บทที่ 59 : การตายของซารุโทบิ ฮิรุเซ็น
บทที่ 59 : การตายของซารุโทบิ ฮิรุเซ็น
“ลงนรกกับไปฉันและทิ้งโลกนินจาที่สะอาดไว้ให้เด็กๆ เถอะ” ฮิรุเซ็นกัดฟัน เขาฝืนสู้ด้วยร่างกายที่กำลังจะหมดแรงลง เขากระอักเลือดออกมาจำนวนมากออกมา สติสัมปชัญญะของเขาค่อยๆ พร่ามัวจนไม่มีแรงเหลือ
“ไอ้โง่เอ๊ย ฉันจะตายได้ยังไง ฉันจะต้องครอบครองทุกอย่างก่อน” โอโรจิมารุกำลังฝืนตัวเองเช่นกัน เขาพยายามใช้กำลังทั้งหมดเพื่อต่อต้าน
เขาเห็นแล้วว่าฮิรุเซ็นกำลังหมดทั้งเวลาและพลังกาย
แค่รอสักพัก ฮิรุเซ็นก็จะตายแล้ว
เขาจะชนะแน่
“ซารุโทบิ!” ใบหน้าของเอ็นมะบิดเบี้ยวไปมา เขาเองก็รู้ว่าฮิรุเซ็นใกล้หมดแรงแล้ว
“แค่ก แค่ก ฉันขอโทษนะเด็กๆ ฉันไม่สามารถผนึกปีศาจตัวนี้ได้ แต่อย่างน้อยที่สุด...” ดวงตาของฮิรุเซ็นหรี่ลง และชินิกามิที่อยู่ข้างหลังเขาก็ใช้ดาบสั้นฟันวิญญาณในมือของโอโรจิมารุ
“อย่างน้อยฉันก็จะพานินจาทั้งหมดของเธอไปด้วยเมื่อฉันตาย!” ทันทีที่ฮิรุเซ็นพูดจบ ชินิกามิก็ขโมยดวงวิญญาณจากมือของโอโรจิมารุไป
“ไอ้แก่บัดซบ...!” ใบหน้าของโอโรจิมารุเริ่มซีดเซียว ดวงตาของเขาแดงก่ำเหมือนกับท่าทางของสัตว์ร้ายเวลาโกรธ
วิญญาณหลุดออกไปและพุ่งเข้าไปในท้องของฮิรุเซ็น
ฮิรุเซ็นตกลงไปในสระที่มีแต่เลือด มองดูกลุ่มนินจาที่อยู่นอกกำแพงด้วยความมึนงงและสับสน
ฉันเหมือนโฮคาเงะหรือยัง?
นารูโตะและเด็กคนอื่นๆ ได้ปรากฏขึ้นในความคิดของฮิรุเซ็น
ไม่ว่าใบไม้จะปลิดปลิวไปอยู่ที่ไหน เปลวไฟก็จะเบ่งบานอยู่เสมอ
เปลวไฟจะยังคงส่องสว่างในหมู่บ้านอยู่เสมอ ทำให้ใบไม้ใบใหม่ได้ผลิขึ้นมา
ฮิรุเซ็นเสียชีวิตทันที
“ท่านโฮคาเงะ!”
“บัดซบ โอโรจิมารุ กล้าดียังไงมาฆ่าท่านโฮคาเงะ!!”
“เมื่อกำแพงหายไป เราจะบุกเข้าไปโจมตีด้วยกัน!”
ทุกคนหันไปมองดูฮิรุเซนที่ตายไปแล้วด้วยความโกรธแค้น พวกเขาหยิบคุไนออกมาทีละคน
เมื่อกำแพงนั้นหายไป จะต้องจัดการโอโรจิมารุทันที!
“ซารุโทบิ ไอ้ตาแก่บ้านี้!” โอโรจิมารุมีสีหน้าโกรธจัด เขาล่องลอยอยู่กลางสายลมโดยไม่รู้สึกตัว
เมื่อนินจาสูญเสียมือไป นั่นหมายถึงสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง
ไม่ว่าจะมีจักระมากแค่ไหน ไม่ว่าจะรู้กันกี่คาถา มันก็ไม่มีประโยชน์อะไร
กำแพงกั้นขนาดใหญ่ค่อยๆ หายไป และตึกโฮคาเงะก็เริ่มเชื่อมต่อกับโลกภายนอก
“ซึนาเดะ ความสามารถของซึนาเดะคงจะพอมีวิธีรักษาที่มือของฉันได้อยู่” โอโรจิมารุอดทนต่อความเจ็บปวดที่กำลังแผดเผาและรวดร้าว
“อาจารย์ซารุโทบิ การตายของคุณน่ะมันไม่มีความหมายหรอก ฉันจะไปจับซึนาเดะและบังคับให้เธอรักษาฉัน”
เขากำลังจะไปหาซึนาเดะ เพื่อรักษามือของเขา
โอโรจิมารุชำเลืองมองฝูงชนที่อยู่ด้านนอกแผงกั้น
หลังจากที่กำแพงหายไป นินจาเหล่านั้นก็จะเข้าโจมตีเขาทันที
เขาสามารถใช้คาถาหนึ่งที่มีอยู่เพื่อล่าถอยไปตั้งหลัก แต่หลังจากใช้กระบวนท่านั้นแล้ว เขาจะไม่มีทางฟื้นตัวได้ในเวลาอันรวดเร็ว
แต่ไม่มีทางอื่นแล้ว
โอโรจิมารุกัดริมฝีปาก ร่างกายของเขาเริ่มหลวมโพรก และเขากำลังจะแปลงร่างเป็นอสรพิษสีขาวและย้อนกลับไปยังโลกอัญเชิญ
รูม่านตาของโอโรจิมารุหดตัวลง กระดูกสันหลังของเขาเริ่มรู้สึกเย็นยะเยือกขึ้นมา มีลมหายใจที่อันตรายปรากฏขึ้นข้างหลังเขา
ซาโตรุปรากฏตัวออกมาจากอากาศอันว่างเปล่า
“ไอ้ศพเดินได้ แกกำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่เหรอ?” ซาโตรุกดลูกชิ้นเข้าไปที่หัวของโอโรจิมารุ น้ำเสียงของเขาทั้งไม่แยแสและเย็นชา
เขาไม่สนใจหมู่บ้านว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะนั่นเป็นเรื่องของคนอื่น
แต่ซึนาเดะเป็นของเขา
“ยางิว ซาโตรุ!” ใบหน้าของโอโรจิมารุเริ่มมืดมน เพราะความโกรธ
เขาก็ลืมนึกถึงซาโตรุไปโดยสิ้นเชิง
เขาบอกว่าจะจับซึนาเดะต่อหน้าซาโตรุงั้นเหรอ?
นี่มันกำลังรนหาที่ตายชัดๆ!
โอโรจิมารุรู้สึกถึงซาโตรุที่อยู่ข้างหลังเขา และมองไปที่กำแพงที่กำลังจางหายไป
หากเขายังคงอยู่ที่นี่ต่อไป คงจะถูกนินจาปิดล้อมจนตายแน่
“ซาโตรุ ฉันรู้ว่านายเคารพแม่บุญธรรมของนายมาก แต่ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันจะให้ซึนาเดะได้พบคนที่สำคัญที่สุดของเธอ” โอโรจิมารุฝืนยิ้ม เลียมุมปากแล้วพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “ถ้าซึนาเดะได้เห็นคนที่สำคัญที่สุดของเธอ เธอคงจะมีความสุขมากเลยใช่ไหมล่ะ?”
ระหว่างสองนิ้วของซาโตรุ มีสสารพลังงานบวกและด้านลบสองเส้นปรากฏขึ้น
สสารนั้นรวมกันเป็นกลายเป็นหลุมดำขนาดเล็ก
"[ไสยเวทหมุนทวนอากะ∙แดง]" หลุมดำเล็กๆ ที่ปลายนิ้วของซาโตรุได้ลอยออกไป
*บูม*
สสารสีดำกลืนกินตึกโฮคาเงะทั้งหมดราวกับมีเวทย์มนตร์ จนทำให้เกิดหลุมขนาดใหญ่บนพื้นดิน
โอโรจิมารุถูกกำจัดไปแล้ว
ซาโตรุลอยอยู่ในอากาศ มองลงไปที่หลุมด้านล่างด้วยอาการเฉยเมย และพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “อย่าเข้าใจฉันผิดไปล่ะ แค่ฉันคนเดียวก็เพียงพอแล้วสำหรับซึนะจัง”
เขาขี้เกียจที่จะสนใจเรื่องโอโรจิมารุมาก แต่เพราะยัยสาวสองที่มีสภาพคล้ายศพเดินได้คนนี้มันกล้าพูดอะไรบางอย่างออกมาว่าอยากจับตัวซึนาเดะ
ดังนั้นก็ไม่มีเหตุผลใดที่โอโรจิมารุจะมีชีวิตอยู่ต่อไป
ทว่ามันคงหาทางชุบชีวิตกลับมาได้อยู่ดี
กำแพงที่มองไม่เห็นทั้งสี่ทิศไปอย่างไร้ร่องรอย และนินจากลุ่มใหญ่ก็วิ่งกรู่เข้าไปในพื้นที่สนามรบ ทว่าพวกเขาก็พบว่าโอโรจิมารุได้หายตัวไปแล้ว
หัวใจของทุกคนถึงกับสั่นสะท้าน
เป็นไปได้ไหมที่โอโรจิมารุถูกซาโตรุกำจัดไปแล้ว?
ตอนนี้โอโรจิมารุจากไปแล้ว สิ่งแรกที่ต้องเป็นกังวลนั้นคือซารุโทบิ ฮิรุเซ็น
“ท่านโฮคาเงะ!”
“นินจาแพทย์ รีบหน่อยสิ!”
นินจาทั้งหมดยืนล้อมรอบฮิรุเซ็น
กายกอดฮิรุเซ็นไว้ด้วยดวงตาเศร้าโศก เขาส่ายศีรษะแล้วพูดว่า "ท่านโฮคาเงะ เขา..."
"บ้าเอ๊ย!" อาสึมะกัดบุหรี่ด้วยสีหน้าโกรธแค้นและเศร้าหมอง เขาใช้กำปั้นทุบไปที่พื้นอย่างแรง
ถ้าเขาแข็งแกร่งมากกว่านี้ ถ้าเขาสามารถทลายกำแพงนั้นได้
ท่านโฮคาเงะก็คงไม่ตายใช่ไหม?
ทุกคนค่อยๆ เงียบไป ไม่ว่าจะเป็นหน่วยลับนินจาหรือนินจาธรรมดา ทุกคนต่างดูเศร้าและรู้สึกเจ็บปวดในใจเป็นอย่างมาก
ซาโตรุเดินเข้ามาและปิดตาของฮิรุเซ็นพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงที่สงบ "ตาแก่ซารุโทบิ ในที่สุดคุณก็ได้เจตจำนงกลับคืนมาแล้วนะ"
"ฝังฮิรุเซ็นซะ สิ่งที่ต้องทำตอนนี้คือซ่อมแซมหมู่บ้านแล้วเลือกโฮคาเงะคนใหม่" เสียงทุ้มลึกได้ดังขึ้น
ทุกคนขมวดคิ้วเล็กน้อยและเงยหน้าขึ้น มองไปยังที่มาของเสียง
สิ่งที่ดึงดูดสายตาคือชายชรามีผ้าพันแผลทั่วทั้งตัวและถือไม้เท้าอยู่ในมือ
ชิมูระ ดันโซ
ดันโซมองดูฮิรุเซ็นที่นอนอยู่บนพื้นด้วยท่าทีสงบและพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า "ไม่มีเวลาที่จะโศกเศร้าแล้ว หมู่บ้านนี้ต้องการโฮคาเงะคนใหม่ ไม่อย่างนั้นในไม่ช้านี้ เราจะถูกตัดจากหมู่บ้านนินจาที่ยิ่งใหญ่ทั้งห้าแห่ง"
ฮิรุเซ็น นายสามารถจากไปได้อย่างสงบได้เลย
เพราะฉัน ชิมูระ ดันโซจะปกป้องหมู่บ้านนี้ในนามของโฮคาเงะเอง!
เมื่อครู่เขาเองก็ดูฉากต่อสู้นั้นอยู่ และสั่งให้องค์กรรากไม่ต้องลงมือทำอะไรเลย
เขารอโอกาสนี้มานานแล้ว รอการตายของฮิรุเซ็น
และในตอนนี้
เมื่อฮิรุเซ็นตาย ในที่สุดมันก็จะเป็นเวลาของเขา!
พอมองดูฮิรุเซนที่ตายไปแล้ว ดันโซก็อยากจะหัวเราะออกมา อยากหัวเราะดังๆ แต่สุดท้ายก็ต้องกลั้นเอาไว้
เขาจะเก็บมันเอาไว้ก่อน เขาจะหัวเราะดังๆ หลังจากที่เขาได้เป็นโฮคาเงะ
ซาโตรุมองดูดันโซแล้วพูดด้วยรอยยิ้มแผ่วเบา “กลั้นหัวเราะก็เหมือนกลั้นผายลมนั่นแหละ ทรมานใช่ไหม? หัวเราะออกมาเลย”
เห็นได้ชัดเลยว่าตาแก่ดันโซอารมณ์ดีอย่างมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“ยางิว ซาโตรุ!” ดันโซผงะเล็กน้อย ดวงตาของเขาเผยแววเย็นชาออกมา
เขาเกือบลืมไปแล้วว่ายังมีไอ้เด็กบ้าซาโตรุอยู่ด้วย
เช่นนั้นซาโตรุก็เป็นอุปสรรคเดียวต่อเส้นทางการเป็นโฮคาเงะของเขา