บทที่ 64: ฉันไม่สามารถแสดงละครต่อไปได้อีกแล้ว ซาโตรุอยู่ที่ไหน?
บทที่ 64: ฉันไม่สามารถแสดงละครต่อไปได้อีกแล้ว ซาโตรุอยู่ที่ไหน?
“ซาสึเกะ!” นารูโตะมองไปที่ซาสึเกะที่ตอนนี้ได้กำลังได้รับบาดเจ็บ จากนั้นเขาก็มองไปที่อิทาจิ
ดวงตาของนารูโตะเผยความโกรธออกมา แม้ว่าเขาจะโกรธซาสึเกะมาก่อนหน้านี้ แต่เขาก็ทนไม่ได้ที่คนอื่นมาทำร้ายเพื่อนของเขา
"[คาถาแยกเงาพันร่าง]!" นารูโตะยกมือขึ้น
*ปัง*
ควันสีขาวขนาดใหญ่ลอยขึ้นและมีร่างแยกมากกว่า 20 ร่างปรากฏขึ้น ร่างแยกทั้งหมดอยู่ตรงหน้าซาสึเกะ
“ตอนเด็กฉันเองก็ไม่มีครอบครัว และฉันไม่เข้าใจความคิดของคนที่มีครอบครัวเท่าไรหรอกนะ” ในความคิดของนารูโตะ เขานึกถึงแผ่นหลังของซาโตรุและฮิรุเซ็น
“แต่คนในครอบครัวก็คงจะให้ความรู้สึกเหมือนอาจารย์ซาโตรุและคุณปู่โฮคาเงะรุ่นที่ 3”
“ไอ้คนสารเลวแบบแกไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นพี่ของซาสึเกะได้หรอก”
“แกกล้าทำร้ายเพื่อนฉัน ฉันไม่สนใจหรอกว่าแกเป็นใคร ฉันจะตีแกจนสุดกำลังให้ลงไปกองที่พื้นเลย!” นารูโตะชี้ไปที่อิทาจิด้วยสีหน้าโกรธจัด
เขาไม่เข้าใจเรื่องความสัมพันธ์ของคนที่มีครอบครัว แต่อย่างน้อยเขาก็เข้าใจว่าอิทาจิไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นครอบครัวของซาสึเกะ
ในสายตาของนารูโตะ ซาโตรุเหมือนพี่มากกว่าอิทาจิที่ทำร้ายซาสึเกะสาหัสเสียอีก
“ออกไปซะ อย่ามายุ่ง นี่มันเรื่องของฉัน” ซาสึเกะลุกขึ้นยืน ผลักนารูโตะที่อยู่ตรงหน้าออกไป และจ้องมองอิทาจิด้วยสายตาเย็นชา
ถ้านารูโตะสู้กับอิทาจิ
เขากลัวว่านารูโตะอาจจะตายได้
เขาจะจัดการเรื่องของเขาเอง
เขาจะแบกรับความเกลียดชังเพียงลำพัง ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อคนรอบข้าง
“ยังอยู่ในอารมณ์ที่จะพูดคุยกันอีกเหรอ?” คิซาเมะถือซาเมฮาดะไว้ในมือ กวาดร่างแยกทั้งหมดด้วยฟันอันแหลมคม แล้วยกมือขึ้นมาจับคอของนารูโตะ
"[คาถาไฟ ∙ ลูกไฟยักษ์]" ซาสึเกะประสานอินและพ่นเปลวไฟอุณหภูมิสูงออกจากปากของเขา หลังจากที่เปลวไฟตกลงมา มันก็กลายเป็นลูกไฟที่ใหญ่กว่าปกติ
*บูม*
เปลวไฟที่โหมกระหน่ำกลืนกินร่างคิซาเมะ
คิซาเมะฟาดดาบออกไปและเปลวไฟอันโหมกระหน่ำก็หายไปทันที ร่างกายของเขาไม่ได้รับบาดเจ็บ กระทั่งเสื้อผ้าของเขาก็ไม่เสียหายเลยสักนิดเดียว
ทุกคนในทีมที่เจ็ดมองดูคิซาเมะอย่างไม่เชื่อสายตา
คนที่เหมือนฉลามคนนี้จับตัวของซาสึเกะไว้ได้ และเอาชนะคาถาไฟโดยไม่ได้ใช้วิชานินจาเลยเหรอ?
