ตอนที่ 172 ขึ้นอยู่กับเธอ
ณ ห้องฝึกฝนแห่งกาลเวลา สองปีต่อมา
โดมิโน่เงยหน้าขึ้น ดวงตาของเธอมองดูท้องฟ้าอย่างเคร่งขรึม ในขณะที่เงาดำมืดกำลังใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว
และรอบๆ ตัวของเธอ ทุกสิ่งในโลกนี้ก็ดูเหมือนจะหยุดนิ่ง เผยให้เห็นฉากสีเทารอบๆ ตัวของเธอ
ไม่ว่าจะเป็นคลื่นที่กำลังซัดกระหน่ำ หรือเม็ดทรายที่กำลังปลิวไสว พวกมันทั้งหมดล้วนตกอยู่ในสภาวะหยุดนิ่งกันทั้งสิ้น
“เปล่าประโยชน์น่า!!”
หลี่ฟานควบคุม [ เดอะ เวิลด์ ] ให้ยกรถบดถนนขึ้นมา และโยนมันเข้าใส่โดมิโน่
“สตาร์ แพลตตินั่ม!” มือขวาของโดมิโน่แตะไปที่ที่ปีกหมวกทหาร และ [ สตาร์ แพลตตินั่ม ] ก็ปรากฎตัวขึ้นข้างๆ เธออย่างรวดเร็ว ก่อนที่หมัดอันดุดันของมันจะพุ่งเข้ารถบดถนนอย่างเต็มที่
“โอล่าๆๆๆๆๆๆๆๆ”
“ยังไม่จบหรอกนะ!” หมัดของหลี่ฟานและหมัดของ [ เดอะ เวิลด์ ] ถูกซ้อนทับกัน และส่งออกอย่างรวดเร็วเหนือรถบดถนน
หลังจากการชกหลายสิบครั้งอย่างรวดเร็ว หมัดอันหนักหน่วงของหลี่ฟานก็กระแทกรถบดถนนโดยตรง เพื่อเอาชนะโดมิโน่ให้กระแทกลงไปที่พื้น
และหลังจากที่ทำเรื่องทั้งหมดนี้เสร็จแล้ว หลี่ฟานก็กระโดดลงจากรถบดถนนและมองไปที่โดมิโน่ ซึ่งตกอยู่ในสภาวะหยุดนิ่งด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า
“เธอก้าวหน้าขึ้นมากโดมิโน่ ถึงกับสามารถหยุดเวลาต่อสู้กับฉันได้นานถึงขนาดนี้”
“แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ยังอยู่ไกลจาก [ สตาร์ แพลตตินั่ม ] ที่ควรค่าแก่การเป็นหนึ่งในสแตนด์ที่แข็งแกร่งที่สุด และครอบครองพลังหยุดเวลาที่ยาวนานอยู่ดี”
หลี่ฟานถอนหายใจ ขณะที่ยกเศษซากรถบดถนนขึ้นมา แล้วโยนมันออกไปทางอื่น
“ฉันทำเกินไปรึเปล่าเนี่ย?” หลี่ฟานเลิกคิ้ว ขณะที่มองดูเสื้อผ้าของโดมิโนที่แตกเป็นเสี่ยงๆ เนื่องจากการโจมตีของเขา
หลี่ฟานก็ส่ายหัวและดีดนิ้ว ทำให้เวลาที่ถูกหยุดโดย [ เดอะ เวิลด์ ] กลับมาเดินอีกครั้ง
หลังจากนั้น ดวงตาของโดนิโน่ที่พึ่งจะหยุดนิ่ง ก็กลับขึ้นมามีออร่าทันที และขณะเธอมองไปที่หลี่ฟาน เธอรู้ตัวว่าเธอแพ้ให้กับหลี่ฟานอีกครั้งแล้ว
“แน่นอนว่าคุณยังแข็แกร่งว่าฉันมาก อาจารย์หลี่ฟาน” โดมิโนยิ้มแหยๆ แล้วยืนขึ้นด้วยมือทั้งสองข้างบนพื้น
แม้โดมิโน่จะรู้ว่าเธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลี่ฟาน แต่โดมิโน่ก็หวังว่าอย่างน้อย เธอจะสามารถอดทนได้ชั่วขณะหนึ่งในตอนที่เวลาหยุดลง
แต่ข้อเท็จจริงก็ได้พิสูจน์แล้วว่า เธอสูญเสียความสามารถในการหยุดเวลาไป เมื่อหลี่ฟานทำการใช้พลังของ [ เดอะ เวิลด์ ]
“ตอนนี้เธอแข็งแกร่งขึ้นมากแล้ว เพราะนอกจากพลังของสแตนด์ ฮาคิราชันย์ของเธอก็ยังพัฒนาไปได้ด้วยดีอีกด้วย”
