(ฟรี) บทที่ 656 ตอนจบ
7/7
บทที่ 656 (ตอนจบ)
“ระบบ อัพเกรดฐานบำเพ็ญเพียรให้ข้า!”
หลังจากกินโอสถวิญญาณทั้งหมดแล้ว ฉินห่าวก็แทบอดใจรอไม่ไหว รีบพูดออกมา
[ติ๊ง! ต้องใช้ค่าความเกลียดชัง 5 ล้านในการอัพเกรดสู่ขอบเขตเซียนทองคำ]
“ลุยโลด!”
[ติ๊ง! ต้องใช้ค่าความเกลียดชัง 15 ล้านแต้มในการอัพเกรดสู่เซียนทองคำขั้นสูง]
“จัดไปอย่าให้เสีย!”
มุมปากของฉินห่าวเต็มไปด้วยรอยยิ้ม รู้สึกเหมือนกำลังนั่งติดจรวด พุ่งทะยานอย่างบ้าคลั่งเมามัน
[ติ๊ง! ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ คุณเข้าสู่ขอบเขตเซียนทองคำขั้นสูง!]
“อัพเกรดต่อ!”
[ติ๊ง! ต้องใช้ค่าความเกลียดชัง 30 ล้านแต้มในการอัพเกรดขอบเขตเซียนทองคำรวมศูนย์]
[ติ๊ง! ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ คุณเข้าสู่ขอบเขตเซียนทองรวมศูนย์!]
“ระบบ ต้องใช้ค่าความเกลียดชังเท่าไหร่ถึงจะไปถึงขอบเขตตรัสรู้?”
ฉินห่าวรับรู้ถึงพลังอันยิ่งใหญ่ เพียงกำมือข้างใดข้างหนึ่งเบาๆ มิติโดยรอบพลันพังทลาย
ทรงพลังอย่างยิ่งยวด!
เป็นพลังที่รุนแรงจนเขาเกือบจะหลุดการควบคุม!
ระบบ [กำลังคำนวณ ... ]
ฉินห่าวยิ้ม ดูท่าต่อให้เป็นระบบ ก็ยังไม่สามารถคำนวณค่าความเกลียดชังที่ต้องใช้ถึงขอบเขตตรัสรู้ได้ในทันที
ขอบเขตผู้ตรัสรู้ นับเป็นจุดสูงสุดของขอบเขตบำเพ็ญเพียร นอกจากนี้ยังจัดได้ว่าเป็นขอบเขตในตำนานที่ทรงพลังที่สุดอีกด้วย
ในโลกแห่งการบำเพ็ญเพียรแห่งนี้ ไม่เคยมีขอบเขตดังกล่าวปรากฏขึ้นซักคนเดียว
เนื่องจากเป็นขอบเขตที่แก่กล้าเกินไป ฟ้าดินของโลกใบนี้ไม่อาจรองรับได้!
[ติ๊ง! หลังจากการคำนวณ ต้องการค่าความเกลียดชัง 300 ล้านแต้ม!]
หลังจากนั้นไม่นาน ระบบก็แจ้งเตือนจำนวน
ฉินห่าวมองค่าความเกลียดชังที่เหลืออยู่ของตัวเอง และพบว่ายังมีอีกกว่า 400 ล้าน
เดิมค่าความเกลียดชังตอนแรกเขามีราวๆ 600 ล้าน ดังนั้นนับว่าเพียงพอแล้ว!
“อัพเกรดรวดเดียวไปขอบเขตผู้ตรัสรู้”
[ติ๊ง! นี่คือคำเตือน ขอบเขตผู้ตรัสรู้จะถูกปฏิเสธในโลกใบนี้ โฮสต์โปรดเลือก]
[หนึ่ง : ทำลายวิถีแห่งสวรรค์!]
[สอง : ไปยังโลกอื่น!]
