บทที่ 63 : โฮชิงากิ คิซาเมะ และ อุจิวะ อิทาจิ
บทที่ 63 : โฮชิงากิ คิซาเมะ และ อุจิวะ อิทาจิ
เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า และสองวันต่อมาก็ได้มาถึง…
พระอาทิตย์เจิดจ้าและท้องฟ้าก็สดใส
ทุกคนกำลังซ่อมแซมทั้งหมู่บ้าน คนงานจำนวนมากงานยุ่งในตอนเช้า และนินจาบางคนที่ไม่ได้ออกไปทำภารกิจก็กำลังช่วยซ่อมหมู่บ้าน
ด้านบนของตึกสูง
“นี่น่ะเหรอหมู่บ้านที่ว่า?” ชายร่างสูงหน้าตาเหมือนฉลาม สวมเสื้อคลุมสีดำปักลายเมฆสีแดง มองดูหมู่บ้านโคโนฮะด้วยความสนใจ
เขาเป็นนินจาถอนตัวระดับ S ของหมู่บ้านคิริ หนึ่งในเจ็ดดาบนินจาแห่งหมู่บ้านคิริ โฮชิงากิ คิซาเมะ
มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าสัตว์หางผู้ไร้หาง
“อิทาจิ หลังจากที่เห็นบ้านหลังเก่าถูกทำลาย ตอนนี้รู้สึกยังไงบ้างล่ะ?” คิซาเมะมองอุจิวะอิทาจิด้วยท่าทีสนใจ
ในขณะที่ร่วมมือกับอิทาจิ เขาเองก็รับผิดชอบในการลอบตรวจสอบอิทาจิด้วย
นี่คือคำสั่งจากผู้นำของแสงอุษา
"ไปกันเถอะ เรามีภารกิจต้องทำ" อิทาจิไม่ได้พูดอะไรมาก สีหน้าเรียบๆ ของเขาให้ความรู้สึกเย็นชา มันเปล่งรัศมีเย็นชาออกมาคล้ายต้องการผลักผู้คนออกไป
'โอโรจิมารุบุก หมู่บ้านและโฮคาเงะรุ่นที่ 3 เสียชีวิตในสนามรบ'
'หลังจากการตายของโฮคาเงะรุ่นที่ 3 น่าจะมีการกระทำบางอย่างจากฝ่ายของดันโซ'
'ซาสึเกะน่าจะสบายดีใช่ไหมนะ?'
คิซาเมะพูดด้วยรอยยิ้มแผ่วเบา “อิทาจิ นายเป็นคนโหดเหี้ยมมากเลยนะ หลังจากที่เห็นหมู่บ้านเก่าถูกทำลายแบบนี้ แต่นายกลับไม่สนใจแม้แต่จะคิดถึงมันด้วยซ้ำ”
แม้เขาจะต้องคอยตรวจสอบอิทาจิ
แต่โดยส่วนตัวแล้ว เขานั้นก็เคารพอิทาจิจากก้นบึ้งของหัวใจ
“ความคิดที่ไร้สาระเช่นนั้นจะขัดขวางแผนการของเรา” อิทาจิกับเนตรวงแหวนสีแดงสามหยดน้ำมองลงไปที่นารูโตะในสวนสาธารณะจากที่ไกลๆ
“ตอนนี้ศัตรูอาจจะเจอเราที่ร้านลูกชิ้นแล้ว”
“ถ้ายางิว ซาโตรุปรากฏตัวออกมา นายจะต้องจับเขาไว้ ส่วนฉันจะจับไอ้เด็กเก้าหางเอง”
ก่อนหน้านี้พวกเขาได้เจอเข้ากับคุเรไนและคนอื่นๆ โดยบังเอิญ
แต่สิ่งที่อิทาจิกลัวคือซาโตรุ เพราะรู้ว่าอีกฝ่ายแข็งแกร่งแค่ไหน นั่นคือเหตุผลที่เขาให้คิซาเมะจับซาโตรุเอาไว้
“ซาโตรุ? นินจาในตำนานที่มีขีดจำกัดทางสายเลือดที่แข็งแกร่งที่สุดน่ะเหรอ?” คิซาเมะถือดาบไว้ข้างหลังเขาพลางเลียริมฝีปากของเขาด้วยรอยยิ้มคาดหวังบนใบหน้า
“ฉันอยากสู้กับเขามานานแล้ว จักระของเขาจะอร่อยใช่ไหม?”
เขาเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับซาโตรุมาก่อน แต่ยังไม่เคยพบอีกฝ่ายเลย
เขาต้องการต่อสู้กับนินจาที่แข็งแกร่งที่สุดที่ได้รับการกล่าวขานว่ามีขีดจำกัดทางสายเลือดที่แข็งแกร่งที่สด
"จัดการมัน" หลังจากที่อิทาจิพูดจบ เขาก็หายตัวไปจากที่นั่น
แสงอุษาจะใช้ประโยชน์จากการตายของโฮคาเงะ และตั้งใจที่จะจับปีศาจจิ้งจอกเก้าหางมา
คิซาเมะพุ่งตัวตามอิทาจิไป
ในสวนสาธารณะ
“คุณปู่โฮคาเงะรุ่นที่ 3…” นารูโตะนั่งบนม้านั่งด้วยสีหน้าเศร้าหมอง จ้องมองดูรูปปั้นที่อยู่ห่างไกล
เขาเคยวาดรูประบายสีเล่นที่นั่นเพื่อดึงดูดความสนใจ และหลังจากนั้น เขาก็ถูกโฮคาเงะรุ่นที่ 3 ดุเข้า
หลังจากที่ถูกดุ เขาทั้งสองก็จะไปกินราเมด้วยกัน
ซากุระเดินไปหานารูโตะพร้อมกระเป๋าบนหลัง และทักทายด้วยรอยยิ้ม "นารูโตะ เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อเลยนะที่นายจะตรงต่อเวลาขนาดนี้"
ก่อนหน้านี้ ซาโตรุได้บอกทีมที่เจ็ดว่าวันนี้เขาจะออกเดินทางตามหาซึนาเดะผู้เป็นหนึ่งในซังนินในตำนาน ซึ่งจะกลับมารับตำแหน่งโฮคาเงะรุ่นที่ 5 ของหมู่บ้าน
“อรุณสวัสดิ์ ซากุระจัง” นารูโตะฝืนยิ้ม
“นารูโตะ...” ซากุระมองดูท่าทีของนารูโตะด้วยแววตาที่เป็นกังวล
ปกตินารูโตะจะเป็นคนขี้เล่น แต่ในช่วงสองวันที่ผ่านมา อารมณ์ของนารูโตะกลับกำลังดิ่งและจมอยู่กับความเศร้า
นั่นเป็นเพราะท่านโฮคาเงะรุ่นที่ 3 เหรอ?
“ไอ้คนโง่งี่เง่า หลังจากการตายของโฮคาเงะคนเก่า ก็จะมีโฮคาเงะคนใหม่ สิ่งที่เราต้องทำคือฝึกมันให้หนักเพื่อความแข็งแกร่งต่างหาก” ซาสึเกะถือกระเป๋าสะพาย เอามือล้วงกระเป๋ากางเกง และมองนารูโตะอย่างเย็นชา
เขาไม่สนใจชีวิตและความตายของโฮคาเงะรุ่นที่ 3 เขาต้องการเพียงความแข็งแกร่ง
นารูโตะผงะเล็กน้อย ความโกรธปรากฏในดวงตาของเขา เขาคว้าคอเสื้อของซาสึเกะแล้วคำรามออกมา "ไอ้บ้านี้ ถอนคำพูดเลยนะ !"
“ก็เอาสิ นายคิดว่าตอนนี้นายแข็งแกร่งมากขึ้นแล้วหรือยัง?” ซาสึเกะยังคงเอามือล้วงกระเป๋า แล้วมองนารูโตะอย่างเย็นชา
เมื่อต่อสู้กับกาอาระจากหมู่บ้านซึนะก่อนหน้านี้ ซาสึเกะไม่สามารถเอาชนะกาอาระหางเดียวได้
แต่นารูโตะระเบิดจักระจิ้งจอกเก้าหางออกมา มีร่างแยกหลายสิบคนปรากฏขึ้นและใช้กระสุนวงจักรในเวลาเดียวกันเพื่อเอาชนะกาอาระหางเดียวในคราวเดียว
นี่ทำให้ซาสึเกะรู้สึกโกรธมาก
สิ่งที่เขาทำไม่ได้ นารูโตะผู้เป็นเด็กหลังห้องดันทำได้
ตลกสิ้นดี!
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ซาสึเกะก็เริ่มเปรียบเทียบแล้วว่าใครแข็งแกร่งกว่ากัน เขาหรือนารูโตะ
“ซาสึเกะคุง นารูโตะ!” ซากุระหยุดนารูโตะด้วยความตื่นตระหนก
“ซากุระจัง อย่ามาห้ามฉันนะ คราวนี้ฉันต้องสอนบทเรียนให้ไอ้บ้านี้บ้าง” นารูโตะคว้าคอเสื้อของซาสึเกะด้วยความโกรธ
"ฮึ นายไม่สามารถสัมผัสหน้าผากของฉันได้ซ้ำ" ซาสึเกะยิ้มอย่างเย็นชา โดยชี้นิ้วหัวแม่มือไปที่หน้าผากเขา
“ทะเลาะกันเหรอ? เป็นเพื่อนกันก็ต้องเข้ากันให้ได้สิ” เสียงล้อเลียนเสียงหนึ่งได้ดังขึ้น
คิซาเมะปรากฏตัวขึ้นด้านหลังของทีมที่เจ็ด
ทุกคนในทีมที่เจ็ดตัวสั่น ความรู้สึกหวาดกลัวพลันปรากฏขึ้น
ผู้ชายคนนี้เป็นใครกัน?
ทำไมถึงรู้สึกสะพรึงเช่นนี้!
"นายเป็นใคร!?" ซาสึเกะกระโจนถอยหลังและจ้องไปที่คิซาเมะพร้อมกับเนตรวงแหวนสีแดงสดสามหยดน้ำด้วยความเย็นชา
หลังจากที่เห็นสัญลักษณ์บนผ้าคาดหัวหน้าผากของคิซาเมะ ซาสึเกะก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
นินจาจากหมู่บ้านคิริเหรอ? สัญลักษณ์รอยขีดบนผ้าคาดหัว เขาน่าจะเป็นนินจาของหมู่บ้านคิริใช่ไหม?
ซากุระและนารูโตะชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วกระโดดกลับไปข้างหลังทันทีเพื่อทิ้งระยะห่างจากคิซาเมะ
“นายคือจิ้งจอกเก้าหางใช่ไหม? หากต้องการหลีกเลี่ยงที่จะเจ็บตัวและไม่อยากเสียเลือดล่ะก็ จงเชื่อฟังและตามฉันมา” คิซาเมะเมินซาสึเกะที่ตอนนี้กำลังรับบทเป็นคนสอบสวน นั่นเพราะซากุระและซาสึเกะในทีมที่เจ็ดมีจักระน้อยมาก แต่จักระของนารูโตะมีเยอะมากจนกระทั่งซาเมะฮาดะเองก็ยังรู้สึกตื่นเต้นอีกด้วย
แค่มองแวบเดียว คิซาเมะก็พอจะเดาได้ว่านารูโตะคือจิ้งจอกเก้าหาง
“จิ้งจอกเก้าหางเหรอ?” นารูโตะชี้ไปที่คิซาเมะหลังจากได้ยินว่าตัวเขาถูกเรียกว่าจิ้งจอกเก้าหาง
“ไอ้บ้าตัวฟ้า จำไว้เลยนะว่าฉันชื่ออุซึมากิ นารูโตะ และฉันจะคือคนที่จะกลายเป็นโฮคาเงะต่างหาก!”
ทำไมช่วงนี้ถึงมีแต่คนประหลาดที่เพิ่งพบหน้ามาเรียกเขาว่าร่างสถิตย์หรือไม่ก็จิ้งจอกเก้าหางกันเล่า
แย่กันเสียจริงๆ!
จิ้งจอกเก้าหางอะไรกัน เขาคืออุซึมากิ นารูโตะต่างหาก!
“พวกเราเหรอ? งั้นเป้าหมายคือนารูโตะสินะ?” ซาสึเกะดึงคุไนออกมาแล้วจ้องไปที่คิซาเมะ
พวกเรางั้นเหรอ?
แปลว่ามีคนอื่นอีกใช่ไหม?
จุดประสงค์ของคนพวกนี้คือนารูโตะเหรอ?
