ตอนที่ 158 ความตื่นตระหนกของไคโด
[หนวดขาว นิวเกต: มันทรงพลังจริงๆ เมื่อหลี่ฟานใช้การเคลื่อนไหวครั้งสุดท้าย พื้นที่รอบๆ ก็เกิดการบิดเบี้ยว ]
ในฐานะผู้ที่มีความสามารถของผลสั่นสะเทือน หนวดขาวมีความรู้สึกที่ไวมากต่อการบิดเบือนของอากาศ และเนื่องจากความสามารถพิเศษนี้ เขาจึงรับรู้ได้ว่ากระบวนท่านี้แข็งแกร่งมากถึงขนาดไหน
เพราะเมื่อเขาใช้พลังของผลสั่นสะเทือนอย่างเต็มที่ มันก็จะเกิดปรากฎการณ์การบิดเบือนของอากาศด้วยเหมือนกัน
แต่การเคลื่อนไหวครั้งสุดท้ายของหลี่ฟาน มันคือการบิดเบือนของอากาศ โดยอาศัยความแข็งแกร่งทางกายภาพเพียงอย่างเดียว และความเร็วของมันก็ยังรวดเร็วมากอย่างไม่น่าเชื่อ
หนวดขาวรู้สึกว่า หากหลี่ฟานใช้กระบวนท่านี้กับตัวเอง เขาก็คงไม่มีโอกาสที่จะหลบหลีก และทำได้เพียงเลือกที่จะตั้งรับมัน
[ราชานรก เรย์ลี่: [ ประตูด่านทั้ง 8 ] มันเป็นวิชาที่ทรงพลังจริงๆ หลังจากเปิดประตู พลังของผู้ใช้ก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นพร้อมกับทำให้ศิลปะการต่อสู้อื่นๆ มีพลังมากขึ้นไปด้วย ]
[กะเทยกะเรียนขาว เบนเฮม: รายการทองคำบอกเอาไว้ว่า ผู้ใช้จะตายถ้าหากเขาทำการเปิดประตูที่แปด? แต่ทำไมหลี่ฟานยังไม่ตายล่ะ? ]
[ชายชาตรีแห่งท้องทะเล จินเบ: มันก็คงเป็นเพราะ สมรรถภาพทางร่างกายของคุณหลี่ฟาน มาถึงระดับสูงสุดแล้ว และแม้ว่าเขาจะประตูที่แปดอย่างเต็มที่ แต่มันก็จะไม่ส่งผลเสียใดๆ ต่อเขา
แต่ข้าไม่รู้ว่า คุณหลี่ฟานเปิดประตูที่แปดได้ก่อนหรือหลัง จากที่เขาได้รับรางวัล [ ร่างกายอมตะ ] มากันแน่? ]
[คิซารุ โบซาริโน่: มันควรจะเป็นหลังจากที่เขาได้รับมันมาแล้ว เพียงแต่ว่า คุณสมบัติทางกายภาพที่แข็งแกร่งแบบนี้ ถ้าหลี่ฟานมีมันมาก่อนอยู่แล้ว มันก็คงจะน่ากลัวเกินไปที่จะตกใจ ]
[ยามาโตะ: เจ้าโง่คิซารุ ก่อนที่จะได้รับรางวัลนั้นมา อาจารย์หลี่ฟานก็ทำการเปิดประตูที่แปดให้ฉันดูก่อนแล้ว!!! ]
[หมัดเหล็ก การ์ป: อาจารย์หลี่ฟาน? เธอเป็นลูกศิษย์ของหลี่ฟานจริงๆ! อีกอย่าง ในตอนท้ายของการสาธิต ยามาโตะไม่ได้เป็นคนที่แสดงพลังของประตูที่แปด และมันก็หมายความว่า เธอยังไม่ได้เรียนรู้ที่จะเปิดประตูที่แปดใช่ไหม? ]
[ราชสีห์ทองคำ ชิกิ: ถ้ายามาโตะยังไม่สามารถเปิดประตูที่แปดได้ รายการทองคำก็คงจะไม่แสดงชื่อของเธอออกมาหรอก เธอต้องได้เรียนรู้มันมาแล้วแน่นอน แต่เธอยังไม่สามารถที่จะเปิดมันได้ เพราะเมื่อเธอเปิดมัน เธอก็จะตาย! ]
[ผมแดง แชงค์: นี่มันเป็นเพียงความเป็นไปได้เท่านั้น อีกอย่าง ไคโด นายจะต่อสู้กับยามาโตะจริงๆ เหรอ? ฉันสงสัยว่านายมีความมั่นใจมากแค่ไหน ที่จะเอาชนะเธอในตอนนี้ได้? ]
“ไอ้เวรผมแดง!” ไคโดขว้างขวดเหล้าของเขาลงไปที่พื้น และสบถออกมามาอย่างอย่างดุเดือด
“ยามาโตะจะกลายเป็นลูกศิษย์ของหลี่ฟานได้ยังไง? ในเมื่อเธอไม่สามารถออกไปจากเกาะโอนิงะชิมะได้!”
