บทที่ 61 : ดันโซอยากเป็นโฮคาเงะงั้นเหรอ? งั้นเป็นเงาสุนัขไปก่อนเถอะ!
บทที่ 61 : ดันโซอยากเป็นโฮคาเงะงั้นเหรอ? งั้นเป็นเงาสุนัขไปก่อนเถอะ!
ณ เวลานี้ ในตึกโฮคาเงะ
เจ้าหน้าที่ระดับสูงกลุ่มหนึ่งกำลังนั่งอยู่บนโซฟา รวมทั้งผู้อาวุโสของหมู่บ้าน มิโตคาโดะ โฮมุระ อุทาทาเนะ โคฮารุ ชิมูระ ดันโซและนารา ชิคาคุ
รวมถึงจิไรยะที่ถูกเรียกกลับมาที่หมู่บ้านโดยการด่วน
ซาโตรุไขว้ขา เอนตัวบนโซฟานุ่มๆ ในปากมีอมยิ้ม เขามองดูฝนตกหนักนอกหน้าต่างและถอนหายใจออกแล้วก็พูดว่า "อากาศทำให้บรรยากาศดีจริงๆ เชียว"
“ฉันไม่คิดเลยว่าโอโรจิมารุจะอยากทำร้ายหมู่บ้านจนกระทั่งถึงตอนนี้” จิไรยะถอนหายใจและนึกถึงสิ่งที่พบเจอก่อนหน้านี้
เมื่อไม่นานมานี้เขากำลังตรวจสอบที่อยู่ของกลุ่มกบฏอุจิวะ อิทาจิ และทันใดนั้น เมื่อเขาได้ยินว่าฮิรุเซ็นเสียชีวิตในสนามรบ เขาก็ต้องรู้สึกประหลาดใจยิ่ง
โอโรจิมารุบุกหมู่บ้านของเขาและสังหารโฮคาเงะจริงๆ
“ไม่ได้คิดจริงๆ งั้นเหรอ?” ซาโตรุชี้ไปที่หัวใจของจิไรยะ แล้วยิ้มอย่างแผ่วเบา “หยุดโกหกได้แล้ว พูดความจริงออกมาซะ”
ขณะที่จิไรยะกำลังตรวจสอบที่อยู่ของอิทาจิ เขาก็กำลังตรวจสอบที่อยู่ของโอโรจิมารุด้วย
จิไรยะบอกว่าไม่คาดคิดเลยว่าอีกฝ่ายจะบุกหมู่บ้านงั้นเหรอ?
ตลกแล้ว
“อย่าพูดเรื่องไร้ประโยชน์เลย สิ่งที่หมู่บ้านต้องการมากที่สุดในยามนี้คือโฮคาเงะ หมู่บ้านที่ไม่มีผู้นำไม่นานก็จะต้องสูญเสียอำนาจในไม่ช้า” ดันโซถือไม้เท้าและมองดูผู้คนระดับสูงที่อยู่ตรงนั้นด้วยใบหน้าราบเรียบ
“ฉันขอเสนอตัวเองให้เป็นโฮคาเงะรุ่นที่ห้า ฉันจะปกป้องหมู่บ้านเพื่อซารุโทบิเอง!”
ตอนนี้เขาตื่นเต้นมาก เพราะไม่มีใครในหมู่บ้านที่เหมาะสมที่จะเป็นโฮคาเงะรุ่นที่ห้ามากไปกว่าเขาแล้ว
โฮมุระและโคฮารุต่างก็มองไปที่ดันโซพร้อมกัน
“ดันโซมีประสบการณ์มากมายและเหมาะสมกับตำแหน่งของโฮคาเงะจริงๆ” โคฮารุพยักหน้าเล็กน้อย
หลังจากที่ฮิรุเซ็นเสียชีวิตในสนามรบ นอกจากผู้เฒ่าสองคนแล้ว ดันโซก็ถือว่าเป็นนินจาที่แก่ที่สุดในหมู่บ้าน
เหมาะกับการเป็นโฮคาเงะรุ่นที่ห้าจริงๆ
“ขอโทษด้วยนะครับท่านดันโซ” ชิคาคุมองไปทางดันโซแล้วจึงมองซาโตรุ
“ในนามของโจนินของทั้งหมู่บ้าน ผมขอเสนอซาโตรุให้เป็นโฮคาเงะรุ่นที่ห้า นี่เป็นข้อเสนอแนะที่เป็นเอกฉันท์หนึ่งเดียวของโจนินทั้งหมู่บ้าน” ชิคาคุกล่าวด้วยความเคารพ
เขารู้สึกมาโดยตลอดว่าดันโซนั้นเป็นปัญหาใหญ่
แม้ว่าเขาจะไม่รู้แผนการลับของดันโซ แต่เขาก็รู้สึกตั้งแต่ต้นจนตอนนี้ว่าดันโซเป็นตัวอันตราย
เขานั้นเป็นสุนัขจิ้งจอกเฒ่าใจร้อน
หลังจากที่ฮิรุเซ็นเสียชีวิตในสนามรบ ดันโซกลับรีบร้อนอยากได้ตำแหน่งโฮคาเงะมาก
ถ้าดันโซกลายเป็นโฮคาเงะ หมู่บ้านก็คงจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แน่
ดังนั้นเมื่อวันก่อนนี้ เขาจึงรวมกลุ่มกับกลุ่มโจนินและหลังจากหารือกัน พวกเขาก็ตัดสินใจอย่างเป็นเอกฉันท์ว่าจะเลือกซาโตรุเป็นโฮคาเงะรุ่นที่ห้า
“นี่คือจดหมายลงคะแนนจากนินจาทุกคนในหมู่บ้าน” ชิคาคุหยิบกล่องที่มีซองจดหมายจำนวนมากอยู่ข้างในออกมา
“ฉันดูน่าเชื่อถือมากขนาดที่ได้รับการสนับสนุนจากผู้คนมากมายขนาดนี้เลยเหรอ?” ซาโตรุมองดูซองจดหมายจำนวนมากในกล่อง จนเขาเองก็แปลกใจเล็กน้อย
“นายหัวสับปะรด ไหนลองอ่านจดหมายสิ”
“ครับ คุณซาโตรุ” ชิคาคุไม่ลังเลเลย เขาคิดว่าเหตุผลที่ซาโตรุขอให้เขาอ่านจดหมายต่อหน้าคนระดับสูง
มันก็คงจะเป็นเพื่อการกดดันดันโซ
สมกับเป็นยางิว ซาโตรุ นินจาที่แข็งแกร่งที่สุดย่อมต้องมีแผนการที่แยบยล
“อ่านจดหมายเหรอ? ไร้สาระ ตอนนี้เรากำลังคุยเรื่องสำคัญอยู่นะ ถึงเวลาทำเรื่องไร้สาระแบบนั้นแล้วเหรอ?” ดันโซพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก
โฮมุระจิบชาแล้วพูดว่า "ไม่จำเป็นต้องอ่านจดหมายหรอก ซาโตรุเธอแข็งแกร่งมาก แต่นิสัยของเธอยังเด็กเกินไปเมื่อเทียบกับดันโซที่ใจเย็นกว่า"
ผู้เฒ่าทั้งสองคนต่างให้การสนับสนุนดันโซให้รับตำแหน่งเป็นโฮคาเงะรุ่นที่ห้า
“ทุกวันนี้คนแก่ชักชอบพูดเรื่องไร้สาระมากมายเชียวนะ” ซาโตรุมองชิคาคุแล้วหัวเราะเบาๆ “อ่านๆ ไปเถอะ ไม่จำเป็นต้องฟังสุนัขเฒ่าพวกนี้ คงเป็นการยากสำหรับพวกเขาที่จะรับความจริงแหละนะ”
“ซาโตรุ ระวังคำพูดด้วย!” ดันโซมองซาโตรุอย่างเย็นชาด้วยความโกรธในดวงตาของเขา
“หุบปาก ถ้าพูดอีกผมฆ่าคุณแน่” เสียงของซาโตรุเย็นชายิ่งกว่า
“เธอ…” ดันโซไม่พอใจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ
ตอนนี้การต่อสู้กับซาโตรุเป็นเรื่องยุ่งยากมากเกินไป
อย่างน้อยเขาก็ต้องรอจนกว่าความสามารถในการมองเห็นของตาขวาจะฟื้นตัว
จิไรยะลอบถอนหายใจออกมา ทุกครั้งที่กลับมาหมู่บ้าน มันก็มักมีเรื่องลำบากมากใจตลอดเลย ดูท่าการเดินทางรอบโลกเพื่อหาข่าวยังเป็นงานที่ง่ายกว่าเยอะ
แถมยังได้กอดสาวงามไปด้วยอีก
นั่นต่างหากคือชีวิตที่เขาต้องการ!