ไอ้ฉลามนี้…แข็งแกร่งมาก!
ดูแข็งแกร่งกว่าโอโรจิมารุนั่นซะอีก!
“อิทาจิ น้องชายของนายดูอ่อนแอกว่าที่นายคิดมากเลยนะ” คิซาเมะจับซาเมะฮาดะแล้วกระแทกเข้าไปที่ซาสึเกะอย่างแรง
ทันใดนั้น
อิทาจิก็หายตัวไปทันที เขาปรากฏตัวต่อหน้าซาสึเกะและต่อยซาสึเกะอย่างแรงที่หน้าท้อง
"แค่ก แค่ก แค่ก" ม่านตาของซาสึเกะหดตัวลง เขาพ่นเลือดสีแดงออกมา และเอามือกุมที่ท้องอันเจ็บปวด เขาได้แต่คุกเข่าลงบนพื้นอย่างแรง
“อิทาจิ กลัวว่าซาเมฮาดะของฉันจะทำให้ดวงตาของเขาออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจเหรอ?” คิซาเมะเอามือออกจากซาเมฮาดะ
อิทาจิช่างโหดไม่เปลี่ยนเลย
เพื่อที่จะได้ดวงตาใหม่ เขาถึงกับทรมานน้องชายของตนเอง
“เจ้าน้องชายผู้โง่เขลา ถ้าอยากฆ่าฉันให้ได้ก็จงเคียดแค้น จงชิงชัง จากนั้นจงเอาชีวิตรอดมาอย่างน่าสมเพชให้ได้ จงหนี แล้วก็หนี เอาชีวิตรอดมาให้ได้”
อิทาจิจับคอซาสึเกะไว้ แล้วมองดูซาสึเกะอย่างเฉยชา
“ทำไม ทำไมถึงยังปล่อยให้ฉันมีชีวิตรอดไปกันล่ะ?!” ซาสึเกะถามด้วยความโกรธ
เพราะเขาสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างในคืนการฆ่าล้างตระกูล เขาคิดมาตลอดว่าการมีชีวิตอยู่นั้นเป็นการทรมาน
“ก็แกมันไม่มีค่ามากพอจะให้ลงมือฆ่า เพราะแกเกลียดฉัน นั่นแหละคือเหตุผลที่ฉันยังปล่อยให้แกมีชีวิตอยู่ แกจะต้องมีชีวิตอยู่และเป็นคู่ต่อสู้ของฉัน เพื่อยืนยันความแข็งแกร่งของฉัน” อิทาจิยกมือขึ้นแล้วกดไปที่เบ้าตาของซาสึเกะพร้อมกับทำเหมือนว่าจะควักลูกตาเขาออกมา
“แกมีสายเลือดเดียวกันกับฉัน และดวงตาของแกจะกลายเป็นความแข็งแกร่งให้ฉัน”
อิทาจิคิดกับตัวเอง
'ซาโตรุ ทำไมถึงมาช้าขนาดนี้!'
ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป เขาก็กลัวว่าคิซาเมะจะผิดสังเกตและจับได้
"ช่างเลวร้ายนัก" มุมปากของคิซาเมะยกขึ้นเล็กน้อย เผยให้เห็นฟันแหลมคมเหมือนฉลาม
“ไอ้บ้า ปล่อยซาสึเกะนะ!” นารูโตะประสานอินและสร้างร่างแยกมากกว่าหนึ่งโหล ทั้งหมดต่างสร้างกระสุนวงจักรขึ้นมาพร้อมกัน
“ฉันจะใช้กระสุนวงจักรที่อาจารย์ซาโตรุสอนฉัน และทุบแกแหลกไปเอง!” ร่างแยกของนารูโตะทั้งหมดมีกระสุนวงจักรไว้ในมือ พวกเขาโจมตีอิทาจิไปพร้อมๆ กัน
“ปริมาณจักระที่เหมือนสัตว์ประหลาดอะไรเช่นนี้” คิซาเมะจับซาเมฮาดะไว้ในมือและกวาดล้างร่างแยกทั้งหมดออกไปด้วยการฟาดเพียงครั้งเดียว
เจ้าเด็กจิ้งจอกเก้าหางหลังจากสร้างร่างแยกจำนวนมากแล้ว ก็สามารถใช้กระสุนวงจักรหลายอันพร้อมกันได้อีกด้วย
ปริมาณจักระนั้นน่าสะพรึงมาก
หากปล่อยให้เติบโตไป มันก็อาจกลายเป็นปัญหาสำหรับแสงอุษาได้ในอนาคต
*ปัง*
นารูโตะถูกปัดออกไปด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ร่างกายของเขากลิ้งในอากาศสองสามตลบและกระแทกเข้ากับลำต้นของต้นไม้อย่างแรง
"ไม่นะ!" ซากุระปรากฏตัวขึ้นด้านหลังคิซาเมะ โดยถือกระสุนวงจักรไว้ในมือและโจมตีเข้าไปที่ศีรษะของคิซาเมะ
ทันใดนั้นเองคิซาเมะก็หันกลับมาและเตะซากุระอย่างแรงที่ท้อง
ซากุระได้ถูกเตะออกไปไกล ก่อนที่จะลงร่วงลงที่พื้น กระสุนวงจักรกระแทกลงที่พื้นทำให้เกิดหลุมเล็กๆ ขึ้น
ความหวาดกลัวปรากฏขึ้นในใจของทุกคนในทีมที่เจ็ด พวกเขาตระหนักถึงช่องว่างของความแข็งแกร่งระหว่างพวกเขากับศัตรูแล้ว
ทีมที่เจ็ดไม่มีพลังต้านทานได้เลย
"[คาถาลวงตา ∙ พฤษาผูกมัดแห่งความตาย]"
ทุกคนที่อยู่นั่นเหมือนตกอยู่ในภวังค์ เถาวัลย์นับไม่ถ้วนผุดขึ้นมาจากพื้นดิน พันรอบแขนขาของอิทาจิ กลายเป็นต้นไม้ใหญ่
“นินจาถอนตัวยังมีหน้าให้กลับหมู่บ้านได้อีกเหรอ?” คุเรไนโผ่ลออกมาจากยอดต้นไม้ ถือคุไนไว้ในมือและฟันไปที่คอของอิทาจิ
“คาถาของเธอน่ะมันไร้ประโยชน์” ดวงตาของอิทาจิหรี่ลง
ทันใดนั้น อิทาจิก็สลับตำแหน่งกับคุเรไน และคนที่ติดอยู่ในต้นไม้ใหญ่กลับกลายเป็นคุเรไนแทน
"โธ่เว้ย!" ร่างกายของคุเรไนแข็งทื่อ และหลังจากนั้นไม่นานเธอก็ล้มลงกับพื้น ร่างกายของเธอกระตุกและดวงตาของเธอก็ไร้แววความรู้สึก
เธอถูกเขาจัดการแล้ว
“อิทาจิ เราจะทำยังไงกับเป้าหมายนอกภารกิจดี?” คิซาเมะถือดาบใหญ่แกว่งไปมา มองซาเมฮาดะและมองดูคุเรไนที่ล้มลงไปกองกับพื้น
"จัดลำดับความสำคัญของภารกิจ" อิทาจิกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“งั้นเรามาจับเก้าหางกันเถอะ” คิซาเมะเดินไปหานารูโตะ
ภายนอกอิทาจิมีท่าทีที่ไม่แยแส แต่ในใจเขารู้สึกกังวลเล็กน้อย
คนที่แข็งแกร่งสุดในหมู่บ้านไปไหนกันเนี่ย?!
ซาโตรุอยู่ที่ไหน!
หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เก้าหางจะตกอยู่ในมือของแสงอุษาแน่
เขาได้ยินมาว่าซาโตรุเป็นอาจารย์ทีมที่เจ็ด ดังนั้นเขาจึงโล่งใจเรื่องความปลอดภัยของเก้าหางมาก
เพราะซาโตรุแข็งแกร่งพอที่จะปกป้องเก้าหางได้
แต่ตอนนี้…ซาโตรุอยู่ไหนล่ะ?
จะแสร้งแสดงละครต่อหน้าคิซาเมะต่อไปก็ดูจะลำบากแล้ว