“เดี๋ยวก่อน! อย่าบอกนะว่า มันมีโรงฝึกของหลี่ฟานตั้งอยู่บนเกาะโอนิงะชิมะด้วย?”
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ได้ ไคโดะก็ดูร้อนรนขึ้นมาทันที จากนั้นเขาก็รีบกลายร่างเป็นมังกรและบินไปหายามาโตะอย่างรวดเร็ว
เขาต้องรีบไปทำการตรวจสอบว่า ยามาโตะกลายเป็นลูกศิษย์ของหลี่ฟานไปแล้วจริงๆ หรือไม่
‘ชั้นไม่รู้ว่าของรางวัลของอันดับที่ 5 มันจะเป็นของรางวัลแบบไหน? แต่มันจะมีวิธีไหนบ้างที่ชั้นจะเอามันมาจากยามาโตะได้?’
ไคโดคิดเรื่องนี้ ในขณะที่กำลังรีบบินไปหายามาโตะ
อีกด้านหนึ่ง ภายในโรงฝึกของหลี่ฟานที่เดรซโรซ่า
“ยามาโมโตะ มานี่สิ” หลี่ฟานกวักมือเรียกยามาโตะที่อยู่ไม่ไกล
“มีอะไรงั้นหรออาจารย์หลี่ฟาน?” ยามาโตะเช็ดปาก แล้วเดินไปหาเขาอย่างรวดเร็ว
“สถานการณ์ตอนนี้ของเธอถูกเปิดเผยแล้ว และไคโดก็อาจจะมาหาเธอได้ในตอนนี้ ฉันเลยวางแผนจะส่งเธอกลับไปที่โรงฝึกบนเกาะโอนิงะชิมะก่อน”
“และถ้าผู้ชายคนนั้นต้องการที่จะเข้ามาในโรงฝึกของฉัน ก็อย่าลืมหยุดเขาเอาไว้ด้วยล่ะ”
“ถ้าอย่างนั้น มันก็หมายความว่า ฉันสามารถต่อสู้กับไคโดได้ใช่ไหม?” ยามาโตะเบิกตากว้างด้วยความตื่นเต้น
ยามาโตะมีความคาดหวังว่าเธอจะได้ต่อสู้กับไคโดมานานแล้ว แต่เธอก็ถูกหลี่ฟานขัดขวางเอาไว้ด้วยการฝึกฝนอันแสนโหดร้าย
แต่ตอนนี้ หลี่ฟานกำลังบอกให้เธอไปต่อสู้กับไคโดด้วยตัวเอง ยามาโตะจะไม่มีความสุขได้อย่างไร
“ฉันไม่ได้บอกให้เธอไปต่อสู้กับไคโด” มองไปที่ยามาโตะที่กำลังตื่นเต้น หลี่ฟานก็ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้
“เพราะถ้าเธอในตอนนี้ไปต่อสู้กับเขาจริงๆ ถึงแม้ว่าฉันจะไม่คิดว่าเธอจะแพ้ แต่มันก็คงจะเป็นเรื่องยากที่เธอจะเอาชนะ”
“เว้นซะแต่ว่า เธอจะเปิดประตูที่แปด แต่ราคาที่ต้องจ่ายมันก็มากเกินไป”
“ที่ฉันบอกให้เธอกลับไป ก็เพื่อให้เธอหยุดผู้ชายคนนั้น เมื่อเขาต้องการที่จะเข้ามาในโรงฝึกเท่านั้น”
“แต่ถ้าเธอต้องการที่จะต่อสู้กับไคโดจริงๆ ก็ให้รอจนกว่ารายการทองคำจะส่งของรางวัลของเธอมาให้ก่อน”
“บางที รางวัลในคราวนี้ของรายการทองคำ มันก็อาจจะทำให้ความแข็งแกร่งของเธอก้าวหน้าขึ้นก็ได้”
“เมื่อถึงเวลานั้น เธอก็จะสามารถเอาชนะไคโดได้อย่างแน่นอน”