"อะแฮ่ม ขออนุญาตครับ" ชิคาคุไอเบาๆ หยิบซองจดหมายขึ้นมาเปิดอ่านข้อความข้างใน
“เนื้อหาในจดหมายคือ ซาโตรุเป็นนินจาที่ทรงพลัง เขามีความเชื่อที่ถูกต้องและความตั้งใจแน่วแน่ ดังนั้นผมจึงเลือกเขาเป็นโฮคาเงะรุ่นที่ห้า”
“นี่คือจดหมายแนะนำจากซารุโทบิ อาซึมะ”
ชิคาคุเก็บจดหมายนั้นออกไป แล้วหยิบจดหมายอีกฉบับขึ้นมา
“ซาโตรุแข็งแกร่งมาก ไม่มีใครเหมาะสมจะเป็นที่จะเป็นโฮคาเงะรุ่นที่ห้ามากไปกว่าเขา”
“นี่คือจดหมายแนะนำของยูฮิ คุเรไน”
ชิคาคุหยิบจดหมายอีกฉบับขึ้นมา
“ซาโตรุ ถึงแม้เขาจะมีนิสัยเห็นแก่ตัวมาก แต่เขาก็เป็นคนที่เชื่อถือได้ ถ้าเขาอยู่ปกครองหมู่บ้าน มันก็จะมั่นคงมากเลยใช่ไหม?”
“นี่คือจดหมายแนะนำจากฮาตาเกะ คาคาชิ”
ชิคาคุหยิบจดหมายฉบับถัดไปขึ้นมา
“คุณซาโตรุ…”
หลังจากนั้นไม่กี่นาที ชิคาคุก็ค่อยๆ อ่านจดหมายแนะนำของโจนินและจูนินทั้งหมดจนจบ
โจนินและจูนินทุกคนในหมู่บ้านร่วมกันสนับสนุนซาโตรุให้เป็นโฮคาเงะรุ่นที่ห้า
“ต่อไปนี้เป็นจดหมายจากเหล่าชาวบ้าน” ชิคาคุหยิบกล่องที่สองออกมา จากนั้นหยิบจดหมายออกมาจากข้างในแล้วเริ่มอ่าน
“ซาโตรุหล่อมาก ฉันเลยสนับสนุนเขาในฐานะโฮคาเงะ และถ้าเป็นไปได้ฉันก็อยากเป็นแฟนของเขาด้วย” หลังจากที่ชิคาคุอ่านจบ ความเขินอายก็ปรากฏขึ้นมาในดวงตาของเขา
"พอได้แล้ว" ดันโซมองซาโตรุด้วยใบหน้าเรียบเฉย และพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า "เธอไม่มีจิตสำนึกที่จะปกป้องหมู่บ้านเลย ดังนั้นฉันจึงเหมาะกว่าที่จะเป็นโฮคาเงะ"
ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะไม่มีใครในหมู่บ้านสนับสนุนเขาในฐานะโฮคาเงะ
คนเดียวที่สนับสนุนเขาคือผู้เฒ่าสองคนของหมู่บ้านและนินจาจากองค์กรราก แต่คะแนนเสียงของโจนินนั้นก็ไม่มีความหมาย เพราะการตัดสินใจขั้นสุดท้ายยังขึ้นอยู่กับผู้นำสูงสุด
“อย่ากล้าไปหน่อยเลย หากต้องการเป็นโฮคาเงะมากขนาดนี้ ก็ให้ไปที่หมู่บ้านข้างๆ แล้วสร้างคอกสุนัขเอาเถอะ เป็นเงาสุนัขคงเหมาะกว่าเป็นไหนๆ” ซาโตรุโบกมือและมองดูดันโซด้วยความรังเกียจ
เงาสุนัข?
ทุกคนต่างผงะเล็กน้อย บางคนอยากจะหัวเราะแต่ก็พยายามอย่างหนักที่จะกลั้นมันเอาไว้
ผู้นำขององค์กรราก ชิมูระ ดันโซ ไม่เพียงแต่มีความแข็งแกร่ง แต่ยังมีสิทธิ์เด็ดขาดในหมู่บ้านอีกด้วย
เขาอยู่ต่ำกว่าโฮคาเงะเท่านั้น
แต่เขากลับถูกซาโตรุดูหมิ่นว่าเป็นเงาสุนัขงั้นเหรอ?
ซาโตรุกล้าพูดแบบนี้ได้ยังไงกัน!