ตอนที่แล้วตอนที่ 9 ชุดเซ็ทพ่อมดสีเงิน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 11 ผู้สำเร็จราชการแห่งอิกซอร์

ตอนที่ 10 มุขมนตรีแห่งวอร์ล็อค


ไกลออกไปสุดขอบทิศตะวันตกของมหาทวีป วอร์ล็อคเคอราชอฟฟ์ หนึ่งในสามสิบเก้ามุขมนตรีแห่งวอร์ล็อค กำลังใช้มีดสีเงินกรีดลงไปในร่างของเด็กชายผมสีทองคนหนึ่ีง

ร่างกายของเด็กชายผอมแห้งเหมืองกิ่งไม้ ดวงตาไร้แววเหมือนตรอมใจกับชีวิต

ในขณะที่มีดกรีดลงไปในเนื้อสด เด็กชายยังคงรู้สึกตัวอยู่ ความเจ็บปวดนั้นไม่มีอะไรจะเทียบได้ แต่เขาไม่อาจต่อต้าน

"ใกล้แล้วสินะ"

แววตาหลงไหลประหนึ่งมองสิ่งของที่ตนชื่นชอบปรากฎออกมาจากวอร์ล็อคเคอราชอฟฟ์ เขากำลังทำการทดลองปลูกถ่ายอวัยวะของออร์คใส่ลงไปในตัวมนุษย์

มันเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญของวอร์ล็อคทั้งหมด นั่นคือการค้นหาวิธีกำจัดข้อด้อยร้ายแรงต่างๆของเผ่าพันธุ์ออร์ค ไม่ว่าจะเป็นสติปัญญาที่ไม่ได้มาตรฐาน อารมณ์รุนแรง และการกลัวแสง

หากพวกเขาทำสำเร็จ เผ่าพันธุ์ออร์คจะผงาดขึ้นอีกครั้ง

แต่ในตอนนั้นเองวอร์ล็อคเคอราชอฟฟ์ก็รู้สึกได้ว่าภายในจิตรใจของเขามีเสียงกรีดร้องด้วยความหวาดกลัวอย่างที่สุด เสียงกรีดร้องดังอยู่เกือบนาทีก่อนจะหายไป เขารู้ได้ทันทีว่าสัตว์เลี้ยงของเขาตายแล้ว หนอนยักษ์ดึกดำบรรพ์ตายแล้ว!

"ม่ายยยยยยยยย!"

วอร์ล็อคเคอราชอฟฟ์ตะโกนขึ้นสุดเสียงจนหอคอยทั้งหลังสั่นสะเทือน

เขาไม่ได้สนใจการทดลองตรงหน้าอีกต่อไป แต่รีบตรงไปยังหมู่หอคอยใจกลางอาณาจักรวอร์ล็อค มันเป็นหอคอยที่สูงที่สุดในอาณาจักร

สภาแห่งซิน!

วอร์ล็อคเคอราชอฟฟ์พุ่งออกไปทางหน้าต่างกลายเป็นควันสีดำทิ้งร่องรอยไปตลอดทาง เพียงแค่สามลมหายใจเขาก็มาถึงยังชั้นที่สูงที่สุดของสภาแห่งซิน

"ใจเย็นก่อนเคอราชอฟฟ์"

เสียงที่แก่ชราดังมาจากในห้องที่เคอราชอฟฟ์กำลังบุกเข้าไป ขณะเดียวกันพลังเวทย์อันทรงพลังก็เข้าห่อหุ้มเคอราชอฟฟ์เอาไว้ ทำให้คนที่กำลังโมโหถูกหยุดนิ่งไว้หน้าประตูเช่นนั้น

วอร์ล็อคเคอราชอฟฟ์ดิ้นรนจนหลุดออกจากพลังที่ห่อหุ้มตนเองอยู่ ก่อนจะกลับมาเป็นสถานะรูปร่างมนุษย์อีกครั้งและผลักประตูห้องตรงหน้าเข้าไป

"ท่านต้องให้คำอธิบายแก่ข้ามอร์เทรียส สัตว์เลี้ยงของข้าตายแล้ว!"

เคอราชอฟฟ์ใช้น้ำเสียงรุนแรงพูดกับชายชราที่นั่งอยู่คนเดียวในห้อง

ชายชราคนนี้ใส่ชุดสีขาวสะอาด ผมสีดอกเลาเหยียดตรงถึงกลางหลัง หนวดและเคราถูกตัดแต่งไว้อย่างดี

เขาหมือนนักวิชาการผู้คงแก่เรียนมากกกว่าวอร์ล็อค

มอร์เทรียสเงยหน้าขึ้นจากหนังสือที่กำลังอ่าน ก่อนนั้นเขาคิดในใจว่าทำไมคนผู้นี้ถึงไม่ยอมไว้หน้าเขาบ้างกลับใช้กำลังบุกเข้ามา ที่แท้สัตว์เลี้ยงของเขาก็ตายแล้วนี่เอง ก็เหมาะสมอยู่ การเพาะเลี้ยงหนอนยักษ์ต้องใช้ทรัพยากรมหาศาล

"นั่งลงก่อนเถอะเคอราชอฟฟ์ สภาจะชดเชยให้เจ้าอย่างแน่นอน"

มอร์เทรียสมีอำนาจที่จะพูดเช่นนี้เพราะเขาคือประธานของสามสิบเก้ามุขมนตรีแห่งวอร์ล็อค ผู้นำสูงสุดของสภาแห่งซิน

"ถ้าต่ำกว่าหนึ่งล้านเหรียญทองก็ไม่ต้องมาคุยกับข้า"

เคอราชอฟฟ์ยังคงใช้น้ำเสียงดุดัน เงินจำนวนนี้อาจชดเชยทรัพยากรที่เขาเสียไปได้ แต่ไม่อาจชดเชยเวลาที่เขาทุ่มเทไปเพื่อหนอนยักษ์ตัวนั้น

เหรียญทองเป็นสกุลเงินที่ใช้กันทั่วไปในมหาทวีป หนึ่งเหรียญทองในอาณาจักรวอร์ล็อคซื้อทาสมนุษย์ธรรมดาได้หนึ่งคน

แต่ถ้าเป็นทาสเด็กชายอาจใช้ถึงสองเหรียญทอง และจะแพงขึ้นไปตามคุณภาพของร่างกาย

"ตกลง แต่เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อไหร่ ฉันยังไม่ได้รับการรายงานจากพวกออร์ค"

มอร์เทรียสใช้พลังเวทย์เรียกเก้าอี้จากมุมห้องมาไว้ใกล้ตัวและเชิญให้เคอราชอฟฟ์นั่งลง

"เมื่อสักครู่นี้เอง ฉันถึงรีบมาหานาย จิตรสัมผัสของฉันที่อยู่ในวิญาณของหนอนยักษ์รับรู้ได้ว่ามันเผชิญกับคาถาอันทรงพลังมาก ควรเป็นคาถาธาตุแสง"

"พวกเอลฟ์หรือเปล่า?"

มอร์เทรียสสงสัย

"ไม่รู้ นายต้องถามพวกออร์ค พวกมันต้องมีคำอธิบายให้กับเรา"

หนอนยักษ์ตัวนั้นเป็นสิ่งที่สภาแห่งซินให้พวกออร์คยืมไปใช้ เคอราชอฟฟ์เองก็เป็นมุขมนตรีแห่งสภานี้เช่นกันเขาเลยต้องยอมให้ยืมสัตว์เลี้ยงแสนรักอย่างจำใจ

"งั้นเรามาทำนายกันเถอะ เคอราชอฟฟ์นายมีความเชื่อมโยงทางโชคชะตากับคนที่สังหารหนอนยักษ์ของนาย นายต้องตั้งคำถามเอง"

มอร์เทรียสพูดจบก็เอาลูกแก้วทำนายออกมาจากชั้นเก็บของ เขาวางมันลงบนโต๊ะและเริ่มถ่ายเทพลังเวทย์ลงไป มอร์เทรียสเก่งกาจเรื่องคาถาทำนายมาก

"เอาละถามคำถามมัน"

เคอราชอฟฟ์ได้ยินดังนั้น เลยใช้มือของเขาสัมผัสไปที่ลูกแก้วที่มีหมอกสีขาวหมุนวนไปมา และตั้งคำถามขึ้นภายในใจของเขา

มอร์เทรียสใช้สายตาเพ่งไปยังลูกแก้วและพยายามเชื่อมคาถาอันทรงพลังของเขากับคำถามของเคอราชอฟฟ์ จนเมื่อเวลาผ่านไปหนึ่งนาทีเต็ม ลูกแก้วเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงมันกระพริบแสงสีขาวไปมา เหมือนกำลังจะแสดงคำทำนายที่ถูกต้องเหมือนที่มันเคยทำ

เมื่อวอร์ล็อคทั้งสองคิดว่าพวกเขาจะได้เห็นโฉมหน้าของบุคคลที่ขัดขวางแผนการของพวกเขา จู่ๆแสงสีขาวก็เปลี่ยนเป็นแสงสีเงินที่สุกใส แสงดังกล่าวกลืนกินลูกแก้วทำนายไปทั้งลูกก่อนจะกระจายแสงออกไปทั่วห้องของมอร์เทรียส

เสียงแก้วร้าวดังขึ้นในอากาศ ตามมาด้วยเสียงแตกดังเพล้ง! สะเทือนเข้าไปถึงในจิตรใจของมอร์เทรียส

วอร์ล็อคเคอราชอฟฟ์ถูกพลังสีเงินกระแทกออกไปจนชนกับกำแพงด้านหลัง สภาพของเขาดูไม่ได้อย่างสิ้นเชิง

"เป็นไปไม่ได้!"

