ตอนที่ 1415 เสียงปืนที่ดังสนั่น..
หลังจากผ่านปัญหาต่างๆ มามากมาย หลินฟาน และหลี่ จื่อเสีย ก็สามารถหาโรงแรมเพื่อเข้าพักได้แล้ว โรงแรมนี้ตั้งอยู่ในแถบชานเมือง ตัวโรงแรมมีสภาพค่อนข้างเรียบง่าย แม้แต่ผนังระหว่างห้องก็ถูกบุด้วยไม้กระดานแผ่น แล้วแปะติดด้วยวอลล์เปเปอร์ทับลงไปอีกชั้นหนึ่ง และไม่ต้องพูดถึงฉนวนกันเสียงที่ค่อนข้างแย่..
พอทั้งสองเข้าประตูมา ก็ได้ยินเสียงที่ไม่ต้องอธิบายอะไรมากดังมาจากห้องข้างๆ หลินฟาน ไม่ได้พูดอะไร แต่ หลี่ จื่อเสีย ในตอนนี้เธอกลับหน้าแดงไปแล้ว นับประสาอะไรกับการที่ เธอ.. จะได้นอนอยู่ในห้องเดียวกันกับ หลินฟาน และเพียงแค่คิดเธอก็ยิ่งรู้สึกว่ามัน ..น่าอายมากยิ่งขึ้น
“คุณหลี่ ถ้าคุณง่วงก็นอนเถอะ” หลินฟาน พูด พอหลังจากพูดอย่างนั้นไป หลินฟาน ก็ปิดประตู และเดินออกไปที่หน้าต่าง มองออกไปข้างนอก และปิดผ้าม่าน
หลี่ จื่อเสีย กล่าวว่า : “ฉ.. ฉัน อยากไปอาบน้ำก่อน…”
หลินฟาน กล่าวว่า : “อืม คุณไปเถอะ”
ขณะพูด หลินฟาน ก็เดินไปนั่งที่เก้าอี้ที่มีอยู่เพียงตัวเดียวภายในห้อง
หลี่ จื่อเสีย รู้สึกเขินอายมากๆ เธอรีบก้มหน้าลง และรีบวิ่งเข้าไปในห้องอาบน้ำ แต่.. พอไปถึงจึงพบว่าประตูห้องอาบน้ำมันล็อคไม่ได้ อีกทั้งมันยังเป็นเพียงประตูกระจกบานหนึ่งที่ไม่สามารถปิดแน่นได้! นั่นก็คือ.. ขณะที่เธอกำลังอาบน้ำอยู่ข้างใน ถ้าหาก หลินฟาน จะเข้ามา เขา.. แค่ผลักมันเบาๆ ก็เข้ามาได้แล้ว
โชคดีที่ประตูกระจกนี้ทึบซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่มันได้ปลอมใจเธอ ไม่เช่นนั้น ตัวเธอจะไปกล้าอาบน้ำที่ไหน?
การออกแบบของโรงแรมทั่วไป พวกเขาก็ไม่ได้พิจารณาคำนึงถึงสถานการณ์ที่เพื่อนธรรมดาต่างเพศจะเข้าพักในห้องเดียวกัน แต่ ..ท้ายที่สุดแล้ว สถานการณ์นี้ยังไม่ค่อยมีให้เห็นมากนักจริงๆ คนที่เข้าใจก็จะเข้าใจ แต่โดยรวมทุกคนเองก็รู้ดีอยู่แน่ชัดว่าคนที่จะเข้ามาอยู่ห้องเดียวกันนั้น ก็ต้องเป็นเพื่อน เป็นพี่น้อง หรือไม่ก็สามีภรรยา แฟน หรือคนที่คิดจะทําเรื่องแบบนั้น โดยเฉพาะ...
และคนที่เป็นเพศตรงข้ามที่ไม่ได้มีความสัมพันธ์แบบนั้น การที่จะเข้ามาอยู่ห้องเดียวกัน อยู่แบบสบายๆ มันจะเป็นไปได้ ..อย่างไร?
