ตอนที่แล้วบทที่ 62 : เหวี่ยงแขนขวาของดันโซออกไป
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 64: ฉันไม่สามารถแสดงละครต่อไปได้อีกแล้ว ซาโตรุอยู่ที่ไหน?

บทที่ 63 : โฮชิงากิ คิซาเมะ และ อุจิวะ อิทาจิ


บทที่ 63 : โฮชิงากิ คิซาเมะ และ อุจิวะ อิทาจิ

เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า และสองวันต่อมาก็ได้มาถึง…

พระอาทิตย์เจิดจ้าและท้องฟ้าก็สดใส

ทุกคนกำลังซ่อมแซมทั้งหมู่บ้าน คนงานจำนวนมากงานยุ่งในตอนเช้า และนินจาบางคนที่ไม่ได้ออกไปทำภารกิจก็กำลังช่วยซ่อมหมู่บ้าน

ด้านบนของตึกสูง

“นี่น่ะเหรอหมู่บ้านที่ว่า?” ชายร่างสูงหน้าตาเหมือนฉลาม สวมเสื้อคลุมสีดำปักลายเมฆสีแดง มองดูหมู่บ้านโคโนฮะด้วยความสนใจ

เขาเป็นนินจาถอนตัวระดับ S ของหมู่บ้านคิริ หนึ่งในเจ็ดดาบนินจาแห่งหมู่บ้านคิริ โฮชิงากิ  คิซาเมะ

มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าสัตว์หางผู้ไร้หาง

“อิทาจิ หลังจากที่เห็นบ้านหลังเก่าถูกทำลาย ตอนนี้รู้สึกยังไงบ้างล่ะ?” คิซาเมะมองอุจิวะอิทาจิด้วยท่าทีสนใจ

ในขณะที่ร่วมมือกับอิทาจิ เขาเองก็รับผิดชอบในการลอบตรวจสอบอิทาจิด้วย

นี่คือคำสั่งจากผู้นำของแสงอุษา

"ไปกันเถอะ เรามีภารกิจต้องทำ" อิทาจิไม่ได้พูดอะไรมาก สีหน้าเรียบๆ ของเขาให้ความรู้สึกเย็นชา มันเปล่งรัศมีเย็นชาออกมาคล้ายต้องการผลักผู้คนออกไป

'โอโรจิมารุบุก หมู่บ้านและโฮคาเงะรุ่นที่ 3 เสียชีวิตในสนามรบ'

'หลังจากการตายของโฮคาเงะรุ่นที่ 3 น่าจะมีการกระทำบางอย่างจากฝ่ายของดันโซ'

'ซาสึเกะน่าจะสบายดีใช่ไหมนะ?'

คิซาเมะพูดด้วยรอยยิ้มแผ่วเบา “อิทาจิ นายเป็นคนโหดเหี้ยมมากเลยนะ หลังจากที่เห็นหมู่บ้านเก่าถูกทำลายแบบนี้ แต่นายกลับไม่สนใจแม้แต่จะคิดถึงมันด้วยซ้ำ”

แม้เขาจะต้องคอยตรวจสอบอิทาจิ

แต่โดยส่วนตัวแล้ว เขานั้นก็เคารพอิทาจิจากก้นบึ้งของหัวใจ

“ความคิดที่ไร้สาระเช่นนั้นจะขัดขวางแผนการของเรา” อิทาจิกับเนตรวงแหวนสีแดงสามหยดน้ำมองลงไปที่นารูโตะในสวนสาธารณะจากที่ไกลๆ

“ตอนนี้ศัตรูอาจจะเจอเราที่ร้านลูกชิ้นแล้ว”

“ถ้ายางิว ซาโตรุปรากฏตัวออกมา นายจะต้องจับเขาไว้ ส่วนฉันจะจับไอ้เด็กเก้าหางเอง”

ก่อนหน้านี้พวกเขาได้เจอเข้ากับคุเรไนและคนอื่นๆ โดยบังเอิญ

แต่สิ่งที่อิทาจิกลัวคือซาโตรุ เพราะรู้ว่าอีกฝ่ายแข็งแกร่งแค่ไหน นั่นคือเหตุผลที่เขาให้คิซาเมะจับซาโตรุเอาไว้

“ซาโตรุ? นินจาในตำนานที่มีขีดจำกัดทางสายเลือดที่แข็งแกร่งที่สุดน่ะเหรอ?” คิซาเมะถือดาบไว้ข้างหลังเขาพลางเลียริมฝีปากของเขาด้วยรอยยิ้มคาดหวังบนใบหน้า

“ฉันอยากสู้กับเขามานานแล้ว จักระของเขาจะอร่อยใช่ไหม?”

เขาเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับซาโตรุมาก่อน แต่ยังไม่เคยพบอีกฝ่ายเลย

เขาต้องการต่อสู้กับนินจาที่แข็งแกร่งที่สุดที่ได้รับการกล่าวขานว่ามีขีดจำกัดทางสายเลือดที่แข็งแกร่งที่สด

"จัดการมัน" หลังจากที่อิทาจิพูดจบ เขาก็หายตัวไปจากที่นั่น

แสงอุษาจะใช้ประโยชน์จากการตายของโฮคาเงะ และตั้งใจที่จะจับปีศาจจิ้งจอกเก้าหางมา

คิซาเมะพุ่งตัวตามอิทาจิไป

ในสวนสาธารณะ

“คุณปู่โฮคาเงะรุ่นที่ 3…” นารูโตะนั่งบนม้านั่งด้วยสีหน้าเศร้าหมอง จ้องมองดูรูปปั้นที่อยู่ห่างไกล

เขาเคยวาดรูประบายสีเล่นที่นั่นเพื่อดึงดูดความสนใจ และหลังจากนั้น เขาก็ถูกโฮคาเงะรุ่นที่ 3 ดุเข้า

หลังจากที่ถูกดุ เขาทั้งสองก็จะไปกินราเมด้วยกัน

ซากุระเดินไปหานารูโตะพร้อมกระเป๋าบนหลัง และทักทายด้วยรอยยิ้ม "นารูโตะ เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อเลยนะที่นายจะตรงต่อเวลาขนาดนี้"

ก่อนหน้านี้ ซาโตรุได้บอกทีมที่เจ็ดว่าวันนี้เขาจะออกเดินทางตามหาซึนาเดะผู้เป็นหนึ่งในซังนินในตำนาน ซึ่งจะกลับมารับตำแหน่งโฮคาเงะรุ่นที่ 5 ของหมู่บ้าน

“อรุณสวัสดิ์ ซากุระจัง” นารูโตะฝืนยิ้ม

“นารูโตะ...” ซากุระมองดูท่าทีของนารูโตะด้วยแววตาที่เป็นกังวล

ปกตินารูโตะจะเป็นคนขี้เล่น แต่ในช่วงสองวันที่ผ่านมา อารมณ์ของนารูโตะกลับกำลังดิ่งและจมอยู่กับความเศร้า

นั่นเป็นเพราะท่านโฮคาเงะรุ่นที่ 3 เหรอ?

“ไอ้คนโง่งี่เง่า หลังจากการตายของโฮคาเงะคนเก่า ก็จะมีโฮคาเงะคนใหม่ สิ่งที่เราต้องทำคือฝึกมันให้หนักเพื่อความแข็งแกร่งต่างหาก” ซาสึเกะถือกระเป๋าสะพาย เอามือล้วงกระเป๋ากางเกง และมองนารูโตะอย่างเย็นชา

เขาไม่สนใจชีวิตและความตายของโฮคาเงะรุ่นที่ 3 เขาต้องการเพียงความแข็งแกร่ง

นารูโตะผงะเล็กน้อย ความโกรธปรากฏในดวงตาของเขา เขาคว้าคอเสื้อของซาสึเกะแล้วคำรามออกมา "ไอ้บ้านี้ ถอนคำพูดเลยนะ !"

“ก็เอาสิ นายคิดว่าตอนนี้นายแข็งแกร่งมากขึ้นแล้วหรือยัง?” ซาสึเกะยังคงเอามือล้วงกระเป๋า แล้วมองนารูโตะอย่างเย็นชา

เมื่อต่อสู้กับกาอาระจากหมู่บ้านซึนะก่อนหน้านี้ ซาสึเกะไม่สามารถเอาชนะกาอาระหางเดียวได้

แต่นารูโตะระเบิดจักระจิ้งจอกเก้าหางออกมา มีร่างแยกหลายสิบคนปรากฏขึ้นและใช้กระสุนวงจักรในเวลาเดียวกันเพื่อเอาชนะกาอาระหางเดียวในคราวเดียว

นี่ทำให้ซาสึเกะรู้สึกโกรธมาก

สิ่งที่เขาทำไม่ได้ นารูโตะผู้เป็นเด็กหลังห้องดันทำได้

ตลกสิ้นดี!

