@Restaurant 20
“ทุกคนมีความสุขกันหมดเหลือแค่แยมคนเดียว”
ฮือ...
เด็กสาวมานั่งร่ำไห้เสียใจและรู้สึกเหมือนไม่มีใครเหลียวแล คนที่รักเธอและเธอก็รักล้วนตายจากไปหมดแล้ว
“อานา! นี้เป็นกรรมของแยมใช่มั้ย” เจ้าตัวนึกเสียใจ ในความเคารพรักอาสาวเธอก็แอบหวังในตัวอาชายด้วยเช่นกัน
อยากยืนตรงนั้นแทนที่รัตนา อยากเป็นคนครอบครองทั้งหัวใจและร่างกายของศรารุจ
หากวันนี้เป็นเธอที่ได้อยู่กับเขาเธอก็คงไม่ต้องมานั่งร้องไห้ในร้านเหล้าแบบนี้
Rrrrrrr
“โทรมาทำไม”
(กว่าจะรับสายอาได้นะแยม)
“ที่ไม่รับเพราะไม่อยากคุยไง”
(แสดงว่าตอนนี้อยากคุยแล้ว)
“วางไปเลย อารุจใจร้าย” คนเมาโวยวายและร้องไห้ไปด้วย เธอพยายามแล้วที่จะออกห่าง พยายามแล้วที่จะเลิกรักคนคนนี้
(แยม! วันนั้นเรา...)
“วันไหน! วันที่บอกว่าไม่สบายแต่เอากันลั่นบ้านน่ะเหรอ”
(แยม! พูดจาให้มันดีๆ เราเป็นผู้หญิงนะ)
“แล้วที่อารุจเอามันเป็นผู้หญิงมั้ย เดี๋ยวก็เสียวห_ เดี๋ยวก็มันคว_ พูดอยู่ได้ กลัวข้างบ้านไม่รู้เหรอว่าเย_กันอยู่น่ะฮะ”
(แยม!)
“ทำไม!”
(อยู่ไหน)
“อารุจจะทำไม”
(ตอบอา)
“อารุจไม่ใช่พ่อไม่ใช่ผัวแยมนะ”
(แยมอยากได้อาเป็นผัวไม่ใช่เหรอ บอกมาว่าอยู่ไหน)
“บอกแล้วยังไง! อาจะมารับแยมแล้วแยมจะกลายเป็นเมียอารุจอย่างนั้นเหรอ”
(แยม! เหล้ามันทำให้เราขาดสตินะ บอกมาว่าเราอยู่ไหน อาจะไปรับ)
“ดี! ให้มันขาดๆ ไปเถอะ ถ้าอายังเอาใครก็ได้งั้นแยมก็จะทำบ้าง”
(แยม! ไปกันใหญ่แล้วนะ)
“เออ! ไปกับใครก็ได้แหละตอนนี้ ใครจะไปพาไหนก็ไป”
พรึ่บ!
ยิ่งพูดยิ่งเสียใจ ทำไมนะคนที่เธอรักถึงได้ทิ้งเธอไปทุกคน
หญิงสาวเลือกมานั่งดื่มเหล้าระบายน้ำตาที่ร้านเดิมที่ตนเคยทำงาน อย่างน้อย พี่ๆ ที่นี่ก็เอ็นดูและเมตตาเธอ หากเธอโวยวายเพราะเมาจนครองสติไม่ได้ รุ่นพี่ที่เคยทำงานด้วยกันก็จะไม่ถือสาและดูแลเธอ
เที่ยงคืน
Rrrrr
“แยม! อยู่ไหน! อาเหนื่อยแล้วนะ อาตามหาเราซะทั่ว”
(คุณอาของแยมใช่มั้ยคะ)
“ครับ! นั่นใคร” ศรารุจใจหล่นไปตาตุ่ม
เขาไม่ชอบใจสายนี้เลย กลัวว่าจะเป็นข่าวร้ายเหมือนตอนที่โรงพยาบาลโทรมาหาเขา
(หนูเป็นพี่ที่ทำงานเก่าของแยมค่ะ)
“แล้วเกิดอะไรขึ้น”
(น้องเมาหลับอ้วกเละเทะเลยค่ะ อาพอมารับกลับได้มั้ยคะ ปล่อยนอนที่ร้านมันอันตราย)
“อยู่ที่ไหน ผมจะรีบไป”
(มาที่ร้าน....)