แต่สําหรับ หลินฟาน แล้ว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้เปิดพักห้องเดียว และอยู่กับเพศตรงข้าม ครั้งสุดท้ายคือเมื่อไม่นานมานี้เอง ในตอนที่พา หยุน ชิงเย้า กลับไปที่ทางตอนใต้ของ ยูนนาน
หลี่ จื่อเสีย เธอรู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อย เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่งว่าจะอาบน้ำดีหรือไม่ เธอรู้สึกอายมาก แต่ทั้งหมดมันก็ขึ้นอยู่กับว่า เธอ.. จะเชื่อใจ หลินฟาน ได้หรือไม่ ถ้าเธอไม่สามารถเชื่อใจ หลินฟาน ได้ งั้น.. ก็เป็นการดีที่สุดสำหรับเธอที่จะไม่เข้าไป…
เธอเพิ่งผ่านเรื่องแบบนั้นมา มันยากที่จะไม่คิดระวังใคร และแม้แต่ หลินฟาน ที่ได้ช่วยเธอออกมาจากทะเลแห่งความขมขื่น แต่ หลินฟาน เขา.. ก็เป็นผู้ชาย
หลี่ จื่อเสีย กลับไม่ได้ลังเลใจอยู่นานมากนัก สุดท้ายเธอก็ได้เอื้อมมือไปผลักประตู และเดินเข้าไป
อย่างแรก เธอ.. ต้องการอาบน้ำมากจริงๆ เพื่อที่จะได้ล้างฝันร้าย และความโชคร้ายที่มีในช่วงนี้ออกไป อย่างที่สอง กล่าวคือหลักๆ หากถ้าเธอไม่สามารถไว้วางใจ หลินฟาน ได้แล้ว แบบนั้นจะมีใครที่เธอสามารถไว้วางใจได้อีกล่ะ?
ด้วยความวิตกกังวลเล็กน้อย หลี่ จื่อเสีย จึงอาบน้ำร้อนที่สะดวกสบาย และเดินออกจากห้องอาบน้ำพร้อมกับผมที่เปียก
เมื่อเห็น หลินฟาน ยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้ และหลับหูอยู่..
แต่.. เมื่อพอได้ยินเสียงเคลื่อนไหว หลินฟาน ก็ลืมตาขึ้น และมองไปที่ หลี่ จื่อเสีย
หลินฟาน ต้องยอมรับว่า หลี่ จื่อเสีย เป็นสาวสวย สาวงามคนหนึ่งเลยจริงๆ และไม่ใช่เพียงสาวสวย สาวงามธรรมดาด้วย แต่กล่าวคือ เธอ.. คือความงามที่ยังไม่ได้เติบโตเต็มที่ ในตอนนี้พอได้เห็นหญิงสาวเดินออกมาจากอาบน้ำ พอเห็นแล้ว.. หัวใจของเขามันก็ได้เต้นแรงขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น
มันเป็นไปไม่ได้ที่จะบอกว่า หลินฟาน ไม่รู้สึกอะไร.. แต่ในสถานการณ์นี้ หลินฟาน ก็ยังคงต้องแสร้งทําเป็นจริงจัง
“คุณ.. คุณจะไปอาบน้ำไหม?” หลี่ จื่อเสีย อยากหาโทรศัพท์มาเพื่อคลายบรรเทาความอึดอัดใจ แต่พอทันทีที่เธอพูดคําเหล่านี้ แก้มน้อยๆ บนใบหน้าทั้งสองข้างของเธอก็แดงขึ้นทันที
“ไอไอ” หลินฟาน กระแอมในลำคอ และพยายามไม่มองไปที่เธอ แล้วพูดว่า : “ไม่ ผมจำเป็นต้องเฝ้าอยู่ที่นี่ คุณนอนเถอะ”
หลี่ จื่อเสีย ร้องโอ้.. แล้วเดินไปข้างๆ หยิบเครื่องเป่าผมขึ้นมาเป่าผมตัวเอง แล้วจับรวบผมพลิกไปด้านข้าง เปิดเผยให้เห็นซอกคอที่ขาวราวกับหิมะ กลิ่นหอมของแชมพูลอยปลิวไปทั่วห้อง และที่อยู่ตรงหน้าของเขานี้.. มันคือฉากที่สวยงามในโลกจริงๆ
หลินฟาน ต้องรีบละสายตาไปอยู่อีกมุมหนึ่งของห้อง การได้อยู่ในห้องเดียวกันกับสาวสวย ที่ไม่ใช่แฟน แม้จะบอกว่ามัน ..เจริญหู เจริญตา ก็ตาม แต่ว่า.. ในขณะเดียวกันมันก็กลับกลายเป็นการทรมานอย่างหนึ่งเช่นกัน