“อีกทั้งยังสามารถใช้ฮาคิเกราะเพื่อปกคลุมได้ทั่วทั้งตัว และระยะห่างจากระดับ”พัวพัน" ก็อยู่ห่างออกไปเพียงไม่กี่ก้าว”
“ฮาคิสังเกต ก็ใกล้ที่จะไปถึงระดับการมองเห็นอนาคตแล้ว แต่ก็น่าเสียดาย ดูเหมือนว่าจะเธอไม่มีความสามารถในการได้ยินเสียงของทุกสรรพสิ่ง”
“และฮาคิราชันย์ก็มีความก้าวหน้ามากที่สุด ตอนนี้มันไปถึงระดับเดียวกับสี่จักรพรรดิแล้ว และเธอยังสามารถใช้งานมันร่วมกับฮาคิเกราะได้อย่างชำนาญ”
“ด้วยความสามารถในการหยุดเวลาของ [ สตาร์ แพลตตินั่ม ] นักโทษชั้นที่ 6 จำนวนมาก ก็คงจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเธออีกต่อไป”
เมื่อหลี่ฟานพูดสรุปความสามารถของเธอ โดมิโนก็ยืนเงียบและตั้งใจฟัง ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความชื่นชมที่มีต่อหลี่ฟาน
เฉพาะผู้ที่ได้รับการฝึกฝนจากหลี่ฟานเท่านั้น ถึงจะรู้ว่าหลี่ฟานมีความสามารถในการฝึกสอนมากแค่ไหน และการฝึกฝนของหลี่ฟานนั้นมันดีมากเพียงใด
ก่อนที่จะเริ่มต้นการฝึก โดมิโน่ก็ได้ทำนายเรื่องนี้เอาไว้ในใจของเธอแล้ว แต่หลังจากฝึกฝนอย่างเป็นทางการมาระยะหนึ่ง โดมิโน่ก็ตระหนักได้ว่าการคาดคะเนทุกสิ่งทุกอย่างของเธอนั้นผิดไปหมด
ไม่ใช่ว่าโดมิโน่ไม่เคยฝึกฝน ‘ฮาคิเกราะ’ และ ‘ฮาคิสังเกต’ มาก่อน
แต่เมื่อเทียบกับการฝึกฝนของหลี่ฟานแล้ว วิธีการฝึกฝนก่อนหน้านี้ของเธอ มันก็ห่างกันราวฟ้ากับเหว
คราวนี้ โดมิโน่จึงมีความคิดว่าหลี่ฟานอาจจะมีวิธีการฝึกฝน ที่สามารถยกระดับฮาคิราชันย์ได้ก็ได้
"อาจารย์หลี่ฟาน คุณมีวิธีการฝึกฝนฮาคิราชันย์ไหม?” ในที่สุดโดมิโน่ก็อดสงสัยไม่ได้ และถามหลี่ฟานโดยตรง
“ฮาคิราชันย์?” หลี่ฟานส่ายหัว
“ฮาคิราชันย์ไม่สามารถแข็งแกร่งขึ้นได้โดยตรงผ่านการฝึกฝน แม้ว่าฉันจะไม่มีวิธีที่สะดวกขนาดนั้นก็ตาม”
“แต่ฉันก้ได้ใช้วิธีการทางอ้อม เพื่อทำการฝึกฝนฮาคิราชันย์ของเธอไปแล้ว”
“วิธีอ้อม?” โดมิโน่ขมวดคิ้ว จากความประทับใจของเธอ ดูเหมือนว่าหลี่ฟานจะไม่ได้ใช้วิธีการพิเศษใดๆ เพื่อช่วยในการฝึกฝนฮาคิราชันย์ของเธอเลยสักนิด
“ลืมที่ฉันบอกแล้วรึไง?” เมื่อเห็นความสงสัยของโดมิโน่ หลี่ฟานก็พูดด้วยรอยยิ้ม
“เธอลืมไปแล้วงั้นหรอ ว่ามันมีพลังที่สามารถใช้ทดแทนกันได้”
“คุณหมายถึง การใช้พลังของสแตนด์สามารถช่วยทำให้ให้ฮาคิราชันย์แข็งแกร่งขึ้นได้ใช่ไหม?” โดมิโน่ถามด้วยความประหลาดใจ
“แน่นอน ฉันเคยบอกเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้ไปแล้ว” หลี่ฟานยกมือขึ้นและตบไปที่ไหล่ของโดมิโน่ ก่อนที่จะเหลือบมองที่ด้านหลังของเธอ
“ตอนนี้เธอเชี่ยวชาญในพลังของ [ สตาร์ แพลตตินั่ม ] แล้ว และแน่นอน ฮาคิราชันย์ของเธอก็ต้องพัฒนาขึ้นด้วย”