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ซาสึเกะก็เริ่มเปรียบเทียบแล้วว่าใครแข็งแกร่งกว่ากัน เขาหรือนารูโตะ

“ซาสึเกะคุง นารูโตะ!” ซากุระหยุดนารูโตะด้วยความตื่นตระหนก

“ซากุระจัง อย่ามาห้ามฉันนะ คราวนี้ฉันต้องสอนบทเรียนให้ไอ้บ้านี้บ้าง” นารูโตะคว้าคอเสื้อของซาสึเกะด้วยความโกรธ

"ฮึ นายไม่สามารถสัมผัสหน้าผากของฉันได้ซ้ำ" ซาสึเกะยิ้มอย่างเย็นชา โดยชี้นิ้วหัวแม่มือไปที่หน้าผากเขา

“ทะเลาะกันเหรอ? เป็นเพื่อนกันก็ต้องเข้ากันให้ได้สิ” เสียงล้อเลียนเสียงหนึ่งได้ดังขึ้น

คิซาเมะปรากฏตัวขึ้นด้านหลังของทีมที่เจ็ด

ทุกคนในทีมที่เจ็ดตัวสั่น ความรู้สึกหวาดกลัวพลันปรากฏขึ้น

ผู้ชายคนนี้เป็นใครกัน?

ทำไมถึงรู้สึกสะพรึงเช่นนี้!

"นายเป็นใคร!?" ซาสึเกะกระโจนถอยหลังและจ้องไปที่คิซาเมะพร้อมกับเนตรวงแหวนสีแดงสดสามหยดน้ำด้วยความเย็นชา

หลังจากที่เห็นสัญลักษณ์บนผ้าคาดหัวหน้าผากของคิซาเมะ ซาสึเกะก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย

นินจาจากหมู่บ้านคิริเหรอ? สัญลักษณ์รอยขีดบนผ้าคาดหัว เขาน่าจะเป็นนินจาของหมู่บ้านคิริใช่ไหม?

ซากุระและนารูโตะชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วกระโดดกลับไปข้างหลังทันทีเพื่อทิ้งระยะห่างจากคิซาเมะ

“นายคือจิ้งจอกเก้าหางใช่ไหม? หากต้องการหลีกเลี่ยงที่จะเจ็บตัวและไม่อยากเสียเลือดล่ะก็ จงเชื่อฟังและตามฉันมา” คิซาเมะเมินซาสึเกะที่ตอนนี้กำลังรับบทเป็นคนสอบสวน นั่นเพราะซากุระและซาสึเกะในทีมที่เจ็ดมีจักระน้อยมาก แต่จักระของนารูโตะมีเยอะมากจนกระทั่งซาเมะฮาดะเองก็ยังรู้สึกตื่นเต้นอีกด้วย

แค่มองแวบเดียว คิซาเมะก็พอจะเดาได้ว่านารูโตะคือจิ้งจอกเก้าหาง

“จิ้งจอกเก้าหางเหรอ?” นารูโตะชี้ไปที่คิซาเมะหลังจากได้ยินว่าตัวเขาถูกเรียกว่าจิ้งจอกเก้าหาง

“ไอ้บ้าตัวฟ้า จำไว้เลยนะว่าฉันชื่ออุซึมากิ นารูโตะ และฉันจะคือคนที่จะกลายเป็นโฮคาเงะต่างหาก!”

ทำไมช่วงนี้ถึงมีแต่คนประหลาดที่เพิ่งพบหน้ามาเรียกเขาว่าร่างสถิตย์หรือไม่ก็จิ้งจอกเก้าหางกันเล่า

แย่กันเสียจริงๆ!

จิ้งจอกเก้าหางอะไรกัน เขาคืออุซึมากิ นารูโตะต่างหาก!

“พวกเราเหรอ? งั้นเป้าหมายคือนารูโตะสินะ?” ซาสึเกะดึงคุไนออกมาแล้วจ้องไปที่คิซาเมะ

พวกเรางั้นเหรอ?

แปลว่ามีคนอื่นอีกใช่ไหม?

จุดประสงค์ของคนพวกนี้คือนารูโตะเหรอ?

ข้างหลังซาสึเกะ มีเสียงที่เย็นชาได้ดังขึ้น

“น้องชายผู้โง่เขลา”

“เสียงนี้…” ผิวของซาสึเกะเริ่มเปลี่ยนสีไป จิตสังหารปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา ในหัวของเขาพลันนึกถึงค่ำคืนของการฆ่าล้างตระกูล

เขาไม่มีวันที่จะลืมเสียงที่เย็นชานี้ได้ลง

มันคือสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจและแรงผลักดันในการแก้แค้นของเขา มันคือแรงผลักดันแห่งความเกลียดชัง

“อุจิวะ อิทาจิ!” ซาสึเกะถือคุไนไว้ในมือแน่น คำรามชื่อและกัดฟันกรอด เขาหันกลับมาพร้อมกับคุไนด้วยความโกรธและแทงไปที่อิทาจิทันที

นารูโตะและซากุระตกตะลึงเล็กน้อย

นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นจิตสังหารเช่นนี้จากสายตาของซาสึเกะ

“ตอนนี้นายยังอ่อนแอเกินไป” อิทาจิตบหน้าซาสึเกะอย่างแรง

*เพี๊ยะ*

ซาสึเกะถูกตบกระเด็นไป ร่างของเขากลิ้งไปในอากาศสองสามครั้งแล้วล้มลงบนม้านั่งอย่างแรง จนทำให้ม้านั่งทั้งตัวพังลงไป

"[กระสุนวงจักร]!" ซาสึเกะลุกขึ้นยืน จักระสีฟ้าอ่อนโผล่ออกมาจากฝ่ามือของเขา จักระหมุนเร็วมากและในที่สุดก็กลายเป็นกระสุนวงจักร

ซาสึเกะถือกระสุนวงจักรอยู่ในมือ ก่อนที่จะโจมตีอิทาจิด้วยความโกรธแค้น

ในที่สุดวันนี้เขาก็ได้พบกับอิทาจิอีกครั้ง

วันนี้!

เขาต้องการแก้แค้นให้ได้วันนี้!!!

“นายมันไร้ค่า” อิทาจิไม่ขยับตัวแต่คว้าเข้าไปที่ข้อมือของซาสึเกะอย่างแรง

*แกร๊ก*

ข้อมือของซาสึเกะหักและกระสุนวงจักรก็หายไป

“เกลียดฉันต่อไปเถอะ จงแสวงหาความแข็งแกร่งต่อไป จนกว่านายจะมีดวงตาแบบเดียวกับฉัน และจากนั้น…” ดวงตาของอิทาจิเบิกค้างไว้ และหยดน้ำทั้งสามในดวงตาของเขากลายเป็นรูปแบบกังหันลม เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา

'กระสุนวงจักรเหรอ?'

'ซาสึเกะ นายแข็งแกร่งขึ้นแล้ว'

'ซาโตรุ ขอบคุณที่ให้ความรู้แก่น้องชายที่รักของฉัน'

“ฉันจะควักดวงตาของนายออกและเอาพลังมา” อิทาจิเตะเข้าที่ท้องของซาสึเกะ

'มีอะไรผิดปกติ ทำไมซาโตรุยังไม่ปรากฏตัวอีก?'

'กำลังเสริมของหมู่บ้านมาช้าเกินไป ถ้านานกว่านี้ล่ะก็…'

'ฉันกลัวว่าเด็กจิ้งจอกเก้าหางจะตกไปอยู่ในมือของแสงอุษา'

*ปัง*

ซาสึเกะถูกเตะออกไปและกลิ้งบนพื้นหลายตลบ

"อิทาจิ!!!" ซาสึเกะลุกขึ้นยืน จับข้อมือที่เจ็บปวดของเขา แล้วจ้องมองอิทาจิด้วยความโกรธแค้น

'ช่องว่างของความแข็งแกร่งเยอะขนาดนี้เหรอ?'

'ฉันได้แต่ไล่ตามการแก้แค้นและฉันเองก็แข็งแกร่งมากขึ้นแล้ว'

'ทำไมถึงมีช่องว่างของความแข็งแกร่งที่มากมายขนาดนี้?'

'ความแข็งแกร่ง'

'เพื่อการแก้แค้น ฉันต้องแข็งแกร่งให้มากกว่านี้!'

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด