บทที่ 81: ภารกิจปกป้อง (6-2)
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 81: ภารกิจปกป้อง (6-2)
หมาป่าตัวหนึ่งที่กำลังจะกัดก้นม้า ก็โดนลูกธนูยิงเข้าที่หัวและมันก็ล้มลง
เมื่อมองกลับไป ฉันเห็นเจนน่าเล็งธนูมาจากบนกำแพงเมืองทุกครั้งที่เธอยิงธนูออกมาจะมีหมาป่าตัวหนึ่งล้มลง
'ยัยผู้หญิงคนนี้นะ...'
ตูม!
เสียงดังตามมาด้วยการพังทลายของประตูเมือง
ยักษ์นำกองทัพศพเดินได้เริ่มเข้าไปในเมือง เจนน่ารีบลงจากกำแพงเมืองอย่างรวดเร็ว
'ฉันอยากจะแยกร่างของฉันออกเป็นสองคนเดี๋ยวนี้เลย'
เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการปกป้องรูปปั้นเทพธิดา
หากประตูด้านนอกพัง พวกเขาจะต้องถอยกลับไปยังเมืองชั้นในทันทีและสร้างสิ่งกีดขวางภายในนั้น หากเจนน่าและอารอนใช้ประสบการณ์จากชั้น 5 พวกเขาคงจะสามารถยื้อได้อีกสักพักใหญ่
ดังนั้นฉันจึงตัดสินใจเดินหน้าต่อไป
ไม่สำคัญว่าพวกเขาจะทนอยู่ที่นั่นได้นานแค่ไหน
ปัญหาที่แท้จริงคือฉันสามารถจัดการกับนักบวชทมิฬนั้นได้เร็วแค่ไหนต่างหาก
ม้าศึกเหยียบย่ำและบดขยี้ศพขณะที่เราวิ่งเข้าไปในป่า กว่าฉันจะรู้ตัวความร้อนจากป่าที่กำลังลุกไหม้ก็สัมผัสได้บนผิวหนังของฉัน ฉันรีบลงจากหลังม้า
"ไป"
“ฮี่ ฮี่!”
ม้ายกกีบหน้าแล้วหายเข้าไปในที่ราบด้านตะวันตก
ข้างหลังฉันเป็นฝูงศพที่พยายามจะไล่กินเนื้อของฉัน และข้างหน้าคือไฟนรก
ไฟลุกโชนอย่างรุนแรงราวกับพยายามกลืนกินทั้งป่า
ต้นไม้ใกล้กับที่ราบกลายเป็นสีดำและไหม้เกรียม และด้านหลังมีเสียงใบไม้ไหม้และกิ่งก้านแกว่งไปมาขณะที่พวกมันถูกกลืนหายไปในเปลวเพลิง
“….”
ศพของมนุษย์และก็อบลินเซมาหาฉัน แม้จะมีไฟอยู่ตรงหน้าพวกเขาก็ตาม
ฉันหยิบยาขึ้นมาและดื่มไปในคราวเดียว จากนั้นจึงใช้เหลวที่เหลือพรมไปที่หัวพร้อมกับก้าวเข้าไปในเปลวไฟ
"อั๊ก!"
ทันทีที่ฉันเข้าไป ศพก็อบลินก็พยายามจะโจมตีฉัน แต่ร่างกายมันกำลังลุกไหม้
ฉันบิดตัวไปด้านข้าง และมันก็ล้มลงและลุกเป็นไฟ มันหยุดเคลื่อนไหวทันที
ฉันก้มตัวลงเพื่อหลีกเลี่ยงการสูดควันมากเกินไป ถึงกระนั้นฉันก็ก้าวเดินอย่างรวดเร็ว ความร้อนแผดเผาและอากาศก็คล้ายน้อยลงมาก
ต้องทนไว้
ใช้เวลาไม่นานฉันก็มาถึงขอบแผนที่
ผนังโปร่งใสที่ไม่สามารถผ่านได้ ไฟยังคงลุกลามไปไกลกว่านั้นแต่ฉันก็ไปต่อไม่ได้แล้ว
“ฉันรู้นะว่าแกอยู่ที่นี่”
ฉันไม่สามารถผ่านกำแพงออกไปได้ นั้นก็หมายความว่าศัตรูก็ทำไม่ได้เช่นกัน
เนื่องจากฉันไม่เห็นใครออกมาจากป่า นั่นหมายความว่าพวกมันถูกกักขังอยู่ในพื้นที่เล็กๆ นี้
[ติ้ง!]