ฉินห่าวมองทั้งสองทางเลือก ตะลึงไปชั่วขณะ
ไม่คาดคิดว่า จะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น
สำหรับตัวเลือกแรก ทำลายวิถีแห่งสวรรค์? สวรรค์คือผู้ดูแลให้เกิดความเป็นไปในโลกใบนี้ นับเป็นกฏเกณฑ์ขั้นสูงสุุด หากฝืนทำลายมัน แล้วโลกใบนี้จะเป็นอย่างไรต่อ?
นั่นไม่มีใครรู้
แต่ถ้าไม่ทำลายวิถีแห่งสวรรค์ เขาก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องออกไป
“ถ้าข้ากลายเป็นผู้ตรัสรู้แล้ว จะถูกปฏิเสธทันทีเลยหรือไม่?”
หลังจากเงียบไปนาน ฉินห่าวเอ่ยถามเบาๆ
พูดตรงๆ เขาไม่อยากจากโลกใบนี้ไป
ไหนจะอาจารย์ ไหนจะเหล่าศิษย์น้อง และสหายผู้บำเพ็ญเพียรอีกมากมาย
เขายังเล่นสนุกไม่พอเลย!
แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็ต้องการกลับไปเยือนโลกเดิม เพื่อดูว่าครอบครัวตัวเองยังว่าทุกคนยังสบายดีหรือไม่?
อย่างไรเสียเขาจากมาหลายปีแล้ว คนอื่นๆคงเป็นห่วงแย่ ถูกไหม?
[สามารถฝืนอยู่ได้ 1 วัน หากนานกว่านั้น โลกจะล่มสลาย แต่โฮสต์สามารถพาคนที่ต้องการไปยังโลกอื่นได้ด้วยเช่นกัน เพราะต่อให้เป็นการฝืนกฏ แต่ก็ไม่มีใครห้ามได้]
อาจเพราะระบบได้รับค่าความเกลียดชังเป็นจำนวนมาก มันจึงพูดมากกว่าทุกที ทั้งยังฉลาดขึ้น
“อ้อ งั้นก็อัพเกรดเลย วันเดียวเพียงพอให้ข้าทำทุกอย่างแล้ว”
ฉินห่าวพยักหน้า ใบหน้าสงบเยือกเย็นลง
บรึ้ม!
เพียงสิ้นเสียง
ฉินห่าวก็รู้สึกว่ามีพลังลึกลับปรากฏขึ้นภายในร่างกายตัวเอง นี่มิใช่พลังปราณ ไม่ต้องพูดถึงพลังวิญญาณ มันคือพลังงานลึกลับที่เลื่อนลอย
เพียงลืมตา แสงจรัสก็ส่องสว่างออกจากสองตาเขา!
ฉินห่าวในขณะนี้ ประหนึ่งก้าวเข้าสู่สภาวะลึกลับ เหนือฟ้าใต้พิภพ ข้าสามารถมองเห็นและล่วงรู้ทุกอย่าง
เพียงนึกคิด ภาพของสามพันโลกหล้าก็ปรากฏขึ้นในวิสัยทัศน์เขา!
“ถึงเวลากลับไปยังที่อยู่ของข้าแล้ว!” ฉินห่าวค่อยๆ ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า มองทวีปที่อยู่ตรงหน้า
เบื้องหลังเขา คือท้องฟ้าม่วงครามผ่องอำไพ ทอดยาวนับหลายหมื่นลี้
เพียงเขาก้าวเท้าเดียว ดอกบัวบานสะพรั่งในอากาศ บังเกิดเสียงอันลึกล้ำและยิ่งใหญ่ดังก้องไปทั่วโลก
ช่วงเวลานี้ ไม่ว่ามันจะเป็นใครก็ตาม ทุกคนสามารถรู้สึกได้ ถึงพรที่ส่งผ่านไปทั่วทั้งสวรรค์และปฐพี
ปราณวิญญาณพลุ่งพล่านดั่งมหาสมุทรอันเชี่ยวกราก กระจายไปทั่วทั้งโลกแห่งการบำเพ็ญเพียร
...
“ฮ่าๆ ข้าตัดผ่านขอบเขตสำเร็จแล้ว!”