“โดยสรุป จุดอ่อนในปัจจุบันของเธอก็คือ ระดับของฮาคิเกราะที่ยังค่อนข้างต่ำ”
“หากเธอต่อสู้กับผู้ใช้งานฮาคิเกราะที่ทรงพลัง เธอก็อาจจะได้รับบาดเจ็บได้ เพราะงั้นเธอจึงสามารถปล่อยให้สตาร์ แพลตตินัมต่อสู้แทนเธอ และเธอก็เปลี่ยนไปเป็นการสนับสนุนแทน”
“เพราะถ้าเธอไม่ได้เผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้อย่างพลเรือเอก มันก็เป็นไปไม่ได้ที่คนอื่นๆ จะสามารถหยุดเธอได้”
หลังจากได้ยินคำอธิบายของหลี่ฟาน โดมิโน่ก็พยักหน้าอย่างชัดเจน
“ใกล้ถึงเวลาที่พวกเราต้องออกไปแล้ว นี่เป็นเสื้อผ้าตัวก่อนของเธอ และฉันก็ได้จัดการซ่อมมันให้เธอแล้ว”
“พวกเราจะออกไปจากที่นี่ หลังจากที่เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ”
หลังจากพูดจบ หลี่ฟานก็หันกลับไป
แต่ไม่นานนัก หลังจากที่หลี่ฟานหันหลังกลับไป ก็ได้มีเสียงกรีดร้องออกมาจากปากของโดมิโน่
เพราะเมื่อเธอหยิบเสื้อผ้ามาจากมือของหลี่ฟาน และก้มลงมองดูร่างกายของตัวเอง โดมิโน่ก็ตระหนักว่าเสื้อผ้าที่เธอใส่อยู่ถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ เนื่องจากการต่อสู้เมื่อกี้นี้
ทำให้ทิวทัศน์อันงดงามของเธอถูกเปิดเผย และตระหนักได้ว่า เธอยืนคุยกับหลี่ฟานอยู่ในสภาพนี้เป็นเวลานาน
และเมื่อคิดถึงสิ่งนี้ ใบหน้าของโดมิโน่ก็เปลี่ยนเป็นสีแดงทันที
เธอมองไปที่เสื้อผ้าในมือและหลี่ฟานที่กำลังยืนหันหลังให้ จากนั้นก็รีบวิ่งไปที่ด้านหลังเศษซากรถบดถนนที่หลี่ฟานโยนออกไปอย่างรวดเร็ว
ผ่านไปครู่หนึ่ง เมื่อโดมิโน่ปรากฎตัวต่อหน้าหลี่ฟานอีกครั้ง เธอก็กลับมาสู่ท่าทางที่สงบของเธอ
แต่เมื่อหลี่ฟานมองดูเธออย่างระมัดระวัง เขาก็ยังสามารถเห็นได้ถึงรอยแดง ที่หลงเหลืออยู่บนใบหน้าของเธอ
หลี่ฟองมองเธอขึ้นลงและนึกถึงซาดี้ขึ้นมา ก่อนที่จะพูดกับโดมิโน่
“เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นเพื่อนกับซาดี้ แต่เธอก็เป็นผู้หญิงที่ไร้เดียงสาอย่างน่าประหลาดใจเลยนะ โดมิโน่”
“เพราะซาดี้ ผู้หญิงคนนั้น เธอไม่เคยสนใจว่าเธอจะถูกมองหรือไม่ก็ตาม”
และเมื่อเห็นใบหน้าของโดมิโน่กลายเป็นสีแดงอีกครั้งเพราะคำพูดของเขา หลี่ฟานจึงยกมือขึ้นโบกไปมา
“โอเค เตรียมตัวกลับกันได้แล้วโดมิโน่”
“ตอนนี้ฉันจะพาเธอกลับไปที่โรงฝึกในอิมเพลดาวน์”
“เธอจะสามารถจับนักโทษที่กำลังหลบหนีออกไปได้กี่คน มันก็ขึ้นอยู่กับพลังของเธอแล้ว”
“บอกไว้ก่อน ไม่ว่ายังไงฉันก็ไม่ช่วยเธอจัดการกับเหล่านักโทษพวกนั้นหรอกนะ”
ขณะพูด หลี่ฟานก็เดินไปอยู่ที่ด้านข้างของโดมิโน่ แล้ววางมือของเขาไว้บนไหล่ของเธอ
“ฉันจะขอแค่อย่างเดียวจากเธอ ห้ามตายเด็ดขาด!”
“ทุกอย่างมันจะขึ้นอยู่กับความสามารถของเธอ”
“และแม้ว่าจะไม่สามารถจับนักโทษบางคนกลับมาได้ แต่ตราบใดที่เธอยังมีชีวิตอยู่ มันก็ย่อมมีโอกาสอีกมากในอนาคต”
ในขณะที่พูดถึงเรื่องนี้ ใบหน้าของหลี่ฟานก็ดูจริงจังกว่าที่เคย
เขาไม่ต้องการให้โดมิโน่เสียชีวิต ก่อนที่เธอจะสามารทำภารกิจโรงฝึกของเขาได้สำเร็จ
อย่างไรก็ตาม โดมิโน่ที่ไม่รู้ความคิดของหลี่ฟาน กลับเข้าใจผิดไปอย่างสิ้นเชิง
"อาจารย์หลี่ฟาน คุณเป็นห่วงฉันมากใช่ไหม?”
มองไปที่ใบหน้าที่ดูจริงจังของหลี่ฟาน โดมิโน่ก็เม้มริมฝีปากของเธอและพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม
“ฉันเข้าใจ อาจารย์หลี่ฟาน ฉันจะไม่ตายเด็ดขาด!”
“ฉันหวังว่าเธอจะทำตามคำพูดของตัวเองนะ” หลี่ฟานยิ้ม
วินาทีถัดมา การใช้เวลาสองปีในห้องฝึกฝนแห่งกาลเวลาก็สิ้นสุดลง หลี่ฟานและโดมิโน่จึงกลับมาที่โรงฝึกในอิมเพลดาวน์ทันที
“คุณหลี่ฟาน! พวกคุณ?” โอลีฟที่กำลังวิ่งไปที่ประตูห้องฝึกฝนแห่งกาลเวลา แต่เมื่อเห็นหลี่ฟานและโดมิโน่กลับออกมา ทันใดนั้นเธอก็หยุดขาของเธอ และเต็มไปด้วยความสงสัยขึ้นมาแทน
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่โอลีฟจะได้การทำความเข้าใจว่าทำไมพวกเขาทั้งสองคน ถึงออกมาจากห้องฝึกฝนแห่งกาลเวลาอย่างรวดเร็ว ความเจ็บปวดอัดเฉียบพลันก็เกิดขึ้นที่ท้องของเธอ ก่อนที่เธอจะล้มลงและสลบไป
“อาจารย์ ฉันขอตัวก่อนนะคะ” โดมิโน่เรียกสตาร์ แพลตตินั่มกลับมา และหันไปโค้งคำนับให้กับหลี่ฟานอย่างสุดซึ้ง
ท้ายที่สุด หลี่ฟานก็ได้ฝึกสอนเธออย่างระมัดระวังมาเป็นเวลาสองปี เพราะอย่างนั้นสำหรับโดมิโน่แล้ว หลี่ฟานในตอนนี้ จึงเป็นคนที่คู่ควรกับความเคารพของเธอมากที่สุด
“ไปเถอะ ฉันจะรอเธอกลับมาอยู่ที่นี่”
“สำหรับเต้าหู้มาโปที่เธอชอบ ฉันจะเตรียมมันเอาไว้ให้เอง” หลี่ฟานโบกมือ ก่อนที่จะเดินไปที่เก้าอี้ด้านข้างแล้วนั่งลง
โดมิโน่ที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มให้กับหลี่ฟาน เธอพยักหน้าให้กับเขาหนึ่งที ก่อนที่จะเดินออกไปจากโรงฝึก
…