ตอนที่ 11 ผู้สำเร็จราชการแห่งอิกซอร์
ตลอดเส้นทางของเหมือง ออสบอร์นแทบไม่เห็นทหารออร์คเลย แต่ถ้าเจอพวกมันที่ไหนพ่อมดเฒ่าก็จะแอบย่องไปสังหารพวกมันทันทีก่อนที่พวกมันจะไหวตัวทัน
ด้านหน้ามีกอแท็บและกอดิมดูลินนำทางอยู่พวกเขาไม่ต้องกังวลกับเส้นทางที่วกวน ออสบอร์นจึงรับอาสาเป็นคนปิดท้ายขบวน ช่วยไม่ได้เขาต้องแน่ใจว่าพวกคนแคระต้องปลอดภัย และรอดชีวิตเกินแปดสิบเปอร์เซ็นต์
ออสบอร์นกับพวกคนแคระเดินทางมาจนถึงทางเชื่อมสุดท้ายที่ทะลุไปสู่ป่าต้องห้าม และสิ่งที่เขากังวลที่สุดก็เกิดขึ้น
ออร์คระดับเหนือมนุษย์!
และยังมีถึงสามตัว โชคดีที่ตัวที่ทรงพลังที่สุดไม่ได้อยู่ที่นี่
ออสบอร์นกับกอดิมดูลินพยักหน้าให้กันทันที พวกเขาวางแผนสำหรับเหตุการณ์นี้ไว้แล้ว
พ่อมดเฒ่าเดินไปใกล้ออร์คระดับเหนือมนุษย์ทั้งสามและร่ายคาถาผู้ส่งสารแห่งเทลเพริออนทันที ทันใดนั้นจิตรสัมผัสของออร์คระดับเหนือมนุษย์ก็ถูกจำกัดไว้ในวงแคบๆ พวกมันไม่อาจทะลุแสงที่มีสถานะพิเศษเช่นนี้ไปได้
"พวกมันอยู่นี่ฆ่าให้หมด!"
ออร์คระดับเหนือมนุษย์ตนแรกรีบกระโจนเข้าหาออสบอร์น แสงแห่งเทลเพริออนทำให้พวกมันอ่อนแอลงก็จริงแต่ไม่อาจสังหารพวกมันได้
เมื่อเห็นว่าคาถาระดับกลางนี้ไม่ได้ผลเท่าที่ควร ออสบรอ์นก็ร่ายคาถาอัญเชิญโกเลมดิน
ออร์คระดับเหนือมนุษย์ตนแรกถูกหมัดของโกเลมดินซัดเข้าอย่างจัง แสงที่สว่างจ้าเช่นนี้ทำให้ออร์คมองไม่เห็น จิตรสัมผัสถูกจำกัดไว้แต่ไม่มีผลกับโกเลมที่ไม่มีตาอยู่แล้ว
ออร์คเหนือมนุษย์อีกสองตัววิ่งออกมาจากทางเดินเพื่อช่วยเพื่อนของมันที่ถูกโกเลมดินซัดกลับมา
ออสบอร์นเห็นดังนั้นจึงให้สัญญาณกับกอดิมดูลินที่หลบอยู่ด้านหลัง กอดิมดูลิมรีบพาพวกคนแคระวิ่งออกไปที่ทางเดินทันที
พ่อมดเฒ่าเป็นตัวล่อ เขาจะถ่วงเวลาพวกออร์คทั้งสามตัวเอาไว้
ตอนนี้เมล็ดถั่วหมดแล้ว ออสบอร์นไม่สามารถใช้คาถาผู้ใช้พฤกษาได้อีก เขาได้แต่ฝากความหวังไว้กับโกเลมดินเท่านั้น ผลของผู้ส่งสารแห่งเทลเพริออนยังคงอยู่ไปอีกสิบนาทีซึ่งเพียงพอให้พวกคนแคระหลบหนี
ออร์คเหนือมนุษย์สองตัวใช้ดาบของพวกมันฟันลงที่ออสบอร์น ดาบเล่มแรกเฉียดผ่านไหล่ขวาของเขาไปได้ แต่ดาบเล่มที่สองกลับฟันโดนหน้าอกของเขา โชคดีที่เรียกใช้คาถาโล่แห่งแสงระดับกลางได้ทัน ทำให้ออร์คพวกนั้นต้องถอยหลังไป
สามระดับเหนือมนุษย์กลับมารวมกันอีกครั้ง พวกมันระเบิดพลังระดับเหนือมนุษย์ออกมาพร้อมกัน โกเลมดินที่อยู่ด้านหน้าใช้พลังทั้งหมดของมันต้านทานเอาไว้
เงาดาบที่เกิดจากพลังระดับเหนือมนุษย์ถูกปล่อยออกมาซ้อนกันถึงสามเล่ม ฟันลงไปที่โกเลมดินจนแตกระจาย พ่ายแพ้ในหนึ่งนาที!
ออร์คสามตัววิ่งผ่านซากของโกเลมดิน ตรงเข้าหาออสบอร์นพร้อมกัน โล่แห่งแสงกันดาบสามเล่มเอาไว้ได้แต่เมื่อพวกมันถ่ายเทพลังพร้อมกันสามตัวโล่ก็เริ่มสั่น จนผ่านไปสามลมหายใจโล่แห่งแสงระดับกลางก็แตกกระจาย
ออสบอร์นรีบกลิ้งตัวหลบไปด้านหลัง แต่ออร์คตัวแรกไม่ให้เขาทำเช่นนั้น มันอ้อมไปด้านข้างของออสบอร์นและฟันดาบใส่สีข้างด้านซ้ายของเขา
เสื้อคลุมพ่อมดสีเงินส่องแสงเรืองๆออกมากำจัดผลกระทบแห่งความชั่วร้ายของดาบไปกว่าครึ่งก่อนที่ดาบจะสัมผัสกับเสื้อคลุมจนขาดเป็นทาง เลือดสีแดงสดไหลออกมาย้อมเสื้อคลุมสีเงินจนกลายเป็นสีดำ
นี่เป็นครั้งแรกที่พ่อมดเฒ่าได้รับบาดเจ็บ
"ให้ตายเถอะ!"
ออสบอร์นสบถออกมา ระดับเหนือมนุษย์สามคนตึงมือเขาเกินไปจริงๆ
"ท่านพ่อมดข้ามาช่วยแล้ว"
เสียงกอดิมดูลินดังขึ้นหน้าประตูเหมือง เขานำคนแคระผู้ชายสิบกว่าคนมาด้วย พวกเขารีบตรงมาช่วยออสบอร์นทันทีเมื่อพาคนแคระที่เหลือหนีออกไปนอกเหมืองได้แล้ว
"ถอยไปซะ!"
ออสบอร์นรีบลุกขึ้นและร่ายคาถาม่านพลังป้องกันสามชั้นซ้อนกันเบื้องหน้าพวกเขา คาถาโล่แห่งแสงไม่สามารถใช้ได้แล้ว มันกำลังติดคูลดาวน์หนึ่งชั่วโมง เขาเหลือเพียงคาถาม่านพลังระดับต่ำเท่านั้น
กอแท็บรีบเข้ามาพยุงออสบอร์นออกไป คาถาม่านพลังสามอันที่รับการโจมตีจากออร์คระดับเหนือมนุษย์สามตัวยืนหยัดได้เพียงห้าวินาทีก็สลายไปอย่างรวดเร็ว
กอดิมดูลินพาคนแคระที่เหลือบุกเข้าไปสกัดพวกออร์คไว้
"ท่านพ่อมด ข้าไม่เหลืออะไรแล้วบ้านของข้าถูกพวกออร์คยึด ลูกเมียข้าตายอยู่ในเหมือง ขอให้ข้าใช้ชีวิตช่วงสุดท้ายนี้เอาคืนพวกมันหน่อยเถอะ กอแท็บรีบพาพ่อมดออกไป!"
กอดิมดูลินใช้ทักษะเผาผลาญพลังชีวิตทำให้เขาที่มีร่างกายของครึ่งก้าวระดับเหนือมนุษย์ทะลุขีดจำกัดไปยังระดับเหนือมนุษย์ในเวลาสั้นๆ ออสบอร์นร้องไห้ออกมา เขาไม่เคยร้องไห้เลยนับแต่ข้ามมายังโลกนี้
กอแท็บพยุงพ่อมดเฒ่าออกมานอกวงต่อสู้ ในขณะที่เลือดของเขายังคงไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง บาดแผลลึกมากเกินไปเขาต้องรีบรักษาทันที แต่ขณะเดียวกันก็หักใจทิ้งกอดิมดูลินและคนแคระที่เหลือไปไม่ได้
"ไปซะท่านพ่อมด! ถ้าท่านอยากแก้แค้นให้ข้า เมื่อโอกาสในอนาคตมาถึงได้โปรดขับไล่พวกมันออกไปจากบ้านของเราด้วย คนแคระทุกคนสู้ตาย!"
กอดิมดูลินชูดาบขึ้นและพุ่งเข้าเผชิญหน้ากับสามออร์คระดับเหนือมนุษย์อีกครั้ัง ทั้งที่ทั่วตัวของเขาไม่มีตรงไหนอยู่ในสภาพดีเลย ออสบอร์นไม่ดื้อดึงอีกเขาไม่สามารถช่วยอะไรได้แล้ว
กอแท็บที่เห็นดังนั้นก็พูดขึ้น
"ไปเถอะท่านพ่อมด ท่านผู้สำเร็จราชการไม่อาจยืนหยัดได้นานกว่านี้ เราไม่อาจทำให้การเสียสละของเขาเสียเปล่า"
ออสบอร์นรีบยันตัวลุกขึ้นและเดินคู่ไปกับกอแท็บจนพ้นประตูเหมืองออกไป
ด้านอกตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงวัน พ่อมดเฒ่าคำนวนเวลาที่พระอาทิตย์จะร้อนแรงที่สุดให้ตรงกับเวลาหลบหนี เพื่อให้พวกออร์คไม่สามารถตามพวกเขาออกมาได้
เมื่อมองลงไปที่ป่าต้องห้าม ก็พบฝูงชนที่กำลังรอพวกเขาอยู่ คนเหล่านี้คือคนแคระที่เหลืออีกเก้าสิบกว่าชีวิต
"เราไม่อาจประมาทได้ บอกให้พวกเขารีบเดินทาง"
ออสบอร์นกัดฟันพูด
"แต่แผลของท่าน..."
"ไม่มีแต่ เราไม่มั่นใจว่าพวกมันมีวิธีการพิเศษอะไรเพื่อรับมือกับแสงอาทิตย์หรือเปล่า เราต้องรีบเดินทาง"
ตามที่ออสบอร์นเข้าใจ พวกออร์คที่มีระดับสูงเท่าไหร่ก็ยิ่งมีความต้านทานต่อแสงอาทิตย์มากเท่านั้น
กอแท็บรีบพาออสบอร์นลงมาสมทบกับคนแคระที่เหลือและออกเดินทางทันที หมีสีน้ำตาลนิคถูกออสบอร์นเรียกมาได้สักพักแล้วตอนนี้มันกำลังอุ้มพ่อมดเฒ่าเอาไว้ เขาใช้สมุนไพรสมานแผลง่ายๆและดื่มน้ำพุวิเศษที่เหลืออยู่ลงไป
ก่อนหน้านี้เพื่อรักษาคนแคระที่ได้รับบาดเจ็บบางคน ออสบอร์นได้ใช้น้ำพุวิเศษของเขาไปเยอะมาก
เมื่อพวกเขาเดินทางออกมาได้เกือบครึ่งชั่วโมง ก็ได้ยินเสียงคำรวมดังลั่นไปทั่วหุบเขา
"พ่อมด ข้าจะตามล่าเจ้า!"
มันเป็นเสียงของโอด็อต ก่อนหน้านี้มันที่ได้รับรายงานจากออร์คเหนือมนุษย์ตนอื่นจึงได้รีบเดินทางมาด้านหลังเหมือง แต่มันก็มาช้าไป จากสิ่งที่ออร์คตนอื่นเล่ามาพวกคนแคระเรียกชายชราชุดสีเงินคนนั้นว่าพ่อมด
ในความทรงจำของมันพ่อมดเป็นพวกอ่อนแอแต่มีพลังแปลกประหลาด ที่บอกว่าอ่อนแอก็เพราะว่ามันเคยต่อสู้กับพ่อมดมาก่อน
โอด็อตเป็นออร์คในรุ่นที่สามซึ่งมาอายุกว่าหกร้อยปี ในตอนที่มันฝ่าทะลุไปยังระดับเหนือมนุษย์เมื่อสี่ร้อยปีก่อน มันได้พบกับพ่อมดคนหนึ่งและโอด็อตก็ลงมือสังหารเขาอย่างโหดเหี้ยมก่อนจะนำร่างของพ่อมดคนนั้นมากิน
เนื้อของพ่อมดทำให้มันไม่มีวันลืม เพราะว่ามันมีรสชาติที่ดีและเปี่ยมไปด้วยพลังมหาศาล
ออสบอร์นมองผ่านกิ่งไม้ใบไม้ออกไปสายตาที่ดีของพ่อมดทำให้เขาเห็นโอด็อตยืนอยู่ตรงทางเข้าของเหมือง ข้างๆร่างของมันมีศพของคนแคระสิบกว่าศพถูกเสียบทะเลุตรึงไว้กับพื้นดิน
มันคือร่างของกอดิมดูลินและคนแคระที่มาช่วยเขาเอาไว้
พ่อมดเฒ่าตั้งปฏิญาณไว้ภายในใจว่าเมื่อวันใดที่เขาแข็งแกร่งขึ้น เขาจะกวาดล้างพวกออร์คในเหมืองอิกซอร์ทั้งหมด และตัดหัวออร์คระดับเหนือมนุษย์ห้าตัวนั้นมาเซ่นสังเวยให้กับคนแคระทุกคนที่เสียชีวิตในวันนี้
ปีปฏิทินมิวอล์สต็อกที่ 1404 แห่งเหล่าคนแคระ อาณานิคมอิกซอร์ล่มสลาย กอดิมดูลิน บุตรแห่งเจ้าขุนเขาลำดับที่ ๘๗ ขุนนางผู้สำเร็จราชการแห่งอิกซอร์พร้อมด้วยครอบครัว และพลเมืองหนึ่งพันห้าร้อยชีวิตพลีชีพในสงคราม