บทที่ 77 : โรคกลัวเลือดของซึนาเดะ
บทที่ 77 : โรคกลัวเลือดของซึนาเดะ
“โอโรจิมารุ อย่าเข้าใจฉันผิดไป” ซึนาเดะมองดูโอโรจิมารุในระยะไกลด้วยสีหน้าไม่แยแส
“คนที่สำคัญที่สุดของฉันยังไม่ตาย นายจะทำให้เขากลับมามีชีวิตได้ยังไง?” ซึนาเดะเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย พร้อมรอยยิ้มประชดประชัน
คนที่สำคัญที่สุดของเธอในตอนนี้คือซาโตรุ ซาโตรุยังมีชีวิตอยู่และสบายดี
แล้วโอโรจิมารุจะฟื้นคืนชีพใคร?
เธอเคยต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคกลัวเลือด แต่ปมในใจของเธอถูกแก้ไขมานานแล้ว
ซาโตรุบอกว่าเขาจะเป็นความฝันของเธอให้เอง
แล้วเธอก็จะยืนหยัดเพื่อความฝันนี้ด้วย
“ซาโตรุ?” ใบหน้าของโอโรจิมารุดูมืดมน เขาไม่เคยคิดเลยว่าซาโตรุจะแก้ปมในใจของซึนาเดะได้แล้ว
“ขีดจำกัดทางสายเลือดของซาโตรุนั้นพิเศษมาก และสักวันหนึ่งฉันจะเอาพลังของเขามาเอง” โอโรจิมารุเลียมุมปากของเขา มีความโลภลุกโชนอยู่ในดวงตาของเขา
เขาต้องการตัวซาโตรุจริงๆ
แต่การพูดแบบนี้โดยเจตนาก็เป็นการเบี่ยงเบนความสนใจของซึนาเดะเช่นกัน
“ซาโตรุคือคนที่ฉันเอ็นดู” ซึนาเดะหยุดครู่หนึ่งและพูดว่า "เขาเป็นลูกบุญธรรมคนสำคัญที่สุดของฉัน"
“โอโรจิมารุ นายรู้จักอารมณ์ของฉันดี การที่นายพูดว่าจะทำร้ายลูกชายบุญธรรมของฉันต่อหน้าฉัน…นายกำลังหาเรื่องตาย!”
ใบหน้าของซึนาเดะเย็นยะเยือก ความโกรธนั้นสามารถมองเห็นได้ชัดเจนในดวงตาของเธอ เธอกระโดดและชกหัวโอโรจิมารุทันที
“อึก...” โอโรจิมารุหลบหลีกเลี่ยงหมัดอันน่าสะพรึงกลัวของซึนาเดะ
*บูม*
หลังจากที่หมัดซัดลงไปที่พื้น หลุมขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้น
“เป็นการตัดสินใจที่โง่เขลา” โอโรจิมารุยิ้มอย่างชั่วร้าย และพูดเยาะเย้ยต่อไปว่า "เธอคือแม่บุญธรรมของซาโตรุ แล้วเธอจะได้อะไรจากเขาบ้างกันล่ะ?"
เขายังรู้จุดอ่อนประการหนึ่งของซึนาเดะในเรื่องนี้ด้วย
นั่นคือตัวตนของเธอที่เป็นแม่บุญธรรมของซาโตรุ
ซึนาเดะกัดริมฝีปากของเธอเบาๆ แผ่นหลังของเจ้าเด็กขี้เล่นและดูยิ่งใหญ่ของซาโตรุปรากฏขึ้นมาภายในใจเธอ ในตอนแรกเธอนั้นปฏิบัติต่อซาโตรุเหมือนเป็นลูกบุญธรรม
แต่เมื่อเวลาผ่านไป หลังจากหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้น เธอก็เริ่มสนใจซาโตรุและกลับค่อยๆ ตกหลุมรักซาโตรุ
แต่เธอไม่เคยแสดงความรู้สึกออกมาเลย เพียงทำเป็นโกรธปกปิดเมื่อเธอถูกซาโตรุลวนลาม
เพราะเธอใส่ใจในตัวตนของเธอและฐานะที่เป็นแม่บุญธรรมจริงๆ
ดังนั้นเธอจึงซ่อนความรู้สึกของเธอและเบี่ยงเบนความสนใจของซาโตรุ ปล่อยให้เขากลับไปที่หมู่บ้านเพื่อดูแลลูกของโฮคาเงะรุ่นที่ 4
สิ่งที่โอโรจิมารุพูดมันจี้จุดเธอจริงๆ
