ตอนที่แล้วตอนที่ 2 ภารกิจแรก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 4 ภารกิจแรกสำเร็จ

ตอนที่ 3 ดยุกแห่งเมดีซี


ออสบอร์นวิ่งต่อไปเขาไม่ได้หยุดเพื่อหันกลับไปดูด้านหลัง

เด็กชายบนหลังของเขาสลบไปแล้ว ลมหายใจของเด็กน้อยกำลังอ่อนลง

พ่อมดเฒ่าหยิบเอาใบไม้กำมือหนึ่งออกมาจากถุงผ้าและใช้มันอุดปากแผลทั้งสองด้านของเด็กชายเอาไว้ ก่อนหน้านี้เขารีบเกินไปจนไม่มีเวลาดูแลบาดแผล แต่เมื่อดูจากสภาพของหนูน้อยแล้วมันไม่อาจรอได้อีกต่อไป

แน่นอนว่าการกระทำนี้ทำให้เขาวิ่งช้าลง

เมื่อพ่อมดเฒ่าแน่ใจว่าเข้ามาใกล้บริเวณของกระท่อมแล้วเขาก็ตะโกนขึ้นทันที

"นิค!"

เมื่อสิ้นเสียงของเขา เสียงคำรามของหมีก็ดังขึ้นทั่วป่าบริเวณนี้ พักเดียวหมีสีน้ำตาลตัวใหญ่สูงกว่าห้าเมตรก็เดินออกมาจากหมอกสีขาว

มันชื่อ"นิค"เป็นหมีที่ถูกปลุกสติปัญญาเมื่อนานมาแล้ว

"นายพาเด็กคนนี้เข้าไปที่กระท่อม เรียกออกัสให้มาดูแลเขา อย่าลืมให้เขาดื่มน้ำจากบ่อน้ำด้วย"

ออสบอร์นสั่งหมีตัวนั้นเหมือนกับว่ามันเป็นคนๆหนึ่ง

หมีที่ชื่อนิคยื่นแขนอันใหญ่โตของมันมารับเด็กชายเอาไว้ ตัวของเด็กไม่อาจเทียบได้กับแขนข้างหนึ่งของมันด้วยซ้ำ

ออสบอร์นมองหมีนิคเดินหายเข้าไปในหมอก เขาไม่คิดจะให้มันมาต่อสู้กับนักรบเหนือมนุษย์เพราะมันจะตายภายในสามลมหายใจ

ส่วนตัวเขานะหรือ เขาเป็นพ่อมด และเมื่อพ่อมดเตรียมพร้อมพวกเขาสามารถทำอะไรได้มากมาย

ในขณะนั้นเอง ทันทีที่เสียงของออสบอร์นดังขึ้นไล่เลี่ยกับเสียงคำรามของหมี ในทางของกลุ่มทหารสามสิบนายก็รู้ทิศทางที่แน่ชัดของคนที่พวกมันตามหา

"ท่านดยุก มีเสียงมาจากทางนั้นเป็นทางเดียวกับที่ทหารนายหนึ่งเห็นคนวิ่งหนีไป พวกมันมีสองคน"

นายทหารวัยกลางคนชี้ไปทางทิศตะวันออก ชายที่ถูกเรียกว่าดยุกมองตามทิศทางนั้นไป ประสามสัมผัสของเขาตื่นตัวมากและมันตอกย้ำว่านายทหารคนนี้ไม่ได้โกหก

"เรียกทหารทั้งหมดกลับมา เราจะค้นหาทางนั้น เตรียมให้พร้อมสำหรับการต่อสู้ ลอร์ดน้อยของเราอาจมีกองกำลังซ่อนไว้ที่นี่"

ดยุกแห่งเมดีซีควบม้าไปทางทิศตะวันออก กองทหารม้าด้านหลังเร่งความเร็วไปในทิศทางเดียวกับเขา

