนี้ต่อยนายซะดีๆ” ซึนาเดะกำหมัดแน่น กระดูกของเธอลั่นกร๊อบในขณะที่มองซาโตรุอย่างเย็นชา
เธอไม่ได้เกลียดการถูกซาโตรุแตะต้อง
เมื่อซาโตรุยังเด็ก ทั้งสองคนมักจะอาบน้ำและนอนด้วยกันเสมอ
แต่เธอก็โกรธมากอยู่ดี
“หยุดพูดเล่นได้แล้วน่า ซึนะจัง อยากชกผมให้ตายเลยหรือไง?” มุมปากของซาโตรุกระตุกเล็กน้อย ร่างกายของเขาไม่สามารถต้านทานการโจมตีเต็มพลังของซึนาเดะได้หรอก
ยกเว้นการตีอีกแบบที่ไม่เหมาะให้เด็กได้ยิน...
"ปลดมันเดี๋ยวนี้" ซึนาเดะต่อยซาโตรุที่ท้องอย่างแรง
*ตู้ม*
หมัดของซึนาเดะที่มีพลังทำลายล้างหยุดอยู่ตรงหน้าท้องของซาโตรุ
ซาโตรุไม่ได้รับอันตราย แต่ทั้งโรงแรมกลับพังทลายลง
บนถนนด้านนอก
ทุกคนในทีมที่เจ็ดจ้องมองไปที่โรงแรมที่พังทลายลงมาด้วยสายตาที่ว่างเปล่า พวกเขารู้สึกหวาดกลัวในใจ
ขอบคุณพระเจ้าที่พวกเขารีบออกมาก่อน หากพวกเขายังอยู่ที่นั่น แม้ว่าพวกเขาจะไม่ตาย แต่พวกเขาก็คงได้รับบาดเจ็บสาหัสแน่นอน
'มันจบลงแล้ว... มันจบลงแล้ว ตอนนี้ฉันต้องเป็นหนี้อีกก้อนแน่' ชิซึเนะเดินกะเผลกและเธอก็ล้มลงกับพื้น ดวงตาของเธอกลอกไปมาและคล้ายกับมีวิญญาณสีขาวลอยออกมาจากปากของเธอ มันเหมือนกับว่าวิญญาณของเธอกำลังออกจากร่าง
'เกรงว่าเงินที่ท่านซึนาเดะได้รับมาทั้งหมดคงสูญสิ้นหมดแล้วแน่'
'ดูท่าเส้นทางการก่อหนี้คงกำลังยาวไกลขึ้นเรื่อยๆ อีกแล้ว'
…
ซาโตรุเกาแก้ม มองดูโรงแรมที่กลายเป็นซากปรักหักพัง แล้วถอนหายใจเบาๆ “น่ากลัวมาก คงจะต้องใช้เงินเยอะมากเลยทีเดียว”
“นายจ่ายสิ ฉันไม่มีเงิน” ซึนาเดะตะคอกด้วยความโกรธ
เธอไม่ได้โกรธเลยจริงๆ
“ยังกลัวอยู่เหรอ?” ซาโตรุจับหมัดของซึนาเดะ ดึงซึนาเดะเบาๆ แล้วกอดเธอ
เขาเห็นได้ว่าตั้งแต่ซึนาเดะตื่นขึ้นมา เธอก็รู้สึกไม่สบายใจ และดูเหมือนว่าเธอยังคงไม่หายจากความกลัวครั้งก่อน
แต่หลังจากชกเขาแล้ว อารมณ์ของซึนาเดะก็ค่อยๆ ดีขึ้น
ซึนาเดะผงะเล็กน้อย
'เหตุผลที่ซาโตรุล้อเธอเล่นก็คงเพราะเขากังวลเรื่องความกลัวที่ยังคงอยู่ในใจของเธองั้นเหรอ?'
“ถ้านายเปลี่ยนพฤติกรรมของนาย ฉันอาจจะมีความสุขมากขึ้นกว่านี้แล้ว” ซึนาเดะเอาหน้าแนบหน้าอกของซาโตรุ และกอดเอวของซาโตรุด้วยแววตาตื่นตระหนก จากนั้นเธอจึงถามเบาๆ ว่า "นายเองก็จะทิ้งฉันไปด้วยไหม?"
เธอกลัวมากว่าซาโตรุจะตายอย่างน่าสังเวชต่อหน้าเธอเช่นคนอื่น
เธอไม่มีความกล้าพอที่จะสูญเสียคนที่สำคัญที่สุดของเธอไปอีกครั้ง
“อย่าโง่ไปสิ ผมน่ะไร้เทียมทาน ผมบอกแล้วไงว่าจะเป็นความฝันให้! จะทำอะไรตามที่ต้องการก็เชิญเลย จะพึ่งพาผมอย่างเต็มที่ก็ไม่เป็นไร” ซาโตรุลูบศีรษะของซึนาเดะเบาๆ มีความอบอุ่นอยู่ในรอยยิ้มอันขี้เล่นนี้
มุมปากของซึนาเดะยกขึ้นเล็กน้อย และเธอก็พึมพำเบาๆ ตอบไป “นายโตแล้วสินะ”
ในความคิดของซึนาเดะ ภาพที่เธอเพิ่งเก็บซาโตรุขึ้นมาได้ก็ปรากฏขึ้น
ในยามนั้น ซาโตรุยังเป็นเด็กน้อยที่กำลังคว้านหากองขยะและมองหาอาหารที่กินได้
ตอนนี้ซาโตรุได้เติบโตขึ้นจากเด็กที่สนเพียงเรื่องความหิวโหยมาเป็นชายผู้แข็งแกร่งเสียแล้ว
เขาสามารถพูดได้อย่างมั่นใจว่าเขาสามารถปกป้องเธอ ที่มีความแข็งแกร่งระดับคาเงะได้
เธอทั้งโล่งใจและมีความสุข
"ครับ" ซาโตรุเชยคางของซึนาเดะแล้วหัวเราะเบาๆ ก่อนจะพูดว่า “ซึนะจัง บรรยากาศดีมากเลย จูบได้ไหม?”
พวกเขามองหน้ากัน
ปากของซึนาเดะขยับเล็กน้อย อารมณ์ที่อัดแน่นอยู่ในใจเธอก็เอ่อล้นขึ้นมา เธอคว้าเสื้อผ้าที่อยู่บนหลังของซาโตรุและยืนเขย่งปลายเท้าอย่างเชื่องช้า โน้มตัวเข้าไปที่ปากของซาโตรุ
'ในฐานะแม่บุญธรรม การทำแบบนี้มันจะดีเหรอ?'
'เพียงครั้งเดียวเท่านั้น แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว'
ในยามนั้นเอง ซากุระกำลังจะตะโกนเรียกหาพวกเขา
ชิซึเนะปิดปากซากุระด้วยมือของเธอ มองภาพตรงหน้าด้วยดวงตาที่เฉียบคมพลางเอานิ้วชี้ไปที่ปากของเธอแล้วกระซิบว่า "ชู่ว ตอนนี้อย่าทำอะไรและรอดูก่อนเถอะ"
"หา?" ซากุระดูสับสน เธอมองไปยังซาปรักหักพังที่ถูกทำลาย ในตอนนั้นเธอก็กำลังเห็นซึนาเดะและซาโตรุกำลังจะจูบกัน
"หือ!" ดวงตาของซากุระเบิกกว้างขึ้นทันที
มันเป็นภาพที่ดีมากจริงๆ
'ตอนนั้นท่านซึนาเดะกำลังจะโจมตีอาจารย์ซาโตรุด้วยหมัดอันร้ายกาจของเธอ แต่ทำไมหลังจากผ่านไปแค่พริบตาเดียว พวกเขาทั้งสองถึงเริ่มจูบกันล่ะเนี่ย?’