ข้างหลังซาสึเกะ มีเสียงที่เย็นชาได้ดังขึ้น
“น้องชายผู้โง่เขลา”
“เสียงนี้…” ผิวของซาสึเกะเริ่มเปลี่ยนสีไป จิตสังหารปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา ในหัวของเขาพลันนึกถึงค่ำคืนของการฆ่าล้างตระกูล
เขาไม่มีวันที่จะลืมเสียงที่เย็นชานี้ได้ลง
มันคือสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจและแรงผลักดันในการแก้แค้นของเขา มันคือแรงผลักดันแห่งความเกลียดชัง
“อุจิวะ อิทาจิ!” ซาสึเกะถือคุไนไว้ในมือแน่น คำรามชื่อและกัดฟันกรอด เขาหันกลับมาพร้อมกับคุไนด้วยความโกรธและแทงไปที่อิทาจิทันที
นารูโตะและซากุระตกตะลึงเล็กน้อย
นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นจิตสังหารเช่นนี้จากสายตาของซาสึเกะ
“ตอนนี้นายยังอ่อนแอเกินไป” อิทาจิตบหน้าซาสึเกะอย่างแรง
*เพี๊ยะ*
ซาสึเกะถูกตบกระเด็นไป ร่างของเขากลิ้งไปในอากาศสองสามครั้งแล้วล้มลงบนม้านั่งอย่างแรง จนทำให้ม้านั่งทั้งตัวพังลงไป
"[กระสุนวงจักร]!" ซาสึเกะลุกขึ้นยืน จักระสีฟ้าอ่อนโผล่ออกมาจากฝ่ามือของเขา จักระหมุนเร็วมากและในที่สุดก็กลายเป็นกระสุนวงจักร
ซาสึเกะถือกระสุนวงจักรอยู่ในมือ ก่อนที่จะโจมตีอิทาจิด้วยความโกรธแค้น
ในที่สุดวันนี้เขาก็ได้พบกับอิทาจิอีกครั้ง
วันนี้!
เขาต้องการแก้แค้นให้ได้วันนี้!!!
“นายมันไร้ค่า” อิทาจิไม่ขยับตัวแต่คว้าเข้าไปที่ข้อมือของซาสึเกะอย่างแรง
*แกร๊ก*
ข้อมือของซาสึเกะหักและกระสุนวงจักรก็หายไป
“เกลียดฉันต่อไปเถอะ จงแสวงหาความแข็งแกร่งต่อไป จนกว่านายจะมีดวงตาแบบเดียวกับฉัน และจากนั้น…” ดวงตาของอิทาจิเบิกค้างไว้ และหยดน้ำทั้งสามในดวงตาของเขากลายเป็นรูปแบบกังหันลม เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา
'กระสุนวงจักรเหรอ?'
'ซาสึเกะ นายแข็งแกร่งขึ้นแล้ว'
'ซาโตรุ ขอบคุณที่ให้ความรู้แก่น้องชายที่รักของฉัน'
“ฉันจะควักดวงตาของนายออกและเอาพลังมา” อิทาจิเตะเข้าที่ท้องของซาสึเกะ
'มีอะไรผิดปกติ ทำไมซาโตรุยังไม่ปรากฏตัวอีก?'
'กำลังเสริมของหมู่บ้านมาช้าเกินไป ถ้านานกว่านี้ล่ะก็…'
'ฉันกลัวว่าเด็กจิ้งจอกเก้าหางจะตกไปอยู่ในมือของแสงอุษา'
*ปัง*
ซาสึเกะถูกเตะออกไปและกลิ้งบนพื้นหลายตลบ
"อิทาจิ!!!" ซาสึเกะลุกขึ้นยืน จับข้อมือที่เจ็บปวดของเขา แล้วจ้องมองอิทาจิด้วยความโกรธแค้น
'ช่องว่างของความแข็งแกร่งเยอะขนาดนี้เหรอ?'
'ฉันได้แต่ไล่ตามการแก้แค้นและฉันเองก็แข็งแกร่งมากขึ้นแล้ว'
'ทำไมถึงมีช่องว่างของความแข็งแกร่งที่มากมายขนาดนี้?'
'ความแข็งแกร่ง'
'เพื่อการแก้แค้น ฉันต้องแข็งแกร่งให้มากกว่านี้!'