“และฉันก็คิดว่า เธอคงชอบชัยชนะที่ปลอดภัยและแน่นอนมากกว่าสินะ”
ยามาโตะอดไม่ได้ที่จะพยักหน้า เมื่อเธอได้ยินคำพูดของหลี่ฟาน
“ในเมื่ออาจารย์หลี่ฟานพูดแบบนั้น ฉันก็จะทำตามที่อาจารย์บอก”
ยามาโตะพูดกับหลี่ฟาน ในขณะที่เธอใช้มือทั้งสองท้าวสะโพก เหมือนกับกำลังบ่งบอกว่า ‘เชื่อมือฉันได้เลย’
“ฉันมักจะรู้สึกว่า เมื่อเธอพูดแบบนี้ออกมา มันก็มักจะทำให้ฉันรู้สึกไม่สบายใจทุกที” หลี่ฟานส่ายหัว
“ลืมที่ฉันพูดไปเถอะ นามิ วีวี่ พวกเธอสองคนไปกับยามาโตะด้วย”
“ยังไงก็ตาม แค่ป้องกันไม่ให้ไคโดเข้ามาในโรงฝึกได้ก็พอ”
หลี่ฟานรู้ดีว่าไคโดมีนิสัยที่หยาบกร้าน แต่ถึงอย่างนั้นจิตใจของเขาก็ละเอียดอ่อนมาก
เพราะถ้าไคโดสามารถเอาชนะการต่อสู้โดยอาศัยกำลังคนของเขาได้ เขาก็คงจะเลือกวิธีนี้โดยไม่ลังเล
“เกาะโอนิงาชิมะ? ฉันยังไม่เคยไปที่เกาะนั้นมาก่อนเลย และฉันก็สามารถวาดแผนที่ของเกาะนั้นได้!” นามิตอบตกลงโดยไม่ลังเล
สำหรับวีวี่ เธอก็ไม่มีทางที่จะขัดคำขอของหลี่ฟานอยู่แล้ว
“เดี๋ยวก่อนสิ แล้วฉันล่ะ? ฉันไปด้วยได้ไหม?”เบลเมลเดินไปถามหลี่ฟาน
“ฉันอยากเห็นว่าสี่จักรพรรดิของโลกใหม่เป็นคนแบบไหน เพราะตอนที่ฉันยังเป็นทหารเรืออยู่ ฉันก็ไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับพวกเขามาก่อนเลย”
“ได้สิ ด้วยพลังของนามิกับวีวี่ มันก็เพียงพอแล้วที่จะปกป้องคุณ” หลี่ฟานพยักหน้า และเปิดใช้งานการเคลื่อนย้ายระหว่างโรงฝึกด้วยการโบกมือ
พริบตาต่อมา นามิ วีวี่ เบลเมล และยามาโตะ ก็หายไปจากโรงฝึกแห่งนี้ และไปปรากฏตัวขึ้นที่โรงฝึกบนเกาะโอนิงะชิมะแทน
ตอนนี้ จึงมีเพียงหลี่ฟานและโรบินเท่านั้น ที่ยังคงอยู่ในโรงฝึกที่เดรซโรซ่า
“ทุกคนออกไปกันหมดแล้ว” โรบินเดินไปอยู่ข้างหลังหลี่ฟานด้วยรอยยิ้ม และใช้มือของเธอโอบคอของหลี่ฟาน
“อาจารย์หลี่ฟาน คุณคงไม่ได้ตั้งใจสินะ?”
“มันเป็นแค่เรื่องบังเอิญ” หลี่ฟานตอบทันทีโดยไม่ต้องคิด
“จริงๆ แล้ว การที่คุณปล่อยให้ฉันอยู่ที่นี่กับคุณสองคน โดยที่คุณไม่ได้ตั้งใจเอาไว้แบบนี้ มันก็ทำให้ฉันมีความสุขเล็กน้อย” โรบินยิ้มอย่างงดงาม และก้มศีรษะแนบไปที่ใบหูของหลี่ฟาน
“เอาล่ะ อาจารย์หลี่ฟาน พวกเรามาทำอะไรที่มีความสุขกันดีไหม?”
***