ตอนที่แล้ว1194 ลางร้ายร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณ 
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป1196 - สถาปนานิกาย 

1195 - ค้นหาเส้นทาง


1195 - ค้นหาเส้นทาง

“ไปกันเถอะ!”

จักรพรรดิดำพยายามอย่างเต็มที่เพื่อแกะสลักค่ายกลที่ซับซ้อน และทุกคนก็ก้าวไปข้างหน้า ท่ามกลางแสงไฟสว่างวาบในที่สุดพวกเขาก็ออกจากนรกแห่งนี้ได้สำเร็จ

เมื่อแสงสว่างปรากฏขึ้นอีกครั้งพวกเขาก็มาถึงโลกที่เต็มไปด้วยดอกไม้ที่ส่งกลิ่นหอม พร้อมกับธรรมชาติที่งดงามโดยไม่มีพื้นที่ใดเปรียบเทียบได้

หนานหลิง!

พวกเขาข้ามพื้นที่หลายล้านลี้จากภาคเหนือของตงหวงและมาปรากฏที่หนานหลิง

ไม่กี่วันต่อมา เย่ฟ่านก็หยิบทองเหลืองสีเขียวออกมาจากทะเลแห่งความทุกข์และนำไปไว้ที่ตำหนักเต๋า ในครั้งนี้เขามีความระมัดระวังเป็นอย่างมาก

เย่ฟ่านรู้ว่าวิกฤตแห่งชีวิตและความตายของเขามาถึงแล้ว เขาจำเป็นต้องใช้สมบัติแห่งจักรพรรดิเพื่อกดดันความชั่วร้ายนั้นไม่ให้กล้ำกลายเข้าสู่ร่างกาย

“ร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณเจ้ากล้าต่อสู้กับข้าหรือไม่ ข้าหยวนกู่จะรอเจ้าในภาคเหนือ!”

ครึ่งเดือนต่อมา มีข่าวแพร่สะพัดไปทั่วห้าภูมิภาค หยวนกู่แห่งทะเลสาบหยวนหูได้ท้าทายร่างศักดิ์สิทธิ์เซียนโบราณให้ต่อสู้เป็นตายกันในภาคเหนือของตงหวง

ข่าวแพร่กระจายไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว

“ข้ารอคอยโอกาสนี้มานานแล้ว!” เย่ฟ่านมีหรือจะไม่เกรงกลัว เขารีบตอบรับการต่อสู้ทันที

“หยวนกู่ได้เข้าสู่อาณาจักรเซียนเทียมขั้นสามแล้ว เขาแค่อยากใช้เจ้าทดสอบกระบี่เท่านั้น!” ตงฟางเย่กล่าว

“ข้าจะตัดหัวเขาเอง…”

เย่ฟ่านมองขึ้นไปบนยอดเขาในหนานหลิง เขาตั้งใจจะสังหารหยวนกู่ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นยอดฝีมือเผ่าพันธุ์โบราณที่แข็งแกร่งที่สุดเป็นคนแรก!

“ให้ข้าเป็นคนจัดการเจ้าหนูนี่ดีกว่า!” วานรศักดิ์สิทธิ์กล่าว ร่างกายของเขาเปล่งประกายด้วยแสงสีทอง

“ไม่ ข้าจะต่อสู้ในศึกนี้ด้วยตัวเอง ข้าจะเอาเลือดของมันมาเซ่นวิญญาณของพี่น้องที่ตายไป!” เย่ฟ่านกล่าวอย่างเด็ดขาด

การกลับมาของตงฟางเย่ทำให้ทุกคนในเผ่าคนเถื่อนชื่นชมยินดี ร่างกายของเขามีเลือดแห่งเทพสงครามคนเถื่อนไหลเวียนอยู่ หากไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นเขาจะกลายเป็นเทพสงครามคนเถื่อนอีกคนในอนาคต

“หยวนกู่ไม่ใช่บุตรชายของจักรพรรดิโบราณอย่างที่อ้างตัว แต่เป็นลูกหลานที่ผ่านมาหลายชั่วอายุคนแล้ว...”

