บทที่ 90 : ฉันจะทำให้นายรู้สึกถึงความล้มเหลว (1-2)
บทที่ 90 : ฉันจะทำให้นายรู้สึกถึงความล้มเหลว (1-2)
“ถ้าจะให้ของขวัญก็ต้องมอบให้ทุกคนสิ”
หากมอบให้เพียงคนเดียว ฮีโร่คนอื่นจะไม่พอใจแน่นอน
แม้ว่าฉันจะมีฝีมือการต่อสู้ที่โดดเด่นที่สุด แต่ก็ไม่ใช่แค่ชีวิตของฉันเท่านั้นที่เป็นเดิมพัน การรักษาความสัมพันธ์ที่เหมาะสมกับเหล่าฮีโร่ถือเป็นหน้าที่พื้นฐานของนายท่าน แต่การได้รับตั๋วของขวัญและใช้มันอย่างไม่ระมัดระวังเช่นนี้…นั่นเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ หากใช้ไม่ถูกวิธีแบบนี้ อย่าใช้เลยเสียจะดีกว่า
'รูปปั้นม้าศึกเหรอ?'
ฮีโร่ทุกคนมีรสนิยมและความปรารถนาที่แตกต่างกัน
เพียงแค่ยื่นสิ่งของให้พวกเขา ก็ไม่ทำให้พวกเขามีความสุขหรอก
ฉันใช้เวลาหลายชั่วโมงเพื่อเรียนรู้ถึงความชอบและรสนิยมของฮีโร่ 100 อันดับแรกในนิมฟ์เฮม
หลังจากเข้านอน ท้องฟ้าก็มืดลง
เขาตกใจเหรอ?
หรือบางทีเขาอาจจะไม่ได้คิดอะไรด้วยซ้ำ
“….”
การนอนหลับถือเป็นการหลบเลี่ยงของฉัน
ฉันต้องปีนหอคอย
ทว่าอาจมีสาเหตุหลายประการที่ทำให้ฉันพลาดท่าได้
ซึ่งยามนี้ มีสิ่งหนึ่งกำลังเป็นอุปสรรคที่รอฉัน มันยากยิ่งกว่าการลงชั้นหอคอยเสียอีก
นั่นคือศัตรูภายใน
มันไม่ใช่แค่ศัตรูภายในธรรมดา
หากเป็นฮีโร่ที่ทำให้เราปวดหัว ฉันก็คงจัดการได้ง่ายดาย
ก็เหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานนี้ ฉันสามารถจัดการมันได้โดยไม่มีใครสังเกตเห็น
“ซึ่งฉันจะทำอย่างนั้นได้ก็ต่อเมื่อนายท่านไม่สังเกตเห็น…”
ยามนี้ฉันพอรู้แล้วว่าเรากำลังเจอกับปัญหาอะไรอยู่
แม้จะเป็นเพียงการคาดเดา แต่การเดาของฉันดูเหมือนจะแม่นยำประมาณ 90%
“นายท่านของเรากำลังเป็นโรคหลงตัวเอง”
มันเป็นคำที่แพร่หลายในหมู่ผู้เล่นเกมพิกมีอัพ
คำมันอาจฟังดูตลก แต่ผลของมันไม่ใช่เรื่องตลก
พิกมีอัพเรียกว่าเป็นเกมที่พึ่งพาโชคพอสมควร
สาเหตุหนึ่งก็คือความยากในช่วงแรกที่สิ่งอำนวยความสะดวกและของหลายอย่างยังไม่ถูกเปิดใช้งาน มันจะแตกต่างกันไปมากแค่ไหนอยู่กับโชคในการสุ่มรางวัลครั้งแรก หากคุณมีฮีโร่ที่ดี การปีนหอคอยนั้นก็จะราบรื่นและน่าพึงพอใจ แต่ถ้าคุณเจอฮีโร่ที่ไม่ดี คุณจะต้องดิ้นรนและฝ่าฟันความยากลำบากทุกรูปแบบ
แล้วกรณีของนายท่านไรก็ได้ล่ะ?
พูดตรงๆ เขาไม่ถือว่าโชคดีเลย เขาเพิ่งสุ่มฮีโร่ 4 ดาวตัวแรกและไม่เคยสุ่มได้ฮีโร่ดีๆ ในการสุ่ม 5 ครั้งติดต่อกัน นั่นหมายความว่าเขาโชคร้ายเหรอ?