ไม่เกินยี่สิบนาทีคนแก่อายุสี่สิบกว่าเหยียบคันเร่งมิดตีน ศรารุจไม่รู้ว่าหลานทำงานที่ไหนมาบ้าง
แต่ดูจากอดีตเพื่อนร่วมงานและบรรยากาศก็ถือว่าหลานเป็นคนฉลาดเลือกทีเดียว
ทุกคนแสดงความเป็นห่วงและดูแลแยมทั้งที่เธอลาออกไปแล้ว
“อารุจตัวจริงดูดีกว่าในรูปอีกนะคะ”
“เหรอครับ”
“ตอนเมาแยมมันแพล่มหมดแล้วค่ะ พวกหนูเอ็นดูและเป็นห่วงมัน เวลานี้ก็คงมีอารุจที่ไว้ใจได้”
“ไม่ต้องห่วงนะ ถ้าสร่างแล้วเดี๋ยวอาให้แยมโทรส่งข่าว”
“ฝากมันด้วยนะคะ”
“ครับ”
หนุ่มใหญ่มองสาวขี้เมาด้านข้าง เขาสงสารที่ไม่อาจตอบกลับความรักของแยมเพราะหลายๆ อย่างมันค้ำคอ
“เอาวะ! นี้หลานท่องไว้” ศรารุจตบไฟหักพวงมาลัยเลี้ยวเข้าบ้าน ในฐานะอาและเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เมาอีกคนเมา คนที่มีสติก็ต้องดูแล
“อาพาเข้าบ้านนะ”
แกร๊บ!
กระดูกคนแก่ลั่นแกร๊บจังหวะก้มต้วช้อนหลานสาว
อยากโชว์ความแมนอุ้มท่าเจ้าสาวแต่สังขารไม่อำนวย ทำได้แค่พากอดคอคล้องเอวประคองออกจากรถ
“อาสี่สิบกว่าแล้วนะแยม”
อื้ออ...
คนเมาพลิกตัวบนโซฟาตัวเขื่องหันหนี
“เนื้อตัวมีแต่กลิ่นเหล้า” ศรารุจดึงหลานกลับ
ผิวกายเคยขาวละเอียดแดงไปทั้งตัวเพราะฤทธิ์สุรา
“รู้มั้ยว่าคนกินเหล้าแล้วตัวแดงเป็นเพราะตับไม่ดี มันฟอกของเสียไม่ทัน รู้มั้ย!” ศรารุจพยายามมองร่างสาวแรกรุ่นให้เป็นไปในทางวิทยาศาสตร์หรือทางการแพทย์หรืออะไรก็ได้
หนุ่มใหญ่ไม่ใช่พระอิฐพระปูน เห็นของสวยๆ งามๆ แบบนี้เดี๋ยวจะต้านทานสันดานดิบตัวเองไม่ไหว
อื้ออ...
“อย่าดิ้นให้อาเช็ดตัวก่อน”
คนเมาเริ่มอาละวาด แยมกลิ้งตัวสามตลบบนโซฟาแต่ก็ไปไหนไม่พ้น การเช็ดโดยยังมีเสื้อผ้าอยู่จึงเป็นเรื่องที่ลำบากไม่ใช่น้อย
“ออกไป”
“แยม”
“อย่ามายุ่ง! รำคาญ!”
“เอ๊ะแยม!” ปล้ำกันจนเหนื่อย ศรารุจยืนเท้าเอวจ้องคนเมาหลับไม่รู้ไม่ชี้
เสียดายที่แยมไม่มีคนดูแล สั่งสอนก็เลยเสียนิสัย แต่ก็น่าสงสารด้วยเช่นกันที่เธอเป็นแบบนี้
ถ้าแยมมีพ่อแม่ที่รักและดูแลเธอดีๆ เด็กคนนี้ก็อาจไม่หลงผิดมาฝักใฝ่รักใคร่ผู้ชายอย่างเขา
“นี้มันตีหนึ่งแล้วนะแยม อาเหนื่อย อาขับรถถตามหาเราทั่วไปหมดเหมือนคนบ้าที่ไม่รู้ว่าหลานอาไปเมาอยู่ที่ไหน”
“หนวกหู!”
“ฟัง! ต้องฟัง! ใจอาหล่นวูบที่ใครไม่รู้เอาเบอร์เราโทรมา ถ้าเกิดเรื่องร้ายๆ ขึ้น ถ้าแยมเป็นอะไรขึ้นมาอาจะทำยังไง อาต้องโทษตัวเองไปตลอดทั้งชีวิต เพราะอาเหรอที่ทำให้แยมเป็นแบบนี้ อาต้องอยู่เหมือนคนบาปไปจนตายที่อามีส่วนทำร้ายหลานสาว”
ฮือ....
คนเมาส่งเสียงสะอื้น แยมไม่ได้เมาไม่รู้เรื่องเสียทีเดียวมันเป็นการละคร แต่พอได้ยินแบบนี้แล้วเธอก็ไม่อาจทนอีกต่อไป
“อาไม่โอเคนะที่เราเป็นแบบนี้”
“ค่ะ! แยมรู้แล้ว”
“ทีหลังจะทำอีกมั้ย”
“ไม่ทำแล้ว”
“ดี! ฟู่ววว...” ศรารุจเป่าปาก
เขาสบายใจที่แยมรับปากว่าจะไม่ทำตัวโง่ๆ แบบนี้อีกครั้ง
“แยมขอโทษที่ทำร้ายอารุจแบบนี้”
ฮือ....
ในทางกลับกัน เธอยิ่งรู้สึกผิดต่อทุกอย่างมากขึ้น
เธอไม่ควรอยู่โดยทำร้ายใครอีกแล้ว
“จะไปไหน”
“แยมจะไม่รบกวนอารุจอีกแล้ว”
“แยม!”
“แยมจะไม่ทำให้อารุจลำบากอีกแล้ว ขอโทษอีกครั้งนะคะอารุจ ลาก่อน” หลานสาวในวัยสิบแปดปียินดีก้มกราบแทบเท้าของคนเป็นอา
ศรารุจเคยทำหน้าที่แทนพ่อในวันพ่อและดูแลเธอมากกว่าพ่อแท้ๆ กับพ่อเลี้ยงด้วยซ้ำ
สิ่งดีๆ ที่อาชายทำและเธอรักในส่วนนี้ของเขา หาใช่ความรักโง่งมไร้เหตุและผล เพียงแต่มันเกิดขึ้นในสถานะที่ไม่ควรเกิดเท่านั้น
“ยังอีก! ยังจะตีความหมายผิดๆ”
“แยมจะไปจากอารุจแล้วนี่ไงคะ ต่อให้พรุ่งนี้ตายจากกันก็จะได้ไม่มีใครรู้สึกผิดกับใคร”
“แยม! ทำไมดื้อแบบนี้วะ” หลานสาวนอกไส้ดื้อหัวชนฝาจะวิ่งออกจากบ้านแต่ดีที่ศรารุจรั้งไว้
ถ้าจะมีใครต้องจากกับใครก็ควรจบลงด้วยดีมิใช่โกรธเคือง
“จะเอาอะไรกับแยมอีก แยมอยู่อารุจก็อึดอัด แยมไปอารุจก็ไม่ให้ไป”
“ตอนนี้เราแค่ประชด”
“แยมไม่ใช่เด็ก ไม่ใช้อารมณ์ ไม่ได้ประชด”
“แล้วที่น้ำตาไหล ร้องไห้และตะโกนใส่หน้าอามันคืออะไรถ้าไม่ใช่อารมณ์” คนโตกว่าหนึ่งรอบพยายามข่มเสียงให้นิ่ง แต่ก็เผลอตวาดไปบ่อยมาก
“แยมใช้หัวใจ ใช้ความรู้สึก ถ้าแยมอยู่เป็นปัญหาของชีวิตอารุจ แยมก็จะไปใช้ไกลๆ”
“อย่ามาประชดใช้อารมณ์กับอา”
“อารมณ์เหรอ! อารมณ์เดียวที่อยากใช้กับอารุจคือเสี้ยนค่ะ แยมอยากจับอารุจทำผัว”
“อีกแล้วนะแยม” คนแก่พ่นลม
บางทีความหล่อที่มากไปก็ลำบากอย่างนี้นี่เอง
“แยมไม่ใช่เด็กแล้ว รู้จักผิดชอบชั่วดีแต่วันนี้แยมจะใช้อารมณ์นำทาง”
“ทำแบบนั้นแล้วมันจะดีเหรอแยม..คิดสิ!”
“ดีหรือไม่ดีอารุจก็ช่วยบอกแยมด้วยแล้วกันคะ แต่สำหรับแยมมันต้องดีแน่นอน”
“แยม!!!”