ตอนที่แล้วบทที่ 59 : ลองจินตนาการดูสิ (2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 61 : สมบัติ (1)

บทที่ 60 : ลองจินตนาการดูสิ (3)


บทที่ 60 : ลองจินตนาการดูสิ (3)

หลังจากนั้น ปิเอลก็ตรงกลับไปที่ห้องพักของเธอ

เธอไม่รู้สึกอยากแกว่งดาบอีกต่อไป

เธอเปิดหน้าต่างและมองออกไปข้างนอกอย่างว่างเปล่า ไม่มีใครอยู่ข้างนอกนั่น

ทั้งหมดที่เธอเห็นคือต้นไม้สูงหญ้าที่ได้รับการดูแลอย่างดี และดอกไม้

'ถ้าฉันรู้ว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น ฉันคงจะถามเขาทันที'

เธอคิดว่าเธอตัดสินใจแล้ว แต่เมื่อเห็นความเศร้าในดวงตาของเขา เธอก็ไม่สามารถนำตัวเองมาพูดได้

เป็นการยากที่จะเผชิญหน้ากับธีโออีกครั้งโดยการกล่าวถึง [สัญญากับปีศาจผู้ยิ่งใหญ่]

เธอทำผิดพลาดกับเขาเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา

ในวันจันทร์ที่หอพักสำหรับนักเรียนชั้นนำ ณ ตอนนั้น ทันทีที่เขาได้ยินคำว่า 'ปีศาจ' ดวงตาสีแดงของเขาหมุนวนด้วยความโกรธ

["...การตัดสินใจของฉันจะไม่เปลี่ยนไป ถ้าเธอบังคับฉันอีกครั้ง ฉันจะไม่อยู่เงียบๆแล้วนะ”]

เขาจริงจังขึ้นมาทันที เมื่อเขามองดูเธอราวกับว่าเธอเป็นแมลงที่น่ารังเกียจ หัวใจของเธอก็รู้สึกหนักอึ้ง

'แต่มันไม่มีทางอื่นอีกแล้ว'

ความรู้เกี่ยวกับวิธีการระบุผู้ทำสัญญากับอาร์คเดม่อนนั้นหายากอย่างไม่น่าเชื่อ

มีญาติสายเลือดโดยตรงของเธอเพียงไม่กี่คน รวมถึงตัวเธอเองจากตระกูลชาลอนที่รู้วิธี

'มาร์คเวิร์น พี่ชาย...'

มันน่าหดหู่ พี่ชายคนที่สี่ของเธอมักจะนึกถึงสิ่งเหล่านี้เสมอ

ทุกคนในครอบครัวปฏิบัติต่อเธออย่างเหยียดหยาม ตั้งแต่ที่เธอยังเป็นลูกของนางสนม

เธอรู้สึกหายใจไม่ออกและรู้สึกสิ้นหวัง แต่มันก็ไม่ได้รบกวนเธอมากนัก

มาร์คเวิร์น เดอ ชาลอน เขาเป็นคนเดียวในหมู่ญาติทางสายเลือดของพวกเขาที่ปฏิบัติต่อเธออย่างอบอุ่น

─ ปิเอล วันนี้เรามาฝึกวิชาดาบด้วยกันไหม? พี่คิดว่าเธอมีความสามารถจริงๆ พูดตามตรงนะ พี่สงสัยว่าจะมีใครที่มีความสามารถมากเท่ากับเธอในครอบครัวของเราหรือแม้กระทั่งทั่วทั้งทวีปหรือเปล่า?

─ อ่า ฉันแพ้ ทักษะของน้องพัฒนาขึ้นมามากขนาดนี้ตอนไหนเนี่ย? พี่ไม่สามารถแข่งกับเธอได้อีกต่อไปแล้ว

─ปิเอล อย่าทำตัวห่างเหินจากคนรอบข้างนะ ผู้คนไม่สามารถอยู่คนเดียวได้ ถ้ามันยากที่จะยกโทษให้พวกเขา ก็หัวเราะเยาะพวกเขาซะนะ

ต้องขอบคุณมาร์คเวิร์นพี่ชายคนที่สี่ของเธอ ที่ทำให้เธอมีวัยเด็กที่ค่อนข้างมีความสุข เขาอยู่ข้างเธอเสมอ

เขาหยิบเธอขึ้นมาเมื่อเธอกำลังจะล้มลงและทักทายเธอด้วยรอยยิ้ม

...จนกระทั่งเขาทำสัญญากับปีศาจที่ยิ่งใหญ่ ตอนนั้นเธออายุ 11 ขวบ

ตระกูลของเธอปราบเขาได้ไม่นานหลังจากที่เขาทำสัญญากับปีศาจผู้ยิ่งใหญ่

เขาตาย

แต่ความเสียหายนั้นรุนแรง

พวกเขาหยุดเขาก่อนที่เขาจะแข็งแกร่งเกินไป

ลูกชายคนโตสองคนของครอบครัวซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะพรสวรรค์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทวีปได้เสียชีวิตลง

มาร์คเวิร์นได้รับการปฏิบัติราวกับว่าเขาไม่เคยมีตัวตน

ในประเทศส่วนใหญ่การบูชาปีศาจเป็นอาชญากรรมร้ายแรง

หากถูกตรวจพบ ไม่เพียงแต่ผู้บูชาเพียงคนเดียวเท่านั้น แต่ทั้งครอบครัวของพวกเขาจะถูกกำจัดไปด้วย

แม้จะมีเกียรติยศของตระกูลชาลอน แต่มันก็เป็นอันตรายอยู่ดี

ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่ได้ทำสัญญากับปีศาจใดๆ แต่เป็นอาร์คปีศาจ

เมื่อกลัวว่าจะถูกตรวจสอบ ตระกูลก็เผ่าร่างกายของเขาเป็นเถ้าถ่านโดยใช้ [เปลวไฟแห่งการชำระล้าง]

หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีเพียงพี่น้องคนที่สามและปิเอลเท่านั้นที่ยังคงเป็นผู้สืบทอดที่มีศักยภาพ

พี่น้องคนที่สามที่มีปัญญาทรหดระวังปิเอลซึ่งเป็นอัจฉริยะ

หากไม่มีมาร์คเวิร์น ตระกูลก็มัแต่ความรู้สึกเย็นชาและไร้ความหมาย

ปิเอล รู้สึกขยะแขยงกับทุกสิ่ง เธอฝึกฝนอย่างเงียบๆเพียงลำพังจนกระทั่งเธอลงทะเบียนเรียนที่สถาบันศึกษาเอลิเนีย

"ทำไมล่ะ..."

แต่ทำไมต้องเป็นธีโอ

เธอไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงทับซ้อนกับมาร์คเวิร์นพี่ชายของเธอ

เขาเย็นชาทั้งการแสดงออกและการพูดก็ไม่ได้ใจดีเลย

"....."

เหนือใบหน้าที่แดงก่ำของปิเอล น้ำตาได้ไหลออกมา

เธอค่อยๆเช็ดน้ำตาด้วยแขนเสื้อ

แอ๊ด--

จากนั้นเธอก็รีบปิดหน้าต่าง

เผื่อว่าจะมีคนเห็นเธอในสภาพที่น่าสมเพชนี้

เมื่อเดินไปพร้อมกับเซียน่าใกล้กับแผนกฮีโร่ ในที่สุดเราก็เดินทางมาถึงสนามฝึกซ้อม

โดยธรรมชาติแล้วการฝึกกับคนจริงๆนั้นมีประโยชน์มากกว่าหุ่นจำลอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคนๆนั้นมีทักษะพอๆกับเซียนา

“อิอิ แล้วฉันควรใช้อาวุธอะไรกับนายดี?”

"เรเปียร์ก็ได้นะ"

เมื่อสองวันก่อน ฉันฝึกซ้อมกับจูเลีย

เธอได้เลียนแบบความเป็นนักดาบของเซียน่าในระหว่างการแข่งขันของเรา

การสังเกตและเปรียบเทียบเทคนิคดั้งเดิมจะเป็นประโยชน์อย่างไม่น่าเชื่อสำหรับการพัฒนาทักษะของฉัน

เหนือสิ่งอื่นใด ไม่มีอะไรชนะการฝึกฝนซ้ำๆเมื่อพูดถึงการเรียนรู้

"เอาล่ะ ฉันจะเริ่มก่อนนะ"

เราซ้อมกันมาประมาณสิบนาทีหลังจากเมื่อเซียน่ายิ้มเป็นรอยยิ้มที่เปล่งปลั่ง

“ว้าว ทักษะของนายเฉียบคมขึ้นแล้ว! นายเติบโตเร็วขนาดนี้ได้อย่างไง? นายโตขึ้นมากตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่ฉันเห็น”

"เป็นอย่างงั้นเหรอ..."

อย่างไรก็ตาม ฉันก็ยังเทียบกับเซียน่าไม่ได้

ถ้าฉันใช้สกิลทะลุขีดจำกัดที่เสริมพลังขึ้นของฉันในการโจมตีแบบเซอร์ไพรส์ ฉันอาจจะสามารถผลักเธอได้หนึ่งหรือสองครั้ง...

แต่ในทักษะล้วนๆ เธอเหนือกว่าอย่างท่วมท้น

'เธออยู่ในอีกระดับหนึ่งอย่างแท้จริงเมื่อเทียบกับจูเลียเมื่อพูดถึงความเป็นนักดาบ'

แม้ว่าสถานะและคุณลักษณะพิเศษของเซียน่าจะด้อยกว่าของจูเลีย แต่ความสามารถของเทคนิคของเธอก็อยู่ในระดับที่แตกต่างกัน

ในอีกแง่หนึ่ง มันก็เป็นเรื่องธรรมดา เซียน่าอายุราว 150 ปี

หากเธอฝึกฝนดาบมาครึ่งหนึ่งของเวลานั้นนั่นจะเท่ากับ 70 -80 ปี - สี่ถึงห้าเท่าของอายุของนักเรียนสถาบันคนอื่นๆ

"เอาใหม่อีกรอบนะ"

ตอนนี้ฉันประเมินทักษะของเธอมามากพอแล้ว หากจูเลียเป็นเหมือนการเล่นในโหมดปกติ เซียน่าก็คล้ายกับโหมดยาก

แต่นั่นก็หมายความว่าฉันเรียนรู้ได้เร็วขึ้น

เพื่อให้มองเห็นการเคลื่อนไหวของเซียน่าได้ดีขึ้น ฉันจึงเสริมพลัง [ดวงตาของผู้สังเกตการณ์]

“อิอิ แน่นอน เข้ามาได้ทุกเมื่อเลยถ้านายพร้อมแล้ว”

อีกครั้ง ที่ฉันซ้อมกับเซียน่า

ฉันสังเกตทุกการเคลื่อนไหวของเธออย่างระมัดระวัง ตั้งแต่เทคนิคของเธอไปจนถึงนิสัยที่ไม่สำคัญที่สุดของเธอ

ฉันสังเกตว่าเธอกางเท้าออกกว้างแค่ไหนเมื่อใช้เทคนิค มุมที่เธองอข้อมือ และเมื่อเธอหยุดหายใจระหว่างการโจมตีอย่างต่อเนื่อง

ฉันยังมองหาพื้นที่ในวิชาดาบของเธอที่สามารถพัฒนาต่อไปได้

'ดูดซับมันมาให้หมด'

แม้ว่าฉันจะได้เสริมพลัง [ดวงตาของผู้สังเกตการณ์] ของฉันแต่การดูเพียงอย่างเดียวยังไม่เพียงพอ ฉันต้องฝึกฝนและทำให้มันเป็นของฉันเอง

เมื่อเร็วๆนี้ฉันเพิ่งตระหนักถึงบางสิ่งบางอย่าง : เมื่อใช้เทคนิค มันไม่ควรผ่านมาจากหัวของคุณ

ร่างกายของคุณควรตอบสนองก่อนที่คุณจะคิด ชัยชนะสามารถตัดสินได้ในช่วงเวลาสั้นๆนั้น

ดังนั้นฉันจึงบันทึกการเคลื่อนไหวเข้าไปในร่างกายของฉันจนร่างกายสามารถจดจำมันได้

ด้วยวิธีนี้ ร่างกายของฉันจะตอบสนองก่อนที่จะคิด

ตอนนั้นเองที่ฉันสามารถใช้มันในการต่อสู้ได้อย่างมั่นใจ

การซ้อมของเราจบลง และเซียน่ามองมาที่ฉันด้วยรอยยิ้ม

“อิอิ ธีโอ ตอนแรกฉันก็ไม่รู้ตัว แต่ยิ่งมองดูนายมากเท่าไหร่ฉันก็ยิ่งเห็นว่านายมีคุณสมบัติของผู้ปกครองมากขึ้นเท่านั้น”

“ผู้ปกครอง?”

“ใช่ ผู้ปกครอง นายเหมาะกับบทบาทนี้มาก ฉันเห็นผู้คนมากมายจากหลากหลายเส้นทางชีวิต แต่มันก็นานมากแล้วที่ฉันไม่ได้พบกับคนอย่างนาย”

“นั่นอาจเป็นเพราะอายุของเธอ”

“เงียบไปเลย!!”

เซียน่าจ้องมาที่ฉัน ดวงตาของเธอดูเหมือนจะเป็นประกาย

“… ก็ได้ ก็ได้”

“ยังไงก็เถอะ ฉันเห็นคนมาเยอะแล้ว กษัตริย์ของชาติต่างๆ ผู้คนเรียกพวกเขาว่าผู้ปกครอง และอื่นๆ แต่พวกเขาทุกคนกระหาย และไม่เคยพอใจกับสิ่งที่พวกเขามีและอยู่ในสภาพที่มีความปรารถนาอย่างต่อเนื่องเสมอ”

"เป็นอย่างงั้นเหรอ?"