ณ สำนักเซี่ยเจี้ยน ประมุขลุกขึ้นโห่ร้องด้วยความปิติยินดี
ในเวลาเดียวกัน ทุกคนในสำนักของพวกเขาก็ตัดผ่านเช่นกัน ทั้งยังตัดผ่านข้ามขั้นไปถึงสองขอบเขตใหญ่!
...
“เอ๊ะ ยายแก่ อาการป่วยของข้าหายดีแล้ว!”
ณ หมู่บ้านมนุษย์ ภายในกระท่อมมุงจากแห่งหนึ่ง ชายชราที่ป่วยใกล้ตายด้วยโรคภัยไข้เจ็บ จู่ๆก็ลุกพรวดจากเตียงด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยเลือดฝาด
...
“ผู้ตรัสรู้ถือกำเนิด ... นี่คือการถือกำเนิดของผู้ตรัสรู้! ผู้ล้างบาปปรากฏแล้ว! แต่มันเป็นไปได้อย่างไร?” เทพโอสถแหงนมองท้องฟ้าด้วยความตกตะลึง
ไม่รอช้า เขาลูบแหวนมิติในมือแล้วหยิบเอาตำราชำรุดเล่มหนึ่งออกมา
“ผืนฟ้าม่วงคราม ผืนแผ่นดินอุดมสมบูรณ์ ดอกบัวงามปรากฏขึ้นในทุกย่างก้าว”
ปุก!
เทพโอสถคุกเข่าลงกับพื้น เกิดความรู้สึกสมองล้ารับไม่ไหว
“ล้างบาป? นั่นไม่ใช่เรื่องในตำนานหรอกหรือ? มันเกิดขึ้นจริงได้อย่างไร?”
...
ณ นิกายเฉินเมิ่ง เหล่าผู้อาวุโสแสดงสีหน้าเหลือเชื่อ
ทุกคนราวกับอยู่ในความฝัน!
...
“อาจารย์ ถึงเวลาที่พวกเราต้องไปแล้ว”
ณ นิกายเซียวเหยา ฉินห่าวเพียงยกมือขึ้นเบาๆ ตลอดทั้งนิกายเซียวเหยาก็ลอยขึ้นจากพื้นดิน
ช่วงเวลาถัดมา เขาก็ปรากฏตัวขึ้นในนิกายเฉินเมิ่งท่ามกลางสีหน้าตกตะลึงของทุกคน
จากนั้นนิกายเฉินเมิ่งก็ค่อยๆลอยขึ้นจากพื้นดิน
นิกายตัน ...
สำนักเซี่ยเจี้ยน ...
นิกายในพันธมิตร ...
ต้นไม้ในแดนต้องห้าม
กระทั่งห้องขังหมาป่าแผดสวรรค์ในพื้นที่เสี่ยง
ทุกอย่างที่ลอยขึ้นจากพื้นดิน
ขณะเดียวกัน บังเกิดรอยแตกร้าวบนท้องฟ้า
แหงนมองไปยังดวงดาวพรั่งพราวที่อยู่ข้างในรอยแยกมิติ ฉินห่าวรู้สึกได้ถึงพลังขับไล่อันน่าชิงชัง
เขามองย้อนกลับมายังสถานที่ที่ครั้งหนึ่งตนเคยอยู่ แม้จะเป็นช่วงเวลาไม่กี่ปี แต่มันได้ทิ้งความประทับใจอย่างลึกล้ำไว้ในใจเขา
“ท่านผู้ตรัสรู้ พวกเราต้องจากที่นี่ไปหรือ?”
“แน่นอน เพราะมีโลกกว้างกำลังรอพวกเราอยู่!”
มุมปากของฉินห่าวยกขึ้นเล็กน้อย
“ขอแสดงความเคารพต่อท่านผู้ตรัสรู้!”
ทั่วทั้งโลก ทุกคนก้มกราบกรานพร้อมกัน เปล่งเสียงดังก้องไปทั่วโลก สร้างแรงสั่นสะเทือนอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
.
.
.
ฉินห่าว “ลาก่อน โลกแห่งการบำเพ็ญเพียร!”
**จบบิรบูรณ์