ปีนี้ดยุกมีอายุห้าสิบสี่ปีเต็ม มีจอนผมขาวที่สังเกตได้โผล่ออกมาจากหมวกอัศวิน สายตานั้นยังสดใสและเต็มไปด้วยอำนาจเผด็จการ ก่อนหน้านี้เขาออกตามล่าเด็กชายคนดังกล่าวมาหนึ่งวันหนึ่งคืนแล้ว แต่น่าเสียดายที่เด็กคนนั้นเจ้าเล่ห์เกินไป ทหารของเขาถูกหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนเขาเองเริ่มโมโห

ในคืนนี้เองดยุกจึงได้ลงมือเป็นการส่วนตัว เขาใช้ธนูยิงแขนของเด็กชายจนทะลุ ในระยะดังกล่าวเมื่อเทียบกับความสามารถระดับนักรบเหนือมนุษย์ของเขา มันควรจะสามารถปลิดชีพเด็กคนนั้นได้ทันที แต่เขาไม่อาจทำเช่นนั้นได้

เด็กชายคนนี้เป็นบุตรของเอิร์ลแห่งคอนวอร์ นายพลแห่งกองทัพรักษาเมืองประจำอาณาจักรรัสเซล เมื่ออาทิตย์ก่อนเอิร์ลแห่งคอนวอร์ถูกตัดสินว่าเป็นกบฏ ครอบครัวของเขาถูกจับกุมและรับโทษตัดสินประหารชีวิตในตอนเช้าของวันที่ผ่าน

นักโทษในครอบครัวทั้งหมดถูกประหาร แต่บุตรชายเพียงคนเดียวของเอิร์ลแห่งคอนวอร์หนีรอดไปได้

คนที่ช่วยเหลือเด็กชายในการหลบหนี ได้รับสารภาพในภายหลังว่าเขาเตรียมม้าให้ลอร์ดน้อยหนีไปทางป่าต้องห้าม เดินทางไปสุดทิศตะวันตก จุดหมายคือป้อมวอร์บัส สถานที่ที่ญาติของเด็กคนนั้นอาศัยอยู่

ดยุกแห่งเมดีซีในฐานะผู้ที่ดูแลเมืองมนุษย์ตรงทางเข้าป่าต้องห้ามจึงได้รับคำสั่งจากสภาแห่งรัสเซล ให้ตามจับเด็กชายคนนี้แบบเป็นๆ

มันช่างยุ่งยากจริงๆ!

"ท่านดยุกด้านหน้าเป็นหมอก เราจะเดินทางต่อไหมขอรับ"

นายทหารคนเดิมขอคำสั่งจากดยุกอีกครั้ง เขาคือนายพันเอกแห่งเมืองเมดีซี มาคัส พาร์

"ที่ตรงนี้เราเคยเดินหามารอบหนึ่งแล้ว ก่อนหน้านี้ไม่เห็นมีหมอก นี่ไม่ปกติ"

ดยุกคือชายที่ผ่านประสบการณ์มามาก เขาสังเกตได้ถึงความไม่ชอบมาพากลทันที

"บอกทหารของเราให้ระวังตัว"

ไม่ทันสิ้นคำสั่งของดยุกแห่งเมดีซี กองทหารม้าสามสิบนายก็เริ่มมีคนกรีดร้องขึ้นมาทันที

"ท่านดยุกมันแสบร้อนและคันมากนี่มันคืออะไร"

นายทหารคนที่ยังมีสติดีอยู่รีบแจ้งแก่เจ้านายของเขา ดยุกแห่งเมดีซีมองไปยังทิศทางของหมอก เขาเห็นละอองสีทองลอยออกมาเป็นระยะ ละอองดังกล่าวถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นรูปร่างของผีเสื้อสีทองลางๆ

"มันเป็นผีเสื้อพิษ ให้ทหารถอดชุดเกราะออก และใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตามร่างกายมันไม่อันตรายถึงตาย"