ฉันไม่ได้รู้สึกทะเยอทะยาน ฉันแค่ดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด

"คนประเภทนั้นมักจะกลายเป็นผู้ปกครอง ฉันสัมผัสได้ถึงพลังในตัวนาย”

“ฉันไม่มีความตั้งใจที่จะปกครองผู้อื่น มันไม่เหมาะกับฉันหรอก”

“อิอิ แต่เจ้าไม่สามารถหนีจากโชคชะตาได้ง่ายๆ ใช่ไหม?”

เซียน่าจับแขนฉันอย่างสนุกสนานและเงยหน้าขึ้นมองฉันด้วยรอยยิ้มที่สดใส ฉันเบือนหน้าหนีและตอบกลับไป

"ฉันไม่เชื่อในโชคชะตา"

ถ้าคนที่ฉันย้ายไปเป็นนักบวชหรือนักบวชบางทีฉันอาจจะเชื่อ

“ยังไงก็ตาม ฉันต้องไปแล้ว มีสถานที่ที่ฉันต้องไปนิดหน่อย”

"นายจะไปไหน?"

"แผนกอัศวิน"

ฉันต้องไปขอโทษไอรีน

เป็นการดีที่สุดที่จะขอโทษไม่ช้าก็เร็ว

***

ธีโอและเซียน่านั่งรถม้าไปแผนกอัศวินด้วยกัน

เมื่อพวกเขามาถึงตรงกับช่วงท้ายของการบรรยาย นักเรียนจากแผนกอัศวินก็เริ่มเดินออกมาจากอาคารเรียน

ธีโอกอดอกรอประมาณห้านาทีก่อนที่ไอรีนจะโผล่ออกมา

"ไอรีน"

“…ธีโอ”

ไอรีนเดินเข้ามาหาธีโอและเหลือบมองเซียน่าที่ยืนอยู่ใกล้ๆ

ผิดปกติมาก เธอไม่ได้โกรธ

เธอรู้สึกโล่งใจที่เขากลับมาแข็งแรงอีกครั้ง

“… ตอนนี้นายสบายดีใช่ไหม?”

“ใช่ ฉันสบายดีพอที่จะซ้อมอีกครั้ง”

"ดีจัง แล้วนายมาคุยเรื่องอะไรเหรอ…?”

ขณะที่เธอพูดไอรีนก็เหลือบมองเซียนา

การไม่โกรธเป็นเรื่องโกหก

'…'

เอลฟ์คนนั้นทำให้เธอหงุดหงิดจริงๆ

ไอรีนกำหมัดแน่นโดยไม่รู้ตัวขณะที่มองไปที่เซียน่าที่เกาะอยู่กับธีโอราวกับจั๊กจั่น

ธีโอก้มศีรษะลงเล็กน้อย

"ฉันมาเพื่อขอโทษ ฉันขอโทษจริงๆ ไอรีน ที่ทำผิดสัญญา ”

"...เอาล่ะ"

“ฉันอยากชวนเธอไปทานอาหารเย็นอีกสักครั้ง เธอจะไปไหม?”

ธีโอมองไปที่ไอรีนสายตาของเขาดูสงบตามปกติ ทว่าไอรีนรู้สึกถึงความหลงใหลที่เร่าร้อนในดวงตาของเขา

“อะ - เอาล่ะ”

ไอรีนรู้สึกว่าร่างกายของเธอสั่นสะท้าน เธออยากจะยิ้มหวานเหมือนเอลฟ์คนนั้น… แต่เธอก็กลั้นไว้

เธอไม่ต้องการที่จะถูกเปรียบเทียบกับเซียนา

เธอคิดว่ามันจะทำให้เธอดูโง่เขลา

ธีโอและเอลฟ์ตรงหน้าของเธอ… พวกเขาดูเข้ากันได้ดีเกินไป

ดังนั้น แทนที่จะยิ้มไอรีนยังคงมีสีหน้าที่เคร่งขรึม

"ฮึ่ม"

เซียน่าขมวดริมฝีปาก

"ให้ฉันเข้าร่วมด้วยสิ"

ธีโอจับไหล่เซียน่าที่เกาะแขนเขาอยู่

"...เซียน่า"

ธีโอหลับตาลงครู่หนึ่งแล้วลืมตาขึ้นจ้องมองไปที่เซียน่าด้วยสีหน้าเงียบสงบ

“มันเป็นเดทระหว่างไอรีนกับฉัน แค่เราสองคน”

***

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด