บทที่ 78 : ภารกิจปกป้อง (5-1)
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 78 : ภารกิจปกป้อง (5-1)
ทหารม้าผู้กล้ามีประมาณ 500 นาย พวกเขาเตรียมเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่ง
แม้ว่าจะมีกำลังเสริมมา แต่กองกำลังพันธมิตรก็ไม่ถึงหนึ่งพันคน ดูเหมือนโชคจะไม่เข้าข้างพวกเราในเรื่องจำนวนของกองกำลัง
แต่พลังของนายทหารเหล่านี้ต่างหากที่ทำให้พวกเขาพิเศษ
พวกเขาสวมสวมชุดเกราะและถือหอกยาว นั่งบนม้าคู่ใจที่หุ้มเกราะสำหรับการรบ ทหารม้าพ่นลมหายใจแห่งความมุ่งมั่นออกมา พวกเขาแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับพวกทหารยามที่สวมชุดเกราะโทรมๆ และตัวสั่นด้วยความกลัว
แม้ว่าบางคนจะถูกกระแสน้ำพัดพาไปก็ตาม แต่กองกำลังส่วนใหญ่ก็สามารถข้ามแม่น้ำที่เชี่ยวกราดและเต็มไปด้วยอันตรายได้
ชายคนหนึ่งซึ่งอาจเป็นหัวหน้าของพวกเขาได้เฝ้าสังเกตสภาพแวดล้อมรอบๆ ริมฝั่งแม่น้ำ
“กองศพขนาดมหึมานี้มันคืออะไรกัน…?”
เราสบตากันครู่หนึ่งใต้ร่มเงาต้นไม้ แต่เขาก็รีบหลบสายตาไป เขาชักดาบออกมาและชี้มันไปทางตอนเหนือของเมืองที่การต่อสู้กำลังดำเนินไปอย่างดุเดือด
“จัดขบวนและจู่โจม! กวาดล้างศัตรูให้หมดไปพร้อมกัน!”
ม้าส่งเสียงคำราม ภาพทหารม้าหลายร้อยนายที่เข้าแถวท่ามกลางสายฝนช่างน่าประทับใจจริงๆ
เจนน่าอดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมาด้วยความยินดี
“ว้าว รู้สึกเหมือนภารกิจนี้จะเสร็จสิ้นแล้วนะเนี่ย ถ้าอย่างนั้นตอนนี้เราแค่นอนดูเฉยๆ ได้ไหม?”
“ฉันหวังว่ามันจะเป็นอย่างนั้นนะ”
ปัญหาหลักได้รับการแก้ไขแล้ว แต่คงไม่อาจวางใจได้เพราะระดับความยากมันสูงมาก ฉันมองดูม้าที่เดินไปตามริมแม่น้ำ เจ้าของของมันถูกกระแสน้ำพัดพาไประหว่างข้ามแม่น้ำ
“ขี่ม้าได้ไหม?”
"ขี่ม้า? ได้แน่นอน"
“แล้วสองคนนั่นล่ะ?”
อารอนส่ายศีรษะอย่างเงียบๆ ส่วนออลก้าเองก็พยายามที่จะตอบและกลืนยามานาลงไป
“นายล่ะ?”
"ฉันขี่ไม่เป็น"
“ดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์เท่าไรนะถ้าเราขี่ม้าไปได้แค่คนเดียว”
“เดี๋ยวเอาม้าให้ตัวหนึ่ง”
เจนน่าปีนขึ้นไปบนหลังม้าที่ไม่มีเจ้าของและกุมสายบังเหียนไว้ ในตอนแรกม้ามีท่าทีตกใจ แต่ไม่นานก็สงบลงเมื่อเจนน่าลูบคอของมันเบาๆ ผ่านไปครู่หนึ่ง เจนน่าก็ควบม้าวิ่งเข้ามาหาพวกเรา
“แค่ตัวนี้จะพอเหรอ?”
ฉันมองขึ้นไปบนท้องฟ้า
นายท่านต้องกำลังเฝ้าดูอยู่แน่นอน
โดยพื้นฐานแล้ว นายท่านไม่สามารถแทรกแซงการต่อสู้ได้โดยตรง แต่เขาสามารถรับรู้ถึงความต้องการของเราได้
กำลังสงสัยว่านายท่านจะช่วยอะไรเราได้งั้นเหรอ...?
'คำขอหนังสือทักษะ: พาหนะขั้นกลาง'
['ฮาน (★)' ร้องขอ 'หนังสือทักษะ (ขี่ม้า)' หลังจากซื้อแล้วฮีโร่จะได้รับทักษะ ราคาอยู่ที่ 500 อัญมณี คุณต้องการดำเนินการซื้อต่อหรือไม่?]
[ใช่ (เลือก) / ไม่ใช่]
แสงสีฟ้าระยิบระยับในอากาศลอยออกมา และทันใดนั้นหนังสือเล่มหนึ่งก็ตกลงมา
ฉันคว้ามันและคลี่หน้าต่างๆ ออกไป ความรู้และประสบการณ์มากมายเกี่ยวกับการขี่ม้า ฉันสามารถรับรู้มันได้ทั้งหมด
[ติ๊ง!]
[ปลุกพลังทักษะ!]
['ฮาน (★)' ได้รับ 'ทักษะพื้นฐานในการขี่ม้า'!]
“มะเมื่อครู่มันคืออะไร?”
“หนังสือเวทย์มนตร์”
เวทย์มนต์สอนขี่ม้า
หนึ่งในหนังสือทักษะที่มีอยู่ในร้านค้าของพิกมีอัพ
แม้ว่าฉันจะไม่สามารถเรียนรู้ทักษะการขี่ม้าโดยตรงไม่ได้ แต่ก็สามารถเรียนรู้ได้จากหนังสือทักษะเหล่านี้
ฉันขี่ม้าและจับสายบังเหียน ตั้งแต่การควบคุมและยึดสายบังเหียนไปจนถึงการเปลี่ยนทิศทาง การก้าวไปข้างหน้า การหยุด และการเร่งความเร็ว คำแนะนำและความรู้เกี่ยวกับในการขี่ม้าเป็นกลายเรื่องธรรมชาติสำหรับฉันราวกับว่ามีเวทย์มนตร์คอยบอก
ม้าที่ฉันขี่ก็วิ่งมาสมทบกับเจนน่า
“นายบอกว่าขี่ม้าไม่ได้นิ”
"ก็ตอนนี้ขี่ได้แล้วไง"
ฉันหัวเราะเบาๆ กับทักษะใหม่ของฉัน
“ตอนนี้เราจะตามผู้นำของพวกเขาไปและแยกทางกับพวกเขา”
“แยกทางกับพวกเขา หมายถึงอะไร?”
“คิดว่ามันจะจบแค่ที่นี่เหรอ? อารอนไปกับเจนน่า ออลก้ามามากับฉันม้าไม่มีอาน มันอาจจะนั่งไม่ค่อยถนัด เพราะงั้นจับฉันไว้ให้แน่น”
ด้วยความช่วยเหลือของเจนน่า อารอนจึงนั่งลงบนหลังม้าของเธอได้ง่ายดาย
จากนั้นออลก้า ก็เข้ามาใกล้ฉันด้วยท่าทางซีดเซียว แม้ว่าเธอจะดื่มยามานามาแล้ว แต่ความเหนื่อยล้าทางจิตใจก็ดูเหมือนจะเลี่ยงและฟื้นฟูไม่ได้ ฉันช่วยออลก้าขึ้นบนหลังม้า ข้างหน้าเราทหารม้ากำลังเตรียมการจู่โจม
“เตรียมบุก! พร้อมปะทะ!”
"เข้าปะทะ!"
เหล่าทหารตอบสนองต่อคำสั่งของผู้บังคับบัญชา และทหารก็ยกอาวุธขึ้นตะโกนพร้อมกัน บนที่ราบทางตอนเหนือ พวกก็อบลินรับรู้สถานการณ์มันถือหอกควบทหารม้าพุ่งเข้ามา
เราเฝ้าดูเหตุการณ์นี้ห่างจากทหารแนวหน้าเพียงไม่กี่เมตร
“อย่าเข้าไปร่วม เดี๋ยวเราจะแย่เอาได้ หลบเข้าไปในป่าและประเมินสถานการณ์ก่อน”
“อารอน จับไว้ให้แน่นๆ จะได้ไม่ล้ม”
“ครับ”
ผู้บังคับบัญชาทหารม้าเหวี่ยงดาบเหล็กเหนือหัว และเล็งไปที่ก็อบลิน
“บุกเข้าไป! แสดงให้พวกมันเห็นถึงพลังอันแข็งแกร่งของทหารม้าเหล็ก!”
ม้าสีขาวของผู้บังคับบัญชาวิ่งไปทั่วพื้นที่
ทหารม้าพร้อมธงสีแดงเริ่มบุกนำ ตามมาด้วยทหารม้าหลายร้อยคนบุกโจมตีอย่างแข็งแกร่ง เสียงปลุกใจดังกึกก้องและเสียงกีบเท้าของม้าที่เป็นจังหวะท่ามกลางสายฝนก็ดังก้องไปทั่วบริเวณ
"ไปกันเถอะ"
ฉันขี่ม้าไปข้างหน้าด้วยการจับบังเหียนอย่างมั่นคง
ม้าหายใจเข้าออกและเร่งความเร็วขึ้น เร็วขึ้น การสะกิดตัวมาแต่ละครั้งส่งผลให้มันพุ่งไปเร็วขึ้นอีก
น่าแปลกที่แค่อ่านหนังสือฉันก็สามารถขี่ม้าได้แล้ว
แม้มันดูเหมือนไม่จริง แต่ก็ไม่จำเป็นต้องประหลาดใจหรือดีใจอะไรมากสักเท่าไร
ฉันเตือนเจนน่าที่ตามหลังมาว่า “ถอยไปด้านข้าง! ออกไปจากระยะของลูกศร!”
ชึบ! ชึบ ชึบ ชึบ!
มีลูกธนูหลายสิบลูกหลายร้อยลูกปลิวออกจากฝั่งก็อบลิน
ส่วนใหญ่พลาดเป้าหรือฝังลงดิน ทว่ามันก็มีจำนวนหนึ่งที่โดนเป้าหมาย
“อ๊ากกก!”
ทหารผู้เคราะห์ร้ายคนหนึ่งถูกลูกธนูยิ่งเข้าและล้มลงจากหลังม้า
ทหารที่อยู่ข้างหลังเหยียบย่ำเขาจมลงไปที่พื้น
ฉันก้มหัวลงเล็กน้อย
ลูกธนุที่พุ่งเข้ามาแทบจะไม่ผ่านศีรษะของฉัน ส่วนออลก้าก็จับเอวของฉันไว้และกรีดร้องออกมา
“หนีเร็ว!”
ขณะที่ฉันดึงสายบังเหียนไปทางขวา ม้าก็หันกลับมา
เป้าหมายหลักของทหารม้าคือกองกำลังก็อบลินประจำการอยู่ที่ประตูทิศเหนือ เราเลี้ยวไปทางขวาแล้วมุ่งหน้าไปยังป่า โดยมีเจนน่าอยู่ด้านหลัง
ในไม่ช้า กองหน้าของทหารม้าก็ปะทะกับก็อบลิน
ก็อบลินหลายร้อยตัวถูกแทงด้วยหอกและแหลกอยู่ใต้กีบเท้าของม้า กลายเป็นกองศพที่ไร้ชีวิต
พวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตที่เล็กกว่ามนุษย์ ไม่สามารถต้านทานพลังทำลายล้างของม้าหลายร้อยกิโลกรัมได้ ทหารม้ากางกระจายกันออกไปราวกับไม้กวาดกว้าง กวาดผ่านกองกำลังก็อบลินได้อย่างง่ายดาย
ขณะที่ลมค่อยๆ พัดปลิวสายฝนบนใบหน้าของเรา ฉันก็จับตาดูสภาพแวดล้อมโดยรอบขณะขี่ม้าผ่านป่า เสียงคำรามแผ่วเบาดังก้องอยู่ระหว่างต้นไม้
[ก็อบลินไรเดอร์เลเวล??? x 211 ตัว]
“อย่างที่ฉันคาดเดาเลย”
พวกมันซุ่มซ่อนตัวอยู่ในป่าเพื่อเตรียมซุ่มโจมตีทหารม้า
ทันทีที่การบุกของทหารม้าเริ่มอ่อนกำลังลง พวกมันก็จะโจมตีจากด้านข้างแทน หมาป่าพวกนั้นสู้ไม่ได้ถ้าเผชิญหน้ากับทหารม้าแบบตัวต่อตัว ทว่าพวกมันก็พร้อมกัดกระชากแล้ว
[ออเกอร์เลเวล??? x 23ตัว]
“คร๊าาาก!”
ยักษ์ตัวใหญ่ได้โผล่ออกมาจากป่าทึบ
เมื่อบุกทะลุแนวป้องกันแรกแล้ว พวกมันก็พุ่งเข้าโจมตีทหารม้าที่กำลังจัดแนวรบใหม่หลังจากการปะทะครั้งแรก ผู้บังคับบัญชากองทหารม้ายกดาบขึ้นอีกครั้ง และการปะทะครั้งที่สองตามมาด้วยเสียงของโลหะกับเสียงกรีดร้องที่ดังก้อง
ฉันหันไปหาออลก้าที่ข้างหลังฉัน และถามว่า “ออลก้า มียามานาพอไหม?”
“มี เดี๋ยวฉันจะจัดการเอง” เธอตอบ
“เธอก็เห็นมันเหมือนกันใช่ไหม? คงลำบากมากแน่ถ้าพวกก็อบลินที่ขี่หมาป่าเข้าบุก”
ฝนหยุดตก ความรู้สึกอบอ้าวได้ตลบอบอวลไปทั่วอากาศ
ฉันยกนิ้วชี้ขวาขึ้นเพื่อดูทิศทางลม
มีลมมาจากทางเหนือ ฉันตัดสินใจว่า “จากนี้ไป เราจะขี่ลุยป่ากัน เธอร่ายเวทย์จุดไฟเผามันเลยนะ”
ออลก้าพยักหน้า “ฉันทำได้ แต่พลังโจมตีอาจจะไม่ได้แรงมากนะ”
“ไม่ต้องสนใจพลังโจมตี แค่ทำให้พวกมันไม่สามารถออกมาได้ก็พอ”
หากก็อบลินสามารถโจมตีทหารม้าได้ ผลที่ตามมาจะเลวร้ายมากแน่นอน
เราไม่จำเป็นต้องกำจัดพวกมันทั้งหมด วัตถุประสงค์หลักคือเพื่อป้องกันไม่ให้พวกมันทำตามแผนได้ ออลก้าเข้าจุดประสงค์แล้ว
“เจนน่า เธอกับอารอนลงจากหลังม้า เมื่อเปลวไฟลุกลาม ให้จัดการทีละหนึ่งหรือสองตัว”
ทั้งสองลงจากม้าถือคันธนูและหอกของตน
แม้ว่าทักษะการต่อสู้ด้วยเวทย์มนตร์จะเหมาะสมกับสถานการณ์นี้เป็นที่สุด แต่เราก็ต้องทำหน้าที่ของเราด้วย ความมุ่งมั่นของพวกเขาปรากฏได้เห็นชัดบนใบหน้า
"ลงมือกันเถอะ"
ออลก้าหลับตาและเริ่มร่ายเวทย์
ฉันหันไปทางประตูทิศเหนือ
ทหารม้าและยักษ์ปะทะกันอย่างดุเดือด กองกำลังก็อบลินส่วนใหญ่ล้มตาย ก็อบลินที่เริ่มรู้สึกสิ้นหวังจำนวนหนึ่งพยายามปีนบันไดและพังกำแพงด้านนอก แต่กลับล้มเหลว
“ไม่จำเป็นต้องไล่ตามไปจนถึงกำแพงด้านใน” ฉันพึมพำกับตัวเอง
ด้วยการแตะส้นเท้าของฉันอย่างรวดเร็วบนสีข้างของม้า เราก็พุ่งไปข้างหน้า
ม้าเร่งความเร็วขึ้น และฉันสบตากับก็อบลินทางด้านซ้ายสุดของป่า มือของมันลูบไล้ขนของหมาป่า และดวงตาของมันฉายแวววาวอย่างท้าทาย
ออลก้ายกมือขวาขึ้น
[อิคไนท์!]
ฟู่วววววววว!
เปลวเพลิงปะทุขึ้นจากด้านหลัง ลุกลามกิ่งไม้และใบไม้อย่างรวดเร็วไฟแพร่กระจายราวกับไฟนรกที่ลุกโชติช่วง ฝนหยุดแล้ว และลมก็พัดพาไฟไปทางต้นไม้ที่อยู่รอบๆ
เส้นทางเปลวไฟได้กระจายเปลวไฟไปทุกทิศทุกทาง
ไฟลุกท่วมพื้นที่อย่างรวดเร็ว
"กร๊าาก!"
ในที่สุด เหล่าก็อบลินก็ออกมาจากป่าพร้อมกับกำแพงไฟจนเกิดความโกลาหล
ทหารม้ามนุษย์ส่วนใหญ่เน้นไปที่การฆ่าออเกอร์ ในขณะที่ก็อบลินไรเดอร์สองสามตัวพุ่งมาที่เรา
การเผชิญหน้ากับออเกอร์โดยตรงนั้นไม่ใช่สิ่งที่สมควร ดังนั้นฉันจึงรีบหมุนม้าไปทางอื่นและเพิ่มความเร็ว ทำให้ป่าลุกเป็นไฟในขณะที่เราควบม้าผ่าน
เปลวไฟไม่ได้รุนแรงมากเท่าไรนัก มีตัวที่เสียเพียงเล็กน้อย แต่นั่นไม่ใช่เป้าหมายหลักของเรา
เราต้องการกระจายก็อบลินไรเดอร์และกระตุ้นความกลัวเปลวไฟของพวกมัน
เมื่อก็อบลินไรเดอร์รวมตัวกัน พวกมันจะเป็นที่น่าเกรงขามมาก แต่เมื่อมันแยกย้ายกันไป พวกมันก็เหมือนกับเข็มที่กระจัดกระจาย
กองทหารม้าเหล็กไม่มีทีท่าว่าจะอ่อนแรงในการต่อสู้กับออเกอร์เลย ในขณะที่พวกก็อบลินกลับดิ้นรนและรู้สึกกังวล ภายในป่านั้น เจนน่าและอารอนก็เข้าประจำตำแหน่ง ปะทะก็อบลินไรเดอร์สองสามตัว อาวุธของพวกมันลุกเป็นไฟไปหมด
ในที่สุด เราก็วิ่งควบม้าไปรอบป่าเป็นอันสำเร็จ
ฉันลงจากม้าอย่างรวดเร็ว ฉันแทงดาบไปข้างหลัง แทงหมาป่าที่พุ่งเข้ามาหาฉัน แทงทั้งสมองและหัวใจของไรเดอร์ก็อบลินที่อยู่ด้านบนนั้นที่ไล่ตามฉันอย่างไม่ลดละ
จากนั้นจึงดึงดาบของฉันออก
หมาป่าและก็อบลินเงียบกริบไป
“ฮี่ ฮี่ ฮี่!”
พวกม้าร้องแล้วส่ายตัวไปมา
ออลก้าซึ่งอยู่บนนั้น ตัวสั่นแทบจะไม่สามารถรักษาสมดุลไว้ได้
ออลก้าโดนสะบัดลงจากหลังม้า โดยที่ม้าไม่เหลือบมองและวิ่งออกไปในทิศทางตรงกันข้าม
"ไหวหรือเปล่า?"
"อื้อ…"
“เธอทำได้ดีมาก”
มันเป็นภาพที่น่าสยดสยอง
ผิวของออลก้าเปลี่ยนเป็นสีซีดราวกับได้ตายไปแล้ว หากเธอใช้เวทย์มนตร์มากกว่านี้ เธอคงเสี่ยงชีวิตจากการใช้เวทย์มนตร์มากเกินไป
การใช้เวทมนตร์มากเกินไปทำให้เกิดความเสี่ยงที่อันตรายมากสำหรับนักเวทย์