ดยุกรีบออกคำสั่ง ผีเสื้อพิษเป็นแมลงที่ขึ้นชื่อมากชนิดหนึ่งในป่าต้องห้าม พวกมันอยู่ลึกเข้าไปหุบเขาใกล้กับเหมืองอิกซอร์ ซึ่งมีดอกไม้หลากหลายชนิดขึ้นอยู่เต็มไปหมด

แต่บริเวณนี้เป็นตอนกลางของป่าต้องห้ามพวกมันไม่ควรมาปรากฎที่นี่

"ไม่สิ นี่ไม่ใช่ตัวผีเสื้อมันควรเป็นวิธีการพิเศษบางอย่างที่ทำให้ใช้ความสามารถของผีเสื้อพิษได้"

ดยุกแห่งเมดีซีสังเกตผีเสื้อตรงหน้าอย่างระมัดระวัง มันเป็นแค่ละอองฝอยที่รวมตัวเป็นรูปร่างของผีเสื้อเท่านั้น แต่ไม่มีผีเสื้อที่มีชีวิตอยู่เลย

กองทหารม้าเริ่มกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง แต่ทหารบางนายเสียม้าของตนเองไปในช่วงนี้ แน่นอนว่านอกจากนักรบเหนือมนุษย์อย่างดยุกแห่งเมดีซีแล้วไม่ว่าจะเป็นนายทหารหรือม้าศึกของพวกเขาไม่อาจทนความเจ็บปวดทางผิวหนังนี้ได้

ม้าบางตัวจึงเตลิดหนีไป

ออสบอร์นที่คอยฟังเสียงอยู่ด้านในหมอกเมื่อสังเกตว่าสถานการณ์ด้านนอกเริ่มสงบลงก็รู้สึกไม่ดี ปกติแล้วพวกนักรบเหนือมนุษย์จะไม่ค่อยฉลาด พวกเขาต่อสู้เป็นส่วนใหญ่และไม่มีเวลาหาความรู้ลึกซึ้งเช่นวิธีการรับมือกับผีเสื้อพิษ

ผีเสื้อพิษด้านนอกเป็นผลมาจากการนำซากของผีเสื้อพิษที่ตายหลังจากผสมพันธุ์มาบดให้ละเอียด ผ่านกรรมวิธีพิเศษบางอย่างเพื่อให้กลายเป็นผงวิเศษ ถ้าผู้ใช้ต้องการใช้มันในการต่อสู่ก็เพียงหยิบออกมาหนึ่งกำมือและท่องคาถาเฉพาะเพื่ออัญเชิญจิตวิญญาณของผีเสื้อออกมา

วิธีนี้ใช้สื่อเป็นซากของผีเสื้อพิษเองจึงไม่เปลืองพลังเวทมนต์มากนัก

แต่เขาไม่ใช่พ่อมดที่แข็งแกร่ง ก่อนหน้านี้ใช้เวทมนต์ไปถึงสามบท เมื่อเค้นพลังเฮือกสุดท้ายออกมาเพื่อร่ายคาถานี้ พลังเวทมนต์ของเขาก็หมดลงอีกครั้ง

ออสบอร์นมองไปยังหมอกที่จางลงพอสมควรหากปล่อยแบบนี้ต่อไปอีกไม่เกินสามสิบนาที มันจะถูกลมพัดไปจนหมด ตอนนั้นก็จะเหลือเพียงคาถาเขาวงกต และคาถาลวงตาที่ปกป้องกระท่อมเท่านั้น

เขาไม่แน่ใจว่านักรบเหนือมนุษย์ด้านนอกจะมีอำนาจด้านพลังจิตที่แข็งแกร่งหรือไม่ หากหมอกจางลงหมดผู้ที่มีอำนาจพลังจิตที่แข็งแกร่งก็จะสามารถหาทางหลุดจากเขาวงกตและคาถาลวงตาได้

ท้ายที่สุดแล้วมันเป็นคาถาระดับต่ำเท่านั้น

"ฉันยังอ่อนแอเกินไป"

ออสบอร์นถอนหายใจเบาๆ

ในตอนนั้นเองเขาก็รู้สึกถึงฝีเท้าของสัตว์จำนวนมาก พวกมันเคลื่อนที่เป็นฝูงและกำลังตรงมาทางด้านนี้

"นั่นหมาป่า ฝูงหมาป่านับร้อยตัว"

เสียงของนายทหารที่อยู่ริมสุดของกองทหารม้าร้องเตือนขึ้น

ดยุกแห่งเมดีซีสัมผัสถึงฝูงหมาป่าได้เช่นกัน เขามองไปทางทิศใต้ที่มีสายตาของหมาป่าหลายร้อยคู่กำลังมองมาทางนี้

นี่มันแปลกอีกแล้ว?