ตอนที่ซึนาเดะตกอยู่ในภวังค์ คาบูโตะก็ฟันไปที่ท้องของซึนาเดะด้วยมีดที่มือ
ในเวลาเดียวกัน ซึนาเดะก็ต่อยคาบูโตะที่ท้องทันที
*ตู้ม*
ซึนาเดะลอยออกไปพร้อมกับคาบูโตะเนื่องจากแรงกระแทกของหมัด
“ท่านซึนาเดะ!” รูม่านตาของชิซึเนะหดตัวลง และเมื่อเธอกำลังจะช่วย โอโรจิมารุก็มาขวางเธอให้ออกไป
“ช่างน่าหวาดกลัวอะไรเช่นนี้” คาบูโตะค่อยๆ ลุกขึ้น จักระสีเขียวอ่อนโผล่ออกมาจากฝ่ามือของเขา เขากดลงบนช่องท้องอันเจ็บปวดของเขา อวัยวะภายในของเขาแตกสลายเพียงเพราะหมัด
หากเขาไม่ได้ใช้จักระเพื่อปกป้องช่องท้องของเขาในทันที เขาอาจถูกต่อยจนตายได้เลย
"[มีดจักระ]? นายก็เป็นนินจาแพทย์เหมือนกันสินะ?" ซึนาเดะยืนนิ่ง จักระขนาดใหญ่ระเบิดออกมา และกล้ามเนื้อที่สลายด้านในก็เริ่มรักษาตัวเอง
“คาบูโตะเป็นลูกน้องที่ดีที่สุดของฉัน เขาเป็นอัจฉริยะในการควบคุมจักระเลยล่ะ” โอโรจิมารุเฝ้าดูการต่อสู้ระหว่างซึนาเดะและคาบุโตะด้วยความสนใจจากระยะไกล
คาบูโตะสามารถควบคุมจักระได้อย่างแม่นยำ และความแข็งแกร่งของเขาก็อยู่ในระดับเดียวกับโจนินระดับพิเศษ
“ถ้าอย่างนั้นฉันจะจัดการกับนายก่อนแล้วกัน” ซึนาเดะกำหมัดแน่นแล้วโจมตีคาบูโตะอย่างรวดเร็ว
“ความแข็งแกร่งของท่านนั้นก็มีมากจริงๆ แต่ว่า...” คาบูโตะไม่ขยับ เขาดึงคุไนออกมาแล้วใช้มันเฉือนเข้าที่ฝ่ามือของเขาเอง สาดเลือดสีแดงฉานกระเด็นไปโดนใบหน้าของซึนาเดะ
หมัดของซึนาเดะหยุดอยู่ตรงหน้าคาบูโตะ หลังจากเห็นเลือดสีแดงเข้ม มันก็ปรกาฏความตื่นตระหนกในดวงตาของเธอ
คาบูโตะลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ซึนาเดะสมกับหนึ่งในซังนินในตำนาน มีพละกำลังมากมหาศาลจริงๆ
เธอมีระดับที่สูงกว่าระดับคาเงะทั่วไปหลายๆ คน
ทุกหมัดนั้นมีพลังโจมตีเทียบเท่ากับคาถาระดับ A
หากไม่มีโรคกลัวเลือดของเธอ ทั้งเขาและโอโรจิมารุก็คงไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้จนถึงตอนนี้หรอก
คาบูโตะกำหมัดแน่น เลือดสีแดงไหลลงมาที่พื้น
“แฮ่ก…แฮ่ก เลือด…เลือด” ลมหายใจของซึนาเดะค่อยๆ หนักและหอบถี่ขึ้น เธอคุกเข่าลงบนพื้นด้วยขากะเผลก มองดูเลือดสีแดงสดบนฝ่ามือ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความกลัว
ซึนาเดะตัวสั่นไปทั้งตัว ประสบการณ์ในอดีตได้หลั่งไหลเข้ามาในความคิดของเธอ
ภาพของเซนจู นาวากิ และดัน คาโต้ ภาพทั้งสองคนที่มีเลือดออกจนตายยังชัดเจนอยู่ในใจของเธอเสมอ
เธอกลัวเลือด กลัวการสูญเสียคนที่เธอรักไป
เธอรู้สึกเหมือนเป็นหายนะ เพราะทุกคนที่เธอรักในอดีตต่างจะต้องตายอย่างอนาถต่อหน้าเธอ
เธอกลัวว่าวันหนึ่งซาโตรุจะตายแบบนั้นเช่นกัน
นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่เธออยู่ห่างจากซาโตรุ
"ท่านเป็นหนึ่งในซังนินในตำนาน นินจาแพทย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกนินจา แต่กลับเป็นโรคกลัวเลือด ช่างน่าขันจริงๆ เลย" คาบูโตะยกเท้าขึ้นและเตะหน้าท้องของซึนาเดะอย่างแรงด้วยสีหน้าเยาะเย้ย
“แฮ่ก…ฮแฮ่ก” ซึนาเดะหายใจเข้าออกแรง เธอสูญเสียท่าทางที่ดูอาจหาญไปเสียแล้ว ตอนนี้ตัวเธอสั่นราวกับผู้หญิงที่ทำอะไรไม่ถูก
“ท่านซึนาเดะ ฉันจะพาท่านออกไปจากที่นี่เองค่ะ” ชิซึเนะรีบวิ่งไปหาซึนาเดะ
แสงสว่างวาบผ่านไป และดาบอันแหลมคมก็เฉือนไปที่คอของชิซึเนะ
"บ้าเอ๊ย!" ใบหน้าของชิซึเนะเปลี่ยนไปเล็กน้อย เธอกลิ้งตัวหลบอย่างรวดเร็วสองครั้งบนพื้นเพื่อหลีกเลี่ยงดาบคุซานางิของโอโรจิมารุ
“พาเธอออกไป” โอโรจิมารุมองไปด้านข้าง มองไปที่ซึนาเดะที่กำลังตกอยู่ในอาการหวาดกลัว ในม่านตาสีทองอ่อนที่เหมือนกับอสรพิษคู่นั้นคล้ายกับปรากฏความเหยียดหยามออกมา
'แข็งแกร่งมาก แต่กลับต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคกลัวเลือด'
'ช่างน่าเศร้าจริงๆ'
'ซึนาเดะ'
“ท่านโอโรจิมารุ” ในมือของคาบูโตะ จักระสีฟ้าอ่อนปรากฏขึ้น และมีดจักระก็ก่อตัวขึ้น
คาบูโตะเฉือนคอของซึนาเดะอย่างรวดเร็วด้วยมีดจักระ เขาตั้งใจที่จะตัดกล้ามเนื้อคอของซึนาเดะออก เผื่อว่าจะสิ่งไม่คาดคิดขึ้นระหว่างการจับตัว
*ตู้ม*
จักระขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นและครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด ภายในจักระมีจิตสังหารที่น่าสะพรึงกลัว
หลังจากถูกจักระหายไป ใบหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
“นี่คือจักระ…ของคุณซาโตรุงั้นเหรอ?” ชิซึเนะรู้สึกดีใจอย่างมาก
ผิวของคาบูโตะเริ่มเปลี่ยนสี ดวงตาฉายแวววหวาดกลัว แผ่นหลังของเขารู้สึกเย็นยะเยือกเล็กน้อย และมีดจักระก็หยุดอยู่ตรงหน้าลำคอของซึนาเดะ
ภาพหนึ่งแวบขึ้นมาในใจของคาบูโตะ
ภาพของซาโตรุ
เขามีลางสังหรณ์ว่าถ้ามีดจักระนี้ตัดคอของซึนาเดะสำเร็จ เขาจะต้องตายอย่างน่าสยดสยองแน่
ด้วยความกลัวนั้น เขาจึงการกระทำหยุดโดยไม่รู้ตัว
ซึนาเดะที่กำลังอ่อนแรงไปทั้งตัว ค่อยๆ ถอยกลับไป
*ปิด*
ซาโตรุปรากฏตัวออกมาจากอากาศ ยืนอยู่ข้างหลังซึนาเดะ
ซึนาเดะทิ้งตัวพิงซาโตรุ
“กลัวเหรอ?” ซาโตรุปิดตาของซึนาเดะและด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้าของเขา เขากระซิบข้างหูของซึนาเดะว่า "ถ้ากลัวก็หลับตาลงแล้วปล่อยให้ที่เหลือเป็นหน้าที่ของผมเอง"
ไกลออกไป
ทุกคนในทีมที่เจ็ดกำลังตกตะลึง นี่เป็นครั้งแรกเลยที่พวกเขาเห็นซาโตรุเผยรอยยิ้มอันอบอุ่นเช่นนี้
ซาโตรุมักจะมีท่าทีที่ไม่ค่อยจะเป็นมิตร ไม่ว่าเขาจะพบกับใครก็ตาม
แต่ว่ารอยยิ้มและพฤติกรรมอันอบอุ่นนี้ มันมาจากคนๆ เดียวกันจริงเหรอ?
*****