ครั้งนี้มันแตกต่างจากครั้งที่แล้วที่อยู่กับ หยุน ชิงเย้า ในตอนนั้น หยุน ชิงเย้า ปิดบังใบหน้า หลินฟาน ที่คิดว่าเธอหน้าตาน่าเกลียด และเขาที่เป็นศัตรูกับ หยุน ชิงเย้า หลินฟาน เขาจึงไม่มีความคิดอะไรเกี่ยวกับ หยุน ชิงเย้า เลยแม้แต่น้อย
หลังจากนั้นไม่นาน หลี่ จื่อเสีย ก็เป่าผมเสร็จ และเดินมาที่ข้างเตียง
“คุณหลิน ฉันนอนก่อนนะ” หลี่ จื่อเสีย พูดเบาๆ
หลินฟาน กล่าวว่า : “อืม คุณนอนเถอะ”
หลี่ จื่อเสีย ก็ปีนขึ้นไปบนเตียง เปิดผ้าห่ม และรีบมุดตัวเข้าไป
นับตั้งแต่เด็กจนโตมาได้ขนาดนี้ นี่กลับเป็นครั้งแรกที่เธอได้อยู่ในห้องเดียวกับเพศตรงข้าม และยังต้องนอนหลับอยู่ตรงข้ามเพศตรงข้าม เมื่อพอคิด.. เธอ ก็ไม่กล้านอนเลย แต่หลังจากการทดสอบจากการอาบน้ำเมื่อสักครู่นี้แล้ว ตอนนี้เธอก็สามารถวางใจกับ หลินฟาน ได้อย่างเต็มที่แล้ว เพียงแต่แค่เธอยังคงรู้สึกอายอยู่เล็กน้อย.. เท่านั้น
ตอนนี้เธอรีบแอบซ่อนใบหน้าที่แดงก่ำอยู่ในผ้าห่ม และแอบโผล่ดวงตาน้อยๆ มามองไปที่ หลินฟาน และเห็นเพียงว่า หลินฟาน กําลังหลับตาอยู่ หลี่ จื่อเสีย ก็ถอนหายใจเบาๆ เธอเองไม่แน่ใจว่า หลินฟาน เป็นสุภาพบุรุษเกินไป หรือตัวเองดูจะขาดเสน่ห์เกินไป ทำไม คุณหลิน.. เหมือนเขาจะดูไม่ค่อยสนใจเธอเลยนะ?
เธอจะไปรู้ได้อย่างไรว่าตอนนี้ หลินฟาน เองกำลังเผชิญหน้ากับช่วงเวลาที่ยากลําบากอย่างหนึ่งในชีวิตของลูกผู้ชาย โดยมีสาวงามคนหนึ่งกำลังนอนอยู่ตรงหน้าเขา และกล่าวเลย.. เขาไม่ใช่ ผู้ชายอย่าง หลิ่ว เซี่ยฮุ่ย (柳下惠) และแน่นอน เขาไม่ใช่ผู้ชายที่มีคุณธรรม และมีจิตใจแน่วแน่มั่นคงได้ถึงขนาดนั่น!
เนื่องจากเพราะเธอง่วงมากเกินไป ไม่นานนัก หลี่ จื่อเสีย ก็หลับไปในไม่ช้า
ห้องได้เงียบไปในชั่วขณะหนึ่ง ..ที่ด้านนอกก็ยังคงเงียบสงบ และแม้แต่กระทั่งห้องถัดไปข้างๆ ที่มีเสียงที่ไม่ต้องพูดอธิบายอะไรให้มาก ก็ถูกแทนที่ด้วยเสียงกรนอันเหนื่อยล้ามานานแล้ว
ผ่านไปไม่นาน..
หลินฟาน ที่กําลังหลับตา เพื่อพักฟื้น ผ่อนคลายจิตใจ จู่ๆ ดวงตาทั้งสองข้างของเขาก็เปิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
หลินฟาน ลุกขึ้นยืน แล้วเดินมาที่หน้าต่าง ใช้นิ้วค่อยๆ ยกผ้าม่านขึ้นเบาๆ และมองออกไปข้างนอก
มีรถเก๋งหลายคันมาถึงที่ด้านนอกของโมเต็ล กลุ่มชายฉกรรจ์ลงมาจากรถ พวกเขาพยายามเดินมาอย่างช้าๆ ทำให้เบาที่สุด และแยกย้ายกันออกไปตามคำสั่ง ดูเหมือนพวกเขาต้องการจะปิดล้อมโมเต็ลแห่งนี้
ชายคนหนึ่งที่มีหน้าตาไปทางชาวยุโรปตะวันออก เดินตรงมาที่แผนกต้อนรับ
หญิงผิวขาวรูปร่างอ้วน ยังคงเงยหน้าขึ้น และนอนกรนเสียงดังอยู่ที่แผนกต้อนรับ
ชายชาวยุโรปตะวันออกเอื้อมมือไปตบหน้าผู้หญิงคนนั้นเบาๆ เพื่อปลุกเธอให้ตื่นขึ้น
“มีชายหญิงชาวเอเชียคู่หนึ่งเข้ามาพักที่นี่ พวกเขาอยู่ห้องไหน?”