หมาป่าพวกนี้ควรอยู่ทางใต้ของป่าต้องห้ามเช่นกัน พวกมันไม่ควรเคลื่อนย้ายฝูงขนาดใหญ่มาทางทิศเหนือมากขนาดนี้

ในตอนนั้นเองดยุกแห่งเมดีซีก็ได้สติ นี่ไม่ใช่เวลามาสงสัยเรื่องนี้ ตอนนี้ทหารของเขาไม่พร้อมที่จะต่อสู้

ดยุกผู้องอาจมองไปยังด้านหน้าของฝูงหมาป่า ตรงนั้นมีหมาป่าสีเทาตัวเท่าแม่วัวยืนอยู่อย่างสง่างาม แผงคอของมันฟูฟ่องปลิวไสวไปกับสายลม

เขารู้ทันทีว่ามันเป็นจ่าฝูง และมันถูกปลุกสติปัญญาแล้ว

"เราไม่ต้องการต่อสู้หากพวกนายไม่ลงมือ ฉันจะออกไปทันที"

ดยุกแห่งเมดีซีพูดกับหมาป่าจ่าฝูงตัวนั้น ประสานสายตากันและกัน

หมาป่าจ่าฝูงรู้ว่ามันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลย มนุษย์ตรงหน้าปล่อยพลังกดขี่ที่น่ากลัวออกมาอย่างชัดเจน แต่ถ้ามันเดิมพันด้วยหมาป่าทั้งฝูงสามร้อยชีวิต มันก็เชื่อว่าสามารถสังหารเขาลงได้

แต่มันไม่คุ้มกัน

ดยุกแห่งเมดีซีก็เข้าใจในจุดนี้เช่นกัน เขาอาจเอาชนะจ่าฝูงหมาป่านี้ได้ แต่ลูกน้องของเขาทั้งหมดจะไม่มีใครรอดชีวิต

นี่เป็นศึกที่ไม่มีประโยชน์

ทายาทของเอิร์ลกบฏสามารถปล่อยให้หนีไปได้ แต่เขาจะไม่ละทิ้งชีวิตของลูกน้องเหมือนผักปลา ท้ายที่สุดแล้วนี่เป็นสงครามการเมืองภายในเมืองหลวงแห่งอาณาจักรรัสเซล ไม่เกี่ยวกับดยุกบ้านนอกเช่นเขา

"ทหารทุกนาย ค่อยๆถอยออกไป เราจะยกเลิกภารกิจนี้และกลับไปค้นหาในเส้นทางหลักแทน ลอร์ดน้อยต้องใช้เส้นทางนั้นเพื่อไปยังป้อมวอร์บัส"

กองทหารม้าค่อยๆบังคับม้าให้ถอยออกไปทางทิศเหนือเพื่อใช้ทางหลักที่ตัดผ่านป่าต้องห้าม ในขั้นตอนนี้ม้าบางตัวที่ฝึกมาไม่ดีหรือทหารบังคับม้าไม่มีประสบการณ์เพียงพอ ก็ไม่สามารถบังคับม้าที่ตื่นกลัวหมาป่าเอาไว้ได้

ในตอนท้ายเมื่อพวกเขาถอยออกมาจนไกลแล้ว กองทหารม้าแห่งเมดีซีก็เหลือม้าเพียงสิบห้าตัวสำหรับทหารม้าสามสิบนายเท่านั้น

0 0 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด