ตอนที่แล้วนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 378 - เป็นข้อเสนอที่น่าลอง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 380 - เทพธิดา??

นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 379 - สิ่งที่ไม่คาดคิด


ตูมม!!!

ครืน!!! โครม!!! ตึง!!! ตูม!!! เปรี้ยะ!!!

หมัดเดียว! ด้วยการต่อยออกไปด้วยความแข็งแกร่งทางกายภาพหมัดเดียว เสียงดังสะเทือนเลื่อนลั่นโกลาหลดังออกมาอย่างต่อเนื่องไม่หยุด สนามประลองสั่นราวกับเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ ส่วนหนึ่งของเวทีประลองพังทลาย ฝุ่นควันและเศษหินเศษปูนคละคลุ้งลอยปลิวว่อน ชิ้นส่วนคอนกรีตขนาดใหญ่ตกกระแทกพื้น สะเก็ดชิ้นเล็กชิ้นน้อยปลิวออกไปกระทบกับม่านพลังจนเกิดประกายไฟ

เว้ง!! เว้ง!! เว้ง!!!

คลื่นกระแทกที่พุ่งตามออกไปจนม่านพลังกระพริบตัว มันสั่นไหวอย่างรุนแรงไม่หยุด สภาพเหมือนจะแตกสลายลงไปได้ทุกเมื่อ แต่ในที่สุดม่านพลังก็ทนทานเอาไว้ได้ มันสงบและกลับคืนสู่สภาพปกติได้ในที่สุด

เสียงความวุ่นวายที่เกิดขึ้นทำให้ผู้ชมที่อยู่ในสนามประลองแห่งนี้หันจ้องมองมาอย่างพร้อมเพียง เหล่านักเรียนชั้นปีที่่ 2 ปี 3 ปี 4 และปี 5 ที่ปกติจะให้ความสนใจแค่เพียงการประลองบนเวทีของชั้นปีตัวเองก็หันมองมาเป็นตาเดียวกัน สีหน้าและแววตาของพวกเขานั้นตื่นตระหนก ทำไมสนามประลองถึงได้สั่นไหวไปทั้งหมดแบบนี้?

ไม่ใช่ว่าแต่ละเวทีมีม่านพลังป้องกันไม่ให้ผลกระทบจากการต่อสู้เล็ดลอดออกมาทำอันตรายผู้ชม และป้องกันไม่ให้สนามประลองได้รับความเสียหายอยู่แล้วหรือ? ถึงแม้ว่าศาสตราจารย์ใหญ่จะไม่ค่อยชอบเปิดใช้ม่านพลังจนถึงความแข็งแกร่งระดับสูงสุด แต่ตามปกติ ม่านพลังที่คลอบคลุมเวทีประลองของแต่ละชั้นปี จะมีพลังป้องกันที่เหนือกว่าพลังสูงสุดที่นักเรียนในชั้นปีนั้นจะมีได้อยู่แล้ว

แล้วอาการแผ่นดินสั่นไหวที่เกิดขึ้นคืออะไร? ชั้นปีไหนมีนักเรียนที่แข็งแกร่งเกินกว่ามาตรฐานสูงสุดในอดีตถือกำเนิดขึ้นมาอย่างนั้นหรือ? ใครกัน? แล้วเป็นอัจฉริยะระดับไหนกันแน่? ถ้ามันยังมีอัจฉริยะซ่อนตัวอยู่จริง ๆ  อนาคตของเขาหรือเธอคนนั้นต้องรุ่งโรจน์โชติช่วง เหล่าศาสตราจารย์อาวุโสจะต้องรีบแย่งกันรับตัวเป็นลูกศิษย์อย่างแน่นอน

หลังจากที่ตกตะลึงกันอยู่สักครู่ ผู้ชมส่วนหนึ่งก็ตั้งสติและนึกถึงความเป็นไปได้ดังกล่าวขึ้นมา นี่ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งแรก ในอดีตก็มีเรื่องราวทำนองนี้เกิดขึ้นมาไม่น้อยแล้วเช่นกัน แน่นอน! เหล่าศาสตราจารย์และศาสตราจารย์อาวุโสเริ่มหรี่ตามองอย่างพิจารณา จากเดิมที่แค่มองผ่านอย่างสงสัย กลายเป็นจ้องมองอย่างเคร่งเครียดและจริงจัง

ฝุ่นควันที่คละคลุ้ง! ไม่มีอาจปิดบังสายตาของเหล่ายอดฝีมือระดับสูงเหล่านั้นได้ แต่เพียงชั่วพริบตาเดียว ความรู้สึกที่หลากหลายก็ปรากฏอยู่บนใบหน้าของศาสตราจารย์และศาสตราจารย์อาวุโสพวกนั้น เมื่อเห็นหน้าอย่างชัดเจน พวกเขาส่วนหนึ่งจำเดวิดได้!

“เจ้าเด็กนั่น! ไม่ใช่ว่าเป็นลูกศิษย์ของไวท์ผู้บ้าคลั่งหรอกหรือ?” เสียงใครบางคนเอ่ยถามขึ้นมาด้วยความทึ่ง และแน่นอน น้ำเสียงยังแฝงเต็มไปด้วยความสงสัยสนใจ คิ้วของศาสตราจารย์อาวุโสหลายคนเลิกขึ้นอย่างประหลาดใจ เมื่อรู้ว่าคนที่เพิ่งทำลายเวทีลงไปเป็นลูกศิษย์ของใคร

“โอ้! อย่างนั้นหรือ ฉันก็เพิ่งได้ยินมาไม่นานว่าเจ้าบ้านั่นรับลูกศิษย์คนใหม่เมื่อไม่กี่เดือนก่อน ได้ข่าวว่าแค่เลือกมาสุ่ม ๆ ไม่ใช่หรือ? แต่เท่าที่เห็นอยู่ตอนนี้ คงจะไม่ใช่แค่สุ่มเลือกเพราะโดนบังคับแล้วมั้ง สายตาการมองพรสวรรค์คนของเจ้านั่นยังยอดเยี่ยมเหมือนเคย” ศาสตราจารย์อาวุโส ‘ลุค’ กล่าวออกมายิ้ม ๆ เขาเอนตัวมาด้านหน้าอีกเล็กน้อย เหมือนพยายามจะจ้องมองดูหน้าของเดวิดให้ชัดเจนขึ้น

“ก็น่าจะเป็นอย่างนั้น แค่เขายังมีชีวิตรอดอยู่หลังจากเป็นลูกศิษย์ของไวท์นานหลายเดือน นักเรียนคนนี้น่าจะมีคุณสมบัติพิเศษอะไรบ้างอย่างติดตัวอยู่แน่นอน” ใครบางคนเอ่ยให้ความเห็น

“หรืออาจจะเป็นคนไร้ประโยชน์ ไม่มีอะไรพิเศษเลยก็ได้!” อีกเสียงหนึ่งกล่าวต่อเพิ่มออกมา และมันเป็นเสียงของศาสตราจารย์อาวุโสหญิงท่านหนึ่ง

ทันที่ที่เสียงนั้นสิ้นสุดลง วงสนทนาของเหล่าศาสตราจารย์อาวุโสก็กลายเป็นเงียบกริบ ต่างพากันเมินหน้าและจ้องลงไปด้านล่างแบบเงียบ ๆ ไม่มีใครเอ่ยให้ความเห็นอะไรเพิ่มเติม ทุกคนรู้ดีเกี่ยวกับความแค้นระหว่างไวท์ผู้บ้าคลั่งกับศาสตราจารย์หญิงอาวุโสคนนี้ มันไม่ใช่เรื่องฉลาดที่จะสร้างความยุ่งยากให้ตัวเองเลย

ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่าง 2 คนนี้เป็นเรื่องประหลาด มันเป็นความแค้นที่รุนแรงพอที่จะทำให้ทั้งคู่ฆ่ากันให้ตายได้ ทั้ง ๆ ที่พวกเขาเคยเป็นคู่รักกันมาก่อน แต่ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปภายในวันเดียว ความสัมพันธ์ที่ยุ่งเหยิงวุ่นวายแบบนี้ ไม่มีศาสตราจารย์อาวุโสคนไหนกล้าเข้าไปยุ่งเกี่ยว แม้แต่ศาสตราจารย์ใหญ่ก็ไม่เว้นเหมือนกัน ไม่สิ! เขาเป็นคนที่พาตัวเองออกห่างจากเรื่องนี้มากที่สุดเลย

“น่าเสียดายที่ไวท์ออกไปทำภารกิจ ไม่อย่างนั้นเขาคงยินดีมากแน่ ๆ ที่ลูกศิษย์ของตัวเองแสดงฝีมือได้อย่างยอดเยี่ยมแบบนี้” ศาสตราจารย์อาวุโสชราคนหนึ่งกล่าวพึมพำออกมาในที่สุด

ในที่สุด ฝุ่นควันอันคละคลุ้งก็เริ่มสลายหายไป เวทีประลองของนักเรียนชั้นปีที่ 1 กลับมาปรากฏให้เห็นได้อย่างชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง แต่สภาพของมันในตอนนี้แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง 1 ส่วน 4 ของมันถูกทำลายลงไปจนแหลกลาญ เวทีประลองที่สร้างจากวัสดุที่แข็งแรงจนสามารถรองรับการประลองของเฟสเซอร์ระดับ 4 ยีนได้ ถูกทำลายลงไปในการโจมตีเดียวเท่านั้น จริงอยู่ ก่อนหน้านี้เวทีประลองกลายเป็นหลุมเป็นบ่อ แตกร้าว สั่นสะเทือนมาแล้วหลายครั้ง แต่แหลกเป็นชิ้น ๆ แบบนี้ นี่ไม่ใช่สิ่งที่ใครจะคาดคิดเอาไว้ และมันไม่น่าจะเกิดขึ้นได้เลย ไม่ใช่ที่เวทีประลองของนักเรียนชั้นปีที่ 1 แบบนี้

ภาพที่ปรากฏขึ้นทำให้เหล่าคนดูเบิกตากว้างและอ้าปากค้างขึ้นมาอีกครั้ง นี่คือสิ่งที่ทุกคนไม่คาคคิดคาดฝันว่าจะได้เห็น นี่คือพลังทำลายล้างที่รุนแรงที่สุดตั้งแต่การประลองครั้งนี้เริ่มต้นมาเลย คนที่ปล่อยพลังโจมตีแบบนี้ออกมากได้ ต้องเป็นปีศาจแบบไหนกันแน่

ไม่ใช่เพียงแต่ผู้ชมทั่วไปเท่านั้นที่ตกตะลึง สีหน้าของฟิลลิดา ดิวอส และนอร์มาส์ก็เปลี่ยนสีและอ้าปากค้างตามไปด้วย พวกเขาตกตะลึงมากกว่าคนอื่น ๆ เสียด้วยซ้ำ กัปตันทีมจอมปลอมของพวกเขาเพิ่งทำลายเวทีประลองลงไป!

“เป็นไปไม่ได้!” ดิวอสพึมพำออกมาด้วยใบหน้าที่บิดเบี้ยว เจ้าหมอนั่นแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ได้อย่างไร มันต้องใช้เล่ห์กลอะไรอีกแน่ จนถึงวินาทีนี้ เขาก็ยังยอมรับไม่ได้ว่าสิ่งที่เห็นอยู่กับตานั้นเป็นเรื่องจริง

ส่วนฟิลลิดา! หลังจากสงบสติอารมณ์ของตัวเองได้ สาวสวยคนนี้ก็หรี่ตาลงอย่างครุ่นคิด ก่อนที่สีหน้าจะเปลี่ยนแปลงกลับมาเป็นปกติได้อีกครั้ง ในหัวของเธอกำลังภาวนาให้เดวิดแสดงความแข็งแกร่งที่มากกว่านี้ออกมา เหตุผล!? มันจะเป็นข้ออ้างอย่างดีให้ตัวเองไม่ต้องลงมือกับเขา ถ้าความแตกต่างระหว่างเดวิดกับเธอมากเกินไป ทางตระกูลจะต้องส่งยอดฝีมือมาจัดการ มันจะไม่ใช่หน้าที่โดยตรงของฟิลลิดาอีก เธอจะไม่ต้องเอาตัวเข้าไปเสี่ยงกับปีศาจระดับนี้อีกต่อไป

สีหน้าเรียบเฉยเย็นชาของครูฝึกเอลล่ามีรอยยิ้มเล็ก ๆ ปรากฏขึ้นที่มุมปาก เธอรู้ดีว่าสิ่งที่เดวิดกล่าวออกมานั้นเป็นเรื่องจริง คราวนี้เจ้าเด็กตัวแสบไม่ได้โกหก เขายังใช้พลังออกมาไม่ถึงครึ่งจริง ๆ และมันก็มีพลังทำลายล้างมากถึงขนาดนี้แล้ว เจ้าบ้านี่อาจจะชนะเลิศจริง ๆ ตามสัญญาก็ได้

บนเวทีประลองที่เหลืออยู่แทบจะไม่ถึง 3 ส่วน ไม่ได้มีเดวิดยืนอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น ไลร่ายังยืนอยู่บนเวทีนี้อย่างปลอดภัยด้วย สาวน้อยคนนี้ยืนเยื้องมาทางด้านหลังของเดวิดห่างออกไปไม่กี่เมตร แม้ว่าจะไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร แต่สีหน้าที่เคร่งขรึมจริงจังนั้นซีดเผือด มันไม่มีสีเลือดปรากฏอยู่เลยแม้แต่นิดเดียว เหงื่อเย็น ๆ ไหลออกมาเต็มหน้าผาก ในดวงตานั้นเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกตกใจ

อำนาจการทำลายล้างแบบนี้! ไลร่าคิดไม่ออกเลยว่าตัวเองจะอยู่ในสภาพแบบไหน ถ้ายังยืนรับหมัดนี้อยู่กับที่อย่างที่เอ่ยปากเอาไว้ก่อนการต่อสู้ คิดไม่ออกจริง ๆ ในหัวของเธอตอนนี้มีแต่ความรู้สึกดีใจ ที่สามารถกระตุ้นทักษะพิเศษพาตัวหนีออกมาจากการโจมตีที่โหดร้ายครั้งนี้ได้ทัน...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด