บทที่ 114 วิธีการใช้สารบัญทักษะที่ถูกต้อง
เวลาแห่งความสุขมักสั้นเสมอ
เนื่องจากหยินเจิ้งฟานและซืออวี๋ต่างก็ต้องการที่จะทำการสอบต่อไป หลังจากที่ซืออวี๋และสัตว์อสูรของเขาสัมผัสกับการเทเลพอร์ต พวกเขาทั้งสองคนก็อำลากัน
เขายังตกลงที่จะกลับมาที่นี่เพื่อต่อสู้ก่อนที่การสอบจะสิ้นสุดลงเพื่อตัดสินผู้ชนะ
“อีกสามวัน…”
ซืออวี๋มองหยินเจิ้งฟานและผีเสื้อคริสตัลมิติที่จากไปและยิ้มออกมา เขาค่อนข้างชอบเด็กผู้นี้
ไม่เพียงแค่เขาจะสุภาพเท่านั้น แต่เขายังพูดคุยง่ายอีกเช่นกัน สัตว์อสูรของเขาก็หาได้ยากยิ่งและทักษะของพวกมันก็มีระดับสูง ซืออวี๋ต้องการที่จะผูกมิตรกับสัตว์อสูรของเขามากยิ่งขึ้น
“พวกเจ้ารู้สึกยังไงบ้าง?”
ซืออวี๋เอ่ยถามอีเลฟเว่นและบักกี้ “พวกเจ้าอยากเรียนรู้มันไหม?”
“จิ๋!”
“อู๋…”
ดวงตาของบักกี้เปล่งประกาย พบว่ามันน่าสนใจมาก
ในชั่วพริบตา มันได้ทะเลพอร์ตมายังสถานที่อันห่างไกล มหัศจรรย์มาก!
มันมีอาการมึนเมาเล็กน้อยในระหว่างการเทเลพอร์ต
มันสงสัยว่ามันจะอาการดีขึ้นในตอนที่มันเป็นฝ่ายเทเลพอร์ตเอง
เมื่อเทียบกับความโหยหาทักษะหใม่ของบักกี้ อีเลฟเว่นค่อนข้างสงบ
ในฐานะจ้าวทักษะ อีเลฟเว่นกำลังวิเคราะห์ข้อเสียของการเทเลพอร์ต
ท้ายที่สุด อีเลฟเว่นได้ยินมาว่าเด็กผู้นี้ต้องการให้ผีเสื้อคริสตัลมิติต่อสู้กับมัน
ดังนั้นมันจึงต้องวิเคราะห์ความสามารถของคู่ต่อสู้
เนื่องจากคุณสมบัติของมัน ความแข็งแกร่งของผีเสื้อคริสตัลมิติตัวนี้ยังคงไร้สาระมาก
แม้แต่สัตว์อสูรเผ่าพันธุ์ระดับราชันย์ขั้นต่ำบางส่วนเมื่อเผชิญหน้ากับผีเสื้อคริสตัลมิติตัวนี้ก็ยังไม่ทราบผลลัพธ์การต่อสู้
นี่เป็นเพราะคุณสมบัติ ในบรรดาคุณสมบัติหลัก มิติคือราชา และเวลาคือสูงสุด นั่นเป็นสิ่งที่บักกี้มักจะเห็นบนอินเทอร์เน็ตอยู่เสมอ
เราจะเห็นได้ว่าธาตุมิตินั้นทรงพลังมาก!
หากมันต้องการที่จะต่อสู้กับผีเสื้อคริสตัลมิติตัวนี้ กลยุทธ์ต่อสู้ที่อีเลฟเว่นคิดได้ก็คือการตอบโต้ด้วยความเร็วสูง!
แม้ว่าความเร็วการเทเลพอร์ตของผีเสื้อคริสตัลมิติจะเร็วมาก แต่ความเร็วในการบินและความเร็วในการตอบสนองตามธรรมชาติของผีเสื้อคริสตัลมิติก็อาจไม่จำเป็นต้องทรงพลังยิ่งกว่ามัน
ไม่ว่าการเทเลพอร์ตจะเร็วมากเพียงใด แต่นั่นก็ยังคงต้องใช้เวลาเพื่อเปิดใช้งาน ยิ่งกว่านั้น การเคลื่อนไหวนี้ก็ไม่ใช่ทักษะโจมตี ดังนั้นจึงต้องใช้เวลาในการตอบสนองเมื่อผีเสื้อคริสตัลมิติโจมตี
อีเลฟเว่นรู้สึกว่าเวลาเพียงเท่านี้ก็เพียงพอสำหรับมันที่จะเอาชนะผีเสื้อคริสตัลมิติได้ในชั่วพริบตาด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลซึ่งเกิดจากฝ่ามือสายฟ้าขั้นสมบูรณ์
นอกจากนี้ มันยังมีทักษะการปราบปรามที่สามารถจำกัดความเร็วในการตอบสนองของผีเสื้อคริสตัลมิติ
“การวิเคราะห์ของเจ้าค่อนข้างดี”
ซืออวี๋พยักหน้าและกล่าวว่า “ความเชี่ยวชาญการเทเลพอร์ต การปกปิด และห่วงมิติของผีเสื้อคริสตัลมิติไม่ควรจะสูงมากนัก”
“ในด้านของความเชี่ยวชาญทักษะ เจ้าได้เปรียบอย่างมาก ในด้านของพลังงาน เจ้าก็น่าจะเพิ่งเห็นใช่ไหม?”
อีเลฟเว่นพยักหน้าอย่างหนัก ตามสุดยอดการมองเห็นของมัน พลังงานทั้งหมดของผีเสื้อคริสตัลมิติอาจไม่ถึงสองในสามของมันเลย ดังนั้นหากเป็นการต่อสู้แบบล้างผลาญ มันก็มีโอกาสชนะสูงมาก
ซืออวี๋และอีเลฟเว่นวิเคราะห์ข้อบกพร่องของทักษะมิติทั้งสามทีละอย่าง
“จิ๋…”
บักกี้ดูขมขื่นมาก หยุดวิเคราะห์
พวกมันเป็นทักษะที่เท่มาก แต่หลังจากการวิเคราะห์ ทำไมมันถึงไม่รู้สึกว่าพวกมันน่าทึ่งอีกต่อไปแล้วล่ะ?
นั่นทำให้บักกี้มีภาพมายาว่าแม้ว่ามันจะเรียนรู้พวกมันแล้ว มันก็ยังเอาชนะอีเลฟเว่นไม่ได้
“ฮ่าๆๆๆ”
ซืออวี๋ยิ้มออกมา นั่นไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ขีดจำกัดสูงสุดของสามทักษะเหล่านี้ยังคงสูงกว่าทักษะที่อีเลฟเว่นเชี่ยวชาญในเวลานี้
การวิเคราะห์โอกาสในการชนะของอีเลฟเว่นและผีเสื้อคริสตัลมิตินั้นขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญทักษะของอีเลฟเว่นอย่างสมบูรณ์
ตราบใดที่หนึ่งในทักษะของผีเสื้อคริสตัลมิติถึงขั้นชำนาญ แรงกดดันต่ออีเลฟเว่นคงจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาจำเป็นต้องระวัง อย่างไรก็๖าม ซืออวี๋ตัดสินว่าความเชี่ยวชาญทักษะของอีกฝ่ายไม่ควรจะสูงนัก
ท้ายที่สุด หยินเจิ้งฟานและผีเสื้อคริสตัลมิติก็ยังไม่แก่ ยิ่งกว่านั้น ความเชี่ยวชาญทักษะเป็นสิ่งที่ซับซ้อนมากยิ่งขึ้นเมื่อทักษะมีระดับสูงขึ้น และความยากในการเพิ่มความเชี่ยวชาญทักษะก็จะยิ่งสูงขึ้น
ทักษะระดับต่ำสามารถถึงขั้นชำนาญได้หลังจากที่สัตว์อสูรฝึกฝนอย่างหนักเป็นเวลาหนึ่งปี
อย่างไรก็ตาม สำหรับทักษะระดับสูงในการไปถึงขั้นชำนาญ ปริมาณการฝึกฝนที่จำเป็นนั้นมากยิ่งกว่าทักษะระดับต่ำหลายเท่า
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเมื่อซืออวี๋เพิ่มแต้มให้แก่ทักษะระดับสูงถึงต้องใช้พละกำลังมากยิ่งกว่าทักษะระดับต่ำ
ตัวอย่างชเ่น สำหรับทักษะระดับสุดยอด บางทีสัตว์อสูรเผ่าพันธุ์ระดับราชันย์อาจไม่สามารถพัฒนาจากขั้นเริ่มต้นไปถึงขั้นช่ำชองได้หลังจากฝึกฝนอย่างหนักหน่วงหลายปี
ความยากลำบากในการยกความเชี่ยวชาญของทักษะระดับสูงนั้นสูงมากเกินไป เรื่องนี้มอบโอกาสให้สัตว์อสูรเผ่าพันธุ์ระดับต่ำมีโอกาสเอาชนะศัตรูที่แข็งแกร่งโดยการใช้ทักษะผสานและความล้ำลึกที่ก่อจากทักษะระดับต่ำ…
“หากเจ้าเรียนรู้การเทเลพอร์ตและเราพัฒนาเป็นขั้นเหนือธรรมชาติ อีเลฟเว่นก็จะไม่สามารถเอาชนะเจ้าได้แม้ว่ามันจะพยายามมากเพียงใด” ซืออวี๋กล่าวกับบักกี้
บักกี้ดีใจอย่างคาดไม่ถึงอีกครั้ง
“อู๋!”
อีเลฟเว่นทำหน้ามุ่ย
ซิ
เจ้าหนอนโง่ เจ้าฝากความหวังในการเอาชนะข้าไว้กับการเพิ่มแต้ม เจ้าไร้ความทะเยอทะยาน ดูเหมือนว่าเจ้าจะถูกกัดกร่อนไปแล้ว
เมื่อการเทเลพอร์ตของบักกี้ถึงขั้นสูงสุด อีเลฟเว่นเชื่ออย่างแน่วแน่ว่ามันจะต้องเชี่ยวชาญทักษะที่สามารถทำลายมิติได้อย่างแน่นอนและนักกฝึกสัตว์อสูรของพวกมันก็เพิ่มแต้มให้แก่ทักษะนั้น!
ทุกคนรู้วิธีการเพิ่มแต้ม!
ทุกคนยืนอยู่บนจุดเดียวกัน พวกมันต้องแข่งขันกันอย่างหนักหน่วง ในด้านนี้ อีเลฟเว่นไม่ได้อ่อนแอไปกว่าบักกี้เลย
…
จากนั้นซืออวี๋ก็หยิบกระบี่ไม้ขึ้นมาและขี่อีเลฟเว่นเพื่อเริ่มการผจญภัยครั้งใหม่
มีสัตว์อสูรระดับเหนือธรรมชาติจำนวนมากอยู่ที่นี่อย่างแท้จริง ไม่นานนัก พวกเขาก็พบกับสัตว์อสูรดุร้ายระดับเหนือธรรมชาติอีกหนึ่งตัวซึ่งคืออสรพิษคลั่งธาตุน้ำ
ซืออวี๋ไร้คำกล่าว ทำไมถึงมีงูมากเช่นนี้ล่ะ?
ไม่มีจิตวิญญาณอสรพิษเช่นเมดูซ่าเหรอ?
การสังหารพวกมันคงจะน่าตื่นเต้นมาก…
“…”
ในเวลานี้ อสรพิษยักษ์สีน้ำเงินเข้มกำลังเลื่อยรอบโขดหิน มันจ้องมองไปที่ซืออวี๋และสัตว์อสูรของเขาอย่างเลือดเย็นและตัดสินใจว่ามันจะกินให้มากขึ้นในภายหลัง
ส่วนใหญ่เป็นเพราะมันไม่เคยกินสัตว์อสูรที่แปลกประหลาดเช่นนี้มาก่อนและไม่รู้ว่าพวกมันอร่อยไหม
“ดูเหมือนจะมีทะลสาบอยู่ข้างหน้า”
หลังจากค้นพบสัตว์อสูรดุร้ายธาตุน้ำ ซืออวี๋ดูเหมือนจะรู้สึกว่าอากาศชื้นขึ้นมาก เขาจึงตัดสินใจทันที
เขาคุ้นเคยกับอสรพิษคลั่ง มันมีทักษะเผ่าพันธุ์บ้าคลั่งและหางกระหน่ำ ย้อนกลับไปในตอนที่เขาฝึกบนภูเขาเทียนหมั่ง ดูเหมือนว่าจะมีบอสขนาดเล็กที่ชื่อว่าอสรพิษคลั่ง ในเวลานั้น ซืออวี๋มีความคิดที่จะจำลองบ้าคลั่งของอสรพิษคลั่ง ทว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับอสรพิษคลั่งอย่างแท้จริง
การมีสัตว์อสูรดุร้ายธาตุน้ำหมายความว่ามีแหล่งน้ำ…
เขามีภารกิจและนั่นก็คือการได้รับทรัพยากรธาตุน้ำ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติมากที่เขาจะมีทะเลสาบและแม่น้ำใกล้กับจุดที่เขาลงพื้น
“ฟ่อ…”
ซืออวี๋ อีเลฟเว่น และบักกี้ยังคงเลือกที่จะเพิกเฉยต่ออสรพิษคลั่งและคิดถึงเรื่องอื่น เรื่องนี้ทำให้อสรพิษคลั่งเงียบลงและบ้าคลั่งมากยิ่งขึ้น
ในขณะที่อสรพิษคลั่งกำกลังคิด ซืออวี๋ก็มองไปที่มัน
“เจ้าเคยถูกฟันด้วยความเร็วแสงไหม?”
อสรพิษคลั่ง : ???
หลังจากที่ซืออวี๋กล่าวจบ เขาก็ยกกระบี่ไม้ขึ้นมาอย่างเชื่องช้า
ในช่วงเวลาต่อมา ฝ่ามือสายฟ้าขั้นสมบูรณ์ การเคลือบแข็งขั้นเหนือธรรมชาติ การปราบปรามขั้นชำนาญ สุดยอดการมองเห็นขั้นสมบูรณ์ถูกใช้ในเวลาเดียวกัน!
สายฟ้าห่อหุ้มแขนขาทั้งสี่ของมันในขณะที่มันปะทุด้วยความเร็วอันน่าสะพรึง หลังจากนั้น ร่างของซืออวี๋และอีเลฟเว่นก็เปล่งแสงราวกับสายฟ้าและมาถึงข้างอสรพิษคลั่ง เมื่ออสรพิษคลั่งตอบสนอง กกระบี่ไม้ก็แทงเข้าที่หัวของมันและตัดหัวของมัน
ฉัวะ…
“ความล้ำลึก ประกายอัสนี…”
เสียงของซืออวี๋ลดลงอย่างเชื่องช้า ร่างกายและมือของเขาสั่นเทา ท้ายที่สุด ความเร็วของเขาก็เร็วเกินไป หากอีเลฟเว่นไม่ใช้การเคลือบแข็งเพื่อทำให้เขามั่นคงและใช้สุดยอดการมองเห็นของมันเพื่อแทงกระบี่เข้าไปในร่างกายของอสรพิษคลั่งอย่างแม่นยำ ซืออวี๋คงจะลอยไปไกลเช่นเดียวกับบักกี้แล้ว
ในระยะไกล บักกี้คลานขึ้นมาอย่างสับสน มันมองไปที่นักฝึกสัตว์อสูรที่เท่และผู้นำที่ให้ความร่วมมืออย่างมากตรงหน้าเขาและรู้สึกหดหู่ใจ
พวกเขาไม่นำมันไปด้วยเหรอ?
มันสามารถใช้ความสามารถภาพมายาเพื่อเพิ่มเอฟเฟกต์พิเศษได้! มันไม่ได้ไร้ประโยชน์!
ในขณะนี้ อสรพิษคลั่งไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเลย บนท้องฟ้า เนตรสวรรค์ตกตะลึงเป็นครั้งที่สองหลังจากสังเกตผู้เข้าร่วมมามากกว่า 6,000 คน
ในฐานะสัตว์อสูรระดับราชันย์ มันสามารถบอกได้ว่าเหตุผลที่ซืออวี๋ใช้ท่วงท่าได้สำเร็จนั้นล้วนเป็นเพราะสัตว์อสูรของเขาคอยช่วยเหลือ ทว่าเจ้าพวกนี้กำลังถ่ายหนังกันอยู่เหรอ?? นี่คือการประเมินมืออาชีพ!! พวกเจ้าทำเช่นนี้ได้ยังไงกัน!
มันเห็นว่าผู้เข้าร่วมคนอื่นกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อใช้พรสวรรค์ฝึกสัตว์อสูรของพวกเขาในการเสริมพลังให้แก่สัตว์อสูรของพวกเขาและปล่อยให้สัตว์อสูรของพวกเขาออกล่า
ซืออวี๋… เขาให้สัตว์อสูรของเขาคอยช่วยเหลือเขาอย่างบ้าคลั่งในขณะที่เขาสังหารศัตรู… เขาทำเช่นนี้ได้ยังไงกัน?
เนตรสวรรค์เงียบลง มันรับเรื่องนี้ไม่ได้ มันต้องตัดต่อวิดีโออย่างจริงจังและทำให้ผู้คุมสอบตกตะลึงทุกคน
…
ไม่นานนัก ซืออวี๋และสัตว์อสูรของเขาก็มาถึงริมทะเลสาบ
ทะเลสาบนี้ดูเงียบสงบมาก ทว่าซืออวี๋รู้สึกได้ว่ามีจิตสังหารซ่อนอยู่ สัตว์อสูรระดับเหนือธรรมชาติน่าจะอยู่ใต้น้ำ
อย่างไรก็ตาม พวกเขายังคงต้องสร้างความวุ่นวายให้แก่ทะเลสาบ
นั่นเป็นเพราะมีดอกบัววารีอยู่บนผิวน้ำของทะเลสาบ
ดอกบัววารีอยู่กลางทะเลสาซึ่งไกลจากฝั่งมาก
ในสถานการณ์นี้ การรวบรวมพวกมันโดยปราศจากสัตว์อสูรประเภทบินและธาตุน้ำนั้นเป็นเรื่องยากมากอย่างแท้จริง…
พวกเขารังแกนักฝึกสัตว์อสูรที่บ่มเพาะอสูรกินเหล็ก
“ทว่าข้ามีไผ่สองใบ เจ้ากำเป้าหมายมาที่ข้าได้ยังไงกัน?”
ซืออวี๋หัวเราะอย่างบางเบา เขาไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะทำภารกิจการสอบเสร็จภายในเวลาไม่ถึงครึ่งวัน
การเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่มีความหมายว่าอะไร? การถูกบดขยี้โดยความแข็งแกร่งหมายความว่าอะไร…
“บักกี้ ใช้ไหมหนอนไปเอาดอกบัววารี”
เมื่อมองไปที่ดอกบัวที่อยู่ห่างออกไปหลายร้อยเมตร ซืออวี๋ก็ได้สั่งบักกี้บนไหล่ของเขา
“จิ๋…” บักกี้เข้าใจและได้พ่นไหมหนอนโปร่งใส่อันยาวเหยียดของมันออกไป
ดอกบัวถูกดึงและลอยกลับมาหาซืออวี๋อย่างรวดเร็ว
ไม่มีอุปสรรคในขั้นตอนนี้เลย
เพียงเมื่อดอกบัววารีลอยมาข้างซืออวี๋ ทะเลสาบก็สั่นสะเทือนอย่างฉับพลัน
บูม!
ผิวน้ำดูเหมือนจะระเบิดออกมา และสัตว์อสูรธาตุน้ำระดับเหนือธรรมชาติขั้นสูง ภูติไหลคลั่งก็ได้คลานออกมาจากทะเลสาบในรูปร่างน้ำพุอย่างกะทันหัน!
นอกจากนี้ ทั่วทั้งทะเลสาบยังปรากฎปลาคาร์ปมังกรเผ่าพันธุ์ระดับเหนือธรรมชาติขั้นต่ำและกบประทานฝนเผ่าพันธุ์ระดับเหนือธรรมชาติขั้นกลาง พวกมันอยู่ในระดับปลุกตื่น
ซืออวี๋มองไปที่การเปลี่ยนแปลงในทะเลสาบและดอกบัววารีข้างเขา เขาแน่ใจว่าบอสของทะเลสาบแห่งนี้ก็คือภูติไหลคลั่งตัวนี้
[ชื่อ] : ภูติไหลคลั่ง
[คุณสมบัติ] : น้ำ
[ระดับเผ่าพันธุ์] : เหนือธรรมชาติขั้นสูง
[ทักษะเผ่าพันธุ์] : ไหลคลั่ง กำแพงน้ำ ชำระล้าง
ภูติไหลคลั่งเป็นสัตว์อสูรธาตุที่ค่อนข้างแปลก
มันชอบน้ำอย่างมาก น้ำท่วมและฝนตกหนักเกิดจากการที่มันรวมตัวสัตว์อสูรประเภทน้ำจำนวนมาก นิสัยของมันก็คือการทำให้ทั้งผืนแผ่นดินกลายเป็นน้ำ
เมื่อเทียบกันแล้ว ปลาคาร์ปมังกรและกบประทานฝนที่ปกราฎตัวออกมานั้นเป็นสัตว์อสูรที่ค่อนข้างไร้พิษภัย เพื่อให้สามารถเอาชีวิตรอดได้ในสถานที่เช่นนี้… นั่นต้องเป็นเพราะการคุ้มครองจากภูติไหลคลั่ง
ภูติไหลคลั่งที่มีทักษะชำระล้างยังคงเป็นที่นิยมอย่างมากในบรรดาสัตว์อสูรประเภทน้ำเพราะพวกมันสามารถชำระล้างแหล่งน้ำและเพิ่มคุณภาพของแหล่งน้ำได้ ดังนั้นพวกมันจึงถูกเรียกว่าภูติวารีชำระล้าง
ทรัพยากรเช่นดอกบัววารีถูกใช้เพื่อชำระล้างคุณภาพน้ำเป็นหลัก ดังนั้นเมื่อซืออวี๋นำมันไป สัตว์อสูรในทะเลสาบจึงไม่สามารถนิ่งเฉยได้อีกต่อไป
“บูม…”
ภายใต้เสียงคำรามของภูติไหลคลั่ง สัตว์อสูรประเภทน้ำหลายสิบตัวโผล่หัวของพวกมันออกมาจากน้ำ
“อู๋!!!!”
บนพื้นดิน อีเลฟเว่นเงยหน้าขึ้นและคำรามใส่สัตว์อสูรที่ปรากฎตัวในทะเลสาบ แสดงถึงการปราบปราม
ในช่วงเวล่ต่อมา สัตว์อสูรประเภทน้ำทุกตัวรวมถึงภูติไหลคลั่งก็ได้จมลงไปในน้ำและหนีไปในทันที ดูเหมือนว่าพวกมันบอกว่าพวกมันไม่เป็นไร เรื่องนั้นพวกมันรับได้ คุณภาพน้ำที่นี่ดีมากพอแล้ว ดอกบัววารีไม่สำคัญเลย
ในธรรมชาติ กำปั้นก็คือกฎ
“อีเลฟเว่น มีวิธีไหนบ้างที่ข้าจะผ่าทะเลสาบด้วยกระบี่?”
อีเลฟเว่น : ( ̄口 ̄)!!
ชายผู้นี้บ้าคลั่งอย่างแท้จริง!
“จิ๋!” บักกี้รีบกล่าวออกมา มันมีวิธี
ซืออวี๋เพียงแค่แกล้งเหวี่ยงกระบี่ของเขา มันสามารถใช้ไหมหนอนโปร่งใสเพื่อจำลองออร่ากระบี่ในขณะที่ผ่าทะเลสาบ ด้วยวิธีนี้ นั่นจะดูราวกับว่าซืออวี๋ได้ผ่านทะเลสาบ จากนั้นอีเลฟเว่นก็จะใช้การปราบปรามเพื่อทำให้สัตว์อสูรทุกตัวในทะเลสาบหมดสติ นี่จะเป้นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในการต่อสู้…
ในฐานะอัศวินแพนด้า นี่เป็นเรื่องปกติที่เขาจะใช้ออร่ากระบี่ได้
อีเลฟเว่น : Σ (° △ ° | | |) สวัสดี ผู้กำกับบักกี้
“มันเป็นวิธีการที่ดีมาก ทว่ามันเปลืองพลังงานมากกเกินไป ลืมไปเถอะ” ซืออวี๋ยิ้มออกมา เขาเพียงแค่ล้อเล่น เขามองไปที่ทะเลสาบอีกครั้ง เขาไม่คาดคิดว่าจะได้พบกับกบประทานฝนและปลาคาร์ปมังกรที่นี่
[ชื่อ] : กบระทานฝน
[คุณสมบัติ] : น้ำ
[ระดับเผ่าพันธุ์] : เหนือธรรมชาติขั้นกลาง
[ทักษะเผ่าพันธุ์] : ศรวารี (ทักษะประเภทน้ำระดับต่ำ) ประทานฝน (ทักษะประเภทน้ำระดับสูง)
ประทานฝนนี้เป็นทักษะที่ดีมาก มันเป็นทักษะที่หาได้ยากซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศได้
หากเป็นวันที่ฝนตก ประสิทธิภาพของสัตว์อสูรประเภทน้ำจะดีขึ้นมาก มันเทียบได้กับพรสวรรค์เสริมพลังธาตุน้ำ!
อย่างไรก็ตาม ซืออวี๋ไม่ได้สนใจมากนัก ท้ายที่สุด ไม่มีสัตว์อสูรในทีมของเขาที่เหมาะสมกับสภาพอากาศฝนตก
อย่างไรก็ตาม ปลาคาร์ปมังกรนั้นน่าสนใจ
[ชื่อ] : ปลาคาร์ปมังกร
[คุณสมบัติ] : น้ำ
[ระดับเผ่าพันธุ์] : เหนือธรรมชาติขั้นต่ำ
[ทักษะเผ่าพันธุ์] : กระโดดข้ามประตูมังกร (ทักษะประเภทน้ำไร้ระดับ)
เช่นเดียวกับหนอนไหมเขียว ปลาคาร์ปมังกรนี้อ่อนแอมากในโลกแห่งสัตว์อสูร
ในขณะเดียวกัน มันก็เป็นหนึ่งในสัตว์อสูรไม่กี่ตัวที่สามารถพึ่งพาการเพิ่มความเชี่ยวชาญทักษะเผ่าพันธุ์ของพวกมันเพื่อวิวัฒนาการตามธรรมชาติเช่นเดียวกับหนอนไหมเขียว
อย่างไรก็ตาม ความยากในการวิวัฒนาการของมันนั้นสูงยิ่งกว่าหนอนไหมเขียวมาก ดังนั้นสถานะของมันจึงต่ำกว่าหนอนไหมเขียวมากเช่นกัน
ว่ากันว่าตราบใดที่ปลาคาร์ปมังกรฝึกฝนทักกษะกระโดดข้ามประตูมังกรจนถึงขั้นสมบูรณ์ได้ มันจะสามารถวิวัฒนาการเป็นคุณสมบัติมังกรและกลายเป็นมังกรรองได้
กระโดดข้ามประตูมังกรนี้ฟังดูเท่มาก ทว่าอันที่จริงก็เป็นเช่นเดียวกับไหมหนอน มันเป็นทักษะไร้ระดับที่สามารถฝึกฝนจนถึงขั้นสมบูรณ์ได้ อย่างมากก็ทำให้เกิดคลื่นกระแทกขนาดเล็ก
ทว่าทักษะไร้ระดับนี้สามารถเพิ่มศักยภาพเผ่าพันธุ์ของปลาคาร์ปมังกรได้
ในเวลานี้ เมื่อเขาเห็นปลาคาร์ปมังกร ซืออวี๋ก็ตกอยู่ในห้วงความคิดลึก
เมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้ แม้ว่าทักษะไร้ระดับเหล่านี้จะเป็นขยะ แต่ก็ดูเหมือนว่าพวกมันจะไม่ได้ไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง
เขารู้สึกว่าบางทีเขาอาจจะมองหาพวกมันในอนาคตและดูว่ามีทักษะไร้ระดับไหนที่เหมาะกับการสอนให้แก่อีเลฟเว่นและบักกี้?
ท้ายที่สุด การสอนทักษะไร้ระดับนั้นง่ายเกินไป ไม่ต้องใช้พละกำลังและเวลามากนักในการเพิ่มให้ถึงขั้นสูงสุด จากนั้นมันก็จะเปลี่ยนจากขยะกลายเป็นเวทมนตร์ หลังจากนั้น เมื่อถึงขั้นสูงสุด มันก็สามารถลบออกจากสารบัญทักษะได้ เมื่อเทียบกับทักษะเหล่านี้ ใครจะรู้ว่าต้องใช้เวลานานเพียงใดในการลบพลังภายในและการควบคุมพืชในสารบัญทักษะ ซืออวี๋รู้สึกว่าแม้ว่าเขาจะกลายเป็นนักฝึกสัตว์อสูรตำนาน ทักษะระดับสุดยอดทั้งสองนี้ก็อาจจะยังคงอยู่ในสารบัญทักษะ
จากมุมมองหนึ่ง นี่อาจเป็นการใช้ฟังก์ชันการลบของสารบัญทักษะที่ถูกต้องใช่ไหม?
…
หนึ่งวันต่อมา
ซืออวี๋ได้ขี่อีเลฟเว่นและกวาดผ่านพื้นที่รอบจุดลงจากเครื่องบิน
ในระยะนี้ เขาได้พบกับผู้เข้าร่วมหลายคน ทว่าการสอบไม่อนุญาตให้มีการรวมทีม ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีปฎิสัมพันธ์กันมากนัก
อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขาเห็นซืออวี๋ที่ขี่อสูรกินเหล็ก ผู้คนก็ตกตะลึงมาก
นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขารู้ว่าอสูรกินเหล็กใช้เช่นนี้ก็ได้ ทว่าพวกเขาไม่รู้ว่าวิธีนี้มีประโยชน์ยังไง… อสูรกินเหล็กไม่ใช่เผ่าพันธุ์สัตว์ขี่ใช่ไหม?
ประหยัดพลังงานในการเดินทาง? เห็นได้ชัดว่าพกวเขาไม่มีโอกาสสัมผัสกับประสบการณ์ในการเล่นกระบี่เคลือบแข็งของซืออวี๋
ในปัจจุบัน ผู้ที่เห็นซืออวี๋ลงมือซึ่งก็คือเหล่าสัตว์อสูรดุร้ายได้ตายไปหมดแล้ว
…
“มีทรัพยากรระดับสามอีกแล้วงั้นเหรอ???”
“อู๋!!!”
ในเวลาเพียงหนึ่งวัน ซืออวี๋และสัตว์อสูรของเขาก็ได้รวบรวมทรัพยากรหายากจำนวนมาก
เพราะภารกิจการสอบเสร็จแล้ว ซืออวี๋จึงไม่สนใจเกี่ยวกับจำนวนสัตว์อสูรที่เขาล่ามากนัก เขามุ่งเน้นไปที่การค้นหาทรัพยากรที่มีค่าและสัตว์อสูรดุร้าย เป้าหมายของเขาชัดเจนมาก
ประสิทธิภาพในการรวบรวมทรัพยากรยังคงสูงมาก ต้องขอบคุณสุดยอดการมองเห็นของอีเลฟเว่น พวกเขาจึงสามารถตัดสินความแข็งแกร่งของคลื่นพลังงานจากระยะไกลและใช้วิธีนี้เพื่อกำหนดทิศทางที่มีทรัพยากรหายาก พวกเขาสามารถหาทรัพยากรหายากได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
“อู๋ อู๋ อู่!!”
อย่างไรก็ตาม อีเลฟเว่นดูราวกับจริงจังเป็นพิเศษในครั้งนี้
นอกจากนี้ เขายังรู้สึกว่าขนของมันตั้งชัน
นี่เป็นครั้งแรกเลย
“จิ๋” แม้แต่บักกี้ก็รู้สึกคุ้นเคย นับประสาอะไรกับอีเลฟเว่น
“อู๋!!!”
ในที่สุดสัตว์อสูรทั้งสองตัวก็เบิกตากว้างและมั่นใจอย่างสมบูรณ์…
ดูเหมือนว่าจะเป็นพลังมังกร!
มีออร่าแห่งมังกร!
“สัตว์อสูรประเภทมังกร หรือ… ทรัพยากรประเภทมังกร?” ซืออวี๋ตกตะลึงเช่นกัน
…
บนเส้นทางหิน อสูรกินเหล็กอีเลฟเว่นวิ่งมาพร้อมกับซืออวี๋ด้วยขาอันสั้นของมันอย่างว่องไว
มันคุ้นเคยกับการเป็นสัตว์ขี่มากขึ้นเรื่อยๆ
ในตอนนี้ มันประหลาดใจอย่างน่ายินดี นั่นคือพลังมังกร!
พลังมังกรเป็นทักษะการปราบปราม
อย่างไรก็ตาม มันสามารถเรียกได้ว่าพลังมังกรก็ต่อเมื่อมันถูกใช้โดยเผ่าพันธุ์มังกร
เนื่องจากคุณภาพของเผ่าพันธุ์มังกรนั้นเหนือกว่าสัตว์อสูรอื่นทุกด้าน นั่นจึงทำให้ประสิทธิภาพของพลังมังกรนั้นเหนือยิ่งกว่าการปราบปรามจากสัตว์อสูรระดับราชันย์เผ่าพันธุ์อื่น
ท้ายที่สุด มังกรบริสุทธิ์คือราชา ไม่มีมังกรบริสุทธิ์ตัวไหนที่มีระดับเผ่าพันธุ์ต่ำกว่าระดับราชันย์
อีเลฟเว่นเคยสัมผัสกับพลังมังกรจากมังกรน้ำแข็งมายามาก่อนและนั่นผิดปกติอย่างแท้จริง ดังนั้นมันจึงรู้สึกตื่นเต้นมากในครั้งนี้และรู้สึกว่ามันจะได้ต่อสู้กับมังกรอีกครั้ง
สำหรับซืออวี๋ เขารู้สึกว่ามันกำลังฝัน จะมีมังกรยักษ์ในสถานที่ดังกล่าวได้ยังไงกัน?
ในไม่ช้า ซืออวี๋และสัตว์อสูรของเขาก็มาถึงด้านนอกหุบเขา
ไม่เพียงแค่จะไม่มีผู้เข้าร่วมรอบหุบเขาแห่งนี้เท่านั้น แต่ยังไม่มีสัตว์อสูรดุร้ายเช่นกัน ดูเหมือนว่าพวกมันทุกตัวจะหวาดกลัวต่อพลังมังกร
ในเวลานี้ ขณะที่พวกเขาเข้าใกล้หุเบขา อีเลฟเว่น ซืออวี๋ และบักกี้ก็รู้สึกถึงแรงกดดันอันรุนแรง หากไม่ใช่เพราะอีเลฟเว่นใช้การปราบปราม ซืออวี๋และบักกี้อาจทนไม่ไหว
“เข้าไป”
สายตาของซืออวี๋แข็งทื่อ เขาสั่งให้อีเลฟเว่นเข้าใกล้หุบเขาเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่พวกเขาก้าวไปข้างหน้า ร่างที่คล้ายกับกิ้งก่าสีน้ำตาลก็ปรากฎตัวออกมา
“กรรรร…”
กิ้งก่ายักษ์สีน้ำตาลตัวนี้ที่แข็งกระด้างราวกับก้อนหินก็ได้เหยียบลงบนก้อนกรวดและส่งคำเตือนด้วยสายตาที่สว่างาม จากนั้นคลื่นการปราบปรามอันแข็งแกร่งก็ได้พุ่งออกมา มันเป็นทักษะการปราบปราม ทว่าจากความเชี่ยวชาญของการปราบปราม มันเป็นเพียงขั้นเริ่มต้นเท่านั้นซึ่งไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอีเลฟเว่น
แต่ถึงกระนั้น ซืออวี๋และสัตว์อสูรของเขาก็ยังคงประหลาดใจ
เนื่องจากนี่คือสัตว์อสูรป่า
นอกเหนือจากสัตว์อสูรของเขาแล้ว ซืออวี๋เคยเห็นสัตว์อสูรเพียงตัวเดียวที่ปลุกทักษะการปราบปรามก่อนอยู่ระดับราชันย์
นั่นคือราชาหมาป่าจากฐานเพาะพันธุ์ของเมืองทุ่งน้ำแข็ง
ยิ่งกว่านั้น ซืออวี๋รู้สึกว่าการปราบปรามของกิ้งก่าตัวนี้ก็ไม่เรียบราบเช่นเดียวกับการปราบปรามธรรมดา มันยังมีร่องรอยของพลังมังกร!
[ชื่อ] : กิ้งก่ามังกรปฐพี
[คุณสมบัติ] : ดิน
[ระดับเผ่าพันธุ์] : ผู้บัญชาการขั้นต่ำ
กิ้งก่ามังกรปฐพีเป็นสาขาการวิวัฒนาการระดับผู้บัญชาการของกิ้งก่าหลังศิลาและกิ้งก่าศิลาดินซึ่งเป็นเผ่าพันธุ์ระดับเหนือธรรมชาติ มันเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านสำหรับการวิวัฒนาการประเภทมังกร แม้ว่ามันจะไม่ใช่มังกรรอง แต่มันก็มีมีคุณสมบัติประเภทมังกร
ในขณะนี้ เมื่อได้เห็นสัตว์อสูรที่มีพลังมังกรดังกล่าว ซืออวี๋ก็รู้สึกประหลาดใจอย่างสุดจะพรรณนา
พรสวรรค์?
ศักยภาพแห่งราชันย์?
หากไม่ใช่เพราะกฎการสอบที่ไม่อนุญาตให้พวกเขาจับและทำสัญญากับสัตว์อสูรดุร้ายที่นี่ ซืออวี๋ต้องการที่จะจับมัน
อย่างไรก็ตาม เขาก็เข้าใจความกังวลของสมาคมนักฝึกสัตว์อสูรเช่นกัน
เป็นไปไม่ได้ที่สัตว์อสูรดุร้ายที่เติบโตจนถึงระดับเหนือธรรมชาติในป่าจะถูกฝึกให้เชื่องโดยนักฝึกสัตว์อสูร นิสัยอันดุร้ายและป่าเถื่อนของมันรุนแรงเกินไป และพวกเขาก็ทำได้เพียงแค่บังคับให้ทำสัญญาเท่านั้น ทว่าในกรณีนั้น เมื่อสัตว์อสูรดุร้ายเติบโตขึ้นก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดการต่อต้านนักฝึกสัตว์อสูรในอนาคต นักฝึกสัตว์อสูรไม่มากนักที่จะทำสัญญาด้วยความเสี่ยงในการทรยศ ไม่ว่าศักยภาพของสัตว์อสูรจะมากเพียงใดก็ตาม
เมื่อเทียบกันแล้ว สัตว์อสูรที่เชื่อฟังที่ถูกเพาะพันธุ์โดยฐานเพาะพันธุ์นั้นดีไม่ใช่เหรอ?
การจับและทำสัญญากับสัตว์อสูรดุร้ายระดับสูงนั้นเสี่ยงเกินไป มุมมองหลักในโลกนักฝึกสัตว์อสูรแนะนำให้นักฝึกสัตว์อสูรทำสัญยากับลูกสัตว์อสูรและเลี้ยงดูพวกมันตั้งแต่เด็ก นี่เป็นประโยชน์ต่อการสร้างการผูกมัด
แน่นอน ความจริงนั้นไม่แน่นอน ไม่ใช่ว่าไม่มีนักฝึกสัตว์อสูรที่เชี่ยวชาญในการจับสัตว์อสูรป่า อย่างไรก็ตาม อัตราการตายนั้นสูงยิ่งกว่านักฝึกสัตว์อสูรคนอื่นหลายเท่า
ในขณะนี้ เนื่องจากซืออวี๋และสัตว์อสูรของเขาไม่กลัวการปราบปราม และเพราะอีเลฟเว่นได้แสดงการปราบปรามอันแข็งแกร่งและน่าสะพรึงยิ่งกว่า ดวงตาของกิ้งก่ามังกรปฐพีระดับเหนือธรรมชาติจึงเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“กิ้งก่ามังกรปฐพีตัวนี้มีพรสวรรค์ หรือว่ามีทรัพยากรหายากอยู่ข้างใน?”
ซืออวี๋มองไปที่ท่าทางประหม่าของกิ้งก่ามังกรปฐพีและมองลึกเข้าไปในหุบเขา
“กรรร—!!”
ในตอนนี้ เสียงคำรามของมังกรอันกล้าหาญอีกตัวก็ดังมาจากระยะไกล ทำให้ซืออวี๋และสัตว์อสูรของเขาตกตะลึง
ผ่านไปสักพักหนึ่ง จุดสีดำก็ปรากฎขึ้นบนท้องฟ้า มังกรกระดูกยมโลกขนาดประมาณสองเมตรพร้อมกับนักฝึกสัตว์อสูรบนตัวมันบินเข้ามา
“บัดซ* หลังจากบินมาครึ่งเกาะ ในที่สุดข้าก็เจอที่นี่” นักฝึกสัตว์อสูรผู้นี้รู้สึกประหลาดใจมาก
“เอ่อ” อย่างไรก็ตาม ในขณะที่มังกรกระดูกยมโลกที่กระพือปีกกระดูกของมันกำลังจะลงถึงพื้น ผู้เข้าร่วมคนนี้ก็ได้พบกับกิ้งก่ามังกรปฐพีและซืออวี๋ผู้ที่เผชิญหน้ากันอยู่ด้านล่าง
สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเมื่อเขาสังเกตอย่างระมัดระวัง
หลังจากพบว่าสถานการณ์ด้านล่างยังคงปกติ เขาก็ผ่อนคลายภายในใจ เยี่ยมไปเลย ดูเหมือนว่าหญ้าวิญญาณมังกรยังไม่ถูกเก็บ
“กรรร—!!”
เห็นได้ชัดว่ามันเป็นมังกรกระดูก ทว่ามันก็สามารถส่งเสียงได้
มังกรกระดูกยมโ,กลงมา นักฝึกสัตว์อสูรของมันหยูซูเริ่มประเมินกิ้งก่ามังกรปฐพีที่กำลังปลดปล่อยพลังมังกร และราชาแพนด้าอีเลฟเว่นที่กำลังใช้การปราบปรามเพื่อยับยั้งอีกฝ่าย
ในขณะนี้ อารมณ์อันผ่อนคลายของเขากลับมาตึงเครียดอีกครั้ง หัวใจของเขาเต้นผิดปกติและหยุดลง
บัดซ* มีบางอย่างผิดปกติ!
กิ้งก่ามังกรปฐพีตัวนี้มาจากไหนกัน? เป็นไปได้ไหมว่าหญ้าวิญญาณมังกรถูกกินไปแล้ว?
ยิ่งกว่านั้น นักฝึกสัตว์อสูรที่ขี่อสูรกินเหล็กที่ใช้การปราบปรามได้คืออะไรกัน??
“กรรร…” ดวงตาสีเขียวของมังกรกระดูกยมโลกเป็นประกาย เตือนนักฝึกสัตว์อสูรว่าไม่ควรดูแคลนอสูรกินเหล็ก ออร่าของมันน่าสะพรึงมาก
สีหน้าของหยูซูเปลี่ยนไป เขาตระหนักได้ว่าอารมณ์ที่ดีซึ่งเขามีในตอนที่เขาพบกับหุบเขามังกรตามข่าวลือได้หายไปอย่างสมบูรณ์ อีกทั้งเขายังรู้สึกว่าภารกิจนี้ของเขาไม่ราบรื่นมากนัก
“มังกรกระดูกยมโลก เจ้าคือหยูซูเหรอ?” ในเวลานี้ ซืออวี๋หันกลับมาเพื่อสังเกตมังกรกระดูกยมโลกของนักฝึกสัตว์อสูรผู้นี้และเอ่ยถามด้วยความสงสัย
ในเวลาเพียงสองวัน เขาเห็นผู้เข้าร่วมชั้นนำสองคนที่เจ็ดยอดนักโบราณคดีกล่าวถึงติดต่อกัน โชคของเขาค่อนข้างดี
“เจ้าคือซืออวี๋เหรอ?” หลังจากที่หยูซูลงจากมังกรกระดูกยมโลก เขาก็มองไปที่ซืออวี๋ผู้ที่ขี่อสูรกินเหล็กและถือกระบี่ไม้อย่างเงียบเชียบ ผ่านไปสักพักหนึ่ง เขาก็ระบุตัวตนของซืออวี๋ได้
มีเพียงไม่กี่คนที่ทำคะแนนได้สูงในการสอบพื้นฐาน ทุกคนรู้จักสัตว์อสูรที่ทดสอบพลังงานของอีกฝ่าย ดังนั้นการคาดเดาตัวตนของอีกฝ่ายจึงเป็นเรื่องง่ายมาก
เดิมทีหยูซูไม่มั่นใจมากนักว่าความสามารถของอสูรกินเหล็กเพียงอย่างเดีนสวนั้นเหนือกว่ามังกรกระดูกยมโลกของเขาไหม ทว่าในตอนนี้ หลังจากพบว่าอสูรกินเหล็กตัวนี้รู้วิธีการใช้การปราบปราม เขารู้สึกว่ามันไร้สาระมาก
บัดซ* สัตว์ประหลาดตัวนี้มาจากไหนกัน? มังกรกระดูกยมโลกของเขาเป็นเผ่าพันธุ์ระดับผู้บัญชาการขั้นสูง และมันยังเป็นประเภทมังกร ถึงกระนั้น… มันยังขาดการปราบปราม เกิดอะไรขึ้นกับอสูรกินเหล็กของซืออวี๋กัน!
“ดูจากลักษณะแล้ว เจ้าตั้งใจมาที่นี่เหรอ?” ซืออวี๋เอ่ยถามออกมา
สีหน้าของหยูซูมืดลง นี่ไม่ใช่ธุระของซืออวี๋
แม้ว่าเขาจะคิดเช่นนี้ แต่เขาก็ยังคงพยักหน้า ท้ายที่สุด เรื่องนี้ไม่สามารถซ่อนไว้ได้เลย
“มีทรัพยากรประเภทมังกรที่ข้าต้องการอยู่ข้างใน ทว่าดูเหมือนว่าเราจะค้นพบมันพร้อมกัน เจ้าวางแผนที่จะแข่งกันยังไง?” เขามองไปที่ซืออวี๋ด้วยความสนใจ แม้ว่าอสูรกินเหล็กตัวนี้จะไม่อ่อนแอ แต่หลังจากที่มังกรกระดูกยมโ,กและจิตวิญญาณมังกรหลอมรวมกัน พลังต่อสู้ของมันก็เทียบได้กับสัตว์อสูรเผ่าพันธุ์ระดับราชันย์!
หากเป็นไปตามวิธีการแย่งชิงทรัพยากรมาตรฐาน ซืออวี๋คงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา
เขาไม่กลัวสัตว์อสูรของหยินเจิ้งฟาน กล่าวโดยย่อแล้ว เขาตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะได้หญ้าวิญญาณมังกร เหตุผลหลักก็คือสิ่งนี้หาได้ยากยิ่งแม้แต่ในโลกภายนอก การซื้่อมันเป็นเรื่องยากมาก แม้ว่าจะมีสิ่งที่แทนกันได้ แต่ทรัพยากรนั้นก็มีระดับสูงเกินไปสำหรับสัตว์อสูรของเขา ระดับของหญ้าวิญญาณมังกรนี้เหมาะสมแล้ว
กิ้งก่ามังกรปฐพี : ???
หลีกทางไป นั่นเป็นของมัน!
มันมองดูอสูรกินเหล็กและมังกรกระดูกอย่างหวาดกลัว มันรู้สึกว่าทั้งสองฝ่ายต่างก็อยากได้หญ้าวิญญาณมังกรในหุบเขา
“มีสมบัติอยู่จริงด้วย…” ซืออวี๋ตกตะลึงและพบว่านั่นน่าสนใจมาก เขามีลางสังหรณ์ว่าทรัพยากรนี้ไม่เรียบง่ายเลย
บางทีเกาะทดสอบนี้อาจไม่ใช่ขยะและทรัพยากรระดับต่ำ…
“จิ๋ จิ๋ จิ๋—” ก่อนที่ซืออวี๋จะตัดสินใจได้ บักกี้ก็ตื่นเต้น ทำไมไม่ปล่อยให้มันรับมือกับมังกรกระดูกยมโลกตัวนี้และกิ้งก่ามังกรปฐพีตัวนั่นล่ะ? มันรู้สึกว่าทรัพยากรประเภทมังกรอยู่ข้างในและมันต้องการที่จะแย่งชิงหญ้าวิญญาณมังกรด้วยตัวเอง
ซืออวี๋ : “เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกมัน… เว้นแต่…”
ไม่ใช่ว่าเขาดูถูกบักกี้ แม้ว่าพลังต่อสู้ของบักกี้จะถูกปลดปล่อยออกมาอย่างเต็มที่ แต่มันก็เป็นเพียงสัตว์อสูรที่เทียบได้กับเผ่าพันธุ์ระดับผู้บัญชาการขั้นต่ำ…
มันแทบจะไม่สามารถรับมือกับกิ้งก่าตัวนี้ได่ นับประสาอะไรกับมังกรกระดูก
บักกี้ : (❁ ́◡`❁)*✲ อุปกรณ์…
สิ่งที่บักกี้บ่งก็คือภูติมายาขั้นชำนาญสามารถใช้ส่งของภายนอกเพื่อเพิ่มคุณภาพของภาพมายาได้ เผ่าพันธุ์ระดับผู้บัญชาการขั้นต่ำไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมันเลย ด้วยคริสตัลพลังงานธาตุน้ำแข็งจำนวนมากและหนวดมังกรน้ำแข็งเส้นนั้น หากมันใช้… มันสามารถแปลงร่างเป็นมังกรน้ำแข็งและบดขยี้กิ้งก่ามังกรปฐพีตัวนี้และมังกรกระดูกยมโลกที่ไร้พลังมังกรได้!!
Fanpage : ผีเสื้อกลางคืน