1197 - เทียนฟาง
1197 - เทียนฟาง
กลุ่มของเย่ฟ่านมาถึงเมืองขนาดใหญ่ในภาคเหนือ มันเป็นเมืองลอยฟ้าที่ราวกับเมฆสีดำทะมึนและทำให้ดินแดนเบื้องล่างจมอยู่ในเงามืด ดินแดนแห่งนี้ถูกเรียกว่าเทียนฟาง
วานรศักดิ์สิทธิ์ทำหน้าที่นำทาง ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเขามักจะท่องเที่ยวอยู่ในเมืองแห่งนี้เสมอ เพราะว่านี่คือสถานที่ที่เผ่าพันธุ์มากมายในโลกสามารถใช้ชีวิตร่วมกันได้อย่างสงบสุข
“ดูสิตรงนั้นมีผู้บ่มเพาะเผ่าพันธุ์อีกาทอง น้ำแข็งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในมือของเขาสามารถรักษาซากศพผู้คนได้นานนับแสนปี นี่เป็นสิ่งของล้ำค่าอย่างยิ่ง” หลี่เทียนชี้ไปข้างหน้า
เทียนฟางคึกคักไปด้วยผู้คนจากทุกเผ่าพันธุ์ มีแผงขายของ มากมายที่เต็มไปด้วยสมบัติล้ำค่า
ไม่ไกลนัก ผู้บ่มเพาะจากเผ่าพันธุ์อีกาทองซึ่งมีปีกสีดำสนิทอยู่บนหลังและมีวงแหวนชนิดลอยอยู่เหนือศีรษะกำลังตั้งแผงขายของ และสินค้าที่เขาขายคือน้ำแข็งศักดิ์สิทธิ์
“น้ำแข็งก้อนนี้มีค่าเทียบเท่ากับหินศักดิ์สิทธิ์สีชาดเลยหรือ มันเป็นไปได้อย่างไร คุณประโยชน์ของมันคืออะไรกันแน่?” มีมนุษย์มากมายรุมล้อมอยู่รอบแผงขายของนี้
“นี่คือชิ้นส่วนของวิญญาณน้ำแข็งไท่หยินสำหรับคนทั่วไปนอกจากใช้แช่แข็งซากศพแล้วไม่มีประโยชน์ทั้งสิ้น แต่สำหรับร่างศักดิ์สิทธิ์ไท่หยินมันจะช่วยให้พรสวรรค์ของพวกเขายกระดับขึ้นอย่างก้าวกระโดด” ดวงตาของต้วนเต๋อสว่างขึ้นทันที
สุนัขสีดำตัวใหญ่ไม่สามารถนั่งนิ่งได้อีกต่อไป มันวนเวียนอยู่รอบๆ น้ำแข็งศักดิ์สิทธิ์อย่างกระตือรือร้น หากไม่ใช่ว่ามีคนรุมล้อมเป็นจำนวนมากมันคงลงมือปล้นชิงสมบัติแห่งสวรรค์พิภพนี้ไปแล้ว
อย่างไรก็ตามทุกสิ่งที่นี่ต้องมีการแลกเปลี่ยนแม้ว่าเจ้าจะมีต้นกำเนิดสวรรค์มากมายแต่เจ้าก็ไม่สามารถซื้อหาสมบัติล้ำค่าของเผ่าพันธุ์โบราณได้ นั่นก็เพราะเผ่าพันธุ์โบราณไม่มีใครขาดแคลนต้นกำเนิดสวรรค์
“สิ่งนี้ต้องแลกเปลี่ยน ถ้ามอบให้เสี่ยวถิงถิง มันจะเร่งการฝึกฝนของนางได้มาก” เย่ฟ่านกล่าวกับตัวเอง
“ซื้อหาอย่างอื่นเถอะ หินศักดิ์สิทธิ์สีชาดนั้นไม่ได้มาง่ายๆ ว่ากันว่าเป็นหินที่แช่อยู่ในเลือดของเทพและสลักไว้ด้วยลวดลายแห่งเต๋า ความล้ำค่าของมันให้อาจจินตนาการได้” วานรศักดิ์สิทธิ์กล่าว
ในเทียนฟางมีสิ่งมีชีวิตมากมายและมีผู้บ่มเพาะเผ่ามนุษย์ที่ทรงพลังไม่น้อย หากเผ่าพันธุ์โบราณจงใจใช้รูปลักษณ์ของมนุษย์ในการท่องเที่ยวในเมืองนี้ก็เป็นเรื่องยากที่จะมองเห็นได้ว่าพวกเขามาจากเผ่าพันธุ์ใดกันแน่
แม้กระทั่งวานรศักดิ์สิทธิ์ก็ยังเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นชายหนุ่มคนหนึ่ง บุคลิกและรูปลักษณ์ของเขามีความโดดเด่นมากเกินไป ในฐานะบุตรชายของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์โต้วจ้าน หากตัวตนของเขาถูกเปิดเผยย่อมสร้างความแตกตื่นเป็นอย่างมาก
“นั่นคือน้ำนมปฐพีที่มีคุณภาพสูงอย่างยิ่ง ใช้เพียงแค่หยดเดียวสามารถยืดอายุได้หลายสิบปี หากได้มาทั้งขวดอาจยืดอายุได้ยาวนานนับร้อยปีเลยทีเดียว” ต้วนเต๋อกล่าวด้วยดวงตาที่เปล่งประกาย
พวกเขาค้นพบสมบัติล้ำค่าอีกชิ้นหนึ่ง นั่นคือน้ำเต้าหยกเขียวที่มีขนาดประมาณกำปั้น ของเหลวที่อยู่ข้างในเป็นสีขาวราวกับน้ำนม นี่คือน้ำนมปฐพีนั่นเอง
“น่าเสียดายที่ระดับของมันยังขาดอีกเล็กน้อย ไม่เช่นนั้นคุณค่าของมันจะเทียบกับราชาโอสถได้เลย” ชายชราคนหนึ่งซึ่งเป็นผู้บ่มเพาะจากเผ่าพันธุ์โบราณส่ายหน้า
ทันใดนั้นในบริเวณใกล้เคียงกับพวกเขาก็เกิดความโกลาหลขึ้น มีผู้คนมากมายกำลังรุมล้อมแผงขายของที่เป็นเสื่อฟางเล็กๆ
“เกิดอะไรขึ้น มีสมบัติศักดิ์สิทธิ์มาขายหรือ?” มีคนมามากขึ้น
“โอ้สวรรค์ มันคือของน้ำพุศักดิ์สิทธิ์เก้าทวาร มันเป็นสมบัติล้ำค่าสำหรับการฝึกฝนอัจฉริยะ มีคนเต็มใจที่จะนำมันออกมาขายจริงๆหรือ!”
มีเสียงดังมาจากเสื่อฟางผืนนั้น มีผู้คนจำนวนมากที่พยายามเบียดเสียดตัวเองเข้าไป หากไม่ใช่ว่าเทียนฟางมีค่ายคนปิดผนึกที่แข็งแกร่งควบคุมอยู่ป่านนี้คงมีการลงมือแย่งชิงสมบัติแห่งสวรรค์พิภพไปแล้ว
ในขณะนี้มีหินก้อนหนึ่งวางอยู่บนเสื่อฟางซึ่งมีขนาดใหญ่โตประมาณผลแตงโม ลักษณะของมันคล้ายกับบริเวณทรวงอกของมนุษย์ที่ถูกผ่าเปิดออก และหยดน้ำที่ใสสะอาดซึ่งขังอยู่ในร่องอกนั้นปลดปล่อยกลิ่นหอมหวลสร้างความลุ่มหลงให้กับผู้คนเป็นอย่างมาก
“แม้แต่สมบัติที่ท้าทายสวรรค์ถึงขนาดนี้ก็ยังมีคนเอามาขาย!” จักรพรรดิดำตกตะลึงอย่างถึงที่สุด
นี่คือระยะเริ่มต้นของวิญญาณศักดิ์สิทธิ์แห่งวัตถุ หากปล่อยให้มันวิวัฒนาการอีกหลายพันปีเกรงว่ามันจะกลายเป็นวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ระดับเซียน
แต่สุดท้ายกลับมีใครบางคนผ่าเปิดออกจากหินต้นกำเนิดและทำให้วิญญาณศักดิ์สิทธิ์นั้นดับสูญไป
อย่างไรก็ตามวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่กลายเป็นของเหลวนั้นมีคุณค่ามหาศาลอย่างยิ่ง มันสามารถช่วยให้อัจฉริยะฝึกฝนได้อย่างรวดเร็วมากขึ้นกว่าเดิมถึงสองเท่าโดยที่ใช้ความพยายามเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น
“เสี่ยวเช่อเอ๋อ ตงตงและคนอื่นๆ ล้วนจำเป็นต้องใช้พวกมัน” เย่ฟ่านถอนหายใจ
“ให้ตายเถอะ ข้าก็ต้องการมันเหมือนกัน แม้ว่าแขนและขาของข้าจะแก่แล้ว แต่หากได้รับของเหลวเหล่านั้นร่างกายของข้าจะต้องกลับมาหนุ่มแน่นเหมือนเดิมอย่างแน่นอน!” จักรพรรดิดำแยกเขี้ยวและรู้สึกกระสับกระส่าย
“นี่คือใคร และทำไมพวกเขาถึงนำสิ่งที่ท้าทายสวรรค์เช่นนี้ออกมาขาย?” หลายคนงงงวย
“เขาคือ...หลานชายเพียงคนเดียวของผู้อาวุโสหุนโถวและเขาได้ก้าวเข้าสู่อาณาจักรของราชาบรรพชนแล้ว!” มีคนอุทานออกด้วยความตกใจเมื่อมองเห็นชายหนุ่มสวมชุดดำคนหนึ่ง
“เจ้าต้องการใช้อะไรในการแลกเปลี่ยน?” คนซื้อสอบถาม
“ราชาโอสถ ของเหลวยาเซียน ไข่มังกรระดับสูงสุด หรืออะไรก็ตามที่สามารถยืดอายุได้แปดร้อยปี” ชายในชุดดำตอบ
ทันใดนั้นทุกคนก็พยักหน้าด้วยความเข้าใจ ผู้อาวุโสหุนโถวแม้จะเป็นครึ่งจักรพรรดิที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่าพันธุ์โบราณ แต่อายุขัยของเขาได้มาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว เขาจำเป็นต้องได้รับยาเซียนเพื่อต่อชีวิตเป็นการเร่งด่วน!
เมื่อได้ยินความปรารถนาของชายหนุ่มชุดดำทุกคนก็เงียบสนิทลงทันที ในโลกนี้จะมีใครยินยอมนำสมบัติศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถยืดอายุได้แปดร้อยปีออกมาแลกเปลี่ยน
แม้ว่าน้ำพุศักดิ์สิทธิ์เก้าทวารจะล้ำค่าอย่างยิ่ง แต่ยาเซียนที่สามารถยืดอายุของผู้คนก็ไม่ใช่สิ่งที่จะประเมินค่าได้เช่นกัน
“ข้าสามารถซื้อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์เก้าทวารได้ อย่างไรก็ตามหากข้ายินยอมมอบยาเซียนที่สามารถต่ออายุให้ชายชราคนนั้นถึงแปดปี เกรงว่าเมื่อเขาฟื้นคืนชีพกลับมามันจะกลายเป็นหายนะครั้งใหญ่ของเผ่าพันธุ์มนุษย์แทน” เย่ฟ่านกล่าวกับตัวเอง
“ไปที่อื่นกันเถอะ”
หลี่เหอสุ่ยกล่าว แม้ว่าของน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ 9 ทวารจะมีความสามารถในการท้าทายสวรรค์อย่างยิ่ง แต่สิ่งแลกเปลี่ยนก็มีความล้ำค่าไม่แพ้กัน ดังนั้นพวกเขาควรจะค้นหาอย่างอื่นแทน
“มีหินศักดิ์สิทธิ์สีชาดอยู่ที่นั่น!” ดวงตาอันแหลมคมของจักรพรรดิดำมองเห็นหินสีแดงราวกับเลือดวางอยู่บนแผงขายของอีกแห่ง
ภายใต้แสงที่กระจ่างใสของมันได้ดึงดูดผู้คนมากมายให้รุมล้อมเข้ามา แต่ทันทีที่มองเห็นว่าจะต้องใช้ของประเภทใดในการแลกเปลี่ยนมันทุกคนก็ถอยกลับออกไปอย่างรวดเร็ว
“เราต้องการน้ำพุเหลืองหนึ่งร้อยหยด!” คนที่ตั้งแผงขายของมีสีหน้ามืดมนดวงตาดำคล้ำ ไม่ต้องบอกก็ทราบได้ว่าคนผู้นี้จะต้องฝึกฝนทักษะที่เกี่ยวกับภูตผีอย่างแน่นอน
“นี่คือยอดฝีมือจากเผ่าภูตผี ไม่น่าแปลกใจที่เขาต้องการสิ่งนี้ แต่ถึงแม้จะมีซากศพของผู้คนนับหมื่นฝังอยู่ในสุสานแห่งเดียวมันก็ยังเป็นเรื่องยากที่จะควบแน่นบ่อน้ำพุเหลืองเล็กๆขึ้นมาได้” ทุกคนส่ายหน้าและจากไปทีละคน
“ข้าจะแลกเปลี่ยนกับเจ้า” เย่ฟ่านกล่าว
ในตอนที่เข้าไปในนรกใต้ดินเย่ฟ่านได้รวบรวมบ่อน้ำพุเหลืองขนาดใหญ่ขึ้นมาด้วย แน่นอนว่ามันมีหยดน้ำเกินร้อยหยด
หลังจากได้รับหินศักดิ์สิทธิ์สีชาดแล้ว พวกเขาก็กลับไปด้านหลังเพื่อใช้หินก้อนนี้แลกเปลี่ยนกับน้ำแข็งศักดิ์สิทธิ์ไท่หยินอีกครั้ง
“ที่นี่มีสิ่งดีๆ มากมาย ไม่รู้เลยว่าหลังจากสำรวจที่นี่ตลอดทั้งวันพวกเราจะได้รับสมบัติแห่งสวรรค์พิภพมากมายเพียงใด” จักรพรรดิดำพึมพำ
เมื่อเดินผ่านเสื่อฟางของทายาทปรมาจารย์หุนโถวอีกครั้งพวกเขาก็มีความลังเลใจเล็กน้อย แต่สุดท้ายทุกคนก็กัดฟันแล้วเดินออกจากที่นี่
“บุปผาเซียน!” จี้จื่อเยว่อุทานและมองที่แผงขายของในบริเวณใกล้เคียงด้วยความตื่นเต้น
บนโต๊ะข้างเคียงกับกระถางบุปผาเซียนนั้นเขียนไว้อย่างชัดเจนว่า บุปผาเซียนชิ้นนี้ยังไม่ถึงช่วงเวลาที่มันเบ่งบาน แต่เมื่อถึงเวลาเหมาะสมผู้คนสามารถใช้มันในการคงไว้ซึ่งความเยาว์วัยได้
มันไม่ได้มีคุณสมบัติในการยืดอายุให้ยืนยาว ของชิ้นนี้เป็นสิ่งที่ไร้สาระสำหรับผู้บ่มเพาะชายและไม่มีใครยินยอมนำสมบัติล้ำค่าไปแลกเปลี่ยนกับมัน
อย่างไรก็ตาม ของสิ่งนี้กลับทำให้ผู้บ่มเพาะสตรีเกิดความคุ้มคลั่งอย่างถึงที่สุด หากพวกนางสามารถรักษาความเยาว์วัยโดยไม่เสื่อมคลาย ไม่ว่าใครก็ต้องการที่จะครอบครองสมบัติชิ้นนี้ให้ได้
ดวงตากลมโตของจี้จื่อเยว่ส่องแสงแวววาวและเห็นได้ชัดว่านางปรารถนาบุปผาเซียนต้นนี้อย่างถึงที่สุด และไม่มีทางที่นางจะก้าวขาออกจากที่นี่เลย
“ไม่ว่าเจ้าอยากได้อะไรข้าก็จะซื้อให้เจ้า” เย่ฟ่านกล่าว เป็นเรื่องยากที่จะเห็นจี้จื่อเยว่จะมีความปรารถนาต่อสมบัติสักครั้ง ดังนั้นเย่ฟ่านจึงไม่ต้องการให้นางผิดหวัง
“มีกระทั่งลานพนันหินพวกเรารีบไปที่นั่นดีกว่า” ดวงตาอันแหลมคมของสุนัขสีดำตัวใหญ่มองเห็นลานกว้างที่อยู่ตรงหน้าก็กระโดดโลดเต้นด้วยความกระตือรือร้น
“เช่นเดียวกับเจ้าอ้วนไร้ยางอายที่ชอบขุดค้นหลุมศพ นั่นเป็นสนามที่เขาสามารถสำแดงฝีมือได้อย่างเต็มที่ ลานพนันหินก็คือความถนัดของข้าเช่นกัน” เย่ฟ่านตบหน้าอกของตัวเองเบาๆ
แต่ก่อนที่เย่ฟ่านจะมีโอกาสได้สอบถามว่าบุปผาเซียนต้นนี้ต้องใช้สิ่งใดในการแลกเปลี่ยนก็มีเสียงอุทานดังขึ้นจากด้านหลัง
“บุปผาเซียน!” หญิงสาวคนหนึ่งร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น
ไม่ไกลนัก ผู้คนมากมายปรากฏตัวออกมา ดวงตาของพวกเขาทอประกายลึกล้ำในทันทีที่มองเห็นบุปผาเซียน
เย่ฟ่านรู้จักเพียงสองคนที่อยู่ในกลุ่ม คนหนึ่งคือฮั่วหลินเอ๋อ และอีกคนคือหยวนกู่!