ชายชาวยุโรปตะวันออกถามออกมาด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ
หญิงอ้วน ที่กำลังหลับสบายอยู่ดีๆ พอถูกปลุกให้ตื่นดูเหมือนจะอารมณ์เสียเล็กน้อย
ทันใดนั้นเธอก็พูดจาไม่ดีออกไปทันที ทําให้ชายชาวยุโรปตะวันออกยิ่งมีสายตาว่างเปล่า : “คุณมันเป็นบ้าอะไร คุณมันป่วยหรือยังไง แล้วใครมันอนุญาตให้คุณปลุกฉันกันหะ!?”
“หุบปากได้แล้ว!”
ชายชาวยุโรปตะวันออก ได้โชว์ปืนใต้เสื้อ
ในทันทีหญิงอ้วนผิวขาวก็ร้องออกมาด้วยความตกใจ แต่เธอยังไม่ทันได้ส่งเสียงดังออกไป ก็ถูกชายชาวยุโรปตะวันออกเอามือปิดปากเธอไว้ : “ร้องอีกครั้ง ระวังฉันจะยิงคุณ!”
หญิงอ้วนผิวขาว ได้เงียบปากในทันที ดวงตาของเธอมันเต็มไปด้วยความหวาดกลัว…
“เกิดอะไรขึ้น?” ทันใดนั้นชายคนหนึ่งที่ได้ยินเสียงก็เดินออกมาจากข้างใน และถามออกมาด้วยความประหลาดใจ
ชายชาวยุโรปตะวันออกชี้ปืนมาที่เขาทันที
เมื่อเห็นปากกระบอกปืนชี้เล็งมาผู้ชายคนนั้นก็ตกใจมาก รีบยกมือขึ้น : “อย่ายิง อย่ายิง พูดคุยกันดีๆ ก็ได้..”
ชายชาวยุโรปตะวันออก ถามว่า : “มีชายหญิงชาวเอเชียคู่หนึ่งเข้ามาพักที่นี่ พวกเขาอยู่ห้องไหน?”
ชายหญิงเอเชียคู่หนึ่ง? ผู้ชายคนนั้นได้อึ้งไป หรือว่าเป็นคู่ที่เพิ่งจะเข้ามาพักเมื่อไม่นานมานี้?
“พวกเขาอยู่ที่ห้อง 111” ผู้ชายคนนั้นได้กล่าวออกไป
ชายชาวยุโรปตะวันออกเก็บปืนแล้วหันหลังกลับเดินออกไปข้างนอก.. จังหวะนั้นมีชายวัยกลางคนชาวยุโรปตะวันออกที่มีหนวดเครารุงรังยืนรออยู่ข้างนอก เดินตามมาด้วยชายฉกรรจ์สองคนที่มาพร้อมกับอาวุธปืนทั้งซ้าย และขวา ข้างหลังยังมีกลุ่มชายฉกรรจ์อีกหลายคนที่มาพร้อมกับปืนในมือ
“111” ชายชาวยุโรปตะวันออกได้กล่าวต่อกับชายวัยกลางคนชาวยุโรปตะวันออกที่มีหนวดเครารุงรัง
คนข้างหลังได้ส่ายศีรษะ และส่งสัญญาณมือ ไปให้กลุ่มชายชาวยุโรปตะวันออก พร้อมกับกวักมือให้ชายหลายคนที่อยู่ข้างหลังเขานั้นเดินออกไปอย่างเงียบๆ ค้นหาห้องหมายเลข 111
ทันใดนั้น กลุ่มชายชาวยุโรปตะวันออกก็หยุด ปรากฏว่าพวกเขาได้เห็นห้องหมายเลข 111 แล้ว และมันอยู่ข้างๆ พวกเขา
และพากันเดินไปที่ประตูห้องหมายเลข 111 ซึ่งทุกคนได้หยิบปืนขึ้นมาพร้อมกับปากกระบอกปืนเล็งไปที่ประตูห้องหมายเลข 111 ไปในเวลาไล่เลี่ยกัน
ปังปังปัง…
จากนั้นเสียงปืนที่ดังสนั่นก็ได้ทำลายความสงบไป ..ภายในยามค่ำคืน