ตอนที่ 947 ถึงเวลาแล้ว (ฟรี)

ตอนที่ 947 ถึงเวลาแล้ว

ในอาณาจักรเฉียนหยวน

มีภูเขา และป่าไม้

ท่ามกลางภูเขามีลานกว้าง

นี่คือจวนตระกูลเซียว!

หลังจากที่เซียวเฉิงเฟิงสละอัตลักษณ์ของเขาในฐานะลอร์ดเป่ยหยุน เขาก็ย้ายเข้าสู่อาณาจักรเฉียนหยวน

จากตระกูลเซียวดั้งเดิม

ทายาทสายตรงบางคนก็ย้ายเข้าสู่อาณาจักรเฉียนหยวน โดยทิ้งรากฐาน และมรดกของตนเองไว้ที่นี่

เพราะเหตุนี้ ตระกูลเซียวจึงถูกรวมเข้ากับดินแดนศักดิ์สิทธิ์เฉียนหยวนอย่างเป็นทางการ และกลายเป็นขุมพลังของดินแดนศักดิ์สิทธิ์

สำหรับเซียวเฉิงเฟิง เขาไม่อยู่ภายใต้อำนาจของจักรพรรดิมนุษย์ เขาค่อนข้างเป้นอิสระ

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ฉินซู่เจียนไม่ได้พูดอะไร

ท้ายที่สุด หากอีกฝ่ายเต็มใจ สถานะของอีกฝ่ายก็เหมือนกับเขา ซึ่งเป็นจักรพรรดิแห่งเผ่ามนุษย์

บางครั้ง เป็นเรื่องปกติสำหรับพวกเขาที่จะให้สิทธิพิเศษบางอย่างแก่เขา

ภายในจวนตระกูลเซียว

หลี่กวงอัน และอีกสามคนยืนอยู่ที่นั่นด้วยความเคารพ

เซียวเฉิงเฟิงมองดูพวกเขาทั้งสี่คน และพูดอย่างเฉยเมยว่า "พวกเจ้าทั้งสี่คนอยู่กับข้ามานานแล้ว หากข้าจำไม่ผิด เจ้าควรจะกำลังฝึกฝนคัมภีร์แสวงเต๋าอยู่ในตอนนี้"

“ท่านลอร์ดมีดวงตาที่เฉียบคมยิ่งนัก”

หลี่กวงอันพยักหน้าตอบ

แม้ว่า เซียวเฉิงเฟิงจะไม่ใช่ลอร์ดเป่ยหยุนอีกต่อไป แต่เขาก็ยังคงไม่ได้เปลี่ยนชื่อเรียก

เซียวเฉิงเฟิงกล่าวว่า "คัมภีร์แสวงเต๋านั้นเป็นเทคนิคบ่มเพาะที่ทรงพลังจริงๆ มันเหมาะสำหรับมนุษย์ทุกคน ความจริงที่ว่าจักรพรรดิฉินสามารถสร้างเทคนิคบ่มเพาะนี้ได้แสดงให้เห็นว่าเขาสมควรที่จะได้รับตำแหน่งจักรพรรดิมนุษย์”

สำหรับคัมภีร์แสวงเต๋า

เขาได้ศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจังด้วย

แม้จะมีความรู้ความเข้าใจของอมตะเฟิงซางในชาติก่อน เขาก็ต้องยอมรับว่านี่เป็นเทคนิคบ่มเพาะที่ดี

เราต้องรู้ว่า มันไม่ง่ายเลยที่จะสร้างเทคนิคบ่มเพาะที่เหมาะกับมนุษย์ทุกคน

ในยุคโบราณ

ก็มีผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งที่สร้างเทคนิคบ่มเพาะเช่นนี้

แต่สภาพแวดล้อมในขณะนั้นแตกต่างจากในวันนี้

เวลาผ่านไปหลายล้านปี

ร่างกายของเผ่ามนุษย์ก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยเช่นกัน ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถฝึกฝนเทคนิคบ่มเพาะจากยุคโบราณได้

เพราะความต้องการของเทคนิคบ่มเพาะโบราณนั้นสูงมาก

ความแตกต่างก็คือ

ข้อกำหนดของคัมภีร์แสวงเต๋าค่อนข้างต่ำ

ตราบใดที่มีทรัพยากรเพียงพอก็สามารถเข้าสู่บ่มเพาะได้อย่างราบรื่น

“อย่างไรก็ตาม เนื่องจากคัมภีร์แสวงเต๋านั้นเรียบง่ายเกินไป แม้ว่าพวกเจ้าจะฝึกฝนมันจนสมบูรณ์แบบ พวกเจ้าอาจไม่สามารถกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลังได้ ดังนั้น ข้าจะเทคนิคอื่นที่จะสอนให้”

“เทคนิคบ่มเพาะนี้เป็นสิ่งที่ข้าได้มาโดยบังเอิญ ในบรรดาเทคนิคบ่มเพาะทั้งหมดที่ข้าเห็น มันก็เพียงพอที่จะติดอันดับหนึ่งในสิบอันดับแรก”

เซียวเฉิงเฟิงพูดจบ

ทันใดนั้นนิ้วของเขาก็ชี้ออกไป ร่อนลงบนกลาเบลลาของหลี่กวงอัน และอีกสามคนด้วยความเร็วดุจสายฟ้า

ความทรงจำจำนวนมหาศาลพุ่งเข้ามาในจิตใจของพวกเขา

ทันใดนั้น หลี่กวงอัน และอีกสามคนก็รู้สึกเจ็บปวดระหว่างคิ้วของพวกเขา และต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะฟื้นตัว

“คัมภีร์สิบประตูปราณโจวเทียน!”

เมื่อมองดูความทรงจำในจิตใจ พวกเขาทั้งสี่มีสีหน้างุนงงบนใบหน้า

อย่างไรก็ตาม พวกเขายังคงโค้งคำนับ และกล่าวว่า "ขอบคุณสำหรับคำสอน ท่านลอร์ด!"

เซียวเฉิงเฟิงกล่าวว่า "ในตอนนั้น คนที่ฝึกฝนคัมภีร์สิบประตูปราณโจวเทียนนั้นเป็นอมตะสามระดับกลาง แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงอมตะระดับหก แต่เขาก็ต่อสู้ และสังหารอมตะระดับเจ็ดจาก เผ่าเล็กๆ ได้”

“ด้วยเหตุนี้ศาลสวรรค์จึงโกรธมาก ในที่สุดข้าต้องลงมือฆ่าเขาเป็นการส่วนตัว หากพวกเจ้าฝึกฝนเทคนิคนี้ แม้ว่าไม่ได้ทำให้พวกเจ้าแข็งแกร่งที่สุดในระดับเดียวกัน แต่ศักยภาพของพวกเจ้าก็จะสูงมาก”

อมตะระดับหก!

หลี่กวงอัน และคนอื่นๆ มองหน้ากันและรู้สึกว่าหัวใจเต้นแรง

เมื่อจักรพรรดิในสี่ทวีปกลายเป็นอมตะ

ขอบเขตอมตะ

มันไม่เป็นความลับอีกต่อไป

อมตะมีเก้าระดับ ในหมู่พวกเขา อมตะสวรรค์ระดับเก้าเป็นที่เคารพนับถือมากที่สุด จักรพรรดิโบราณอยู่ในสามระดับบน

เพื่อให้สามารถบ่มเพาะได้ถึงสามระดับกลาง

นั่นก็เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูงเช่นกัน

ตอนนี้ อมตะของสี่ทวีปไม่มีแม้แต่คนเดียวในสามระดับกลาง พวกเขาทั้งหมดอยู่ในสามระดับล่าง

โดยทันที

พวกเขาเข้าใจถึงความสำคัญของคัมภีร์สิบประตูปราณโจวเทียน

เซียวเฉิงเฟิงกล่าวว่า "ฝึกฝนให้ดี จะใช้เวลาไม่นานเกินไปสำหรับเทคนิคบ่มเพาะดั้งเดิมของพวกเจ้าที่จะแปลงเป็นคัมภีร์สิบประตูปราณโจวเทียน เมื่อนั้น พวกเจ้าสามารถลองทะลวงไปสู่ขอบเขตสวรรค์ได้”

“เมื่อพวกเจ้ากลายเป็นผู้ขอบเขตสวรรค์ก็จะได้รับการพิจารณาให้เข้าสู่นิกายอย่างเป็นทางการ”

“ขอบเขตสวรรค์ถือว่าได้เข้าสู่นิกายแล้ว?”