ผู้คนนั่งรอบกองไฟกินเนื้อมังกร และดื่มสุราเก่าเก็บจากชามใบใหญ่ แน่นอนว่าพวกเขาย่อมกล่าวถึงหยวนกู่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

แม้ว่าเขาจะไม่ใช่บุตรชายของจักรพรรดิโบราณ แต่คนผู้นี้ได้ชื่อว่าเป็นคนรุ่นเยาว์ของเผ่าพันธุ์โบราณที่แข็งแกร่งมากที่สุด หากไม่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมเขาคงไม่ถูกปิดผนึกในต้นกำเนิดสวรรค์ตั้งแต่แรก

วานรศักดิ์สิทธิ์กล่าวว่า “เขาเป็นทายาทรุ่นที่แปดของจักรพรรดิหยวน พลังของสายเลือดของเขาไม่ได้อ่อนแอไปกว่าบุตรชายที่แท้จริงของจักรพรรดิโบราณ ในยุคของข้าเขาคือหนึ่งในผู้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุด”

“แข็งแกร่งยิ่งกว่าบุตรของจักรพรรดิที่แท้จริง ดังนั้นเขาเลยถูกปิดผนึกแทนบุตรชายของจักรพรรดิหยวนหรือไม่?” หลี่เทียนถามด้วยความตกใจและสงสัย

“ไม่ใช่ ว่ากันว่าในยุคสมัยนั้นมีเสมือนจักรพรรดิปรากฏขึ้นสองคน ความสามารถของพวกเขาเหล่านั้นแข็งแกร่งเพียงพอที่จะต่อสู้กับจักรพรรดิโบราณ สุดท้ายเสมือนจักรพรรดิทั้งสองพยายามที่จะยึดครองบัลลังก์จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์จนทำให้เกิดสงครามครั้งใหญ่

ในการต่อสู้ครั้งนั้นทายาทของจักรพรรดิหยวนแห่งทะเลสาบหยวนหูแทบจะถูกกวาดล้างจนหมดสิ้น กล่าวได้ว่าในศึกครั้งนั้น ผู้ที่เข้าร่วมการต่อสู้ครั้งนี้มีราชวงศ์โบราณถึงแปดกลุ่มและพวกเขาได้ถูกกวาดล้างจนสิ้นซาก

จักรพรรดิหยวนมีบุตรชายสามคน แต่ละคนคือผู้ยิ่งใหญ่ที่ได้รับการขนานนามว่าจะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตอมตะในอนาคต แต่สุดท้ายพวกเขาก็ถูกเสมือนจักรพรรดิทั้งสองคนสังหารอย่างโหดร้าย แม้แต่ลูกหลานของพวกเขาก็ตายไปมากมายนับไม่ถ้วน

ในท้ายที่สุด มีเพียงเชื้อสายของลูกชายคนเล็กของจักรพรรดิหยวนเท่านั้นที่ยังสืบทอดสายเลือดมาจนถึงยุคของบิดาข้า น่าเสียดายที่ราชวงศ์อันยิ่งใหญ่ที่สุดของเผ่าพันธุ์โบราณต้องล่มสลายลงเช่นนี้

“นับตั้งแต่จักรพรรดิหยวนเถลิงบัลลังก์จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์เขาครองอำนาจอยู่ในโลกยุคโบราณยาวนานหลายหมื่นปี แต่สุดท้ายตำแหน่งจักรพรรดินี้ก็เป็นเหมือนสมบัติกองใหญ่ เมื่อเจ้ามีโอกาสได้เสพสุขวาสนาผู้อื่นย่อมมีความต้องการที่จะครอบครองมันเช่นกัน