"ไม่"
เขาทำทุกอย่างเลยในช่วงแรกของเกม
เขาขยายสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างต่อเนื่อง เลี้ยงดูฮีโร่ และประดิษฐ์ไอเท็ม
เขาก้าวหน้าตามกลยุทธ์ที่ฉันเขียนทิ้งไว้
ทว่าสิ่งต่างๆ กลับเปลี่ยนไปหลังจากชั้น 5
หลังจากที่เคลียร์ด่านที่ยากมหาหินได้ นายท่านของเรก็เริ่มเปลี่ยนไป เขาได้เดินออกจากเส้นทางที่ถูกต้อง
เขาสุ่มห้าครั้งติดต่อกันโดยไม่คิดอะไร ทั้งยังไม่ได้ดูแลสมาชิกที่เพิ่งสุ่มมาอย่างเหมาะสม โยนพวกเขาลงไปที่ชั้น 10 และยังทำให้เกิดข้อผิดพลาดมากมาย
ผู้คนเรียกสิ่งนี้ว่า "นายท่านหลงตัวเอง" เพราะนายท่านบางคนคิดแค่จะพึ่งพาฮีโร่ของตนเพียงอย่างเดียว ไม่คิดวางแผน ไม่คิดเพิ่มระดับ เข้าใจความสามารถของฮีโร่ที่ตนมีผิดไป
“ฉันจะสามารถปีนขึ้นไปชั้น 100 กับคนที่มีนิสัยแบบนี้ได้ไหมนะ?”
ในช่วงแรกของเกม นายท่านนั้นทำผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่านับไม่ถ้วน
การคาดเดาของฉันก็แม่นยำมากในเย็นวันรุ่งขึ้น
[ฮาน เจนน่า รอน ออลก้า!]
เสียงตะโกนของไอเซลล์ที่เรียกสมาชิกปาร์ตี้ที่ 1 ดังก้องไปทั่วสนามฝึกซ้อม
เจนนาซึ่งใช้กริชเคลื่อนผ่านหุ่นไม้เป้าหมายอย่างคล่องแคล่ว หันกลับมาแล้วถามว่า “โอ้ เราจะไปทำภารกิจกันใช่ไหม?”
“ดูเหมือนว่าจะเป็นแบบนั้นนะ”
มันไม่ใช่ดันเจี้ยนประจำสัปดาห์
สมาชิกทั้งสี่พร้อมรบแล้ว
"ฮึ…"
เจนน่าขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่เธอก็เตรียมตัวไว้แล้ว
อารอนถอนหายใจแล้วติดตามเจนน่าไป
ถัดจากแคมป์ฝึก เมื่อประตูที่มีอักษรรูนเวทมนตร์เปิดออกและออลก้าก็โผล่ออกมา
ออลก้าเดินออกจากค่ายฝึก ชายชุดของเธอสยายออก
สีหน้าของของเธอบิดเบี้ยว
ดูเหมือนเธอจะอารมณ์ไม่ดี
"พร้อมแล้ว "
การฝึกฝนและการต่อสู้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าทำให้ระดับความเครียดของเธอถึงขีดจำกัด
ถึงแม้เราจะผ่านชั้น 10 กันมาได้ แต่ทว่าเรากลับได้พักหายใจเพียงชั่วคราวเท่านั้น
สมาชิกทั้งสี่คนของกลุ่มที่ 1 รวมตัวกันที่จัตุรัส
[จงเปิดออกรอยแยกของมิติและเวลา!]
ประตูเปิดออกดังเอี๊ยด
ฉันเป็นคนเดินนำเข้าไป
“เราจะรีบเข้าไปและรีบออกมา”
ทั้งสามตามมา
ประตูปิดลง
“มันคือชั้น 8 หรือ 9 กัน?”
การปีนขึ้นไปชั้น 11 ในยามนี้คงจะเป็นอะไรที่ลำบากมาก
แม้ว่าออลก้าจะเลเวลอัพแล้ว แต่ทักษะของเธอก็ยังต่ำอยู่ ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือการพาเธอไปฟาร์มในชั้นล่างๆ ก่อนจึงจะไปยังชั้นที่สูงขึ้น
เรื่องเหล่านี้เป็นกฎพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นฮีโร่ 1 ดาวหรือ 3 ดาว
ยิ่งไปกว่านั้น หากคิดที่จะเพิ่มสมาชิกอีกหนึ่งคนในปาร์ตี้เข้าไป การทำให้ตัวละครสนิทกันและฝึกประสานงานก่อนย่อมเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
ยิ่งพวกเขาเข้าร่วมเร็วเท่าไรก็ยิ่งดีเท่านั้น ไม่ใช่ว่าจะสามารถเอาพวกเขาสามารถเข้าร่วมปาร์ตี้ได้ทันทีเลย พวกเขายังจำเป็นต้องการเวลาในการปรับตัวให้เข้ากัน
[“ปีนหอคอยและกอบกู้โลก!”]
["ดันเจี้ยนหลัก: ชั้นปัจจุบัน – 10"]
[กอบกู้โลก]
แล้วนายท่านจะตัดสินใจยังไงกันล่ะ?
แต่ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตาม
ในครั้งนี้ฉันจะไม่เข้าไปยุ่ง
ฉันพับแขนเสื้อพิงกำแพง ทันใดนั้นก็มีข้อความปรากฏต่อหน้าฉัน
["ดันเจี้ยนหลัก ชั้นปัจจุบันคือชั้น 11"]
[“ประตูจะเปิดใน 10 วินาที เตรียมพร้อม!”]
“……”
"ฮะ"
มันได้รับการยืนยันแล้ว
ฉันยืดคอของฉัน
จากนั้นฉันก็ชักดาบออกมาและถือโล่ไว้
"เตรียมพร้อม เราจะไปชั้น 11”
"อะไรนะ?"
ขณะที่เจนน่าอุทานออกมาด้วยความไม่เชื่อ สภาพแวดล้อมรอบตัวก็มืดลง
พระจันทร์เสี้ยวลอยอยู่ในท้องฟ้ายามค่ำคืน
เศษดวงจันทร์กระจัดกระจายแสงจันทร์บนจุดที่เรายืนอยู่
“สนามของด่านเป็นสุสาน”
มีการสร้างศิลาจารึกไว้อาลัยผู้เสียชีวิตทั่วบริเวณ
ท่ามกลางบรรยากาศอันน่าขนลุกและเย็นยะเยือก มีบางอย่างส่งเสียงดังและลุกขึ้นพร้อมกับเสียงเอี๊ยด
[ชั้น 11]
[ประเภทภารกิจ – ปราบปราม]
[เป้าหมาย – ทำลายล้างศัตรู!]
[โครงกระดูก Lv.11 X 14]
โครงกระดูกที่ยืนอยู่ในสุสานอาบแสงจันทร์
เป็นภาพที่ทำให้คนธรรมดาขนลุก แต่สมาชิกปาร์ตี้ก็ไม่สะดุ้งเลยเราเคยผ่านประสบการณ์ที่เลวร้ายยิ่งกว่านี้มาแล้ว
เจนน่าเกาแก้มเธอแล้วถามว่า "โครงกระดูกเหรอ?"
“เจ้าพวกนี้เหมือนจะจัดการได้ง่ายๆ เลยนะ”
ฉันยิ้ม
โครงกระดูกล้อมรอบเรา ข้อต่อของพวกมันส่งเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด แต่ละตัวถืออาวุธ เช่น ดาบ ขวาน กระบอง
แกร่ก!
โครงกระดูกด้านหน้าเหวี่ยงขวานของมันใส่เรา
ฉันหลบขวานแล้วฟาดกระดูกตรงคอของมันด้วยขอบโล่ โครงกระดูกที่แตกไปแล้วก็ไม่สามารถขยับได้อีก
ฉันมองขึ้นไปบนท้องฟ้า
ข้างบนนั้นนายท่านไรก็ได้กำลังเฝ้าดูพวกเราอยู่
“ก่อนอื่น มาจัดการไอ้พวกนี้กันเถอะ”
“เข้าประจำตำแหน่ง!”
"ได้!"
“รับทราบ!”
เราประจำที่เป็นรูปสามเหลี่ยมเหมือนกับชั้น 10
ฉันอยู่ข้างหน้า อารอนอยู่ทางซ้าย เจนน่าอยู่ทางขวา และออลก้าอยู่ตรงกลาง
การต่อสู้ในสุสานแสงจันทร์เริ่มขึ้นแล้ว