[ปลุกพลังทักษะ!]
['ฮาน (★)' 'ต้านทานเปลวไฟ' เพิ่มขึ้นเป็น Lv.2!]
ฉันไม่สนใจการแจ้งเตือนระดับทักษะที่ปรากฏในการมองเห็นของฉัน ฉันชักดาบออกมา
ฉันแค่ต้องฆ่าคนคนหนึ่ง แค่คนคนหนึ่งเท่านั้น
['แม็คคิน (★)' กำลังตื่นตระหนก! ค่าสถานะทั้งหมดลดลง 50%]
['ชูรอน (★)' กำลังตื่นกลัว! ค่าสถานะทั้งหมดลดลง 30%]
พวกเขาคือสองคนที่เข้าร่วมปาร์ตี้ของฉันและอีดิสในวินาทีสุดท้าย
['แม็คคิน (★)' กลับมาสู่อ้อมกอดของเทพธิดาแล้ว จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้อันกล้าหาญของเข้าจะถูกจดจำไปชั่วนิรันดร์!]
['อีดิส (★★★)' กำลังเลือดออก เลือดของเธอจะลดลงอย่างเนื่อง]
['ดีก้า (★)' กำลังหวาดกลัว...]
'พวกเขาใกล้จะถึงขีดจำกัดแล้ว'
ฉันย้ายข้อความไปที่มุมหนึ่งของการมองเห็น
เงาสีดำเคลื่อนตัวออกมาจากเถ้าถ่าน
ฉันจับดาบไว้แน่นแล้วกระโดดไปหามัน ลูกศรสีแดงยิงออกมาจากระหว่างกิ่งไม้ที่ลุกไหม้ และฉันก็ป้องกันมันด้วยโล่
“….!”
กระสุนเจาะทะลุเกราะเหล็กของฉัน ราวกับว่ามันเป็นเนยที่ละลายแล้ว มันทะลุแขนซ้ายของฉันไป
แม้ว่าพลังการต่อสู้ของมันจะอ่อนแอ แต่ว่ามันเป็นสัตว์ประหลาดที่โผช่มาในหอคอยชั้นกลาง
ด้วยความที่เรายังอยู่ชั้นล่าง มันจึงอาจแตกต่างออกไปเล็กน้อย แต่ก็คงแกร่งมากทีเดียว
ลูกศรเวทย์มนตร์ลูกที่สองพุ่งเข้ามา คราวนี้มันเล็งไปที่หน้าอกขวาของฉัน
ฉันพยายามหลบ แต่ก็ไม่มีที่ให้หลบซ่อน ฉันกัดลิ้นตัวเองอย่างแรงจนเลือดออก
['ฮาน (★)' เข้าสู่สภาวะบ้าคลั่ง!]
กะ กะ แก็ง!
การปะทะกันของดาบและลูกธนูเวทย์มนตร์ดังก้อง มันกระชากเอาชิ้นเนื้อออกจากไหล่ของฉันออกไป ฉันกระโดดไปข้างหน้าและกระแทกลงไปพื้นทันที ลูกกระสุนดอกที่สามพุ่งผ่านเหนือหัวของฉันไป
'ถ้าฉันไม่มีทักษะการป้องกันระยะไกล ฉันคงตายไปแล้ว'
สถานการณ์ไม่เอื้ออำนวย
ฉันไม่คำนึงถึงความต้านทานเปลวไฟและทุกสิ่งทุกอย่าง สภาพแวดล้อมโดยรอบเต็มไปด้วยไฟ ทุกครั้งที่หายใจเข้า ควันฉุนจะปะปนกับอากาศเข้าปอด เลือดเริ่มไหลออกมาจากรูที่แขนซ้ายของฉันอย่างช้าๆ
['ฮาน (★)' กำลังเลือดออก เลือดของเขอจะลดลงอย่างเนื่อง]
ไม่มีเวลา
ก่อนที่สติของฉันจะหมดไป
ก่อนที่กลุ่มปาร์ตี้จะถูกทำลายและตายกันหมด
"ข้าอยากจะ….คุยกับเจ้า…."
เสียงที่น่าขนลุกดังก้องมาจากภายในป่า
"คุย? เอาสิ อยากคุยอะไรล่ะ?”
"เจ้า…. ต่างจาก….คนอื่น…."
ฉันลุกขึ้นยืนทันทีและขว้างดาบไปทางเสียง
"ฮึ!"
ฉันหยิบอาวุธชิ้นที่สองออกมาและวิ่งต่อไป
ชิ้ง!
ลูกธนูสีดำลอยเข้ามาหาฉัน ฉันยื่นแขนซ้ายออกไปเพื่อสกัดกั้น แขนซ้ายของฉันถูกฉีกออกจนหมด และขาดจนลอยหลุดไป การมองเห็นของฉันเปลี่ยนเป็นสีแดงฉาน
ฉันจับกริชกลับด้านและเล็งไปที่ใบหน้าของร่างที่สวมหน้ากาก
ลูกธนูสีดำลูกแทงทะลุหน้าอกขวาของฉัน
['ฮาน (★)' อยู่ในภาวะวิกฤต….]
ชึ้ก!
กริชถูกแทงเข้าไปในหมวก
ฉันดึงมันออกมาแล้วดันเข้าไปใหม่อีกครั้ง
ฉันดันต่อไปโดยไม่สนใจอะไร
นักบวชทมิฬที่บิดตัวและตัวสั่นในที่สุดก็หยุดเคลื่อนไหว
"...อั๊ก"
เลือดพุ่งออกมาจากปากของเขา
ฉันลากแขนขวาแล้วพิงกับลำต้นของต้นไม้
'ยังไม่จบอีกเหรอ?'
หากเป็นเช่นนั้นนี้ก็จบสิ้นกันแล้ว
ถ้ามากกว่านี้ฉันไม่รู้ว่าต้องทำอะไรอีกต่อไปแล้ว
ฉันอาจจะตายก่อนที่รูปปั้นเทพธิดาจะโดนทำลายก็ได้
['ชูรอน (★)' กลับมาสู่อ้อมกอดของเทพธิดาแล้ว จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้อันกล้าหาญของเข้าจะถูกจดจำไปชั่วนิรันดร์]
เวรเอ้ย
ไม่มีความตายอะไรที่เลวร้ายไปกว่านี้แล้ว
ถูกลากไปยังที่ไม่รู้จัก ต้องพยายามฝืนทนอย่างหนัก ทรมานเหมือนหมาแล้วก็ตายเนี่ยนะ
ก่อนฉันกำลังจะสูญเสียสติไป ก็มีข้อความเด้งขึ้นมา
[ผ่านด่านแล้ว!]
['เจนน่า (★)', 'อาอน (★)', เอลก้า (★★★) เลเวลอัพ!]
['อีดิส (★★★)', 'โรเดอริก (★★★)', 'แอชเชอร์ (★★)', 'ดีก้า (★)' เลเวลอัพ!]
[รางวัล – 70,000 ทองคำ หินธาตุไฟระดับต่ำ]
[ฮีโร่ยอดเยี่ยม – 'ฮาน (★)']
[ขอแสดงความยินดีนายท่านเคลียร์พื้นที่ชั้นที่ 10 ได้แล้ว!]
[ชื่อของห้องรอจะถูกแก้ไขเป็น 'ทาวเนีย']
[ดันเจี้ยนผจญภัยถูกปลดล็อคแล้ว รวบรวมวัสดุหายาก รวมถึงหินจุติด้วย!]
[ในบรรดาฮีโร่ของฮีโร่ของนายท่าน มีฮีโร่ที่รอการวิวัฒนาการเพื่อเลื่อนระดับอยู่ เมื่อรวบรวมวัสดุได้แล้ว ให้สร้างหินวิวัฒนาการและเก็บกู้ชิ้นส่วนของความทรงจำที่ถูกลืม!]
แสงสว่างปกคลุมทั่วร่างกายของฉัน
แต่ฉันไม่ได้สังเกตเห็นมันด้วยซ้ำ
ฉันหลับตาลงอย่างเงียบๆ