และเป็นเพราะการต่อสู้ครั้งนั้นเองจึงทำให้สายเลือดของจักรพรรดิหยวนเสื่อมโทรมลง ในท้ายที่สุดหยวนกู่ซึ่งเป็นผู้ที่มีความเจิดจรัสมากที่สุดได้ถูกคัดเลือกออกมาจากบรรดาลูกหลานทุกคนและทำการปิดผนึกไว้ในต้นกำเนิดสวรรค์ก่อนที่ยุคอันเลวร้ายจะมาถึง”

ในเวลากลางคืนป่าบนภูเขาจะสว่างไสวและมีหมอกปกคลุมอยู่ทุกที่ เผ่าคนเถื่อนเต็มไปด้วยความสุข พวกเขาใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายไม่สนใจความวุ่นวายในโลกเสมอ

ก่อนที่เย่ฟ่านจะจากไปเขาได้เข้าพบเทพสงครามคนเถื่อนและมอบยาเซียนมังกรที่แท้จริงเพื่อต่อชีวิตของเทพสงครามซึ่งเป็นเซียนผู้ยิ่งใหญ่แห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์

“ของขวัญชิ้นนี้ล้ำค่ามาก!” ราชาคนเถื่อนผู้เป็นน้องชายถึงกับร้องไห้ออกมา

แม้แต่เสวียนอู่ก็ยังกลายร่างเป็นมนุษย์และแสดงความขอบคุณต่อเย่ฟ่านอย่างจริงใจ

“ยาเซียนมังกรที่แท้จริง สมบัติส่วนตัวของชายผู้โหดเหี้ยม ไม่คิดว่าเจ้าจะคว้ามันมาได้!”

เทพสงครามคนเถื่อนทอดถอนใจ ในตอนแรกเขาคิดว่าตัวเขาคงต้องตายอยู่ในต้นกำเนิดสวรรค์นี้โดยไม่มีทางออกไปอีกแล้ว ไม่คิดว่าเย่ฟ่านจะเป็นคนนำโชควาสนาอันยิ่งใหญ่นี้มาให้เขา

ในที่สุดเย่ฟ่านและคนอื่นๆ ก็ออกเดินทางกลับภาคเหนือของตงหวง การต่อสู้ระหว่างเขาและหยวนกู่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่มันยังไม่ได้กำหนดกรอบเวลาให้ชัดเจน ดังนั้นเย่ฟ่านจึงต้องเดินทางสู่ภาคเหนืออีกครั้ง

วานรศักดิ์สิทธิ์กล่าวว่า “ข้าเดาว่านี่เป็นการตัดสินใจของหยวนกู่เอง ผู้คนจากทะเลสาบหยวนหูคัดค้านเรื่องนี้อย่างรุนแรง แม้ว่าเขาจะเป็นเซียนเทียมขั้นสาม แต่เมื่อเผชิญหน้ากับเจ้าก็ใช่ว่าจะช่วงชิงความได้เปรียบได้”

“นี่จะเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบากที่สุดของข้าเช่นกัน” เย่ฟ่านกล่าวกับตัวเอง

เซียนเทียมขั้นสามคือขอบเขตอันยิ่งใหญ่ หลายคนใช้เวลาทั้งชีวิตยังไม่สามารถก้าวหน้าถึงขอบเขตนั้นได้ ไม่เช่นนั้นนักพรตมังกรแดงคงไม่ติดอยู่ในขอบเขตนี้เป็นเวลาหลายพันปี

นั่นก็เพราะนี่เป็นขอบเขตอันยิ่งใหญ่ที่ไม่สามารถใช้ความเพียรก็จะบรรลุได้ หาเจ้าไม่มีโชควาสนาและพรสวรรค์เพียงพอย่อมทำได้เพียงยืนอยู่หน้าประตูนี้ไปตลอดชีวิต

“การจะบรรลุเซียนเทียมขั้นสามได้เจ้าจำเป็นต้องตัดบางอย่างออก!”

วานรศักดิ์สิทธิ์กล่าวโดยเล่าประสบการณ์ของตัวเองเพื่อเป็นข้อมูลอ้างอิงให้กับเย่ฟ่าน

หยวนกู่คือทายาทแห่งจักรพรรดิโบราณ ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นยอดฝีมือรุ่นเยาว์อันดับหนึ่งแห่งเผ่าพันธุ์โบราณใครจะกล้าดูถูกความแข็งแกร่งของเขา?!

“จะบรรลุเข้าเขตนี้ได้อย่างไร? บางทีอาจมีเพียงเจ้าเท่านั้นที่เข้าใจด้วยตัวเอง บางคนเลือกที่จะตัดความคิดในใจ ตัดทุกสิ่ง ตัดให้สะอาด แม้กระทั่งตัดอนาคตของตัวเองออกไป” ฉีลั่วอธิบาย

ในเดือนถัดมา เย่ฟ่านนั่งสมาธิบนหน้าผา ดูแสงยามเช้าในตอนกลางวันและดวงดาวในตอนกลางคืน เขาไม่รับประทานอาหารเพียงดื่มน้ำค้างเล็กน้อยเท่านั้น

ทุกเช้าเสี่ยวเช่อเอ๋อจะเดินเตาะแตะขึ้นมาบนยอดเขากับตงตงเพื่อดูเย่ฟ่านฝึกฝนทุกวัน

“บุตรศักดิ์สิทธิ์จะกลับบ้านแล้วหรือ!” เด็กหญิงกล่าวเสียงอ้อแอ้

ในฐานะทายาทจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ตงตงไม่ชอบสุงสิงกับผู้คน เขานั่งบนหน้าผาทุกวันและดื่มด่ำกับธรรมชาติ

ในระหว่างนี้เย่ฟ่านได้มอบเมล็ดโพธิ์ให้เขาหยิบยืมเป็นการชั่วคราวเพราะในขอบเขตปัจจุบันของเย่ฟ่านของสิ่งนี้แทบจะไม่มีประโยชน์แล้ว

หลังจากหนึ่งเดือนแห่งการนั่งสมาธิสุดท้ายเย่ฟ่านก็ลุกขึ้นยืน แม้ว่าจิตใจของเขาจะสงบมากขึ้นแต่เขากลับไม่ประสบความสำเร็จที่จะก้าวไปข้างหน้าได้

สาเหตุก็เพราะสิ่งที่อยู่ในใจของเขานั้นไม่สามารถลบล้างออกไปได้นั่นเอง

“บุตรศักดิ์สิทธิ์จะกลับบ้านแล้วหรือ?” เสี่ยวเช่อเอ๋อถามขณะที่นางถือขวดนมนั่งดูเย่ฟ่านฝึกฝน

“อาจารย์ ท่านพร้อมหรือยัง?” ตงตงถามอย่างคาดหวังเช่นกัน

“ยังก่อน!”

เย่ฟ่านเอามือลูบหัวเด็กน้อยทั้งสองคนก่อนจะอุ้มพวกเขาลงมาจากยอดเขา

อีกฟากหนึ่งของท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาว มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เย่ฟ่านไม่สามารถตัดออกจากใจได้ เขารู้ดีว่าหากเขาเลือกที่จะปฏิเสธการกลับโลกใบเดิมเขาจะทะลวงเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทียมขั้นสามทันที

“หากข้าเราลืมอดีตมันจะไม่เท่ากับเป็นการปฏิเสธตัวตนที่แท้จริงของตัวเองหรือ?”

เย่ฟ่านไม่เชื่อว่าจะมีเพียงเส้นทางนี้เท่านั้นที่ทำให้เขากลายเป็นเซียนเทียมขั้นสามได้ มันจะต้องมีเส้นทางอื่น เส้นทางที่เขาไม่รู้

และเขาจะต้องหามันให้เจอ

……….

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด