บทที่ 62 : เหวี่ยงแขนขวาของดันโซออกไป
บทที่ 62 : เหวี่ยงแขนขวาของดันโซออกไป
“อย่ามาท้าทายฉัน” ความโกรธเริ่มปะทุในแววตาของเขา ดันโซค่อยๆ เอามือจับแขนขวาที่มีผ้าพันแผลของเขาไว้
เขาเป็นคนที่สามารถทนต่อความอัปยศอดสูได้โดยตลอด แต่ในเวลานี้ เขากลับโกรธมากที่ซาโตรุล้อเลียน
“ก็ได้นะถ้าจะให้ผมเป็นโฮคาเงะ แต่หมู่บ้านจำเป็นต้องกำหนดวันไว้ด้วย” ซาโตรุยกนิ้วแล้วพูดพร้อมกับหัวเราะเบาๆ “จากนี้ไปทั้งหมู่บ้านจะต้องฉลองวันครบรอบแต่งงานของฉันกับซึนะจังทุกวัน”
ทันทีที่เขาพูดออกมา ทุกคนก็ถึงกับพูดไม่ออก
จากนี้ไปทั้งหมู่บ้านจะต้องฉลองวันครบรอบแต่งงานของซาโตรุและซึนาเดะทุกวันเลยเหรอ?
ให้ทั้งหมู่บ้านจัดงานเฉลิมฉลองเนี่ยนะ?
มันจะเกินไปหน่อยแล้ว
แต่ทุกคนก็รู้กันดีว่าซาโตรุแค่ล้อเล่น เพราะเขาไม่มีความตั้งใจที่จะเป็นโฮคาเงะเลยสักนิดเดียว
“อย่าทำให้มันยุ่งยากไปหน่อยเลย” ดันโซพูด
“ถ้าอย่างงั้น ฉันแนะนำให้เลือกเด็กจิ้งจอกเป็นโฮคาเงะ เพราะเห็นเขาร้องอยากเป็นโฮคาเงะทุกวัน” ซาโตรุล้อเล่น
“แกเห็นโฮคาเงะเป็นอะไรกัน?” ดันโซพูดออกมาด้วยความโกรธ
“ความทะเยอทะยานของคุณน่ะเป็นสิ่งที่ผมเกลียด เข้าใจใช่ไหมว่าผมหมายถึงอะไร?” รอยยิ้มของซาโตรุพลันเลือนหายไป และเขามองไปที่ดันโซอย่างไม่แยแส
เขากำลังบอกดันโซ
ถึงสิ่งที่เรียกว่าช่องว่าง
บรรยากาศในห้องกำลังตึงเครียด
"งั้นเอาฉากจบของเรื่องตลกแบบนี้แล้วกัน ผมขอเสนอชายชราเจ้าเล่ห์และขี้โกงผู้นี้ให้เป็นโฮคาเงะ" ซาโตรุยิ้มแล้วชี้ไปที่จิไรยะ
โคฮารุมองไปที่จิไรยะ แล้วพยักหน้าเล็กน้อยพร้อมกับพูดว่า "เขาเป็นหนึ่งในซังนิน มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะเป็นโฮคาเงะมากที่สุดแล้ว"
เธอไม่มีใครในใจเป็นพิเศษ เธอแค่อยากเลือกโฮคาเงะที่ดีที่สามารถปกป้องหมู่บ้านได้
ซึ่งดันโซนั้นไม่คู่ควรเกินไป
เขาพลาดตำแหน่งโฮคาเงะไปครั้งหนึ่งเพราะความอ่อนแอ ทว่าเขากลับมีความทะเยอทะยานที่ต้องการเป็นโฮคาเงะมากที่สุด
แต่ถึงกระนั้น เขาก็ต้องการปกป้องหมู่บ้านเหมือนฮิรุเซ็น
“ไม่เอาหรอก ฉันเหมาะที่จะสืบข่าวกรองมากกว่าเป็นโฮคาเงะ” จิไรยะเอามือแตะที่คางแล้วพูดอย่างจริงจังว่า “แต่ฉันมีคนที่เหมาะสมอยู่ในใจอยู่นะ”
ทุกคนในตอนนี้ต่างก็สงสัยว่ามีคนที่เหมาะสมอีกเหรอ?
ใครสามารถเป็นโฮคาเงะได้ดีกว่าซาโตรุ ดันโซ จิไรยะกัน?
“ซึนาเดะ เธอเป็นหนึ่งในซังนินกับฉันด้วย เธอเป็นหลานสาวของโฮคาเงะรุ่นที่ 1 และเป็นหนึ่งในวีรสตรีที่มีชื่อเสียงที่สุดของหมู่บ้าน ไม่มีใครเหมาะสมกับตำแหน่งโฮคาเงะมากไปกว่านี้แล้ว” จิไรยะพูดออกมาอย่างจริงจัง
ซึนาเดะคือบุคคลที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตำแหน่งโฮคาเงะ เพราะซึนาเดะมีพลังมากและได้รับความนิยมพอสมควรในหมู่บ้าน
ซาโตรุรีบกล่าวออกมาทันที "ผมขอคัดค้าน"
เขาวางแผนที่จะเดินทางรอบโลกกับซึนาเดะหลังจากฝึกฝนทีมที่เจ็ดเสร็จสิ้น ถ้าซึนาเดะเป็นโฮคาเงะ แผนจะล่มแน่นอน
“เจ้าหนู อย่าเพิ่งรีบคัดค้านสิ ลองคิดดูก่อน” จิไรยะเอาแขนโอบซาโตรุแล้วกระซิบข้างหู “นายจะอยู่ในหมู่บ้านเพราะต้องสอนทีมที่เจ็ดไปอีกนานเลยนะ”
“และถ้าซึนาเดะเป็นโฮคาเงะ นายก็จะได้เจอเธอทุกวัน”
จิไรยะกระซิบว่า “ในฐานะพี่ชาย นี้คือความช่วยเหลือที่ฉันมอบให้นายได้”
ซาโตรุจับหน้าจิไรยะแล้วพูดเบาๆ “ตาแก่ขี้โกง เป้าหมายก็คือใช้ซึนะจังเป็นตัวล่อให้ฉันอยู่ในหมู่บ้านใช่ไหม?”
“ฉันถูกจับได้แล้วเหรอเนี่ย? ฮ่าฮ่าฮ่า นายฉลาดเกินไปแล้ว” จิไรยะเกาศีรษะด้วยความเขินและหัวเราะเสียงดังออกมา
ความแข็งแกร่งและความนิยมของซึนาเดะเหมาะกับตำแหน่งโฮคาเงะมากเป็นที่สุด และที่สำคัญที่สุดคือซาโตรุหลงรักซึนาเดะ
คนที่ไร้เทียมทานผู้นี้ไม่ใช่คนที่จะรักผู้หญิงคนไหนง่ายๆ
หากซึนาเดะเป็นโฮคาเงะ ซาโตรุก็จะอยู่ในหมู่บ้านตลอดไป
เรียกได้ว่าคล้ายกับยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
แต่เขาไม่คิดเลยว่าซาโตรุจะเข้าใจแผนของเขาในทันที
ซาโตรุฉลาดเกินไป ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่เช่นกัน
ซาโตรุดูดอมยิ้มแล้วพูดด้วยรอยยิ้มบางเบา “ตาแก่จอมตัณหา อย่าเข้าใจผมผิดไปล่ะ หากผมคิดจะทำอะไรบางอย่าง กระทั่งซึนะจังก็รั้งผมไว้ไม่ได้หรอก”
เขานั้นมักจะทำสิ่งที่เขาต้องการเสมอ
แม้ว่าซึนาเดะคือสิ่งสำคัญที่สุดของเขา แต่เธอไม่ใช่คนที่จะสามารถขัดขวางการตัดสินใจของเขาได้อย่างแน่นอน
หลังจากคิดอยู่พักหนึ่ง ซาโตรุก็พูดว่า "แต่มันก็เป็นเรื่องดีจริงๆ เหมือนกันที่จะได้เห็นซึนะจังคนน่ารักในทุกๆ วัน ผมเห็นด้วยที่จะให้ซึนะจังเป็นโฮคาเงะ"
หลังจากสอนทีมที่เจ็ดเสร็จแล้ว เขาจะก็หนีไปพร้อมกับซึนาเดะซะ
แต่ว่าการได้เจอซึนาเดะทุกวัน มันก็ช่างเป็นเรื่องที่ดีจริงๆ
"น่ารักเหรอ…?" ปากของจิไรยะถึงกับกระตุก
หลายครั้งก่อนหน้านี้ เขาเกือบถูกซึนาเดะทุบตีจนเกือบจะตาย
ซาโตรุเรียกซึนาเดะที่มีนิสัยแบบนั้นว่าน่ารักจริงเหรอ?
นายกินยาไม่เขย่าขวดหรือเปล่า?
โคฮารุถามด้วยความสงสัย “เป็นไปได้เหรอที่ซึนาเดะจะรับหน้าที่เป็นโฮคาเงะ ไม่สิ คำถามคือซึนาเดะตอนนี้อยู่ที่ไหนต่างหาก?”
“ไม่เป็นไร ผมรู้ว่าซึนะจังอยู่ที่ไหน” ซาโตรุโบกมือของเขา
"ถ้าอย่างนั้นก็ตัดสินใจได้แล้ว" โฮมูระกล่าว
“อย่าตัดสินโง่ๆ นะ ผู้หญิงคนนั้น ซึนาเดะน่ะ…” ใบหน้าของดันโซกลับกลายเป็นน่าเกลียด
*ปัง*
แขนขวาของดันโซกระเด็นลอยออกไป และเลือดสีแดงก็ไหลลงมาที่พื้น
สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ทำให้ทุกคนตกตะลึง
"ขอโทษ ขอโทษที พอดีเห็นว่ามียุงเกาะ" ซาโตรุสะบัดมือเขาพร้อมด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า มียุงตัวหนึ่งถูกตบจนตายบนฝ่ามือของเขาจริงๆ
"ไอ้สารเลว!" สีผิวของดันโซเริ่มเปลี่ยนไป เขาจับแขนขวาที่ขาดของเขาพร้อมกับจ้องมองไปที่ซาโตรุ
“ผมกลัวว่ายุงจะดูดเลือดคุณจนตาย ไม่จำเป็นต้องขอบคุณผมหรอกนะ ยังไงซะผมเคารพคนแก่และรักเด็กอยู่แล้ว”
ซาโตรุเดินไปหาดันโซแล้วกระซิบข้างหูว่า "อย่าคิดสร้างปัญหาให้ซึนะจัง ไม่งั้นผมนี้แหละจะเป็นคนที่ฆ่าคุณเอง"
"ฮึ่ม!" ดันโซมองซาโตรุด้วยสายตาที่ดุร้าย เขาหยิบแขนขวาที่ขาดขึ้นมาและออกจากห้องทำงานของโฮคาเงะอย่างรวดเร็ว
รอฉันก่อนเถอะ
อีกไม่นานแกจะต้องถูกฉันบดขยี้แน่
“ซา…เฮ้อ” โคฮารุถอนหายใจ เธอกำลังจะเรียกซาโตรุ แต่เนื่องจากเห็นการกระทำของซาโตรุ คำพูดทั้งหมดจึงหยุดลงกะทันหัน
“แค่นั้นแหละ ตัดสินใจกันได้แล้วสินะ งั้นผมขอตัว” ซาโตรุประสานอินแล้วหายตัวไป
“ซาโตรุนี้จริงๆ เลย ทำอะไรก็ไม่คิดตลอด” ชิคาคุบีบหน้าผากด้วยท่าทางปวดหัว
ซาโตรุนั้นทำทุกอย่างตามที่เขาต้องการ
เขาเป็นเหมือนเด็กเอาแต่ใจ เป็นคนไม่มีกฎ ไม่มีระเบียบ แต่เขาแข็งแกร่งมาก
และสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น ทุกคนไม่อาจว่ากล่าวอะไรซาโตรุได้
“ครั้งนี้เป็นความผิดของดันโซ” จิไรยะมองดูผู้เฒ่าทั้งสองแล้วพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “ผู้เฒ่าทั้งสองด้วย โปรดจำไว้เสมอ อย่าพูดถึงซึนาเดะต่อหน้าซาโตรุอีก”
ไม่ว่าความผิดของซึนาเดะจะเป็นเช่นไร แม้ว่าจะเป็นอาชญากรรมที่เลวร้ายก็ตาม แต่ซาโตรุพร้อมจะยืนเคียงข้างซึนาเดะ
เขาพร้อมที่จะปกป้องเธอตราบชั่วฟ้าดินสลาย