ซูหมิงหยางถามด้วยความไม่เชื่อ

แม้ว่าขอบเขตสวรรค์จะไม่ใช่จุดสูงสุดอีกต่อไป แต่ก็ไม่ควรเป็นเพียงจุดเริ่มต้น!

เซียวเฉิงเฟิงเหลือบมองเขาแล้วส่ายหัว “ขอบเขตเหนือธรรมชาติ ขอบเขตจิตวิญญาณ และขอบเขตศักดิ์สิทธิ์เป็นเพียงรากฐานในการบ่มเพาะ ขอบเขตสวรรค์เป็นจุดเริ่มต้น การเป็นเซียนก็สูงขึ้นมาหน่อย สำหรับการเป็นผู้ทรงอำนาจ มันเป็นเพียงความสำเร็จเล็กๆ น้อยๆ”

“เมื่อพูดระดับเจ็ดของขอบเขตสวรรค์ เดิมทีไม่ได้เรียกว่าผู้ทรงอำนาจ ไม่รู้ว่าใครเป็นคนเปลี่ยน แต่ชื่อนั้นเป็นเพียงชื่อเท่านั้น ไม่ได้มีประโยชน์อะไรมากนัก”

“ในความคิดของข้า ขอบเขตสวรรค์เป็นเพียงจุดเริ่มต้น มันเป็นความสำเร็จเล็กๆ น้อยๆ”

“เฉพาะการทะลวงผ่านขอบเขตสวรรค์ และเข้าสู่ขอบเขตอมตะเท่านั้น พวกเจ้าจึงถือว่ามีพลังพอที่จะแข่งขันในโลกได้ หนทางยังอีกยาวไกล ทำให้เต็มที่!”

เมื่อได้ยินอย่างนั้น

คนอื่นๆ ตกอยู่ในความเงียบ

หากคำพูดของอีกฝ่ายพร่กระจายออกไป ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ผู้ฝึกฝน 99% ในสี่ทวีปรู้สึกละอายใจมากจนพวกเขาต้องการคลานเข้าไปในหลุมบนพื้น

เวลานี้ มีอมตะเพียงไม่กี่คนในสี่ทวีป

แม้แต่จักรพรรดิจากหลายเผ่าก็ยังเป็นผู้ทรงอำนาจขั้นสูงสุดเท่านั้น

แต่ตอนนี้จากปากของเซียวเฉิงเฟิง

ผู้ทรงอำนาจขั้นสูงสุด แทบจะไม่สูงกว่าจุดเริ่มต้นซักเท่าไรเลย

สำหรับขอบเขตที่อยู่ต่ำกว่าขอบเขตสวรรค์ มันยิ่งไม่น่าดูมากยิ่งขึ้น

แม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกขุ่นเคือง แต่ทั้งสี่คนก็ไม่ท้อแท้ กลับกลายเป็นว่าพวกเขามีชีวิตชีวามากขึ้น

ด้วยวิสัยทัศน์ของท่านลอร์ดที่ให้ค่าคัมภีร์สิบประตูปราณโจวเทียนอย่างสูง

จากนี้ก็จะเห็นได้

เทคนิคบ่มเพาะนี้เป็นเทคนิคบ่มเพาะขั้นสูงสุดจริงๆ

หลังจากขอให้หลี่กวงอัน และคนอื่น ๆ ออกไปแล้ว เซียวฮงก็มาถึงอย่างเงียบ ๆ

“ท่านลอร์ด!”

“เจ้าได้ทะลวงไปสู่ขอบเขตสวรรค์แล้ว รากฐานของเจ้าได้ก่อตัวแล้ว การเปลี่ยนแปลงมันไม่ง่ายเลย การฝึกฝนคัมภีร์แสวงเต๋าก็เป็นทางเลือกที่ดี”

เซียวเฉิงเฟิง มองไปที่เซียวฮง และพูดอย่างใจเย็น "มุ่งเน้นไปที่ความเข้าใจในกฎให้มากขึ้น หลังจากทะลวงไปเป็นเซียน เจ้าจะได้เดินบนธารหมื่นกฏ และค้นหากฎที่เหมาะสม"

"ขอรับท่านลอร์ด!"

เสี่ยวหงดูซาบซึ้ง

การทะลวงสู่ขอบเขตสวรรค์ได้เป็นการเติมเต็มความฝันของเขาแล้ว

สำหรับขอบเขตอมตะ

พูดตรงๆ เซียวฮงไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลย

…

ปรากฏการณ์ฟ้าดินเกิดขึ้น

มีแสงหลากสีส่องประกาย

ในเวลาไม่กี่เดือน มีผู้ฝึกฝนขอบเขตศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงสุดที่ทะลวงเข้าสู่ขอบเขตสวรรค์ทีละคน

พูดอย่างเคร่งครัด

มีผู้ฝึกฝนขอบเขตศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงสุดค่อนข้างมาก

ในอดีต เหตุผลที่ใหญ่ที่สุดว่าทำไมคนเหล่านี้จึงไม่สามารถทะลวงเข้าสู่ขอบเขตสวรรค์ได้ก็เนื่องมาจากพันธนาการของเทคนิคบ่มเพาะ

แต่ตอนนี้ ด้วยการปรากฏตัวของคัมภีร์แสวงเต๋า

พันธนาการของเทคนิคบ่มเพาะได้รับการแก้ไขแล้ว

นอกจากนี้ หลังจากที่ฉินซู่เจียนฝังเส้นชีพจรวิญญาณสองสามเส้นในทวีปตะวันออก พลังชี่จิตวิญญาณก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก และง่ายต่อการทะลวงไปยังขอบเขตสวรรค์

ดังนั้น.

ไม่กี่เดือนผ่านไป

มีชื่ออีกสองสามชื่อในรายชื่อขอบเขตสวรรค์

อย่างไรก็ตาม.

อันดับแรกในรายชื่อยังคงเป็นฉินซู่เจียน และอันดับสองคือ เซียวเฉิงเฟิง

ตำแหน่งของพวกเขา โดยพื้นฐานแล้วพวกมันไม่สั่นคลอน

แสงหลายสายพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า จากนั้นสายฟ้าก็ฟาดลงมา ครึ่งวันต่อมา ทัณฑ์สายฟ้าก็หายไป

รายชื่อสวรรค์ปรากฏขึ้น

มันระงับแสงทั้งหมดโดยตรง

ที่ด้านล่างของภูเขาไฟ

ฉินซู่เจียนเอื้อมมือออกไป และหยิบยาหลายเม็ดออกมา

"ด้วยยาพิสุทธิ์มากมาย มันควรจะเพียงพอสำหรับตอนนี้!"

เมื่อดูยาพิสุทธิ์มากกว่า 20 เม็ดในรายชื่อสวรรค์ รอยยิ้มจางๆ ก็ปรากฏบนใบหน้าของเขา

ในช่วงเวลานี้

ฉินซู่เจียนกำลังกลั่นยาพิสุทธิ์ที่ด้านล่างของภูเขาไฟ

แตกต่างจากครั้งที่แล้ว

ครั้งนี้ เขาไม่ได้ขอให้เซิงฮั่วช่วย แต่อาศัยทักษะของเขาเองในการกลั่นยาพิสุทธิ์ให้สำเร็จ

เพื่อกลั่นเม็ดยาระดับนี้

พืชวืญญาณที่จำเป็นไม่น้อยเลย

โชคดี

เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีหลายดินแดนใหม่ปรากฏขึ้น และมีสมบัติมากมายเกิดขึ้นพร้อมกัน

จากนั้นมีผู้อาวุโสคอยดูแลมณฑลต่างๆ

สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดถูกส่งไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ และในที่สุดก็ตกไปอยู่ในมือของฉินซู่เจียน

เขาต้องกลั่นยาพิสุทธิ์ก็เพราะถ้าเขาต้องการกระตุ้นพลังของอาวุธบรรพบุรุษอย่างเต็มที่ มันจะใช้พลังงานมากเกินไป

นอกจากนี้

แม้ว่ายาพิสุทธิ์จะเป็นยาระดับ 10 แต่ผลที่ได้อาจไม่พอต่อความต้องการ

ตามการประมาณการของฉินซู่เจียน

ควรจะเป็นไปได้ว่ารากฐานของเขาแข็งแกร่งเกินไป ทำให้ผลของยาไม่สามารถเติมเต็มได้อย่างสมบูรณ์

ในการเปรียบเทียบ ผลการฟื้นฟูของยาพิสุทธิ์หนึ่งเม็ดก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้ทรงอำนาจมากกว่าหนึ่งโหลสามารถฟื้นฟูพลังชี่ได้อย่างสมบูรณ์

แต่เมื่อพูดถึงฉินซู่เจียน ยาพิสุทธิ์หนึ่งเม็ดสามารถฟื้นฟูพลังชี่ของเขาได้เพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น

เมื่อถึงเวลาต่อสู้เดิมพันชีวิต หากพลังชี่ไม่เพียงพอ นั่นก็จะคร่าชีวิตคนได้เช่นกัน

ด้วยเหตุนี้ ฉินซู่เจียนจึงซ่อนอยู่ที่นี่ในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมาเพื่อกลั่นยาพิสุทธิ์

ขณะที่เขากำลังจะหยุด

เขาเห็นว่ายังมีพืชวิญญาณเหลืออยู่ในรายชื่อสวรรค์

“ช่างเถอะ การเก็บมันไว้มันเปล่าประโยชน์ ใช้มันให้เกิดประโยชน์จะดีกว่า!” ฉินซู่เจียนส่ายหัว โบกมือแล้วเปิดฝาเตา พืชวิญญาณถูกวางไว้ข้างใน จากนั้นฝาก็ถูกปิดอีกครั้ง

ลาวาคือแกนกลางของเปลวไฟ

การใช้มันเพื่อกลั่นเม็ดยามันเหมาะสมที่สุด

ขณะที่เม็ดยากำลังจะสมบูรณ์ ทันใดนั้นฉินซู่เจียนก็รู้สึกได้ถึงอาการใจสั่น ทำให้การผนึกมือแต่เดิมหยุดชั่วขณะหนึ่ง

ทันทีหลังจากนั้น

บูม

เตาสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง และพลังอันทรงพลังก็ปะทุออกมาจในนั้น

โดยทันที ลาวามีความผันผวนอย่างมาก

จากนั้นเม็ดฝนสีแดงเพลิงก็สาดลงมา อยากจะกลบทุกสิ่งที่อยู่รอบๆ

ฉินซู่เจียนไม่ได้ทำอะไรเลย

พลังที่มองไม่เห็นแผ่ออกมาจากร่างกายของเขา จากนั้นลาวาทั้งหมดที่ปั่นป่วนอยู่ก็ถูกระงับ

อาการใจสั่นเฉียบพลัน

นำไปสู่ความล้มเหลวในการกลั่นยาในครั้งนี้

สำหรับสิ่งนี้.

ฉินซู่เจียนไม่ได้รำคาญใจ แต่มีรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา

"ในที่สุดก็ถึงเวลาแล้ว!"

เขามองไปที่แผงคุณสมบัติ และค่าชีวิตของเขาได้ทะลุสองล้านล้านอย่างเป็นทางการแล้ว

ด้วยการเพิ่มขึ้นของค่าชีวิต

คัมภีร์มรดกหยวนยังได้แสดงสัญญาณอย่างเป็นทางการว่าสามารถอัพเกรดได้