ตอนที่ 189 พลเรือเอกหลบหนี
แน่นอนว่า… คิซารุและอาโอคิยิจะไม่เชื่อพูดของโอลีฟง่ายๆ
พวกเขามาหาหลี่ฟานที่นี่โดยเฉพาะ และแม้ว่าโอลีฟจะใช้ [ การ์ดถ่ายทอดสด ] ซึ่งค่อนข้างเป็นเรื่องที่เกินความคาดหมายของพวกเขาไปก็ตาม
สำหรับการจากไปก่อนที่จะได้พบกับหลี่ฟานนั้น มันไม่สอดคล้องกับจุดประสงค์ของพวกเขาเลยสักนิด
แถมยังให้จากไปต่อหน้าทุกคนทั่วโลกแบบนี้ นี่มันก็เท่ากับบอกทุกคนว่า กองทัพเรือยอมรับให้อิมเพลดาวน์กลายเป็นของหลี่ฟานแล้วนะสิ?
ดังนั้น คิซารุจึงยักไหล่ และเดินขึ้นไปหาโอลีฟ “นี่ อย่าพูดแบบนั้นสิ อย่างน้อยก็ขอให้พวกเราพบกับหลี่ฟาน และพูดคุยกันดีๆ ก่อนสิ”
“หลี่ฟานน่าจะอยู่ในอิมเพลดาวน์ แต่ถ้าไม่ใช่ ก็ให้สามารถให้พวกเราใช้ทากสื่อสารเพื่อติดต่อกับเข…”
ในขณะที่คิซารุกำลังพูด และก้าวเดินไปหาโอลีฟขึ้นอีกก้าว ‘Mark 49’ ก็ได้ยกมือขึ้นทันที โดยชี้ไปที่คิซารุ
และเลเซอร์สีน้ำเงินที่มีพลังงานสูงเป็นพิเศษ ก็ได้พุ่งออกมาจากมือของ ‘Mark 49’ ไปที่คิซารุอย่างรวดเร็ว
ดวงตาของคิซารุหรี่ลง และทำให้ร่างกายของเขากลายเป็นแสงสีทอง บินขึ้นไปบนท้องฟ้าทันที
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่คิซารุกำลังรวบรวมร่างกายของตัวเอง ‘Mark 43’ ทั้งหมดที่ยืนอยู่ด้านล่างก็ยกมือขึ้น และยิงเลเซอร์ออกมาฝ่ามือทันที ทำให้เกิดแสงจ้าขึ้นมากมาย!
*ตู้มม!! *ตู้มม!! *ตู้มม!! *ตู้มม!!
เลเซอร์นับสิบถูกยิงออกมาพร้อมกัน และพลังทำลายล้างของมัน ก็มีมากกว่าปืนใหญ่ของเรือรบทางทะเลมาก!
“อันตรายจริงๆ ฉันเกือบจะเสร็จเลเซอร์พวกนั้นไปแล้วนะเนี่ย” คิซารุรีบกลับมาอยู่ที่ด้านข้างของอาโอคิยิอย่างรวดเร็ว และมองไปที่ ‘Mark 43’ ทั้ง 10 ตัวอย่างเคร่งขรึม
ในฐานะพลเรือเอกที่เป็นผู้นำด้านกองกำลังวิทยาศาสตร์ เขามีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับอาวุธลับของกองทัพเรือ ‘แปซิฟิสต้า’ เป็นอย่างดี
‘แปซิฟิสต้า’ นั้นมีความสามารถในการปล่อยเลเซอร์ได้ แต่เลเซอร์ที่มันปล่อยออกมานั้น ก็ยังไม่ดีเท่ากับเลเซอร์ที่ ‘Mark 43’ ปล่อยออกมา
สิ่งนี้ทำให้คิซารุรู้สึกไม่มั่นใจในชีวิตของตัวเองเอามากๆ
'หลี่ฟานคนนี้… เขาสร้างอาวุธเหล่านี้ออกมา นอกเหนือจากสิ่งประดิษฐ์ของเวก้าพังค์ได้ยังไง?'
หลังจากถูก ‘Mark 49’ ชักนำให้ยิงเลเซอร์ไปที่คิซารุ โอลีฟก็มองไปที่คิซารุกับอาโอคิยิด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย
“เมื่อกี้นี้เป็นคำเตือน ถ้าพวกนายยังไม่รีบออกไป ฉันก็ไม่รู้ว่ามันจะมีเกิดอะไรขึ้นกับพวกนายหรอกนะ!”
หลังจากที่ได้ยินคำเตือนของโอลีฟ อาโอคิยิและคิซารุก็หันมามองหน้ากัน
และในขณะที่พวกเขากำลังลังเล ก็ได้มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นที่ประตูของอิมเพลดาวน์
คิซารุและอาโอคิยิจึงหันไปมองทันที และในไม่ช้า ต่อหน้าของพวกเขาและทุกคนที่ดูการถ่ายทอดสดอยู่ทั่วโลก ร่างของชุดเกาะที่เปล่งประกายไปด้วยแสงสีทองก็ปรากฏขึ้น!
…
[หนวดขาว นิวเกต: นั่นมันชุดเกราะหรอ? แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่มีใครสวมใส่มันเลยนะ? ]
[ราชานรก เรย์ลี่: มันเป็นหุ่นยนต์ที่สามารถเคลื่อนที่ได้ด้วยตัวเองรึเปล่า? ยังไงก็ตาม ดูเหมือนว่าจะแตกต่างจากหุ่นยนตัวอื่นๆ ก่อนหน้านี้ เพราะมันดูไม่เหมือนหุ่นยนต์มากนัก แต่ดูเหมือนกับชุดเกราะที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างยอดเยี่ยมมากกว่า ]
[ผมแดง แชงค์: มันเป็นความสามารถแบบไหนกัน ที่สามารถทำให้ชุดเกราะเคลื่อนไหวได้ด้วยตัวเอง? ]
…
"นี่คืออะไร?" คิซารุขมวดคิ้ว และเต็มไปด้วยความสงสัย
ไม่เพียงแต่คิซารุเท่านั้น แม้แต่โอลีฟเองก็อยากรู้อยากเห็นเหมือนกัน
“นี่ ฟรายเดย์ ชุดเกราะนี้ก็อยู่ภายใต้การควบคุมของเธอด้วยงั้นหรอ?” โอลีฟถาม
“นี่ไม่ใช่ชุดเกราะรุ่น ‘Mark’ แต่เป็นชุดเกราะศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในคอลเลกชั่นของเจ้านายค่ะ”
“โกลด์คลอธ ราศีตุลย์ ตราชั่งแห่งความยุติธรรม ไลบร้า”
“มันคือชุดเกราะศักดิ์สิทธิ์ของราศีตุลย์ และเป็นชุดเกราะศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ไกลเกินกว่าชุดเกราะเหล็กรุ่น ‘Mark’ ทั้งหมด”
ฟรายเดย์ให้คำตอบโอลีฟ และดูเหมือนว่าน้ำเสียงกลไกของเธอจะดูตกใจเล็กน้อย
“ฉันไม่สามารถควบคุมชุดเกราะศักดิ์สิทธิ์ได้ การใช้งานมันจะต้องใช้พลังคอสโม่ของบอส เพื่อทำการควบคุมหรือรวมเข้ากับชุดเกราะ”
“ตอนนี้ ถึงเวลาที่เราต้องถอยแล้วคุณโอลีฟ ปล่อยให้เจ้านายเป็นคนจัดการ”
พูดจบฟรายเดย์ก็ควบคุม ‘Mark 49’ ให้แยกตัวออกมาจากโอลีฟ และถอยกลับไปยืนอยู่ด้านหลังของเธอโดยอัตโนมัติ
ส่วน ‘Mark 49’ ทั้ง 10 ตัว ก็พากันบินขึ้นไปบนท้องฟ้า และลงจอดในมุมต่างๆ เพื่อทำการปกป้องอิมเพลดาวน์
สำหรับ ‘ชุดเกราะต่อต้านฮัลค์’ ทั้งสองตัว ก็ได้ไปยืนอยู่ที่ประตูทางเข้าของอิมเพลดาวน์ทั้งสองด้าน
การจากไปของ ‘Mark 49’ ทำให้โอลีฟรู้สึกว่างเปล่า และเมื่อต้องเผชิญหน้ากับคิซารุและอาโอคิยิ ความรู้สึกวิตกกังวลทำให้เธอต้องถอยห่างออกไปสองสามก้าว แล้ววิ่งไปหลบอยู่ข้างหลังชุดคลอธไลบร้า
“หลี่ฟาน นายควรจะมองเห็นฉันได้” อาโอคิยิก้าวไปข้างหน้า และมองไปยังชุดคลอธไลบร้า
“ถ้าเป็นไปได้ ฉันคิดว่าพวกเราก็น่าจะสามารถพูดคุยกันได้นะ”
แต่อาโอคิยิคงต้องผิดหวัง เพราะหลี่ฟานไม่ได้ยินเสียงของเขาผ่านชุดคลอธไลบร้า ซึ่งกำลังถูกควบคุมด้วยพลังคอสโม่ของหลี่ฟาน
ในขณะนั้น ชุดคลอธไลบร้า ก็ได้ทำการยกเกราะมือทั้งสองขึ้น และมีแสงสีทองส่องออกมาจากชุดคลอธทั้งชุด
“นี่… คุซัน ดูเหมือนว่ามันจะมีอะไรผิดปกตินะ” ผ่านไปครู่หนึ่ง คิซารุก็มีความรู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังถูกยักษ์ตัวหนึ่งจ้องมอง
ด้วยสัญชาตญาณ เขาจึงทำให้ร่างกายของตัวเองกลายเป็นธาตุทันที เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ใดๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้
ไม่เพียงแค่คิซารุเท่านั้น แต่อาโอคิยิก็ยังรู้สึกว่า มันมีบางอย่างที่ผิดปกติ
เพราะชุดเกราะสีทองที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา ดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่ชุดเกราะอีกต่อไปแล้ว
ในพริบตาต่อมา อาโอคิยิก็สัมผัสได้ถึงพลังงานอันไร้ขอบเขต ที่ระเบิดออกมาจากชุดคลอธไลบร้า!
*โฮกกกกกกกกก
เสียงคำรามของมังกรขนาดใหญ่ดังขึ้น พร้อมกับมังกรทองนับร้อยตัว ที่บินออกมาจากด้านหลังของชุดคลอธไลบร้า และพากันพุ่งเข้าใส่อาโอคิยิและคิซารุ
“!!!!!”
ด้วยวิกฤตการณ์ขั้นรุนแรง ทำให้ทั้งสองคนทำตามสัญชาตญาณสุดชีวิต เพื่อเอาชีวิตรอดจากการโจมตีของมังกรทองนับร้อยตัว!
โดยไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย คิซารุได้กลายเป็นแสงสีทองและบินขึ้นไปบนท้องฟ้าโดยตรง ในขณะที่อาโอคิยิก็รีบแช่แข็งทะเลด้วยเท้า และสไลด์ออกไปอย่างรวดเร็ว
มังกรทองนับร้อยตัว ดูเหมือนจะไม่ได้อยากกินอาโอคิยิกับคิซารุเท่าไหร่นัก เพราะหลังจากที่ขับไล่พวกเขาออกไปจากระยะของอิมเพลดาวน์ได้แล้ว พวกมันก็หยุดอยู่กลางอากาศ
ไม่กี่วินาทีต่อมา มังกรทองนับร้อยตัวก็ค่อยๆ สลายหายไป
อย่างไรก็ตาม แม้ว่ามังกรทองนับร้อยตัวจะสลายหายไปแล้วก็ตาม แต่คิซารุกับอาโอคิยิก็ยังไม่มีความคิดที่จะหยุดพุ่งออกไป
ในชั่วพริบตา พวกเขาก็พุ่งออกไปจากระยะของการถ่ายทอดสด และหายตัวไปจากสายตาของผู้คนทั่วโลก
ส่วนชุดคลอธไลบร้าที่เสร็จงานของมันแล้ว หลี่ฟานจึงทำการแยกมันออกจากกัน และประกอบกลับเป็นแท่นคลอธไลบร้า ก่อนจะควบคุมให้มันลอยกลับเข้าไปในอิมเพลดาวน์
“คุณโอลีฟ ภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว สามารถหยุดการถ่ายทอดสดได้แล้วค่ะ” เสียงของฟรายเดย์ดังออกมาจาก ‘Mark 49’ ก่อนที่เธอจะควบคุมมันให้เดินกลับเข้าไปในอิมเพลดาวน์
และเมื่อโอลีฟเห็นว่า ‘Mark 49’ กำลังเดินกลับเข้าไปในอิมเพลดาวน์ เธอก็รีบติดต่อไปที่รายการทองคำอย่างรวดเร็ว เพื่อจบการถ่ายทอดสดนี้
จากนั้นโอลีฟก็รีบวิ่งตาม ‘Mark 49’ ไปอย่างรวดเร็ว
…