มอร์เทรียสตะโกนเสียงดังลั่น แม้เขาจะใช้พลังสกัดผลกระทบเอาไว้ได้ทันเวลา แต่ในฐานะผู้เริ่มการทำนายครั้งนี้ ภายในจิตรวิญญาณของเขาได้รับบาดเจ็บอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

"เกิดอะไรขึ้นมอร์เทรียส!?"

เคอราชอฟฟ์ไม่ได้รับบาดเจ็บมากนักเพราะเขามีฐานะเป็นแค่สื่อในการทำนาย แต่เขารู้ว่ามอร์เทรียสไม่ได้เป็นเช่นนั้น

"คนที่เราทำนายถึงเป็นผู้ทรงพลังระดับสูง เขามีอำนาจในการต่อต้านการทำนายที่แข็งแกร่งกว่าฉันมาก เรากำลังเจอกับใครกันแน่?"

มอร์เทรียสมีสีหน้ากังวลอย่างชัดเจน

"นายรีบติดต่อกับพวกออร์คเถอะ เราจะได้วางแผนรับมือได้ทัน ว่าแต่แสงสีเงินที่ส่องออกมาในตอนท้ายควรถือว่าเป็นเบาะแสได้หรือเปล่า?"

เคอราชอฟฟ์รู้แล้วว่าเรื่องนี้ร้ายแรงกว่าที่เขาคิดเอาไว้มาก

"ไม่รู้ ฉันไม่เคยเห็นแสงแบบนั้นมาก่อน เอาล่ะนายควรออกไปได้แล้ว ฉันจะติดต่อกับพวกออร์ค"

วอร์ล็อคเคอราชอฟฟ์ไม่รบกวนผู้นำของเขาอีก และรีบเดินออกไปนอกห้อง

ผู้นำของสภาแห่งซินมองแผ่นหลังของเคอราชอฟฟ์หายลับไปหลังประตู เมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่แล้วเขาก็กรีดร้องออกมาอย่าทุกข์ทรมาร

จิตรวิญญาณของเขากำลังฉีกขาด!


ออสบอร์นมองไปยังคนแคระนับร้อยชีวิตที่อัดแน่นกันอยู่ในห้องที่คับแคบไม่กี่ตารางเมตร ตามที่กอแท็บบอกเขานี่เป็นห้องลับที่ผู้สำเร็จราชการทุกคนเอาไว้ลี้ภัยในยามสงคาม

แต่ผู้สำเร็จราชการคนปัจจุบันไม่ยอมหลบหนีคนเดียว เขาได้พยายามรวบรวมผู้คนที่หนีรอดมาได้และนำมารวมกันไว้ที่นี่

ที่กอแท็บออกไปข้างนอกก็เพื่อตามหาผู้รอดชีวิตและนำมาที่นี่ตามคำสั่งของผู้สำเร็จราชการ

"ท่านพ่อมด คนของเราเตรียมพร้อมแล้ว เชิญท่านสั่งการมาได้เลย"

เสียงดังมาจากผู้สำเร็จราชการแห่งอิกซอร์ กอดิมดูลิน คนแคระเฒ่าที่มีหนวดสีขาวโพลนไปหมดไม่ต่างจากออสบอร์นเลย แต่อายุของเขาน้อยกว่าออสบอร์นครึ่งหนึ่ง

คนแคระมีอายุเฉลี่ยที่หนึ่งร้อยถึงหนึ่งร้อยห้าสิบปี

ออสบอร์นยังสังเกตเห็นถึงรอยคราบน้ำตาบนใบหน้าของผู้สำเร็จราชการแห่งอิกซอร์ได้ กอแท็บได้แจ้งข่าวการเสียชีวิตของคนในครอบครัวของเขาแล้ว

ศพที่ถูกแขวนคอหน้าที่ทำการทั้งหมดเป็นภรรยาและลูกหลานของเขา

พ่อมดเฒ่ายิ้มให้คนตรงหน้าน้อยๆ เขาชื่นชมในความเข้มแข็งของกอดิมดูลินมาก หากเป็นคนธรรมดาที่ทราบถึงชะตากรรมของครอบครัวแบบนี้คงไม่อาจลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วได้เช่นเขา

กอดิมดูลินมีความรับผิดชอบต่อชีวิตของคนในปกครองอย่างที่ผู้นำทุกคนควรมี คนพวกนี้ยังต้องพึ่งพาเขา

"ตกลง"

ออสบอร์นเริ่มร่ายคาถาลวงตาใส่กลุ่มคนแคระรอบตัว พลังเวทย์ของเขาฟื้นฟูมาจนเต็มแล้ว แต่การทำเช่นนี้ก็ยังทำให้พลังเวทย์ของเขาหมดลงไปครึ่งหนึ่ง

"ออกเดินทางได้"

พ่อมดเฒ่าให้กอแท็บเดินนำหน้าพวกเขาไป ปลายทางคือประตูด้านหลังเหมือง มุ่งหน้าสู่ป่าต้องห้าม

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด